แดนนิรมิตเทพ บทที่ 521
กงซุนจั่วเสวียนรู้ดีว่าตอนนี้เพียงแค่คนเหล่านี้ยังไม่เพียงพอ เขากวาดสายตาผ่านฝูงชน แล้วมองอานซื่อเฉิงที่กำลังนั่งดื่มชาอย่างเงียบ ๆ
หากกล่าวถึงพลังอำนาจในมณฑลซีไห่แล้ว ตระกูลเย่เป็นอันดับหนึ่ง ตระกูลกงซุนต้องเป็นอันดับสองอย่างแน่นอน แต่เมื่อกล่าวถึงตระกูลอันดับสามแล้วย่อมเป็นตระกูลอาน
และการที่คนจำนวนมากไม่แสดงจุดยืน ความจริงแล้วเป็นเพราะพวกเขากำลังรออานซื่อเฉิง
กงซุนจั่วเสวียนเข้าใจสิ่งนี้เช่นกัน ดังนั้นตอนนี้เขาจึงเดินลงมาจากเวที แล้วเดินไปอยู่ตรงหน้าอานซื่อเฉิง
กงซุนจั่วเสวียนมองอานซื่อเฉิงด้วยรอยยิ้ม โค้งคำนับและกล่าวว่า “น้องอาน ผมหวังว่าจะได้รับความช่วยเหลือจากนาย!”
สามารถกล่าวว่ากงซุนจั่วเสวียนให้เกียรติอานซื่อเฉิงอย่างเต็มที่แล้ว ถ้าไม่ใช่เป็นเพราะแผนการที่จะต่อต้านเฉินโม่ ถึงแม้ว่าตระกูลอานจะมีอำนาจมาก แต่มันเป็นไปไม่ได้ที่กงซุนจั่วเสวียนจะถ่อมตนต่อหน้าอานซื่อเฉิงขนาดนั้น
ทุกคนที่อยู่รอบตัวขยับตัวเล็กน้อย กงซุนจั่วเสวียนยอมลดตัวถ่อมตนให้อานซื่อเฉิงแล้ว ดูเหมือนว่าคราวนี้ตระกูลกงซุนจะตั้งใจแน่วแน่แล้ว!
อานซื่อเฉิงยิ้มเล็กน้อยและกล่าวว่า “พี่กงซุนไม่จำเป็นต้องทำเช่นนี้ เรื่องนี้ต้องหารือระยะยาว”
เมื่อได้ยินอานซื่อเฉิงพูดเช่นนั้น รอยยิ้มบนใบหน้าของกงซุนจั่วเสวียนหยุดชะงักทันที สวนผู้คนที่อยู่รอบ ๆ แสดงสีหน้าหลากหลาย พวกเขามองสลับระหว่างกงซุนจั่วเสวียนกับอานซื่อเฉิง และแอบครุ่นคิดอยู่ในใจ
กงซุนจั่วเสวียนกล่าวด้วยรอยยิ้มว่า “น้องอาน มีความกังวลอะไรหรือเปล่า? ถ้ามีก็พูดออกมาเถอะ แต่ถ้าไม่มีก็ขอให้น้องอานช่วยสนับสนุนด้วย!”
อานซื่อเฉิงมองกงซุนจั่วเสวียนด้วยรอยยิ้มแปลก ๆ แต่ไม่พูดอะไร เพียงแค่มองเขาแบบนั้น
กงซุนจั่วเสวียนถูกอานซื่อเฉิงมองจนทำให้เขารู้สึกหวาดกลัวเล็กน้อย เขาฝืนหัวเราะและถามว่า “น้องอาน หมายความว่าอย่างไร”
จากนั้น อานซื่อเฉิงถึงได้เอ่ยปากและถามว่า “พี่กงซุน ผมมีบางอย่างที่ยังไม่เข้าใจ อยากจะขอให้พี่กงซุนช่วยชี้แนะ!”
“อ้อ น้องอานเชิญพูดออกมาเถอะ!” ดวงตาของกงซุนจั่วเสวียนเคร่งขรึมเล็กน้อย
อานซื่อเฉิงกล่าวว่า “ผมให้คนศึกษาวิจัยน้ำชีวิตแล้ว ถึงแม้จะใช้เครื่องมือทันสมัยที่สุด แต่ก็ยังไม่สามารถวิเคราะห์ส่วนผสมของมันออกมาได้ ขอถามว่าพี่กงซุนวิเคราะห์ออกมาได้อย่างไร?”
ทันใดนั้นสีหน้าของคนรอบข้างเต็มไปด้วยความครุ่นคิด จากนั้นพวกเขาก็มองกงซุนจั่วเสวียนด้วยความสงสัย
สายตาของกงซุนจั่วเสวียนเย็นชามากขึ้นไปอีก เขามองอานซื่อเฉิงและกล่าวด้วยรอยยิ้มว่า “ตระกูลกงซุนได้เชิญผู้เชี่ยวชาญมาช่วยเหลือ ดังนั้นจึงสามารถวิเคราะห์ส่วนผสมของน้ำชีวิตออกมาได้ น้องอานไม่จำเป็นต้องสงสัยในเรื่องนี้ เพราะผมไม่จำเป็นต้องอ้างเรื่องนี้เพื่อให้บรรลุจุดประสงค์ของตนเอง”
อานซื่อเฉิงยิ้มแปลก ๆ “ผู้เชี่ยวชาญ?”
“ในเมื่อพี่กงซุนได้ศึกษาวิจัยส่วนผสมของน้ำชีวิตออกมาแล้ว โปรดแจ้งให้พวกเราทราบอย่างละเอียด ผมจะได้หายสงสัย” อานซื่อเฉิงมองกงซุนจั่วเสวียนด้วยสีหน้าจริงจัง
รอยยิ้มบนใบหน้าของกงซุนจั่วเสวียนหายไปอย่างสมบูรณ์ และกล่าวอย่างจริงจังว่า “อย่าถือโทษโกรธที่ผมไม่สามารถบอกรายละเอียดได้ เพราะตระกูลกงซุนพยายามทุ่มเทอย่างหนัก ถึงสามารถศึกษาวิจัยส่วนผสมของน้ำชีวิตออกมาได้ ถ้าน้องอานช่วยผมเอาชนะน้ำชีวิตได้ เมื่อถึงเวลานั้นผมจะแจ้งผลการศึกษาวิจัยให้น้องอานทราบแน่นอน”
อานซื่อเฉิงกางมือด้วยความจำใจ “ในเมื่อพี่กงซุนไม่ไว้ใจผม ถ้าเช่นนั้นผมก็ไม่สามารถช่วยอะไรได้ ถ้าอยากให้ผมโจมตีน้ำชีวิตพร้อมกับคุณ ผมจำเป็นต้องรู้ผลการวิจัยของพี่กงซุนก่อน”
ดวงตาของกงซุนจั่วเสวียนปรากฏเจตนาฆ่า และกล่าวเยาะเย้ยว่า “น้องอาน คุณกำลังทำให้ผมลำบากใจ!”
อานซื่อเฉิงไม่ยอมลดละและกล่าวว่า “พี่กงซุนก็กำลังทำให้ผมลำบากใจเช่นกัน?”
คนใหญ่คนโตของมณฑลซีไห่ทั้งสองต่างมองหน้ากัน บรรยากาศตึงเครียดมาก ทุกคนรู้สึกเหมือนมีหินก้อนใหญ่ทับอยู่ในใจ แม้กระทั่งหายใจก็รู้ยังสึกลำบาก