บทที่ 148 จับใส่กระสอบ

รักหวานอมเปรี้ยว

“ไม่เป็นไร!” เปปเปอร์ตอบออกมาอย่างแผ่วเบา เขาวางที่คีบลงแล้วเตรียมจะออกไปพร้อมกับจานในมือ

เมื่อเห็นดังนั้นลาเต้ก็หยุดเขาขึ้นว่า “เดี๋ยวครับ ประธานเปปเปอร์”

เปปเปอร์หยุดและมองไปทางเขาด้วยใบหน้าไร้อารมณ์ “คุณมีเรื่องอะไรอีก?”

“เมื่อตอนกลางวันคุณบอกว่าจะให้คำอธิบายกับเรา ประธานเปปเปอร์ลืมไปแล้วเหรอครับ? ตอนนี้คุณส้มเปรี้ยวก็ฟื้นขึ้นมาแล้ว คุณน่าจะทำตามสัญญาได้แล้วนะ”

ลาเต้กอดอกและพูดกึ่งยิ้ม “เราไม่ต้องการอะไรมาก แค่ขอให้คุณส้มเปรี้ยวเข้ามาคุกเข่าแล้วก้มหัวขอโทษที่รักของผมก็พอ มันไม่ได้มากเกินไปใช่ไหม?”

หากไม่ใช่เพราะไม่มีหลักฐานที่เป็นรูปธรรม เขาคงไม่ปล่อยให้ส้มเปรี้ยวขอโทษง่ายๆ แค่นี้แล้วจบแน่

เขาจะเรียกตำรวจและส่งส้มเปรี้ยวเข้าคุกแทน

เปปเปอร์ขมวดคิ้ว “คุกเข่าก้มหัวขอโทษ?”

“ครับ” ลาเต้พูด

เปปเปอร์หัวเราะหึๆ แล้วมองไปที่มายมิ้นท์ “คุณเองก็ต้องการให้ส้มเปรี้ยวคุกเข่าก้มหัวขอโทษด้วยเหรอ?”

มายมิ้นท์วางน้ำผลไม้ในมือของเธอลง ริมฝีปากของเธอเผยอขึ้นเล็กน้อย “คุณส้มเปรี้ยวทำร้ายฉันก่อนนี่คะ ฉันไม่คิดว่าทำแบบนี้จะแปลกตรงไหน”

อย่าว่าแต่ให้ส้มเปรี้ยวก้มหัวขอโทษเลย

ต่อให้ลาเต้สั่งให้ส้มเปรี้ยวตัดแขนหรือตัดขาสักข้าง เธอก็ยังรู้สึกว่าสมควรแล้ว ส้มเปรี้ยวทำร้ายเธอมากี่ครั้งกี่ครา และทุกครั้งที่ทำล้วนต้องการให้เธอถึงแก่ชีวิต การที่เธอไม่ได้ร้องขอให้ฆ่าส้มเปรี้ยวทิ้ง นับว่าใจดีมากเหลือเกินแล้ว

ไม่ต้องพูดถึงมายมิ้นท์แม้แต่ ทามทอย ชาหวาน และปีโป้ก็รู้สึกว่ามันสมควรแล้ว

ดวงตาของเปปเปอร์มืดมนลง “จะให้ส้มเปรี้ยวคุกเข่าก้มหัวขอโทษมายมิ้นท์ก็ได้ แต่มายมิ้นท์ คุณก็ควรขอโทษส้มเปรี้ยวด้วย”

“อะไรนะ?” ลาเต้ตกตะลึง

ทามทอยคนที่เหลือก็งุนงง

มายมิ้นท์ขมวดคิ้ว “ให้ฉันขอโทษส้มเปรี้ยว? ทำไม!?”

“นั่นสิ เอาอะไรมาอ้าง? ทำไมที่รักของผมต้องไปขอโทษส้มเปรี้ยวด้วย? นี่มันหลักการของที่ไหนครับ” ลาเต้จ้องตาเขม็ง “เปปเปอร์ เรื่องแค่นี้คุณยังเลือกปฏิบัติ ผมละสงสัยจริงๆ ว่าคุณจัดการบริษัทตระกูลนวบดินทร์ที่มีขนาดใหญ่อย่างนั้นได้ยังไง?”

หากมีเจ้านายที่ไม่สามารถแยกแยะอะไรผิดถูกได้แบบนี้ การที่บริษัทตระกูลนวบดินทร์ไม่ล้มละลายนับว่าเป็นความอัศจรรย์มากแล้ว

เปปเปอร์เพิกเฉยต่อท่าทางของลาเต้ เขาเพียงมองไปที่มายมิ้นท์และพูดอย่างเย็นชาว่า “คุณรู้ดีว่าส้มเปรี้ยวป่วยอยู่ แต่คุณยังจงใจพูดเรื่องแบบนั้นเพื่อกระตุ้นเธอ ทำให้บุคลิกที่สองของเธอปรากฏขึ้น เธอจึงได้ใช้งูมาทำร้ายคุณ เรื่องนี้คุณไม่ควรขอโทษเธอหน่อยเหรอ?”

“ฉันเนี่ยนะไปพูดจากระตุ้นเธอ?” มายมิ้นท์ชี้มาที่ตัวเองแล้วยิ้มขึ้นด้วยความโมโห

เธอไปพูดกระตุ้นส้มเปรี้ยวตั้งแต่เมื่อไหร่กัน?

ตอนที่เธออยู่ริมลำธาร เธอไม่ได้พูดอะไรกับส้มเปรี้ยวเลยสักคำนี่?

เปปเปอร์พูดขึ้นอีกครั้งว่า “ดังนั้นผมหวังว่าตอนที่ส้มเปรี้ยวขอโทษคุณ คุณก็จะขอโทษส้มเปรี้ยวด้วย”

พูดจบเขาก็ออกจากร้านอาหารไป

มายมิ้นท์มองไปที่ยังร่างของเขาที่จากไป ใบหน้าเธอเต็มไปด้วยความเย้ยหยัน

“ที่รัก” ลาเต้ตบไหล่เธอ “คุณพูดอะไรกับส้มเปรี้ยวเป็นการกระตุ้นเธอจริงเหรอ?”

“คุณคิดว่าฉันจะทำแบบนั้นไหม? ฉันไม่ได้สนใจเธอเลยด้วยซ้ำ แล้วฉันจะไปคุยกับเธอได้ยังไง” มายมิ้นท์มองเขาด้วยความโกรธ

มุมปากของทามทอยเผยถึงความเยาะเย้ย “ดูเหมือนว่าคุณส้มเปรี้ยวผู้ร้ายกาจนั่นจะบอกเปปเปอร์ว่า คุณไปกระตุ้นเธอก่อน ดังนั้นเธอจึงคิดจะฆ่าคุณ”

“ที่ตลกไปกว่านั้นคือ เปปเปอร์เชื่อจริงๆ นะสิ เขาไม่มีสมองหรือไง?” ลาเต้ขำจนเกือบจะน้ำตาไหล

ดวงตาของมายมิ้นท์เย็นลง “ทำไมถึงไม่เชื่อล่ะคะ ส้มเปรี้ยวเป็นคนรักของเขานี่ ถ้าไม่เชื่อแม้แต่คนรักแล้วจะไปเชื่อใคร?”

“ถึงยังไงส้มเปรี้ยวผู้หญิงคนนี้ก็ไร้ยางอายจริงๆ” ลาเต้ตบโต๊ะ

ชาหวานพยักหน้า

ส้มเปรี้ยวเป็นผู้หญิงที่แปลกที่สุดเท่าที่เธอเคยเห็นมา

ผู้หญิงจากตระกูลอัคคเดชโภคินในเมืองหลวงยังไม่แปลกขนาดนี้เลย

ปีโป้ก้มหน้าด้วยความอับอายและไม่พูดอะไร

เพราะในตอนแรกเขาคิดว่าส้มเปรี้ยวเป็นคนดีมาก ดีกว่าพี่มายมิ้นท์เสียอีก

ด้วยเหตุผลนี้ เขาจึงรังแกพี่มายมิ้นท์อยู่เป็นเวลาถึงหกปี เพราะเขารู้สึกว่าพี่มายมิ้นท์แย่งตำแหน่งส้มเปรี้ยวไป ตอนนี้เมื่อคิดดูแล้วเขาพูดไม่ออกจริงๆ

“เฮ้ๆๆ ทำอะไรน่ะ?” จู่ๆ ลาเต้ก็เห็นทามทอยเดินไปตรงตำแหน่งของส้มเปรี้ยว หยิบแก้วที่ส้มเปรี้ยวเคยใช้แล้วใส่ลงในถุง

คนอื่นๆ ก็สงสัยมากเช่นกันว่าเขาทำอะไร

“นี่ อย่าบอกนะทามทอยว่าคุณสนใจส้มเปรี้ยว เลยอยากจะแอบเอาแก้วส้มเปรี้ยวเคยใช้แล้วกลับไปกอดเพื่อบรรเทาความคิดถึงงั้นเหรอ?” ลาเต้มองทามทอยด้วยความรังเกียจ

ทามทอยปากกระตุกทันที “คุณกำลังพูดเรื่องอะไรเนี่ย! ใครชอบส้มเปรี้ยวกัน?”

“แล้วคุณ……”

“ผมเอาแก้วของเธอไปแน่นอนว่าผมมีเหตุผลของผม” ทามทอยกะพริบตาไปทางมายมิ้นท์

มายมิ้นท์เลิกคิ้ว คิดว่าเหตุผลของเขาอาจเกี่ยวข้องกับเธอ

แต่เขาไม่อยากอธิบาย และเธอก็ไม่อยากถาม

บางทีในไม่ช้าเธอก็คงจะรู้เอง

ไม่นานนัก ผู้ช่วยของทามทอยก็มาถึง

ทามทอยส่งถุงกันน้ำสองใบให้ผู้ช่วย ซึ่งข้างในบรรจุขวดแก้วใส่มัสค์และแก้วของส้มเปรี้ยวอยู่

“เอากลับไปตรวจสอบลายนิ้วมือดูว่าบนวัตถุสองชิ้นนี้มีลายนิ้วมือทับซ้อนกันไหม?” ทามทอยพูด

หากว่ารอยนิ้วมือบนขวดแก้วเหมือนกับรอยนิ้วมือบนแก้วของส้มเปรี้ยว ก็เป็นหลักฐานเพียงพอที่จะแสดงว่ามัสค์ถูกส้มเปรี้ยวขโมยไป และใช้มันทำให้มายมิ้นท์ตกม้า

หากว่าไม่ตรงกัน ก็คงจะเป็นอุบัติเหตุ

“ครับท่าน” ผู้ช่วยพยักหน้าแล้วเดินจากไป

ทามทอยเดินทางกลับมายังวิลล่า

กลางดึก ขณะที่มายมิ้นท์กำลังนอนอยู่บนเตียง จู่ๆ โทรศัพท์ก็สว่างขึ้น เป็นข้อความจากลาเต้ว่า “ที่รัก เริ่มแผนได้”

ดวงตาของมายมิ้นท์มืดมนลง เธอพลิกตัวลุกขึ้นนั่ง ตอบกลับไปเพียงสองคำว่า “รับทราบ”

จากนั้นเธอก็สวมเสื้อคลุมเดินออกจากห้องไปอย่างช้าๆ

ทามทอย ชาหวานและลาเต้ก็เดินออกมาจากห้องเช่นกัน

ทั้งสามคนมองหน้ากัน

ลาเต้กระซิบว่า “เจ้าปีโป้ลงไปก่อนแล้ว”

“โอเค เราลงไปกันเถอะ ผมเตรียมทุกอย่างไว้พร้อมแล้ว” ทามทอยหยิบของสีน้ำตาลบางอย่างออกมาจากด้านหลังด้วยใบหน้าอันเจ้าเล่ห์

ลาเต้และชาหวาน ก็ยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์เช่นกัน

มายมิ้นท์เห็นว่าทั้งสามคนแทบรอไม่ไหวก็อดไม่ได้ที่จะยิ้มขึ้น “ตกลง ลงไปกันเถอะ”

ทั้งสามคนจึงเดินลงไปข้างล่าง

ที่ชั้นสอง ปีโป้พาส้มเปรี้ยวไปที่บันได

แต่ส้มเปรี้ยวไม่ไป เธอสะบัดมือของปีโป้ออก “น้องปีโป้ อยากจะบอกอะไรพี่กันแน่คะ พูดที่นี่ก็ได้นี่”

เธอไม่อยากตามปีโป้ลงไปชั้นล่าง

ปีโป้เกลียดเธอมาก แต่จู่ๆ เขาก็มาหาเธอและบอกว่ามีอะไรจะบอก อีกทั้งพยายามจะลากเธอออกจากห้องให้ได้ มันต้องมีอะไรแน่ๆ

เมื่อเห็นท่าทางอันระแวดระวังเต็มไปด้วยความสงสัยจากสายตาของส้มเปรี้ยว ปีโป้ก็รู้สึกกังวล

แต่เมื่อนึกถึงหน้าที่ที่พี่มายมิ้นท์มอบให้เขา เขาจึงพูดขึ้นอย่างหนักแน่นว่า “คือเรื่องมันเป็นแบบนี้ครับพี่ส้มเปรี้ยว ผม……”

ยังไม่ทันพูดจบก็พบมือใหญ่ข้างหนึ่งยื่นออกมาจากด้านหลังส้มเปรี้ยว มือคู่นั้นถือผ้าเช็ดตัวอยู่ด้วย

ปีโป้ถอนหายใจด้วยความโล่งอกแล้วยิ้มให้ส้มเปรี้ยว “พี่ส้มเปรี้ยวครับ ผมแค่อยากจะบอกว่าดูแลตัวเองให้ดีด้วย”

เมื่อพูดเสร็จเขาก็ถอยออกไป

ส้มเปรี้ยวได้ยินเสียงการเคลื่อนไหวดังจากข้างหลัง ก็รู้สึกถึงลางไม่ดี เธอกำลังจะหันไปมอง แต่กลับถูกมือใหญ่ที่ถือผ้าขนหนูไว้ปิดจมูกปิดปากเอาเสียก่อน

ส้มเปรี้ยวคล้ายได้กลิ่นยา ต่อจากนั้นเธอก็ไม่รู้สึกตัวอีกเลย

“เร็วเข้า เธอสลบไปแล้ว เอาใส่กระสอบๆ” ลาเต้เร่งเร้า

ทามทอยคลี่กระสอบออก จากนั้นช่วยกันกับชาหวานเอากระสอบสวมจากศีรษะของส้มเปรี้ยวลงไป ก่อนจะปิดปากกระสอบ

มายมิ้นท์ยืนอยู่ด้านข้าง เธอถือขวดน้ำขวดใหญ่มองดูฉากตรงหน้านี้ด้วยรอยยิ้ม

“เจ้าหนู รีบลงไปเปิดประตูข้างล่างสิ” ทามทอยแบกส้มเปรี้ยวขึ้นมา ลาเต้จึงหันหน้าไปพูดกับปีโป้ซึ่งยืนอยู่ตรงบันได