ภาค 3 ธาตุแท้ของวีรบุรุษ บทที่ 298 ราชสีห์คำราม!

ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี

โลกหล้าพลันมีลำแสงวามวาวทอประกายขึ้น

ยันต์วิญญาณนับไม่ถ้วนเหินขึ้นเหินลง กระแทกกันและกัน ก่อนจะดับสูญเป็นจำนวนมาก

ยันต์วิญญาณที่เหลือแบ่งออกเป็นสี่กลุ่ม รวมตัวกันกลายเป็นมหาค่ายกลยันต์มหาศาล จากนั้นระหว่างที่ค่ายกลยันต์ซ้อนเข้าด้วยกัน แท่นบูชาฟ้าค่ายกลวิญญาณขนาดมโหฬารสี่แท่นก็ปรากฏกลางอากาศ

รอบกายสือเถี่ยล้อมไปด้วยแท่นบูชาทองคำ ขนาดแท่นบูชาหดเล็กลงไม่หยุด กระชับและทรงพลังขึ้นเรื่อยๆ ปณิธานวรยุทธ์ที่แข็งดุจเพชร ไม่สูญสลายชั่วกัลปาวสานส่งทอดออกมาจากภายในนั้น

ฝั่งตรงข้ามผู้อาวุโสหวัง ซือหม่าฉุย และหยางเนี่ยทั้งสามคน มีแท่นบูชาฟ้าค่ายกลยันต์ของแต่ละคนตั้งขึ้นมาเช่นกัน

แท่นบูชาฟ้าทั้งสาม แท่นหนึ่งขาว แท่นหนึ่งดำ แท่นหนึ่งม่วง ปราบปรามทั้งสี่ด้าน

ในมือของหยางเนี่ย ผู้อาวุโสสำนักเขานิมิตทมิฬมีดาบยาวเล่มหนึ่งปรากฏในมือ ไม่เห็นประกายดาบ เห็นเพียงพายุไร้ขอบเขตโคจร ดำมืดไปทั้งแถบ

เขารุกโจมตีไปยังสือเถี่ยเป็นคนแรก พลางขับเคลื่อนสุดยอดวิชาสืบทอดของสำนักเขานิมิตทมิฬ ไอม่วงสุดขอบตะวันตกจนถึงขีดสุด

กระบวนท่าคลื่นนภาม่วง ขนาบพายุนิมิตทมิฬอันไร้ที่สิ้นสุด ผ่าแสกศีรษะไปทางสือเถี่ย!

เกราะเทวะแสงลึกล้ำบนร่างสือเถี่ยเปล่งแสง ไม่หลบหลีก หากแต่ยันหมัดหนึ่งออกไป สั่นคลอนไอม่วงสุดขอบตะวันตกที่หยางเนี่ยใช้ขับเคลื่อนอาวุธวิญญาณระดับสูง อย่างดาบมทิฬโชติช่วงขับเคลื่อน

ทั้งสองฝ่ายแข็งปะทะแข็งซึ่งหน้า แสงทองไร้ขอบเขตและไอสีม่วงระเบิดออกมาทั่วหล้า หอบกระพือลมพายุคลั่งเป็นระลอกๆ กวาดกระหน่ำไปโดยรอบทั้งสี่ทิศอย่างบ้าระห่ำ

ร่างของผู้อาวุโสหวังปรากฏอยู่เหนือกายสือเถี่ย ฝ่ามือนภากว่างเฉิงอันน่าพรั่นพรึงกระบวนท่าหนึ่งฟาดงลงจากฟ้า!

ฟากฟ้าคล้ายกับลดต่ำลงขั้นหนึ่งชั่วพริบตา!

สือเถี่ยพ่นลมส่งเสียง หมัดขวาออกแรง ขณะที่ผลักหยางเนี่ยกระเด็นกลับ มือซ้ายก็ยกขึ้น!

มือซ้ายของเขาพราวระยับประดุจเพชร เพื่อใช้ท่ายันฟ้า หยุดยั้งฝ่ามือนภากว่างเฉิงของผู้อาวุโสหวังไว้

ไพศาลราวกับนภา พลังฝ่ามืออันเปี่ยมพลังและดุดันกดอัดลงไปไม่ยั้ง

กระนั้นสือเถี่ยก็เป็นดั่งเสาเอกค้ำฟ้า ไม่ขยับไม่เขยื้อน

ฝ่ามือทั้งสองปะทะเข้าด้วยกัน นัยน์ตาทั้งสองของสือเถี่ยสาดแสงเทวะไปทั้งสี่ด้าน ท่ามกลางเสียงแผดก้องทุ้มต่ำ มือซ้ายรุดขึ้นบนตลอดเวลา ท้องฟ้าที่ลดต่ำลงมาทนโท่ ย้อนกลับขึ้นไปอีกครั้งอย่างเหลือเชื่อ!

ผู้อาวุโสหวังและหยางเนี่ยเห็นภาพฉากนี้ ก็รู้สึกหวาดหวั่นพรั่นพรึงเช่นกัน

ฝ่ามือนภากว่างเฉิง หนึ่งในสามสุดยอดวิชากว่างเฉิง กลับสู้วิชากายเพชร หนึ่งในยอดวิชาแปดพิภพไม่ได้หรือ?

ไม่ใช่ฝ่ามือนภากว่างเฉิงพ่ายแก่กายเพชร หากแต่สือเถี่ยแกร่งกล้ากว่าผู้อาวุโสหวัง!

ฟากฟ้ากำลังจะถล่มลง ทว่าขณะสือเถี่ยปล่อยพลัง ฉับพลันนั้นท้องฟ้าที่กำลังจะเทลงมาก็ถูกยันขึ้นไปอีกครั้ง

ที่ยิ่งน่าพรั่นใจคือ ไม่เพียงยกชูขึ้นไปเท่านั้น ขณะที่พลังยกระดับไม่หยุด ฟากฟ้ามีแนวโน้มที่จะคว่ำลงไปอีกทิศหนึ่งอย่างเหลือเชื่อ

ไม่ใช่พลังน่าหวาดหวั่นของฝ่ามือนภากว่างเฉิงที่ทำให้ฟ้าดินคว่ำลง หากแต่เป็นสือเถี่ยจะพลิกฟากฟ้านี้ลง!

แท่นบูชาฟ้าค่ายกลยันต์สีขาวที่อยู่รอบๆ กายของผู้อาวุโสหวังเริ่มเสเอียงทันใด กำลังจะถูกสือเถี่ยพลิกกลับจากด้านล่าง!

ทันใดนั้น แสงสว่างไสวสายหนึ่งแล่นผ่าน ราวกับมังกรปีศาจสีดำโผล่ระหว่างทาง แทงไปทางสือเถี่ยจากมุมที่เจ้าเล่ห์มุมหนึ่ง!

พลังกระชับ ทั้งหมดรวมเป็นจุดเดียว ก่อตัวเป็นพลังทำลายล้างอันน่าหวาดกลัวไร้ที่เปรียบ เป้าหมายมุ่งไปยังแผลเดิมตรงช่วงเอวของสือเถี่ย!

สายตาสือเถี่ยดุจสายฟ้า มือขวาต่อยหมัดหนึ่งออกไปดังลั่น อัดดาบทมิฬโชติช่วงของหยางเนี่ยเอียงไปอีกครั้ง

จากนั้นสือเถี่ยผละมือซ้ายที่ยับยั้งผู้อาวุโสหวังกลับ แม้ว่าการเคลื่อนไหวจะแลดูเชื่องช้า หากแต่กลับทุบหมัดหนึ่งลงอย่างแม่นยำ ฟาดปลายหอกของซือหม่าฉุยที่ลอบจู่โจมเสเอียงออกไป!

มังกรปีศาจสีดำถูกสือเถี่ยทุบกลางต้นคอ ส่งเสียงร้องเจ็บปวดจริงแท้ออกมา ราวกับถูกฟาดจนสันหลังหักก็ไม่ปาน

หลังจากสือเถี่ยปัดปลายหอกของซือหม่าฉุยออกไป เขาก็กางนิ้วมือทั้งห้าออก การเคลื่อนไหวมือเปลี่ยนเป็นอ่อนช้อย เขียนวาดอย่างเชื่องช้า

วงแหวนแสงสีทองวงหนึ่งปรากฏ ทั้งวงประดุจเพชร อิ่มเอิบไร้รูรั่ว ตรงกลางว่างเปล่า ราวกับสามารถเก็บสรรพสิ่งไว้ได้

ซือหม่าฉุยปรารถนาเก็บหอกเปลี่ยนกระบวนท่า กระนั้นกลับพบว่าปณิธานวรยุทธ์ขิงตนกับมังกรทมิฬอันแปรสภาพมาจากการผสานอาวุธวิญญาณ ถูกวงแหวนแสงสีทองนั่นสวมครอบเอาไว้ ไม่อาจเก็บกลับได้เหนือคาด

สือเถี่ยออกแรงมือซ้าย มังกรทมิฬตัวนั้นร้องระงม หมดทางดิ้นรนหนี ซ้ำยังถูกวงแหวนแสงสีทองดูดกลืนไม่หยุด

พลังมหาศาลฉุดดึงร่างกายของซือหม่าฉุย แเลี่ยงที่จะเข้าใกล้ทางสือเถี่ยเองไม่ได้เช่นกัน

หากไม่คลายมือปล่อยอาวุธวิญญาณของตนทิ้งไป ก็ต้องถูกสือเถี่ยลากไปด้วย

พลังทำลายพินาศจากมือขวาของสือเถี่ยที่ชูขึ้นสูง ได้ปรากฏแจ่มชัด ฟาดแสกหน้าไปทางซือหม่าฉุยแล้ว!

ในตอนที่ร่างของซือหม่าฉุยกำลังควบคุมไม่อยู่ ผู้อาวุโสหวังกับหยางเนี่ยก็บุกโจมตีสือเถี่ยใหม่อีกครั้ง!

หยางเนี่ยฟันดาบหนึ่งออกไป ทั้งฟากฟ้ากลายเป็นสีม่วง คลื่นคลั่งและลมกระโชกไร้ที่สิ้นสุดปรากฏพร้อมกันจำนวนมาก ปกคลุมท้องฟ้าไว้

ดาบคล้อยลง ท้องฟ้าสีม่วงเหมือนกันเปลี่ยนเป็นประกายดาบไปพร้อมกัน ฟันมาทางสือเถี่ย

พายุนิมิตทมิฬหลากสายม้วนสรรพสิ่งเข้าไปอยู่กลางท้องฟ้าสีม่วง แลดูโหดร้ายน่ากลัว ชั่วเสี้ยวขณะสือเถี่ยคล้ายกับหยัดยืนอยู่ในทะเลสายชายขอบฝั่งตะวันตก

อีกฟากหนึ่ง ผู้อาวุโสหวังฟาดสองฝ่ามือลงอีกหน!

แววตาสือเถี่ยยังคงแน่วแน่ดุจหินใหญ่ ไม่เห็นความไหวหวั่นแม้แต่น้อย

แท่นบูชาฟ้าสีทองกับตัวเขากลายเป็นหนึ่งเดียวกันโดยสมบูรณ์ ทั้งร่างราวกับสภาพของเพชร แสงโชติช่วงไร้ที่สิ้นสุดฉายทะลุออกมาจากภายในร่าง!

ขณะที่เกราะเทวะแสงลึกล้ำบนตัวเขาทอประกายระยับ ต้านทานดาบคลื่นนภาม่วงของหยางเนี่ย มือซ้ายของสือเถี่ยไม่หยุดนิ่ง ยันซือหม่าฉุยไปด้านหน้า จากนั้นต่อยหมัดขวาลงไปที่กลางอกของอีกฝ่ายดังสนั่นพอดี!

แท่นบูชาฟ้าค่ายกลยันต์สีดำแตกเป็นเสี่ยงๆ เสียงดังกึกก้องกัมปนาท ซือหม่าฉุยกระอักโลหิตสดอย่างบ้าคลั่ง!

กายเพชรของสือเถี่ยขับเคลื่อนถึงขีดสุด ต้านทานดาบหยางเนี่ยไว้ จากนั้นเบี่ยงตัวเล็กน้อยเพื่อหลบจุดสำคัญ แล้วค่อยฟาดผู้อาวุโสหวังอีกฝ่ามือหนึ่ง!

พลังอันยิ่งใหญ่ไร้ขอบเขตอันดุเดือดเปี่ยมด้วยพลังของฝ่ามือนภากว่างเฉิง อัดของร่างสือเถี่ยราวกับภูเขาถล่มชั่วพริบเดียว

มุมปากสือเถี่ยมีโลหิตไหลซึมเล็กน้อย

หยางเนี่ยตะคอกเดือดดาล “ราชสีห์โลหะวันนี้ต้องเปลี่ยนเป็นราชสีห์สิ้นชีพ!”

ระหว่างที่ไอม่วงสุดขอบตะวันตกม้วนอย่างบ้าระห่ำ ดาบทมิฬโชติช่วงในมือเขากลายเป็นลมงวงโดยสมบูรณ์

ลมกระโชกน่าพรั่นพรึงที่ตัดฟ้าทลายแผ่นดินนับไม่ถ้วนทอดผ่านท้องฟ้า ฟาดฟันสือเถี่ยอย่างบ้าคลั่ง ทิ้งรอยแผลแหลมหลายสายไว้บนเกราะเทวะแสงลึกล้ำและร่างของสือเถี่ยเอง!

แววตาสือเถี่ยไร้ซึ่งความเกรงกลัว ไม่ได้หวั่นไหว ทว่ากลับมีสิ่งของที่ยามปกติไม่เคยปรากฏมาก่อนเพิ่มขึ้นมาอยู่บ้าง

บ้าระห่ำ! ทำลาย! กระหายโลหิต!

“ข้าจะฝังพวกเจ้าไว้ที่นี่ให้หมด!”

“ต่อให้ใช้เลือดเนื้อและโครงกระดูกของข้าก็ตาม!”

เสียงตะโกนบ้าคลั่งของเขาสั่นสะเทือนไปไกลสุดขอบฟ้า ราวกับราชสีห์ที่ถูกยั่วโทสะ ร้องคำรามอย่างคลุ้มคลั่ง!

สือเถี่ยคลายหอกยาวของซือหม่าฉุยออก สองหมัดตัดสลับ พังทลายประกายดาบของหยางเนี่ย จากนั้นหมุนกายฉับพลัน!

เขาสืบเท้าก้าวใหญ่ ประหนึ่งเทพสวรรค์ลงจุติ มาถึงยังเบื้องหน้าผู้อาวุโสหวัง!

สภาพเพชรบนกายสือเถี่ยเลือนหาย มีเพียงสองหมัดของเขาเท่านั้น ที่พร่างพราวสุดหาที่เปรียบ!

หมัดหนึ่งคล้อยลง สะเทือนฝ่ามือนภากว่างเฉิงของผู้อาวุโสหวังกระจุย!

อีกหมัดหนึ่งตกลง อัดแท่นบูชาฟ้าค่ายกลยันต์ของผู้อาวุโสหวังแหลกโดยพลัน!

ผู้อาวุโสหวังเบิกตาโพลง เขาไม่เคยเห็นกายเพชรเช่นนี้มาก่อน

นี่เป็นละการป้องกันตนเองโดยสิ้นเชิง ละทิ้งส่วนสำคัญในการรุกตีและตั้งรับของวิชากายเพชร รวมพลังทั้งหมดไว้บนสองหมัด!

กายเพชรในยามปกติ แข็งแกร่งไม่อาจตีให้แตก!

กายเพชรในขณะนี้ แก่กล้าหาที่เปรียบได้ไม่!

สือเถี่ยไม่คำนึงถึงกายตนเองทั้งสิ้น ใช้เกราะเทวะแสงลึกล้ำต้านทานดาบเต็มกำลังของหยางเนี่ยอีกครา!

เกราะเทวะแสงลึกล้ำรับภาระหนักสุดจะทนไหว แตกเป็นเสี่ยงๆ ดังกึกก้องในที่สุด!

ทว่าสือเถี่ยต่อยอีกหมัดหนึ่งลงไป โจมตีที่หน้าอกผู้อาวุโสหวังซ้ำแล้วซ้ำอีก อัดจนหน้าอกของผู้อาวุโสสำนักเขากว่างเฉิงในอดีตผู้นี้ ยุบลงไปเป็นโพรงโดยตรง!

ในตอนที่สือเถี่ยเตรียมหันกายรับมือหยางเนี่ย แสงกระจ่างสายหนึ่งก็ปรากฏอีกครั้ง!

มังกรปีศาจสีดำคำรามคลั่ง จู่โจมไปบนแผลเดิมช่วงเอวของสือเถี่ย!

สือเถี่ยพ่นโลหิตออกมาคำหนึ่ง ด้วยเพราะถูกหอกยาวแทงทะลุ!

‘ราชันมังกร’ ซือหม่าฉุยนัยน์ตาทั้งสองออกเหลือง ยิงแสงโลหิตออกมา จดจ้องสือเถี่ยไม่ลดละ

เขาที่ก่อนหน้านี้ความคิดมารรัดตัวตลอดมา ในที่สุดก็กลายเป็นมารโดยสมบูรณ์ พร้อมทั้งใช้ประโยชน์จากสิ่งนี้ บรรเทาบาดแผลที่สือเถี่ยนำมาให้เมื่อครู่ แล้วจึงปล่อยการโจมตีหมายชีวิตนี้ออกมา!

กระนั้นเมื่อเขาสบตากับสือเถี่ย กลับตัวสั่นระริกทั้งที่ไม่หนาว

ระหว่างที่ราชสีห์คลั่งร้องคำรามอีกครา สองหมัดที่ราวกับทำลายสูญ ใช้ท่าฉีกผืนฟ้า จากเหนือศีรษะร่วงลงมา หนึ่งซ้ายหนึ่งขวา อัดไปที่หน้าอกซือหม่าฉุยแลหยางเนี่ย!

ยอดฝีมือขั้นรูปญาณระยะท้ายทั้งสอง กระอักโลหิตพร้อมเพรียง ย้อมนภาอากาศเป็นสีแดง!