ใช้ลิ้นดุนไปที่ฟันกราม เทาเท่กักเก็บความผิดหวังที่มีในใจ จากนั้นก็ถามเธออย่างสงบนิ่งว่า “คุณอยากจะให้ทำยังไง ?”
หลินจือมองตาเขาแล้วพูดว่า“ ฉันไม่รู้ว่าเมื่อคืนถูกถ่ายตอนไหน แต่สื่อพวกนี้เวลาที่จะแพร่ภาพ คุณก็น่าจะต้องรู้เรื่องก่อนใช่ไหม ?”
เทาเท่เม้มริมฝีปาก ให้ความเงียบนั้นเป็นคำถาม
เมื่อหลินจือเห็นเขายอมรับโดยไม่โต้แย้ง ทันใดนั้นก็รู้สึกโกรธขึ้นมาทันที
“ทำไมคุณถึงทำแบบนี้ ? ตอนนี้ฉันเป็นแฟนของเจเทาวน์ และเมื่อหลายวันก่อนก็เพิ่งจะมีประเด็นข่าวให้ถูกพูดถึงไป หากมีใครมาขุดคุ้ยจนเจอว่าฉันมีความสัมพันธ์ที่คลุมเครือกับคุณอีก แล้วเขาจะดูแย่แค่ไหน ?”
“ฉันหวังว่าคุณจะสามารถหาวิธีจัดการกับข่าวที่เกิดขึ้นนี้ได้อย่างเร็วที่สุด อย่าให้เรื่องนี้ต้องหมักหมมต่อไปอีก ตอนนี้แม่ของเขากำลังป่วย เขาเองก็มีสภาพที่ย่ำแย่พอแล้ว ฉันไม่อยากจะสร้างปัญหาให้เขาอีก ”
เทาเท่ได้ยินเธอพร่ำพูดและสนใจแต่ความรู้สึกของเจเทาวน์ ในอกของเขาก็รู้สึกรวดร้าวใจเพราะผิดหวัง
ทำไมหัวใจของเธอถึงได้แข็งกระด้างแบบนี้ ?
ต่อให้เมื่อก่อนเขาจะเคยทำผิดและทำร้ายเธอมาก่อน แต่เขาก็ไม่คู่ควรได้รับการให้อภัยเลยเหรอ ?
ก่อนหน้านั้นเธอเคยรักเขามากมายขนาดนั้น ตอนนี้ไม่แคร์ความรู้สึกของเขาเลยเหรอ ?
ภายใต้อารมณ์ติดลบที่อัดแน่น เขาพูดด้วยความโกรธเคืองว่า“ผมจัดการกับข่าวเรื่องนี้ได้ แต่ผมต้องจัดการเรื่องผลประโยชน์ในส่วนต่างๆก่อน จะลบเลยทันทีคงทำไม่ได้”
คำพูดในความหมายนี้ของเทาเท่คือกำลังโกรธและอยากจะให้ข่าวนี้ถูกพูดถึงไปอีกสักสองสามวัน แต่ที่หลินจือเข้าใจกลับเป็นอีกหนึ่งความหมาย
หลินจือยกยิ้มมุมปากอย่างเยาะเย้ย เธอเข้าใจแล้ว เทาเท่คงอยากให้เธอเอาอะไรมาแลก แล้วถึงจะลบข่าวนี้ให้
เธอลืมไปเลย ว่าเขาเป็นนักธุรกิจ นักธุรกิจจะทำการค้าที่ขาดทุนได้อย่างไร ?
เหมือนตอนที่เขาให้แมวกับเธอ ก็คอยแต่มาขอให้เธอเลี้ยงข้าวเขา ตอนนี้เธอให้เขาไปลบข่าวให้ เขาย่อมต้องการสิ่งตอบแทนอยู่แล้ว
เมื่อคิดได้ดังนั้นหลินจือก็หันมองไปยังเทาเท่ยิ้มเยาะแล้วพูดว่า“เทาเท่ คุณคอยแต่จะมาวุ่นวายกับฉันไม่หยุด อยากจะใกล้ชิดและสัมผัสฉันใช่ไหม?”
ระหว่างชายหญิง ก็มีแค่ไม่กี่เรื่องเท่านั้นที่ทำให้คนเราพร่ำเพ้อได้ไม่ใช่เหรอ ?
หลินจือไม่ใช่สาวน้อยที่ไม่รู้เรื่องอะไร เธอใช้ชีวิตแต่งงานกับเทาเท่มานานกว่าสามปี เธอเข้าใจในสัญชาตญาณดิบของผู้ชายเป็นอย่างดี
“เอาล่ะ ในเมื่อคุณต้องการให้ฉันเอาอะไรมาแลกถึงจะลบข่าวนั้นได้ งั้นคุณก็เชิญ ”หลินจือไม่พูดพร่ำทำเพลง พูดจบก็ยกมือขึ้นและถอดเสื้อของตัวเองออก
รูปร่างของเธอเพรียวบาง ทุกสัดส่วนมีส่วนเว้าโค้งและมีเนื้อมีหนัง ผิวที่ขาวนวลทำเอาลูกกระเดือกของเทาเท่ขยับขึ้นลงอย่างควบคุมไม่อยู่
เขาโหยหาเธอมาตลอด และในตอนนี้เธอก็มายืนอยู่ตรงหน้าของเขาแบบนี้ เขาจึงย่อมควบคุมตัวเองไม่ได้
ภายใต้สติที่ขาดการยั้งคิด เขาจ้องมองหลินจือกัดฟันแล้วพูดว่า“อย่าคิดว่าผมไม่กล้าทำอะไรคุณนะ!”
อารมณ์เทาเท่ในตอนนี้ทรมานมาก เขารู้สึกโกรธที่หลินจือเข้าใจผิดว่าเขาอยากให้เธอเอาอะไรมาแลก และเขาก็ปรารถนาที่อยากจะใช้โอกาสนี้ได้ใกล้ชิดและสัมผัสเธอ
“ถ้าอย่างนั้นคุณก็มาสิ” หลินจือก็ขาดสติ คิดแค่เพียงอย่างมากก็พังไปด้วยกัน
หลินจือก็คิด ที่เทาเท่ยังคอยวนเวียนตามเธอไม่หยุด ก็คงเพราะยังหมกมุ่นเกี่ยวกับเรื่องอย่างว่าอยู่ จากความคิดที่ว่าการไม่ได้มาซึ่งสิ่งที่ปรารถนาคือโชคที่หาได้ยากยิ่ง หากเขาได้เธอไป และหากทั้งสองคนมีอะไรกันจริงๆ เขาก็คงจะเลิกสนใจเธอไปเอง
เพราะทั้งสองคนต่างก็กำลังโกรธ ดังนั้นก็จึงทำร้ายกันไปมาอยู่แบบนั้นซ้ำๆ
เทาเท่โน้มตัวลงและอุ้มเธอขึ้นในท่าเจ้าสาว ใช้ขาเตะเปิดประตูของห้องนอน
หย่ากันมานานกว่าหนึ่งปี เขาไม่เคยมีผู้หญิงที่ไหนเลย ไม่ว่าจะร่างกายหรือจิตใจก็มีความปรารถนาอย่างสุดขั้ว ยิ่งสองครั้งสุดท้ายก่อนการหย่าเขาถูกเธอปรนเปรอให้อย่างอิ่มเอม
ความรู้สึกหิวโหยหลังจากที่อิ่มเอมไปแบบนั้น มันทำให้เขาทรมานอย่างระทมทุกข์
ดังนั้นตอนนี้เทาเท่ที่มีโอกาสแบบนี้ เขาก็จึงลงมือได้อย่างไม่ต้องคิด
เมื่อถูกร่างที่กำยำของชายหนุ่มวางลงบนเตียง และเมื่อไอเย็นกระทบเข้ากับผิวกาย ทันใดนั้นหลินจือก็ได้สติ
สมองบอกกับเธอ ว่าเธอจะทำแบบนี้กับเทาเท่ไม่ได้ มันจะไม่สามารถเรียกคืนอะไรได้เลย
ดังนั้นเธอก็จึงพยายามดันตัวเทาเท่ออกอย่างสุดกำลัง “ปล่อยฉัน!”
เทาเท่ออกแรงเพียงนิด ก็สามารถกดข้อมือเธอไว้เหนือศีรษะได้อย่างแนบแน่น
เขาจ้องมองเธออย่างหอบหายใจหนัก“ คุณเสนอมาเอง ตอนนี้มาขอให้ปล่อย ? หลินจือ คุณเห็นผมเป็นอะไร?”
เทาเท่ไม่อยากปล่อย และไม่ยอมปล่อย ดังนั้นจึงก้มหน้าลงแล้วจูบไปอย่างดุเดือด
เธอยั่วเขาซะขนาดนี้ แล้วให้เขาปล่อยเธอ เขาเกรงว่าตัวเองคงทนไม่ไหว
หลินจือร้องไห้ออกมาทันที“ฉันผิดไปแล้ว!”
“เทาเท่ ได้โปรด หยุดเถอะนะ……”หลินจือรู้สึกเสียใจมาก น้ำตาก็ไหลออกมาไม่หยุด
คำพูดของเธอเมื่อครู่เธอพูดไปโดยไม่ทันได้ยั้งคิด ตอนนี้เธอรู้สึกเสียใจอย่างมากจริงๆ
คำว่าผิดไปแล้วของเธอ ทำเอาเทาเท่ชะงักและหยุดการกระทำทุกอย่างทันที
ผู้หญิงคนหนึ่งบอกกับผู้ชายว่ารู้สึกผิดและเสียใจในเวลาแบบนี้ มันเป็นการดูถูกศักดิ์ศรีความเป็นชายของเขาอย่างมาก เทาเท่รู้สึกหงุดหงิด
และในจังหวะนี้เอง โทรศัพท์มือถือที่อยู่ด้านนอกของหลินจือก็ดังขึ้นมา หลินจือจึงใช้โอกาสนี้ผลักเขาออกอย่างแรง ลุกขึ้นและวิ่งออกไปอย่างทุลักทุเล
สายโทรเข้าจากจอร์แดน สงสัยคงมารับหลินจือแล้ว
หลินจือไม่ทันได้กดรับ แต่หยิบเสื้อมาใส่เปิดประตูและออกจากห้องไปทันที
เทาเท่นอนอยู่บนเตียงด้วยความหงุดหงิด นี่มันอะไรกันเนี่ย
สภาพเขาเป็นขนาดนี้แล้ว แต่คนกลับหนีไป นี่มันไม่เรียกว่าฆ่าเขาแล้วมันเรียกอะไร ?
หลินจือวิ่งกลับไปที่ห้องของตัวเองเพียงชั่วอึดใจ แล้วจึงกดรับสายของจอร์แดน
จอร์แดนพูดเสียงละมุนในสายว่า“ฉันมาถึงที่หน้าประตูของโรงแรมแล้ว ลงมาได้แล้ว ”
หลินจือพยายามพูดให้น้ำเสียงสงบที่สุด“ได้ค่ะ”
หลังจากที่วางสายหลินจือก็เปลี่ยนเสื้อผ้าชุดใหม่ จากนั้นก็กุลีกุจอลงไปหาจอร์แดนที่ชั้นล่างทันที พวกเขาจะไปรับลูน่าออกจากโรงพยาบาลด้วยกัน
เพราะเมื่อครู่กับเทาเท่ก็เกือบจะทำเรื่องที่เลยเถิด จิตใจหลินจือก็จึงไม่อยู่กับร่องกับรอย
ไม่ต้องพูดว่าเธอรู้สึกเสียใจมากแค่ไหน อยากจะย้อนเวลากลับไปจริงๆ เธอจะไม่พูดในทำนองให้เทาเท่มาร่วมหลับนอนกับเธอเป็นแน่
หลังจากที่เข้าไปนั่งในรถของจอร์แดน จอร์แดนก็สัมผัสได้ถึงอาการเหม่อลอยของหลินจือด้วยเช่นกัน
จอร์แดนกล่าวว่า“เธอกำลังคิดเรื่องข่าวของเทาเท่อยู่หรือเปล่า?”
ไม่รอให้หลินจือได้พูดอะไร จอร์แดนแค่นเสียงหึแล้วพูดออกมาว่า“ไม่ต้องคิดมาก ฉันให้คนไปจัดการลบข่าวและโพสต์พวกนั้นทิ้งแล้ว ”
หลินจือ“……”
เธอลืมไปเสียสนิทว่าเธอมีผู้ทรงอิทธิพลอย่างจอร์แดนเป็นผู้สนับสนุนหลักของเธอ และจอร์แดนก็สามารถจัดการกับเรื่องพวกนี้ได้ ซึ่งมันก็ยิ่งทำให้การกระทำของเธอเมื่อครู่นั้นน่าอับอายมากขึ้น
ที่น่าอายที่สุดคือ เธอเป็นฝ่ายเริ่มก่อน แต่สุดท้ายเธอก็กลัวจนต้องร้องไห้ออกมา
ในชั่วขณะหนึ่ง หลินจือก็รู้สึกอับอายมากจนอยากจะระเบิดตัวเองทิ้ง
เธอยกมือขึ้นและบีบคลึงไปที่หน้าผากของตัวเอง ในใจภาวนาขออย่าให้ได้เจอเทาเท่อีกเลย เพราะมันช่างน่าขายหน้าจริงๆ