บทที่ 305
หวางเอ้อโก๋คิดๆก่อนตอบว่า:“น่าจะใช่เฟิงเมิ่งกรุ๊ปที่ตงไห่ครับ!”
ได้ยินคำตอบยืนยันแน่นอนของหวางเอ้โก๋
สีหน้าของเฉ่าปิง กลายเป็นดุร้ายในพริบตา!
ในใจของเฉ่าปิง ความเคียดแค้นชิงชังไหลทะลักสูงเสียดฟ้า!
เพราะว่าตามที่เขาได้ตรวจสอบมา
คนที่ควบคุมอยู่เบื้องหลังเฟิงเมิ่งกรุ๊ปก็คือ หยางเฟิง!
เจ้าปีศาจนี่!
ทำให้ตัวฉัน ครอบครัวแตกแยกล้มตาย!
ทำให้ตัวฉัน ระเหเร่ร่อนไปทั่ว!
ทำให้ตัวฉัน ไม่ต่างจากหมาตัวหนึ่ง!
เฉ่าเจินเหลือบไปเห็นตาแดงๆของเฉ่าปิง ก็ถามอย่างอยากรู้:“ทำไม แกรู้จักเฟิงเมิ่งกรุ๊ปนี่หรือ?”
“ไม่ผิด! เฟิงเมิ่งกรุ๊ปนี่ พูดได้เลยว่าต่อให้พวกเขากลายเป็นผุยผง ฉันก็ยังรู้จัก!” เฉ่าปิงกัดฟันอย่างเคียดแค้นเกลียดชัง
เฉ่าเจินยิ่งตกใจ!
เฟิงเมิ่งกรุ๊ป ฟังดูแล้วไม่ได้มีชื่อเสียงนัก
ทว่าเฉ่าปิง อย่างไรเสียก่อนหน้านี้เขาก็เป็นนายน้อยแห่งแก๊งเขียว
ทำไมถึงแค้นฝังหุ่นกับบริษัทเล็กๆนี่ล่ะ?
เฉ่าปิงพยายามสงบอารมณ์ตัวเองลง แล้วอธิบายว่า:“ลูกพี่ ก็ไอ้เฟิงเมิ่งกรุ๊ปนี่แหละ ทลายแก๊งเขียวของผม!”
“อะไรนะ?”
ได้ยินอย่างนั้น
เฉ่าเจินก็ตกใจมาก
ไม่ต้องดูเฉ่าปิงที่ตอนนี้เป็นหมาไร้ที่พึ่ง
ก็รู้ได้ว่า อำนาจของแก๊งเขียวเดิมทีนั้น มากยิ่งกว่าตระกูลเฉ่ามาก
ฉงโจว เป็นแค่เกาะกลางทะเล
ตระกูลเฉ่า เป็นส่วนของพื้นที่ที่ถูกรวบรวมไว้บางส่วน
จะไปเทียบกับบริษัทข้ามชาติแห่งเมืองหลวงหู้ไห่ได้อย่างไร?
ด้วยเหตุนี้
ทีแรกที่เฉ่าเจิน เจอกับเฉ่าปิงนับว่ามีสัมมาคารวะมาก!
ไม่นึกเลยว่า
เฟิงเมิ่งกรุ๊ปนี่ ไม่น่าเชื่อจะแข็งแกร่งยิ่งใหญ่ขนาดนี้!
สองตาของเฉ่าปิง ตอนนี้ไม่ต่างจากงูพิษที่คอยแลบลิ้นเก็บบข้อมูล ตาจ้องเขม็งไปที่หวางเอ้อโก๋ถามว่า:“คนที่ถ่ายรูปที่ชายหาด มีผู้หญิงคนนึงด้วยใช่ไหม?”
หวางเอ้อโก๋ตอบพร้อมสีหน้าตื่นตระหนก:“ดูเหมือนจะใช่”
“อะไรคือดูเหมือนใช่ สรุปใช่หรือไม่ใช่?”
ในตอนนี้
ความเย็นเยียบจากรังสีสังหาร แผ่ซ่านออกมาจากตัวของเฉ่าปิง
หวางเอ้อโก๋ตกใจแทบแย่
“จริงสิ!ฉันแอบให้คนถ่ายรูปไว้รูปนึง!”
อยู่ๆเขานึกขึ้นได้ เอารูปใบหนึ่งออกมาอย่างด่วนจี๋
เฉ่าปิงรับรูปนั่นไปด้วยสีหน้าหม่นหมอง
เห็นแว๊บเดียวเขาก็จำได้ คนในรูป คือหยางเฟิง!
ชั่วครู่เดียว!
สองตาของเขา ก็กลายเป็นแดงก่ำขึ้นมา!
ความเคียดแค้นที่มันฆ่าพ่อ!
ความเกลียดชังที่มันทำลายแก๊ง!
ทั้งหมดนั้นทะลักขึ้นมาในใจ!
“ฮึ่ม! หยางเฟิง ฉันจะฆ่าแก!”
ความโกรธที่สะกดกลั้นไว้ไม่อยู่ ทำให้เฉ่าปิงคำรามอย่างบ้าคลั่ง
เฉ่าเจินมองดูเฉ่าปิงด้วยสายตาเจือความเวทนา
เจ้าหนอนน่าสงสารเอ้ย!
ขณะเดียวกัน
เขาก็เหลือบตามองรูปนั้นอย่างอยากรู้
แค่แว๊บเดียว!
ความโกรธเกรี้ยวก็ระเบิดออกมาเช่นกัน!
เฉ่าเจินมองแว๊บเดียวก็จำได้ หยางเฟิงนี่แหละ คือไอ้สารเลวที่ทุบตีเขาหลายทีอย่างชั่วช้า!
ทันใดจากนั้น เฉ่าเจินพูดอย่างโกรธขึ้งว่า:“ย่ำจนรองเท้าเหล็กสึกไม่พบพาน ไม่นึกเลย ว่าจะหาไอ้สารเลวเจอที่นี่”
ได้ยินดังนั้น!
ทันใดเฉ่าปิงยินดีอย่างมาก
เขาไม่คิดเลยว่า หยางเฟิงคนนี้ คือคนที่ทำร้ายเฉ่าเจิน!
เดิมทีเขาก็อยากอาศัยอำนาจตระกูลเฉ่าแก้แค้นหยางเฟิงอยู่แล้ว!
ราวกับสววรค์มาโปรด
หยางเฟิงถูกส่งมาถึงหน้าประตูด้วยตัวเอง!
เขาก็ไม่ได้บอกเฉ่าเจินว่า หยางเฟิงน่ากลัวแค่ไหน
แก๊งเขียว แก๊งฟ้าดิน ล้วนพังทลายลงในมือของหยางเฟิง!
ข้อมูลน่าหวาดกลัวขนาดนี้ ถ้าบอกเฉ่าเจินไป เฉ่าเจินคงตกใจแย่ เขาจะดึงให้ตระกูลเฉ่าลงน้ำไปด้วยได้อย่างไรกัน?
ส่วนของเฉ่าเจิน จะถูกหยางเฟิงเอาคืนอย่างไร มันเกี่ยวอะไรกับตัวฉันล่ะ?
โบราณว่า คนเราถ้าไม่ระมัดระวังตัวเอง ฟ้าดินจะลงโทษเอาได้
ขอแค่ได้ล้างแค้น ต่อให้ต้องเสียสละทุกสิ่งก็คุ้มค่า!
……
ในขณะเดียวกัน
เพื่อฉลองการถ่ายโฆษณาที่เสร็จสิ้นอย่างราบรื่น
หยางเฟิงจัดปาร์ตี้ฉลอง
อาหารเลิศรสทยอยมาทีละจาน
หยางเฟิงเหลือบตามองเฟิงชิงหวู พร้อมกับมองบนแล้วพูดว่า:“คุณดาราตัวท็อป ผมว่าตอนนี้คุณถอดแว่นกันแดดกับหมวกได้แล้วล่ะ!”
ในฐานะดาราตัวท็อป