“จะมากไปแล้ว!”หลินจือกัดฟันพูด“ ฉันจะไปคุยกับเขาให้รู้เรื่อง!”
“เฮ้ย——”นานิอยากจะห้ามเธอ แต่หลินจือมีอารมณ์โมโหมากเกินได้กดวางสายไปแล้ว
นานิอยากจะบอกว่า ต่อให้หลินจือจะไปคุยกับเทาเท่ยังไงเธอก็ไม่ใช่คู่ปรับของเทาเท่ ความคิดความอ่านของหลินจือนั้นมันคนละชั้นกับเทาเท่ ตอนนี้เทาเท่ก็มาใช้เล่ห์กลอุบายอีก หลินจือจะเอาอะไรไปสู้
พอหลินจือวางสายกับนานิไปแล้วก็กดโทรหาเทาเท่ แต่ก่อนโทรเธอได้ไปค้นหาหมายเลขของเขาจากที่บล็อกเอาไว้ออกมาก่อน
ไม่นานก็กดโทรติด หลินจือพูดอย่างโกรธเคืองว่า“เทาเท่คลิปเมื่อคืนคุณจงใจให้คนเอาไปปล่อยใช่ไหม?”
น้ำเสียงของชายหนุ่มทั้งเอื่อยเฉื่อยและทุ้มต่ำ ถามอย่างรู้แก่ใจดีว่า“หมายความว่าไง?ผมไม่เข้าใจ”
หลินจือโกรธจัด นี่เป็นครั้งแรกที่เธอได้รู้ ว่าเทาเท่เป็นคนหน้าด้านและไร้ยางอายมาก
หลินจือโมโหมากจนพูดไม่ออก ทางฝั่งเทาเท่ก็พูดขึ้นว่า “มาที่ห้องผมเดี๋ยวนี้”
“อะไรนะ?”หลินจือเป็นคนสุภาพอ่อนโยน แต่ตอนนี้ก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกโกรธกับคำพูดของเทาเท่
นี่เขายังกล้าให้เธอไปหาเขาที่ห้องอีกเหรอ ?
เขาไม่กลัวเธอจะข่วนหน้าเขาหรือไง?
เทาเท่พูดอย่างไม่รู้สึกรู้สาว่า“คุณอยากถามผมเรื่องเมื่อคืนไม่ใช่เหรอ ? คุณมาที่ห้องผมสิ เรามาคุยกัน ”
หลินจือกักเก็บอารมณ์โกรธและพูดว่า“ไปคุยกันที่ร้านกาแฟชั้นล่างดีกว่า ”
เทาเท่ปฏิเสธข้อเสนอของเธออย่างไม่ลังเล “ไม่เอา”
เงียบไปชั่วครู่ เทาเท่ก็พูดขึ้นว่า“ ผมอยู่ห้อง1802”
หลินจือกำโทรศัพท์แน่นและสูดหายใจเข้าลึก กดวางสายแล้วไปอาบน้ำแต่งตัว
ยี่สิบนาทีผ่านไป หลินจือก็มาปรากฏตัวขึ้นที่หน้าห้องของเทาเท่ เรื่องนี้ยังไงก็ต้องหาทางออก และทางออกที่ดีที่สุดก็คือให้เทาเท่หาคนไปจัดการลบข่าวนี้ออกไปโดยเร็วที่สุด
แม้ว่าเรื่องมันจะแดงขึ้นแล้ว แต่ด้วยอำนาจของเงินที่ไร้ขีดจำกัด ขอแค่เทาเท่อยากทำให้มันหาย ด้วยเม็ดเงินของเขาก็สามารถทำให้มันหายไปได้แน่
หลินจือกดกริ่งหน้าประตู เทาเท่เดินมาเปิดประตูให้เธอ
ทันทีที่หลินจือเข้าไปได้ยังไม่รอให้เธอได้อ้าปากพูดอะไร เทาเท่ก็ยื่นมือมาหาเธอ “เอาโทรศัพท์ของคุณมา”
“คุณจะเอาโทรศัพท์ฉันไปทำไม?” หลินจือไม่อยากให้เขา
เทาเท่พูดอย่างไม่สบอารมณ์ว่า“ แอด WeChatผมกลับเหมือนเดิม แล้วต่อจากนี้ก็ห้ามบล็อกผมอีก”
หลินจือรู้สึกโมโห“นี่คือการข่มขู่หรือเปล่า ?”
เขารู้จุดประสงค์ที่เธอจะมาหาเขา ดังนั้นก็จึงจงใจเรียกร้องแบบนี้ใช่ไหม
เทาเท่ไม่ตอบอะไร แต่ยื่นมือไปหาเธอ
ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่จะมีโอกาสได้ออกคำสั่งกับเธอแบบนี้ และเทาเท่ก็ไม่มีทางปล่อยมันไปง่ายๆแน่ หรือจะพูดอีกนัยก็คือ เรื่องทั้งหมดนี้ล้วนอยู่ในแผนของเขา
หลินจือถอยหลังไปหนึ่งก้าวเพื่อเว้นระยะห่างกับเขา หยิบโทรศัพท์มือถือออกมาแล้วกดหยุกหยิกไปมาจากนั้นก็พูดว่า“เสร็จแล้ว”
เทาเท่เหลือบมองไปยังโทรศัพท์มือถือของตัวเอง จากนั้นก็ถึงได้ลุกขึ้นอย่างพึงพอใจและให้เธอเดินเข้าห้อง
หลินจือยืนนิ่งอยู่ในห้องนั่งเล่นภายในห้องสวีทของเทาเท่ ช้อนตาขึ้นมองกำลังจะอ้าปากพูด ก็เห็นเขาแต่งกายไม่เรียบร้อย บนร่างเขาสวมชุดคลุมอาบน้ำของโรงแรมอยู่ แต่เชือกผูกเอวก็หละหลวมราวกับจะหลุดออกได้ทุกเมื่อ
ในฐานะคนเคยใกล้ชิดกับเทาเท่มานานสามปี หลินจือรู้ดีว่ารูปร่างของเทาเท่นั้นสมบูรณ์แบบแค่ไหน เขาเป็นคนมีวินัยและดูแลตัวเองอยู่ตลอด จะปล่อยให้รูปร่างของตัวเองดูแย่ได้ยังไงกัน
ร่างกายของเขาที่ถูกสวมทับด้วยชุดสูทและรองเท้าหนังอยู่ตลอดเวลา เป็นสรีระที่ล่ำสันและแข็งแรงของชายวัย30ปี ทุกครั้งที่ถูกเขากดทับอยู่ใต้ร่าง หลินจือก็มักจะมัวเมาและลุ่มหลงไปกับมัน
ในตอนนี้เองหลินจือก็ไม่รู้ว่าตัวเองมาเคลิ้มอะไรกับการเห็นภาพผู้ชายแบบนี้แล้วยังไปคิดถึงภาพอะไรต่อมิอะไรมากมายพวกนั้นอีก
บนใบหน้าก็พลอยร้อนผ่าวขึ้นมา เธอรีบละสายตาออกแล้วพูดว่า“ คุณไปเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนดีกว่า”
เมื่อครู่ตอนที่เดินเข้ามาเขาก็ขอโทรศัพท์มือถือของเธอ และเธอก็ไม่ได้สังเกตว่าเขาแต่งตัวไม่เรียบร้อย
เทาเท่เหลือบมองไปยังใบหูที่แดงเรื่อของเธอ โน้มตัวเข้าไปใกล้ และถามด้วยน้ำเสียงที่เย้ายวนว่า“ แน่ใจนะว่าอยากให้ผมไปเปลี่ยน?”
คำพูดนี้ของเขามันฟังดูคลุมเครือมาก ราวกับเธอกำลังหลงใหลในชุดที่เขาสวมใส่ยังไงอย่างนั้น หลินจือพูดอย่างขุ่นเคืองว่า “แน่ใจและมั่นใจมาก ”
แผนการดึงดูดความสนใจด้วยความหล่อล้มเหลว การจะควบคุมเธอทำไม่สำเร็จ ใบหน้าของเทาเท่มีความผิดหวังผาดผ่าน
ในอดีตเธอหลงใหลในร่างกายของเขามาก บางครั้งเมื่ออยู่ในจุดพีคของอารมณ์ เธอก็กล้าที่จะลูบไล้ไปที่กล้ามท้องของเขาและพูดอย่างคลั่งไคล้ว่า “เทาเท่ ทำไมหุ่นคุณดีจัง”
เวลาที่เขาอารมณ์ดีก็จะถามเธอว่าชอบไหม? เธอก็จะหลุบตาลงแล้วพยักหน้าให้อย่างรวดเร็ว จากนั้นก็จับไปที่หัวไหล่ของเขาและหลอมรวมเป็นหนึ่งกับเขา
เช้าๆแบบนี้ เทาเท่นึกถึงอดีตอันเร่าร้อนที่เคยมีกับหลินจือ ทันใดนั้นร่างกายของเขาก็อึดอัดขึ้นมาอย่างไม่สบายตัว
เขาพูดเสียงแหบแห้งกับหลินจือว่า“ผมยังไม่ได้อาบน้ำ คุณคงต้องรอผมนานสักหน่อย”
อันที่จริงแล้วเขาอาบมาแล้ว แต่ตอนนี้ต้องไปอาบอีกรอบเพื่อคลายความรุ่มร้อน
หลินจือเดินไปด้านข้างและพูดว่า“ได้ ฉันยังพอมีเวลา”
เธออาบน้ำเสร็จแล้ว เวลาที่นัดกับจอร์แดนว่าจะไปโรงพยาบาลด้วยกันก็ยังอีกนานดังนั้นก็จึงไม่ถือสาที่จะต้องรอให้เขาแต่งตัวให้เรียบร้อย
พอเทาเท่เข้าไปอาบน้ำในห้องน้ำ หลินจือก็รีบก้มมองโทรศัพท์ พยายามสลัดภาพที่ล่อแหลมเหล่านั้นออกไปจากหัวสมอง
ผ่านไปราวๆสิบนาที เทาเท่ก็ออกมาจากห้องน้ำ แล้วเดินอย่างเชื่องช้าไปยังห้องนอนเพื่อเปลี่ยนเสื้อผ้าของเขา
ไม่นาน เสียงของเทาเท่ก็ดังมาจากห้องนอนอีกครั้ง“หลินจือ คุณเข้ามานี่หน่อย ”
“มีอะไร?” หลินจือไม่เข้าไปแน่นอน นั่นมันห้องนอน อีกอย่างเขาก็กำลังเปลี่ยนเสื้อผ้าอยู่
เทาเท่ตอบกลับอย่างเกียจคร้าน“มาช่วยผมเลือกเนกไทหน่อย ”
หลินจือนึกถึงในตอนที่ตัวเองแต่งงานใหม่ๆเธอเคยพยายามจะช่วยเขาเลือกเสื้อผ้าแต่กลับถูกเขาปฏิเสธอย่างดูหมิ่น หลุบตาลงแล้วพูดอย่างเย้ยหยันว่า“สายตาฉันมันแย่ เลือกไม่เป็นหรอก ”
ตอนเป็นสามีภรรยากันเขาดูถูกเหยียดหยามเธอ ตอนนี้หย่ากันไปแล้ว เขากลับขอให้เธอช่วยเลือกเนกไทให้ นี่เขาไม่รู้สึกว่ามันย้อนแย้งไปเหรอ ?
เสียงของเทาเท่ก็ดังมาจากห้องนอน“ ขอแค่คุณเป็นคนเลือก มันดูดีทั้งนั้นแหละ ”
แม้คำพูดนี้ของเทาเท่จะฟังดูดี แต่สำหรับหลินจือแล้วมันน่าขำมาก
หากพวกเขาไม่เคยมีอดีต บางทีเธออาจชอบคำพูดที่ไพเราะในตอนนี้ของเทาเท่ก็เป็นได้
แต่เพราะเคยถูกความเมินเฉยทำร้ายมาก่อน หลินจือที่ต้องเผชิญหน้ากับเทาเท่ในตอนนี้ ค่อยๆเปิดรอยแผลในอดีต“ประธานเทาเท่ เมื่อก่อนคุณไม่ใช่คนแบบนี้นี่ ทุกครั้งที่ฉันช่วยคุณเลือกเสร็จ คุณก็จะแสดงท่าทีที่รังเกียจตลอด ”
หลังจากที่หลินจือพูดจบ เทาเท่ที่อยู่ในห้องนอนก็เงียบเสียงไป
สักพัก เขาก็เดินออกมาจากห้องนอน แต่งตัวเรียบร้อย และผูกเนกไทแล้วเสร็จ
ชุดสูทสีดำสนิทเสริมบุคลิกความดุดันของเขาอย่างเต็มที่ หลินจือละสายตาออกไม่หันไปมอง พยายามสงบสติอารมณ์ของตัวเอง
เทาเท่เดินมาแล้วหยุดลงตรงหน้าเธอ พูดเสียงเข้มอย่างจริงจังว่า“ เมื่อก่อนเพราะผมไม่เคยเห็นค่าของคุณ——”
หลินจือไม่อยากได้ยินคำพูดที่ไร้สาระของเขา จึงพูดขัดเขาขึ้นว่า“คุณพูดเรื่องคลิปวิดีโอนั้นดีกว่าว่าจะจัดการกับมันยังไง ”
ความรู้สึกมากมายของเทาเท่ยังไม่ทันได้พูดออกไป ภายในใจลึกๆรู้สึกได้ถึงการถูกเพิกเฉย