แดนนิรมิตเทพ บทที่ 522
เมื่อเห็นว่าอานซื่อเฉิงไม่มีความคิดที่จะประนีประนอม กงซุนจั่วเสวียนก็เผยธาตุแท้ออกมา กล่าวเยาะเย้ยว่า “อานซื่อเฉิง วันนี้ผมจะบอกว่าการโจมตีน้ำชีวิตคราวนี้เพื่อแก้แค้นให้ลูกชายของผม ซึ่งความมุ่งมั่นของตระกูลกงซุนนั้นอยู่เหนือจินตนาการของคุณ!”

กงซุนจั่วเสวียนกวาดสายตาไปรอบ ๆ ด้วยความเย็นชาและกล่าวด้วยสีหน้าเยาะเย้ย “ถ้าชาวซีไห่คนใดคัดค้านการกระทำของตระกูลกงซุน หมายความว่าจะเป็นศัตรูของตระกูลกงซุน ถ้าคิดที่จะต่อสู้กับศึกภายนอก ศึกภายในต้องสงบก่อน และผมจะไม่ยอมให้พวกคุณมีโอกาสแทงข้างหลังในขณะที่ผมต่อสู้กับศัตรูหรอก!”

“วันนี้ใครที่ปฏิเสธตระกูลกงซุนก็คือศัตรูของผม สำหรับศัตรูแล้ว ผมกงซุนจั่วเสวียนจะใช้ทุกวิถีทางโดยไม่คำนึงถึงอะไรทั้งนั้น!”

นี่เป็นการคุกคามอย่างเปิดเผยแล้ว

คนชั้นสูงต่างมองหน้ากัน บรรดาคนที่สัญญาจะสนับสนุนตระกูลกงซุนแสดงสีหน้าเหมือนกำลังรอชมละคร ส่วนคนที่ยังไม่ได้แสดงจุดยืน เริ่มรู้สึกกระสับกระส่าย สุดท้ายสายตาของทุกคนมองไปที่อานซื่อเฉิง

ถ้าเขาไม่สามารถจัดการแม้แต่อานซื่อเฉิงได้ งั้นการข่มขู่ของกงซุนจั่วเสวียนก็ไร้ความหมาย

ทันใดนั้นอานซื่อเฉิงก็หัวเราะเสียงดังและกล่าวว่า “เจ้าบ้านกงซุนช่างน่าเกรงขามมาก ถ้าผมไม่ตกลง คุณจะทำอย่างไร?”

ดวงตาของกงซุนจั่วเสวียนเย็นชา เจตนาฆ่าที่อยู่ในดวงตาหนาแน่นขึ้นไปอีก “อานซื่อเฉิง แกเป็นคนรนหาความตายเอง!”

ความจริงแล้ว ตอนที่อานซื่อเฉิงไม่ยอมร่วมมือกับตระกูลกงซุน กงซุนจั่วเสวียนก็คิดจะฆ่าเขาแล้ว เพราะต้องฆ่าอานซื่อเฉิงตายเท่านั้น ถึงจะสามารถสยบคนอื่นได้ เพราะเสือสองตัวอยู่ถ้ำเดียวกันไม่ได้!

อานซื่อเฉิงก็ไม่ได้เกรงกลัวเหมือนกัน มองกงซุนจั่วเสวียนด้วยรอยยิ้มและกล่าวว่า “กงซุนจั่วเสวียน คุณคิดจะฆ่าผมเหรอ?”

“แล้วคุณคิดว่าไง?” กงซุนจั่วเสวียนยิ้มด้วยความเย็นชา ทันใดนั้นเขาก็ตบมือสามครั้ง

ทันใดนั้น บอดี้การ์ดสิบกว่าคนที่หลบซ่อนอยู่ก็พุ่งออกมา แล้วล้อมอานซื่อเฉิงไว้ทันที

คนชั้นสูงที่เฝ้ามองอยู่ อดไม่ได้ที่จะรู้สึกตกใจ และเบียดเสียดกันด้วยความประหม่า พวกเขาคิดไม่ถึงว่ากงซุนจั่วเสวียนจะใจกล้าขนาดนี้ บอกว่าลงมือก็ลงมือทันที

สีหน้าของอานซื่อเฉิงยังคงราบเรียบ มองกงซุนจั่วเสวียนที่สีหน้าเต็มไปด้วยเจตนาฆ่า และกล่าวด้วยรอยยิ้มว่า “แผนการของเจ้าบ้านกงซุนเยี่ยมมาก เกรงว่าคนเหล่านี้คงจะซุ่มไว้นานแล้ว!”

กงซุนจั่วเสวียนกล่าวเยาะเย้ย “เพื่อล้างแค้นให้ลูกชาย ผมจึงต้องทำแบบนี้เพราะไม่มีทางเลือก น้องอาน ตอนที่ไปสู่ถนนยมโลกนั้นอย่าได้โทษผมเลย!”

หลังจากกงซุนจั่วเสวียนกล่าวจบ เขาโบกมือให้คนเหล่านั้น ชายหนุ่มกลุ่มนั้นพุ่งเข้ามาทันที เตรียมจะจับตัวอานซื่อเฉิง

ขณะนี้ ชายชราแขนเดียวที่อยู่ข้างอานซื่อเฉิงพ่นลมออกมาอย่างเย็นชา เดินไปยืนขวางอยู่หน้าอานซื่อเฉิง มองกงซุนจั่วเสวียนด้วยความเย็นชา

“คุณอานรู้ว่างานเลี้ยงคราวนี้มีจุดประสงค์ร้าย ดังนั้นพวกเราจึงเตรียมป้องกันคุณไว้แล้ว และเป็นอย่างที่คาดเดาไว้จริง ๆ!”

หลังจากกล่าวจบ เขาสะบัดมือไปทางกลุ่มชายหนุ่มที่พุ่งเข้ามา จากนั้นชายหนุ่มพวกนั้นก็ล้มลงบนพื้น

“นี่คือนักบู๊ในตำนาน!”

สายตาของคนชั้นสูงเต็มไปด้วยความตกตะลึง สีหน้าของคนที่สนับสนุนตระกูลกงซุนน่าเกลียดเล็กน้อย ส่วนสีหน้าของคนที่คอยท่า เต็มไปด้วยความประหลาดใจ

“นึกไม่ถึงว่าตระกูลอานได้เตรียมตัวไว้ล่วงหน้าแล้ว ได้เชิญนักบู๊มาคุ้มครอง เกรงว่ากงซุนจั่วเสวียนจะเจอของแข็งแล้ว!”

กงซุนจั่วเสวียนมองกลุ่มชายหนุ่มที่นอนคร่ำครวญอยู่บนพื้น สีหน้าไม่เปลี่ยนแม้แต่น้อย จากนั้นหันไปมองอานซื่อเฉิงด้วยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์และกล่าวว่า “ไม่เลว มิน่าคุณถึงได้กล้าต่อต้านผมอย่างเปิดเผย ที่แท้มียอดฝีมืออยู่ข้างกายนี่เอง แต่คุณคิดว่าตระกูลกงซุนมีความสามารถแค่นี้เหรอ?”

“จื่อยิงออกมาเถอะ!”

กงซุนจั่วเสวียนตะโกนเรียกทันที กงซุนจื่อยิงกับอาจารย์อาของเธอค่อย ๆ เดินออกมาจากด้านหลัง

“นึกไม่ถึงว่าจะได้เจอคนที่เป็นนักบู๊เหมือนกัน!” แล้วเดินไปอยู่ข้างกงซุนจั่วเสวียน กงซุนจื่อยิงที่สูงเพรียวมองชายชราแขนเดียวด้วยสีหน้าเต็มไปด้วยความเย่อหยิ่ง