ฝากติดตามเพจด้วยนะครับ แฟนเพจ แจ้งเตือนก่อนใคร กดเลย

https://www.facebook.com/AncientStrengtheningTechnique

บทที่ 1462 – หมายจะสังหาร สถานการณ์แปรผัน

 

ร่างกายของทุกคนต่างก็รับรู้ถึงแรงกดดันมหาศาล มีความเป็นไปได้อย่างมากที่การต่อสู้จะเริ่มต้นโดยไม่มีการพูดจาใดๆทั้งสิ้น

 

ดวงตาของเหยียนจงเยว่เต็มไปด้วยความซับซ้อนขณะที่เขาจ้องมองไปยังบรรดาบรรพบุรุษผู้ก่อตั้งแห่งกลุ่มมังกรอหังกาล คนเหล่านี้คือคนที่เคยช่วยชีวิตเขาเอาไว้ แต่ความคาดหวังของบรรดาบรรพบุรุษผู้ก่อตั้งทั้งหมดกลับไม่ใช่ความบริสุทธิ์ใจ ไม่ต้องพูดถึงความกตัญญูเลยแม้แต่นิดเดียวเพราะสิ่งที่พวกเขาทำคือการปล้นตัวตนชีวิตของเขา

 

“พวกตาเฒ่า ในที่สุดหางของพวกเจ้าก็โผล่ออกมาสักที เจ้าพยายามช่วงชิงทุกอย่างแม้แต่ช่วงชิงสวรรค์เองก็ตาม เจ้าไม่เหนื่อยทุกข์ทรมานบ้างหรือ?”ผู้อาวุโสหลู่ พูดคุยกับบรรดาบรรพบุรุษผู้ก่อตั้งแห่งกลุ่มมังกรอหังกาล

 

” 20 ปี ดูเหมือนเจ้าไม่ได้สังเกตเห็นอะไรเลย เจ้าได้ลืมตาดูหรือยัง? ข้าเป็นคนช่วยชีวิตเจ้า และเจ้าก็เป็นหนี้ชีวิตข้า นี่หรือสิ่งที่คนเราควรทำคือตอบแทน ความกตัญญูนี่มันช่างน่าสรรเสริญจริงๆ”ผู้อาวุโสแห่งกลุ่มมังกรอหังกาลจ้องมองเหยียนจงเยว่ขณะเอ่ยกล่าว

 

“ถ้าหากพวกเจ้าช่วยเหลือเขาเพราะเห็นเขาตกทุกข์ได้ยาก คงไม่มีใครไม่ยินดีกับพวกเจ้าเลย แต่คำพูดของพวกเจ้าแฝงไปด้วยความเลวร้ายที่น่ารังเกียจ เจ้าเป็นถึงตัวแทนของความยุติธรรมแต่กลับทำสิ่งที่น่าอัปยศอดสูยิ่ง”ผู้อาวุโสหลู่ กล่าวโดยไม่เหลือความเกรงใจอีกแล้ว

 

“ฮ่าๆๆ เจ้าคิดว่าข้าจะกลัวคำสาปแช่งของพวกเจ้างั้นหรือ? ต่อให้พวกเจ้าป่าวประกาศสาปแช่งมากเท่าไหร่มันก็ไม่ได้สะเทือนอะไรต่อตัวข้าเลย” ผู้อาวุโสแห่งกลุ่มมังกรอหังกาลกล่าวอย่างไม่แยแส

 

“ถ้าหากพวกเจ้าแน่จริงก็จงประลองกันแบบตัวต่อตัว มันคงจะดูเป็นเกียรติอย่างยิ่งในสายตาคนนอก”ผู้อาวุโสหลู่ กล่าว

 

“เจ้าต้องการที่จะสู้กันตัวต่อตัวงั้นนหรือ? ไม่มีปัญหา ว่าแต่เจ้ากล้าจริงๆหรือ?”ผู้อาวุโสอีกคนนึงลอยออกมาข้างหน้าสุดพร้อมกับเสียงหัวเราะ

 

ชายชราร่างผอมคนนี้มีพลังประมาณ 300 ล้านสุริยา

 

ความแข็งแกร่งปัจจุบันของผู้อาวุโสหลู่ ได้นำหน้าชายคนนี้ไปแล้ว อาจเป็นเพราะทักษะที่ใช้เสริมความแข็งแกร่งจึงทำให้ชายผู้นี้มองไม่เห็นความจริง

 

ผู้อาวุโสหลู่ จ้องมองผู้อาวุโสอีกคนโดยไม่พูดอะไร

 

“อะไรนะ? เจ้าไม่กล้าสู้กันแบบตัวต่อตัวแล้วอย่างนั้นหรือ? เจ้ายังมีเกียรติหลงเหลืออยู่ในตัวอีกหรือไม่?”ชายคนเดิมหัวเราะอย่างน่ารังเกียจ

 

“ก็ดี เจ้าอาจจะพูดถูก มาเถิดวันนี้ข้าจะสู้กับเจ้าตัวต่อตัว หลังจากนั้นข้าก็จะไปฆ่าพวกเจ้าที่เหลือต่อ”ผู้อาวุโสหลู่ แสดงท่าทางเหมือนคนตื่นเต้น แต่บรรยากาศโดยรอบกับเต็มไปด้วยความตึงเครียดแม้แต่ชิงสุ่ยเองก็รู้สึกได้

 

คนที่ผ่านร้อนผ่านหนาวมามากย่อมมีประสบการณ์สูง ชิงสุ่ยมองเห็นความเป็นจิ้งจอกเฒ่าในตัวของผู้อาวุโสหลู่  คำพูดยั่วยุต่างๆนำพาให้สถานการณ์ในปัจจุบันออกมาในทางที่ดี

 

ผู้อาวุโสหลู่ และชายชราร่างผอมทะยานออกไปตรงกลางสนามรบ นี่ไม่ใช่การต่อสู้ตะลุมบอน แต่ทุกคนต่างยืนล้อมรอบในตำแหน่งที่เหมาะสม พร้อมที่จะแทรกแซงการต่อสู้ทุกเวลา

 

“เริ่มต้นกันเถอะ ข้าจะแสดงกระบวนท่าให้เจ้าเห็นเอง”ผู้อาวุโสหลู่ กล่าวพร้อมกับสร้างดาบมังกรในมือ

 

ย่างก้าวมังกรทะยาน

 

ผู้อาวุโสหลู่ เพิ่งออกไปในรูปแบบประหลาด คลื่นพลังปราณดาบมหาศาลของดาบมังกรที่อยู่ในมือของเขาทะยานราวกับมังกรที่พุ่งถาโถมเข้าใส่ชายชราร่างผอม

 

หากปราศจากทักษะเสริมพลัง พลังของผู้อาวุโสหลู่ จะอยู่ที่ประมาณ 250 ล้านสุริยา ในขณะที่ศัตรูมีพลังอยู่ที่ 290 ล้านสุริยา ความแตกต่างที่มากถึง 40 ล้านสุริยานั้นเป็นความห่างชั้นที่มากเกินไป หากเป็นการต่อสู้ของคนทั่วไปที่อ่อนแอ คนผู้นั้นก็คงไม่อาจทนต่อแรงระเบิดของพลังที่เกิดขึ้นเกิน 3 ครั้ง ก่อนจะบาดเจ็บหนัก

 

แต่ตอนนี้ความแข็งแกร่งของผู้อาวุโสหลู่ นั้นรุดหน้าไปไกลถึง 370 ล้านสุริยา ซึ่งมากกว่าพลังของศัตรูอย่างมาก

 

เพล้งงง!! เพล้งง!!

 

หลังจากแลกเปลี่ยนกระบวนท่าและปะทะคมดาบ ผู้อาวุโสหลู่ ก็แสดงท่าทีราวกับถูกพลังอัดกระแทกกระเด็นกลับมา

“เจ้าอ่อนแอขนาดนี้ ยังกล้าที่จะขัดขวางพวกเราอีกงั้นรึ? ข้าจะแสดงให้เจ้าเห็นเองว่าความแตกต่างของพลังนั้นมันเป็นอย่างไร”

 

คลื่นดาวตกหอกพริบบาน!!

 

หอกในมือของชายชราร่างผอมทอแสงเปล่งประกายคล้ายมังกรคดเคี้ยว

 

ทักษะสังหารไร้ปรานี!!!

 

ผู้อาวุโสหลู่ ระเบิดพลังอย่างรวดเร็วพร้อมกับร่างของมังกรที่ปรากฏขึ้นเหนือหัว ลำตัวของมังกรนั้นเต็มไปด้วยกลิ่นอายที่กว้างใหญ่ไพศาลและทรงพลัง

 

ผ่าดาบมังกรโอหังงงง!!

 

ในชั่วขณะ ชิงสุ่ยก็แอบโคจรเพื่อเปิดใช้พลังปราณจักรพรรดิ!!

 

เพล้งง!!

 

เสียงฟ้าผ่าดังกึกก้องพร้อมกับแรงระเบิดที่พังทลายจนทุกอย่างโดยรอบกระจัดกระจายกลายเป็นความโกลาหล และค่อยๆเงียบลงไป

 

ทั้ง 2 กระบวนท่าที่โจมตีเข้าหากันนั้นเป็นทักษะสังหารขั้นสูงสุด เมื่อศัตรูเริ่มใช้ทักษะสังหารไร้ปรานีเช่นกันผลของการต่อสู้ก็ใกล้จะจบลง ความแข็งแกร่งของผู้อาวุโสหลู่ นั้นสูงกว่ามาก แต่ศัตรูกับคิดเอาเองว่าตัวเขานั้นแข็งแกร่งกว่า ดังนั้นผู้อาวุโสหลู่ จึงพยายามเสแสร้งว่าตัวเองอ่อนแอและค่อยใช้ความสามารถในการหลบทักษะสังหารและปราณีไปอย่างง่ายดาย

 

ความเงียบสงัดเกิดขึ้นทุกหย่อมหญ้า ทุกคนมองเห็นภาพที่ทำให้รู้สึกงุนงง ชายชราร่างผอมที่มีพลังเกือบถึง 300 ล้านสุริยา ใช้ทักษะสูงสุดหมายที่จะสังหารศัตรูโดยไม่แบ่งส่วนพลังไปใช้ในการป้องกันเลยแม้แต่น้อย แต่ทันทีที่เขาเริ่มโคจรพลังสูงสุดและปลดปล่อยมัน เขาก็ถูกสังหารโดยผู้อาวุโสหลู่ ทันที

 

ชิงสุ่ยถอนหายใจทันทีที่ชายชราฝั่งตรงข้ามสิ้นชีวี

 

“ข้าไม่คาดคิดเลยว่าเจ้าจะปกปิดความแข็งแกร่งที่แท้จริงเอาไว้ ถือได้ว่าเป็นเรื่องที่น่าตื่นตาตื่นใจจริงๆ”ๆชายชราที่เป็นผู้นำกลุ่ม กล่าวด้วยความเดือดดาล

 

หลังจากกล่าวจบ ศัตรูที่เหลือทั้ง 4 คนก็ถาโถมกำลังทั้งหมดเข้าใส่ผู้อาวุโสหลู่ ทันที

 

เครื่องรางสวรรค์!!

 

ปราณจักรพรรดิ!!

 

ทักษะย่างก้าวเก้าเทวาผกผัน!!

 

ชิงสุ่ยเคลื่อนย้ายอย่างรวดเร็วเข้าปะทะกับชายชราที่มีพลังทัดเทียมกับระดับ 400 ล้านสุริยา พร้อมทั้งปลดปล่อยเข็มพิษในมือกระจายทั่วท้องฟ้า

 

ประมุขอสูร ฮัว รูเหม่ย และกองกำลังทั้งหมดพุ่งเข้าปะทะกับเหล่าบรรพบุรุษผู้ก่อตั้งแห่งกลุ่มมังกรอหังการ ซึ่งหลังจากที่ทุกคนได้รับพลังเสริมแล้ว แต่ละคนก็มีกำลังเปรียบเทียบเท่ากับถานท่าย หลิงเยียน

 

จุดประสงค์ของเข็มทิศที่ชิงสุ่ยยิงให้มันกระจายครอบคลุมท้องฟ้าก็เพื่อให้ศัตรูทั้งหมดเสียเวลาใช้ทักษะของตัวเองปกป้องร่างกายและใช้ในการแยกกลุ่มของศัตรูให้ออกจากกัน

 

การต่อสู้ไม่ได้ยากอย่างที่คิด ด้วยรัศมีแห่งเทพสังหารที่ผู้อาวุโสหลู่ จึงทำให้เขาสามารถต่อกรกับศัตรูฝ่ายตรงข้ามได้อย่างเสมอภาคและทัดเทียม มองดูแล้วดูเหมือนเขาจะได้เปรียบกว่าศัตรูเล็กน้อย

 

สำหรับผู้ที่มีพลังเกินกว่าระดับ 300 ล้านสุริยา  เครื่องรางสวรรค์จะไม่ค่อยส่งผลใดๆ ดังนั้นผู้อาวุโสหลู่ จึงได้รับพลังจากการเพิ่มพูนโดยพลังปราณซึ่งก็คือพลังที่เพิ่มขึ้นประมาณ 50 ล้านสุริยา

 

ระหว่างที่ต้องประมือกับผู้อาวุโสอีก 3 คนที่เหลือ พวกเขาก็ปลดปล่อยพลังโจมตีออกมาอย่างรุนแรง

 

“ระวังพิษ!!”

 

ชิงสุ่ยเปล่งเสียงตะโกนพร้อมกับยิงลูกปัดเหล็กกล้าเหมันต์นับหมื่นลูกออกไป มันพุ่งทะยานรวมตัวกันกลายเป็นดาวตกขนาดยักษ์ที่ถาโถมเข้าใส่พลังคลื่นพิษของศัตรู

 

ทุกคนทำได้เพียงแค่ยื้อเวลาให้นานที่สุดก่อนที่พวกเขาจะได้รับชัยชนะ

 

คนจากทั้ง 3 จักรวรรดิทุ่มเทร่างกายทั้งหมดเพื่อยืนหยัดต่อสู้ต้านทานพลังศัตรู

 

ในตอนนี้ศัตรูของผู้อาวุโสหลู่ เองก็กำลังต่อสู้กับเขา โดยที่ผู้อาวุโสหลู่ ที่มีพลังมากกว่าถึง 50 ล้านสุริยาก็ยังไม่อาจเอาชนะฝ่ายศัตรูได้

 

นี่คือสิ่งที่แสดงให้เห็นถึงความแตกต่างของทักษะที่ได้รับการถ่ายทอดมา นอกจากนี้ทักษะสังหารไร้ปรานีที่เป็นทักษะสูงสุดของศัตรูก็สามารถโจมตีจนทำให้ผู้อาวุโสหลู่ บาดเจ็บได้ สิ่งนี้ทำให้ชิงสุ่ยตกใจเล็กน้อยก่อนที่เขาจะเรียกอสูรสยบมังกรของเขาออกมา ก็เพื่อให้การต่อสู้ยังคงดำเนินต่อไปได้ แม้จะเกิดเหตุผิดพลาดกับผู้อาวุโสหลู่ ก็ตาม

 

ในขณะเดียวกันฝ่ายตรงข้ามก็กำลังโถมพลังเพื่อบดขยี้ศัตรูของพวกเขา เขาเริ่มจัดการกับศัตรูที่อ่อนแอที่สุดก่อน ตราบใดที่พวกเขาสามารถรวมตัวกันได้อีกครั้ง ชัยชนะก็จะบังเกิดทันที

 

ทางฝั่งของกลุ่มมังกรอหังกาลเริ่มรับรู้ได้ถึงความประมาทของตนเอง พวกเขาประมาทเกินไปโดยไม่คิดว่าชิงสุ่ยและผู้อาวุโสหลู่ จะใช้เล่ห์เหลี่ยมในการสังหารหนึ่งในสมาชิกของพวกเขา

 

ทางด้านของชิงสุ่ย เขากำลังยื้อระยะการต่อสู้กับผู้อาวุโสอีกคนหนึ่ง แต่เขาก็กังวลในตัวของคนอื่นอยู่เช่นกัน

 

ทันใดนั้น ชิงสุ่ยก็รีบยิงเครื่องรางสวรรค์พุ่งเข้าใส่ผู้อาวุโสที่กำลังต่อสู้กับผู้อาวุโสหลู่  เพราะเขาสังเกตเห็นว่าผู้อาวุโสคนนี้กำลังจะใช้ทักษะสูงสุดหมายที่จะสังหารผู้อาวุโสหลู่

 

“เครื่องรางพิษสะบั้นหทัย”

 

เครื่องรางสวรรค์ไม่อาจส่งผลต่อยอดปรมาจารย์ที่หมายจะสังหารผู้อาวุโสหลู่ ได้แม้แต่น้อย

 

ในทันใดนั้น จู่ๆผู้อาวุโสคนนั้นก็หยุดการกระทำลงและเริ่มอ่าปากร้องด้วยความเจ็บปวด

 

ตายซะเถิด!!!

 

อาวุโสหลู่ ไม่ใช่คนที่อ่อนแอ เขาสวนกลับไปด้วยทักษะที่รุนแรง เพราะความหวังของทั้ง 3 จักรวรรดิอยู่ที่ตัวของเขาต่อให้เขาจะต้องสละชีวิตตัวเองก็ตาม

 

ในเมื่อผู้อาวุโสที่แข็งแกร่งทั้งสองคนตายไป และเหลือเพียงแค่สองคน จึงทำให้แรงกดดันลดลงทันใด

 

ผู้อาวุโสหลู่ พุ่งทะยานเข้าหาชายชราที่มีความแข็งแกร่งประมาณ 200 ล้านสุริยาเพื่อหมายจะสังหารเป็นรายต่อไป

 

“ชิงสุ่ย เจ้าจะต้องยื้อให้ได้อีก 2 ลมหายใจ รอให้ข้าชำระหนี้แค้นกับชายผู้นี้เสร็จสิ้นก่อน” ผู้อาวุโสหลู่ พุ่งทะยานเข้าหาศัตรูทันที

 

ชายที่เป็นเป้าหมายแสดงสีหน้าหวาดกลัว เขาเองก็ได้รับบาดเจ็บจากการต่อสู้ก่อนหน้า แม้ว่าเขาจะไม่ได้รับบาดเจ็บแต่พลังของเขานั้นไม่อาจต้านทานความแข็งแกร่งของผู้อาวุโสหลู่ ได้เลยแม้แต่น้อย ทันทีที่ผู้อาวุโสหลู่ กดแกว่งดาบมังกรในมือ ชายชราผู้นั้นก็รีบถอยหลังกลับไปทันที

 

ดาบมังกรโทสะสามสะบั้น!!

 

นี่คือทักษะสังหารไร้ปราณีทักษะสูงสุดของผู้อาวุโสหลู่

 

มังกรยักษ์ที่สามารถผ่าแผ่นดินให้แยกออกเป็น 2 ซีกปรากฏการณ์ขึ้น คลื่นกระบี่ทั้งสาม ม้วนตัวกลายเป็นมังกร 3 ตัวที่ทะยานเข้าหาเป้าหมาย

 

ผู้อาวุโสฝ่ายตรงข้ามพยายามหนีลุกลี้ลุกลนสุดกำลัง แต่ไม่ว่าเขาจะอยู่ที่ไหนหรือมุ่งหน้าไปทางไหน คลื่นพลังจำนวนมากก็ถาโถมเข้าหาเขา

 

การโจมตีเกิดอย่างรวดเร็ว และชายชราผู้นั้นก็ไม่อาจหนีมันทน ปากของมังกรพุ่งเข้าหาเป้าหมายทันที ด้วยทักษะทั้งหมดบอกได้อย่างชัดเจนว่าผู้อาวุโสหลู่ ได้ฝึกฝนจนกลายเป็นหนึ่งเดียวกับดาบมังกรเทพสงคราม

 

ปังง!!

 

ในเวลาเดียวกัน ชิงสุ่ยก็โดนโจมตีอย่างหนักจนชุดเกราะทองคำวชิระต้องออกมาป้องกันความตายจากเขาในชั่วขณะ ส่วนทางด้านประมุขอสูรและฮัว รูเหม่ยเองก็ต้องการความช่วยเหลือ แต่ก็ถูกขัดขวางโดยผู้อาวุโสจากกลุ่มมังกรอหังกาล ในตอนนี้ประมุขอสูรเองก็ได้รับบาดเจ็บอย่างหนักจึงทำให้การฟื้นฟูของเธอนั้นช้าลงอย่างเห็นได้ชัด

 

ผู้อาวุโสหลู่ รีบพุ่งเข้าหายอดปรมาจารย์ที่เหลืออีก 2 คนของกลุ่มมังกรอหังกาล และเริ่มปะทะกันอย่างรุนแรงทันที

 

“เจ้าเป็นอย่างไรบ้าง?”ชิงสุ่ยทุ่งทะยานเข้าหาถานท่าย หลิงเยียน แล้วจับบริเวณแขนที่บาดเจ็บของเธอ

 

“ข้าไม่เป็นไร แล้วเจ้าล่ะ?”ถานท่าย หลิงเยียนกล่าวด้วยน้ำเสียงที่เบาบาง

 

“เจ้ากำลังเป็นห่วงข้าหรือ?”

 

“อะไร…ใครกัน? ไม่!!”

 

“คำพูดแรกมักออกมาจากจิตใจที่แท้จริงเสมอ”ชิงสุ่ยยิ้มและหยิบเอายาบรรเทาทองคำออกมาและทาลงบนแผลของเธอ ในชั่วพริบตาแผลของเธอก็ฟื้นคืนกลับเป็นผิวหนังธรรมดาอย่างรวดเร็ว

 

ผงยารักษาของชิงสุ่ยคือสิ่งที่มหัศจรรย์ยิ่ง

 

ถานท่าย หลิงเยียนพูดไม่ออกและไม่รู้จะพูดอะไร เธอมักจะโกรธทุกครั้งที่เธอมีปฏิสัมพันธ์กับชายคนนี้ แต่มันไม่ใช่ความรู้สึกที่แท้จริงเลย จิตใจของเธอนั้นอยากจะหัวเราะออกมาแทน

 

“ชิงสุ่ย โปรดอย่าสังหารคนพวกนั้นทันที เพราะข้ามีคำถามบางอย่างที่ต้องการถามคนเหล่านั้น”ถานท่าย หลิงเยียนเปล่งวาจา

 

“เอาละข้าจะจำเอาไว้”ชิงสุ่ยหันหลังกลับก่อนจะยิ้มและพุ่งทะยานออกไปร่วมการต่อสู้ ในตอนนี้ความเป็นไปได้ในการล้มบรรพบุรุษผู้ก่อตั้งแบ่งกลุ่มมังกรอหังกาลขึ้นอยู่กับตัวเขาแล้ว ทุกคนจึงพุ่งทะยานเข้าร่วมการต่อสู้ทันที