ที่ร้านกาแฟ เฉียวเหลียงไปล้างมือ ขณะถังซีนั่งสบายๆ อยู่ที่โต๊ะ หยิบช้อนคนกาแฟ ในโทรทัศน์กำลังมีโฆษณา แล้วทันใดนั้นก็เป็นโฆษณาน้ำหอมชาแนล ที่มีเฮ่อหย่าเฉียนดาราดังเป็นนางแบบโฆษณา เธอจึงนึกขึ้นมาได้ว่าเธอลืมบอกเฉียวเหลียง เรื่องการเซ็นสัญญาเป็นนางแบบโฆษณาน้ำหอมเมจิกบัตเตอร์ฟลายของ OLS
ทันทีที่เฉียวเหลียงกลับมา เธอก็บอกเขาเรื่องนี้กับเขา เฉียวเหลียงขมวดคิ้วมองเธอและกล่าวว่า “ผมจำได้ว่าเมื่อก่อนคุณไม่ชอบอยู่ในความสนใจของผู้คน ทำไมคุณถึงอยากทำงานโฆษณานี้”
ถังซีหัวเราะเบาๆ ตอบว่า “ฉันได้ยินมาว่าพวกเขาเลือกเซียวจิ้นหนิงเป็นนางแบบโฆษณา เพื่อแก้แค้นให้เซียวโหรว ฉันเลยยอมรับข้อเสนอของเฮ่อหว่านหนิง แล้วอีกอย่างฉันก็อยากซื้อรถสปอร์ต และคิดว่าฉันน่าจะซื้อรถดีๆ ได้สักคันจากค่าจ้างสามล้านหยวน ฉันจึงตอบตกลง”
เธอไม่ชอบปรากฏตัวต่อหน้ากล้อง เอ็มไพร์กรุปมีการถ่ายทำโฆษณาโทรทัศน์ทุกปี แต่โดยทั่วไปผู้ที่จะมาเป็นแบบในโฆษณามักเป็นนักแสดง นักร้อง หรือนางแบบที่มีชื่อเสียงโด่งดังที่สุดในโลก คุณปู่เคยขอให้เธอแสดงในโฆษณา เพื่อประโยชน์ทางการค้าของเอ็มไพร์กรุปอยู่หลายครั้ง โดยบอกว่าเธอคือตัวแทนที่ดีที่สุด และเหมาะสมที่สุดสำหรับเอ็มไพร์กรุป แต่เธอไม่เห็นด้วย และคุณปู่ก็ไม่บังคับเธอ
เธอไม่เคยคิดมาก่อนว่าตอนนี้เธอจะต้องมาถ่ายโฆษณา…
หากคุณปู่รู้ว่าเธอกำลังจะถ่ายโฆษณาน้ำหอม ทั้งๆ ที่เธอเคยปฏิเสธการเป็นตัวแทนโฆษณาให้แก่ เอ็มไพร์กรุป ท่านจะเอาไม้เท้าตีเธอหรือเปล่าก็ไม่รู้
“คุณอยากได้รถสปอร์ตหรือ” เฉียวเหลียงหยิบจานเปล่าตรงหน้าเธอมา ตักของหวานตรงหน้าเขาให้เธอ แล้วเงยหน้าขึ้นมองเธอถามว่า “ให้ผมซื้อให้คุณได้ไหม”
ถังซีส่ายศีรษะด้วยรอยยิ้ม “ไม่ค่ะ”
เธอชอบที่เฉียวเหลียงเคารพความคิดเธอแบบนี้ เป็นความหวานสำหรับคนรัก ที่จะให้ของขวัญแก่กันและกัน แต่ต้องขึ้นอยู่กับเวลาและโอกาส ถ้าเฉียวเหลียงส่งดอกกุหลาบให้เธอในวันเกิดหรือวันวาเลนไทน์เธอก็ยินดีรับ หรือหลังจากที่เธอแต่งงานกับเฉียวเหลียงแล้ว เธอจะไม่ลังเลที่จะยอมรับสิ่งที่เขามอบให้ แม้เขาจะซื้อเมืองทั้งเมืองให้เธอก็ตาม แต่ไม่ใช่ตอนนี้…
อะไรก็ตามที่แพงเกินไปที่เฉียวเหลียงจะให้เธอเป็นของขวัญในตอนนี้ จะนำปัญหามาให้
เฉียวเหลียงยักไหล่แล้วกล่าวว่า “ตกลง ถือว่าผมไม่ได้พูดก็แล้วกัน” จากนั้นเขาก็กล่าวต่อไปว่า “ถ้าอย่างนั้นคุณก็กำลังจะถ่ายโฆษณานี้ แล้วหลังนั้นคุณจะเข้าสู่วงการบันเทิงหรือเปล่า”
ถังซีส่ายศีรษะแทนคำตอบ เธอไม่ต้องการเข้าสู่วงการบันเทิง เพราะไม่ชอบวิธีการเอาตัวรอดในวงการนี้ อยู่ให้ห่างๆ จะดีกว่า เธอแค่อยากถ่ายโฆษณาน้ำหอมนี้ ได้ค่าจ้างสามล้านหยวน และสำเร็จการศึกษาระดับสูงสุดภายในระยะเวลาสั้นที่สุดเท่าที่จะทำได้ ในฐานะเซียวโหรว และจากนั้นจะไม่มีใครกล้าดูหมิ่นเซียวโหรว
เฉียวเหลียงถามว่า “แล้วหลังจากนี้คุณต้องทำยังไงต่อไป”
“ฉันจะไปถ่ายทำโฆษณาที่เขาหงสือ คุณอยากไปดูด้วยไหม” ถังซียิ้ม กล่าวต่อไปว่า “ฉันได้ยินมาว่าน้ำพุร้อนของเขาหงสือมีชื่อเสียงมาก คุณพาฉันไปเที่ยวบ่อน้ำพุร้อน ดีไหมคะ”
เฉียวเหลียงซึ่งทีแรกอยากปฏิเสธ มองหน้าถังซีด้วยความสนใจเมื่อได้ยินคำว่า ‘น้ำพุร้อน’ “วันเสาร์นี้ ที่บ่อน้ำพุร้อนบนเขาหงสือหรือ”
“คุณไม่อยากไปเหรอ”
“อยากสิ ผมอยากไป” เฉียวเหลียงมองถังซีด้วยรอยยิ้มของสุนัขป่ามองเหยื่ออันโอชะ “ผมได้ยินมาว่าน้ำพุร้อนบนเขาหงสือมีแร่ธาตุบางอย่างที่ช่วยผ่อนคลายความเหนื่อยล้าได้ดี ผมคิดว่าผมน่าจะไปแช่น้ำ”
เมื่อสังเกตเห็นดวงตาเจิดจ้าเป็นประกายของเขา ถังซีก็รู้สึกว่าเธอขุดหลุมพรางขนาดใหญ่สำหรับตัวเองเสียแล้ว แต่เมื่อคิดถึงอะไรบางอย่างเธอก็หัวเราะแล้วกล่าวว่า “โอเคค่ะ ตกลงตามนั้น”
…
พรุ่งนี้เป็นวันศุกร์ ถังซีไม่ได้ไปโรงเรียนหลายวันแล้ว คุณครูเหอมู่อันจึงโทรมาที่บ้านเพื่อสอบถามอาการเธอ บังเอิญถังซีเป็นคนรับโทรศัพท์ เธอทั้งรู้สึกขำและรู้สึกผิดในเวลาเดียวกัน เมื่อวันก่อนเธอโกหกเหอมู่อันว่าจะไปโรงพยาบาล แต่โดยไม่คาดคิดเธอต้องเข้าโรงพยาบาลจริงๆ และเพิ่งได้ออกมาเมื่อวานนี้… นี่เป็นผลกรรมที่เธอได้รับจากการโกหกหรือเปล่า
“คุณครูเหอ ขอบคุณสำหรับความห่วงใยนะคะ หนูเพิ่งออกจากโรงพยาบาลเมื่อวานนี้ วันนี้หนูนอนพักอยู่ที่บ้าน และจะไปโรงเรียนพรุ่งนี้ค่ะ”
ในช่วงที่ถังซีอยู่ในอาการโคม่าเหอมู่อันโทรมาที่บ้านถังซี และหยางจิ้งเสียนเป็นคนรับโทรศัพท์ เธอบอกเขาว่าถังซีป่วยอยู่ที่โรงพยาบาล หลังจากนั้นเขาก็ไปเยี่ยมถังซีที่โรงพยาบาล เขาจึงรู้ว่าเธอไม่ได้โกหก และดีใจที่ได้ยินว่าถังซีพูดคุยได้แล้ว เขารีบบอกว่า “ถ้าเธอยังรู้สึกไม่ดี จะหยุดพักอีกวันแล้วมาโรงเรียนวันจันทร์หน้าเลยก็ได้นะ”
ถังซีขอบคุณเขาและตอบกลับว่า “ไม่เป็นไรค่ะ ขอบคุณค่ะคุณครู หนูขาดเรียนมาสัปดาห์กว่าแล้ว หนูจะไปโรงเรียนพรุ่งนี้ค่ะ”
วันรุ่งขึ้นถังซีสวมชุดนักเรียนน่ารักอีกครั้ง เมื่อมองตัวเองในกระจกเธอรู้สึกพึงพอใจมาก แม้จะได้รับบาดเจ็บโดยระบบในครั้งนี้ แต่เธอก็ยังสวยงามอยู่เหมือนเดิม หลังจากทาครีมบำรุงปรับสภาพผิวหน้าแล้ว เธอก็กระโดดลงบันไดอย่างร่าเริง เซียวส่านั่งอ่านหนังสือพิมพ์อยู่ที่โซฟา เขาหยุดอ่านเมื่อเงยหน้าขึ้นเห็นถังซี แต่ครู่เดียวเขาก็หายจากอาการงุนงง และถามอย่างอ่อนโยน “วันนี้จะไปโรงเรียนแล้วเหรอ”
ถังซีพยักหน้า โยนกระเป๋านักเรียนลงบนโซฟาแล้วไปที่ห้องทานอาหาร เพื่อรับประทานอาหารเช้า เธอกล่าวว่า “ฉันไม่ได้ไปโรงเรียนมานานสัปดาห์กว่าแล้ว คุณครูเหอโทรหาฉันเมื่อวาน ถามฉันเรื่องนี้ แต่ฉันกำลังจะไปโรงเรียนวันนี้อยู่แล้วค่ะ”
เซียวจิ่งกัดปาท่องโก๋อย่างแรงพร้อมกับทำเสียงฮึดฮัด “ดีแล้วล่ะที่เธอไปโรงเรียน ไม่อย่างนั้น…” เขากลืนปาท่องโก๋แล้วพูดต่อจนจบ “ไม่อย่างนั้นเธอจะเบื่อ ถ้าต้องอยู่บ้านนานๆ”
เขาถูกเฉียวเหลียงทรมานอย่างหนักโดยการให้อยู่เฝ้าบริษัท เขาจะยอมให้เฉียวเหลียงกับโหรวโหรวแสดงความรักต่อหน้าต่อหน้าที่บริษัทได้อย่างไร! ถ้าโหรวโหรวไม่ไปโรงเรียน เฉียวเหลียงก็จะโทรหาเธอ ให้เธอไปที่บริษัทอีกด้วยข้ออ้างต่างๆ นานา และจากนั้นเขาก็จะต้องหงุดหงิดเมื่อเห็นการแสดงความรักของคนทั้งสอง จึงเป็นเรื่องดีที่โหรวโหรวจะไปโรงเรียน!
ถังซีรู้ว่าจริงๆ แล้วเซียวจิ่งคิดอย่างไร แต่เธอไม่พูด เธอหันไปทางเซียวส่าและถามว่า “แล้วพี่ส่าล่ะคะ พี่ได้กลับไปทำงานที่บริษัทหรือยัง”
เซียวส่ายิ้มในความห่วงใยของน้องสาว และตอบว่า “ไปแล้ว เดี๋ยวพี่ส่งเธอที่โรงเรียนก่อน แล้วก็จะไปทำงาน”
ถังซีพยักหน้ารับทราบ เซียวจิ่งต้องขับรถไปในทิศทางตรงกันข้ามกับโรงเรียนของถังซี นี่จึงเป็นครั้งแรกที่เขาไม่แย่งชิงกับเซียวส่าในเรื่องนี้ หยางจิ้งเสียนดีใจมากที่เห็นลูกๆ ทุกคนเข้ากันได้ดี ขอบคุณพระเจ้า ถึงแม้พ่อแม่ผู้ให้กำเนิดของโหรวโหรวจะต้องการรับเธอกลับไป แต่เธอก็ยังคงสนิทสนมกับพวกเขามากเหมือนเดิม
เซียวหงลี่ทานอาหารเช้าเสร็จแล้วก็เดินเข้าไปหาถังซี ตบไหล่เธอเบาๆ แล้วกล่าวว่า “ตั้งใจเรียนให้เก่งๆ นะลูก ถ้าใครมารังแกหนู บอกพ่อ พ่อจะจัดการให้เอง พี่ๆ ของหนูน่ะแค่เสือกระดาษ ทำได้มากที่สุดก็แค่ข่มขู่คนพวกนั้น แต่ถ้าพ่อไปถึงโรงเรียน แม้แต่คนของสำนักการศึกษาก็จะต้องหวาดกลัว เพราะฉะนั้นลูกต้องเรียนรู้ที่จะใช้ทรัพยากรของลูกให้ได้ประโยชน์สูงสุด เข้าใจไหม”
ถังซีก้มศีรษะรับ พร้อมกับตอบว่า “ค่ะคุณพ่อ หนูเข้าใจแล้วค่ะ!”