ป่าทึบ

กู่ฉิงซานยืนอยู่บนต้นไม้

เขารู้สึกว่าตัวเองเสียพลังไปแล้วจนกลายมาเป็นคนธรรมดาอีกครั้ง

ไม่ไกลกันนั้นมีลำธารขนาดเล็กไหลอยู่

ข้างลำธาร ทางฝั่งของป่า มีบ้านที่สร้างจากอิฐแดงตั้งอยู่

ในบรรดาดาวคนคู่ มีเพียงบ้านอิฐแดงหลังนี้ที่ผู้คนสามารถพักผ่อนได้

นอกเหนือจากนี้ อีกสถานที่ที่ปลอดภัยคือลำธาร

หากไม่อยู่ในบ้านอิฐแดงหรือใกล้กับลำธาร ความตายก็อยู่ไม่ไกลเกินเอื้อม

หมู่บ้านและลำธารเต็มไปด้วยสิ่งแปลกประหลาดนานาชนิด ทันทีที่สัมผัส พวกมันจะ “จัดการ” ทันที

สิ่งที่เรียกว่า “จัดการ” อาจจะเป็น…

การสังหาร

การกิน

การดูดกลืน

การจองจำ

การบดขยี้

การผนึก

แน่นอน ยังมีอีกโชคชะตาท่ามกลางการ ‘จัดการ’ จำนวนมาก…

การเคลื่อนย้ายพริบตาไปโลกอื่น

นี่คือจุดจบที่ดีที่สุด

กู่ฉิงซานปีนลงมาจากต้นไม้ช้าๆ ขณะเดินมาทางลำธาร

“เป็นอย่างไรบ้าง?”

เขาถาม

เสียงของฉานนู่ดังก้องในความว่างเปล่า “ทำลายกฎเกณฑ์ได้”

กู่ฉิงซานเผยสีหน้าด้วยความประหลาดใจแล้วพึมพำกับตัวเองว่า “โลกของดินแดนแห่งสี่เสาศักดิ์สิทธิ์ผนึกพลังวิเศษทั้งหมดเอาไว้ แต่เจ้าสามารถทำลายกฎเกณฑ์ได้งั้นหรือ”

“ใช่แล้ว นายท่าน สามารถทำลายกฎเกณฑ์ได้” ฉานนู่กล่าว

พวกเขากำลังพูดถึงพลังวิเศษของฉานนู่อยู่… ทำลายกฎเกณฑ์

“ทำลายกฎเกณฑ์: ในหนึ่งพันโลก ไม่มีกฎเกณฑ์ใดสามารถส่งผลกับดาบเล่มนี้ได้”

กู่ฉิงซานกล่าวด้วยความประหลาดใจว่า “ตอนนี้ข้าเริ่มเข้าใจสิ่งหนึ่งขึ้นมาแล้ว”

“อะไรหรือ”

“…เข้าใจว่าทำไมหวนคืนชาติภพหกวิถีถึงเป็นสุดยอดอาวุธของมนุษยชาติ”

ทันใดนั้นมีเสียงหนึ่งดังมาจากท้องนภา

‘ฟิ่ว!’

(ช้าไปหน่อย!)

เขาเห็นจี้น้ำเต้าหยกตกลงมาจากท้องนภา มันถ่ายวิชาให้กู่ฉิงซานโดยตรง

‘ฟิ่ว ฟิ่วๆ!’

(เร็วเข้า นี่คือตัวตน!)

แถวหิ่งห้อยขนาดเล็กปรากฏขึ้นตรงหน้ากู่ฉิงซาน

“ท่านได้รับทักษะชั่วคราว: ตัวตน”

“ชะตากรรม: ตัวตน เมื่อท่านอยากกลายเป็นตัวตนหนึ่ง แค่กล่าวออกมา จะมีอีกหนึ่งตัวตนอยู่ในโลก”

“เวลาคงเหลือสำหรับการปลดปล่อยทักษะ: ยี่สิบเก้าวินาที”

“ท่านเหลือเวลายี่สิบแปดวินาทีในการปลดปล่อยทักษะ หลังจากนั้น ท่านจะไม่สามารถปลดปล่อยความสามารถวิเศษในโลกนี้ได้”

ตอนนี้ จี้น้ำเต้าหยกยังคงส่งเสียงดังอยู่ในหูของเขาเพื่อบรรยายถึงตัวตนที่เปลี่ยนไปของผู้ถักทอชีวิตหุบเหว

กู่ฉิงซานเข้าใจทันที

เหลือเวลาสิบสองวินาที

เขาไม่มีเวลามาคิดแล้ว ดังนั้นจึงทำได้เพียงใช้ “ตัวตน” อย่างรวดเร็ว เขารีบร่ายคาถา

“มีชายชราในดาวคนคู่ที่มีจุดกำเนิดลี้ลับ เขาไม่คล้ายกับเป็นเผ่าพันธุ์ที่มีใครรู้จัก ความสามารถพิเศษคือทำอาหาร ตำนานกล่าวไว้ว่าทันทีที่กินก๋วยเตี๋ยวที่เขาปรุงเข้าไป หากทำให้เขารู้สึกยินดีก็จะได้ข้อมูลไปโลกอื่นจากเขา”

หลังจากพูดจบ กู่ฉิงซานรออยู่เงียบๆ

ในดาวคนคู่ มีเส้นทางนับไม่ถ้วนที่จะออกจากโลกนี้ แต่ละทางนั้นแตกต่างออกไป

สำหรับผู้คนมากมายที่มาถึงดาวคนคู่ การได้ข้อมูลว่าออกทางไหนและไปที่ใดนับว่าเป็นสิ่งสำคัญที่สุด

กู่ฉิงซานผู้ครอบครองแผนที่ดวงดาวรู้ทุกเส้นทางที่จะออกจากที่นี่

…ตามทิศทางที่ระบุไว้ในแผนที่ดวงดาว กู่ฉิงซานต้องมาถึงบ้านอิฐแดงก่อน จากนั้นตามหาของสำคัญที่จะไปสู่โลกต่อไป

เมื่อได้สิ่งนั้นแล้วให้เดินไปตามลำธารจนสุดสายก็จะพบกับบ่อน้ำแห้ง

ให้กระโดดลงไปในบ่อน้ำแห้งจนถึงก้นบ่อน้ำก็จะเจอกับห้องสมบัติ

ในห้องสมบัติ สมบัติทุกชิ้นจะถูกเอาออกไป เหลือเพียงหีบหินว่างเปล่าไม่กี่ใบเท่านั้น

กู่ฉิงซานต้องยัดตัวเองเข้าไปในหีบหินใบที่ห้านับจากทางซ้าย จากนั้นปิดหีบและใช้ของสำคัญนั่นก่อนจึงจะสามารถส่งตัวเองไปจักรวาลอื่นเพื่อมุ่งสู่โลกต่อไป

นี่คือช่องทางลับที่สุด

เวลาผ่านไปอย่างช้าๆ

สิ่งที่แปลกประหลาดก็คือ…

นอกจากการกลายเป็นชายชราน่าเกลียดแล้ว กู่ฉิงซานก็ไม่ได้เปลี่ยนแปลงอะไรเลย

กู่ฉิงซานลังเลสักพักแล้วถามจี้น้ำเต้าหยกว่า “หลังจากดูนางใช้ทักษะชะตากรรมแล้ว นางกลายเป็นหญิงสาวชาวมนุษย์ทันทีหรือ”

‘ฟิ่ว!’ จี้น้ำเต้าหยกตอบอย่างมั่นใจ

“น่าแปลก รูปลักษณ์แค่เปลี่ยนเล็กน้อยงั้นหรือ” กู่ฉิงซานแตะใบหน้าตัวเอง

‘พรืด…’

ทันใดนั้น มีเสียงหัวเราะที่ควบคุมไม่ได้ดังขึ้นมา

กู่ฉิงซานเห็นว่าเจ้าของเสียงนั่นคือฉานนู่

ด้วยคุณลักษณะทำลายกฎเกณฑ์ กฎเกณฑ์ของโลกจึงไม่สนใจนาง ทำให้นางลอยอยู่ในอากาศ ไม่ได้รับผลกระทบใดๆ

กู่ฉิงซานมองรอยยิ้มบนใบหน้าของฉานนู่ก่อนจะเข้าใจขึ้นมา

…เขาคือคนทำอาหาร ดังนั้นจึงไม่ต้องเปลี่ยนแปลงอะไร

เพียงแต่เมื่อทักษะชะตากรรม: ‘ตัวตน’ ถูกใช้งาน การรับรู้ของทุกคนในโลกนี้อาจจะเปลี่ยนไป

“นายท่าน ท่านจะทำแบบนี้ไม่ได้ ถึงแม้ท่านจะทำให้มีตัวตนแบบนั้นคงอยู่บนโลกได้ แต่ความสามารถแปลกประหลาดของท่านไม่อาจส่งผลกับโลกใบนี้ได้” ฉานนู่เตือน

“ใครบอกล่ะว่าข้าอยากทำอาหารให้คนกิน”

“อย่างไรหรือ…”

“ข้าแค่อยากให้โลกรู้ว่ามีคนแบบนั้นอยู่ ส่วนเจ้าก็มีการทำลายกฎเกณฑ์ เจ้าไม่ได้รับผลจากกฎเกณฑ์ของโลก เจ้าจึงสามารถปรับเปลี่ยนตามที่ข้าบอกได้ จากนั้นก็ใช้ทักษะให้เหมือนกับที่ข้าพูด”

ฉานนู่เอียงศีรษะแล้วครุ่นคิดสักพัก จากนั้นอดที่จะมองกู่ฉิงซานไม่ได้

“มีอะไร” กู่ฉิงซานถาม

“นายท่าน ความคิดชั่วร้ายของท่านช่างน่าประทับใจนัก…” ฉานนู่ตอบ

“ไม่ใช่ความคิดชั่วร้ายสักหน่อย นี่เรียกว่าภาวะฉุกเฉิน”

“ข้าคิดว่าไม่แตกต่างเท่าไหร่นะ”

“แตกต่างเยอะเลยล่ะ”

“นายท่าน ถ้าข้าต้องปรุงก๋วยเตี๋ยวเพื่อให้คนอื่นกินแบบนี้ แล้วท่านจะทำอะไรล่ะ”

“ข้าคิดไว้แบบนี้…” กู่ฉิงซานขมวดคิ้วจนอดที่จะถอนหายใจไม่ได้ “ดาวคนคู่ผนึกความสามารถลี้ลับจำนวนมากของผู้ถักทอชีวิตหุบเหวเอาไว้ แต่พลังในร่างของนางนับว่าไม่ธรรมดา ข้าคิดว่ายังยากนักที่พวกเราจะฆ่านางได้”

“นายท่าน ท่านจะไม่กลับโลกเก้าร้อยล้านชั้นหรือ ทำไมท่านถึงอยากฆ่านางทั้งที่มีโอกาสที่จะหนีแล้ว”

“เพราะความสามารถของนางน่าสะพรึงกลัวจริงๆ น่ะสิ”

บ้านอิฐแดง

หญิงสาวงดงามร่างสูงผลักประตู

เสียงหนึ่งดังขึ้นในโถงทันที “ที่นี่เต็มแล้ว ออกไป”

หญิงสาวมอง

นางเห็นคนบางส่วนนั่งอยู่ในโถงโดนเอาหลังพิงกำแพงขณะเล่นการ์ด

มีประตูบางบานตามทางเดินที่มีเสียงสนทนาเล็ดลอดออกมา

มีทั้งหมดสิบห้อง ทุกห้องเต็มแล้ว

หญิงสาวมองรอบข้าง แต่ก็ไม่พบกู่ฉิงซาน

นางยังคงเดินเข้าไปข้างใน

หลายคนที่นั่งเล่นการ์ดก้มศีรษะต่ำ แต่ตอนนี้พวกเขาสังเกตเห็นว่าอีกฝ่ายไม่ยอมออกไป พวกเขาจึงเงยหน้าขึ้นด้วยความหงุดหงิด

“อ้าว…”

“ผู้หญิงหรือ”

“เป็นผู้หญิงแสนสวยนี่เอง”

พวกเขาพลันคิดถึงใครบางคน

บนดาวคนคู่ มีหญิงสาวน่านับถือคนหนึ่งที่ใช้ชีวิตด้วยการสังหาร นางทรงพลังน่าเกรงขาม ทุกคนที่พยายามสังหารนางจะต้องตาย ผู้คนเคารพพลังและวิชาของนาง เต็มใจทำตามที่นางสั่ง

หญิงสาวตรงหน้าก็คือนางนี่เอง!

หลายคนรีบยืนขึ้นก่อนคำนับพร้อมกัน “ท่านหญิง ท่านมีคำสั่งอะไรหรือถึงได้มาที่นี่”

หญิงสาวไม่ตอบ

นางเดินตรงเข้ามา ไม่สนสายตาและการทักทายของทุกคนขณะตรวจทุกห้อง

ไม่มีกู่ฉิงซาน

กู่ฉิงซานไม่อยู่ที่นี่

หญิงสาวยืนอยู่ตรงทางเดิน จมสู่ความคิด

สัตว์ประหลาดสองหัวสูงสามเมตรคลานมาที่เท้านางแล้วกล่าวว่า “ท่านหญิง ท่านต้องการสิ่งใด หรือท่านอยากให้ฆ่าใคร ข้าเต็มใจจะช่วยท่าน”

ผู้คนรออยู่ด้านข้างด้วยความเคารพขณะกลั้นหายใจ ไม่กล้าอ้าปากเพื่อทำให้เสียบรรยากาศ

ถึงแม้ทุกคนบนดาวเคราะห์ดวงนี้จะเสียพลังวิเศษไป แต่ยังมีพวกคนที่น่าสะพรึงที่สามารถควบคุมทุกสิ่งได้ด้วยการพึ่งพลังที่อยู่ในร่างของตัวเอง

หลังจากนั้นนางถามว่า “ใครในหมู่พวกเจ้าที่เพิ่งมาถึงเมื่อเร็วๆ นี้”

ผู้คนลังเล ดวงตาจับจ้องเท้าของหญิงสาว

สัตว์ประหลาดขนาดใหญ่หมอบอยู่แทบเท้านางขณะพูดประจบว่า “ท่านหญิง ข้าก็เพิ่งมาถึงที่นี่เช่นกัน”

“อย่างนั้นหรือ”

“ใช่แล้ว”

“ดูท่าพวกเราจะมีชะตาต้องกันนะ…”

หญิงสาวยื่นมือมาลูบศีรษะน่าเกลียดชั่วร้ายของสัตว์ประหลาดอย่างอ่อนโยน

ทันใดนั้น มือของนางแทงหัวกะโหลกของสัตว์ประหลาด… ราวกับแทงทะลุชั้นกระดาษบาง… ก่อนยืดเข้าไปในศีรษะของสัตว์ประหลาด

ดูจากท่วงท่าของนางแล้ว การกระทำเช่นนี้เหมือนไม่ต้องใช้ความพยายามอะไรมาก

ร่างสัตว์ประหลาดสั่นไหวก่อนหยุดเคลื่อนไหวทันที

หญิงสาวรออยู่สักพัก

สัตว์ประหลาดไม่มีการแปรเปลี่ยนแต่อย่างใด

“ดูท่าจะไม่ใช่พลังลี้ลับของสิ่งมีชีวิตสินะ…”

หญิงสาวดึงมือของนางออกจากศีรษะที่เต็มไปด้วยสมองออกมาก่อนพึมพำอย่างไม่พอใจ

“กู่ฉิงซาน ข้ารู้ไพ่ทุกใบของเจ้าแล้ว อย่านึกว่าจะรอดล่ะ!”