ในนิยายภาพยนต์ของจีน เหล่าคนที่ร่ำรวยและมีอำนาจมักจะชอบก่อกวนคนอื่นและทำแต่เรื่องชั่วช้า
มีคนรวยเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่จะทำตัวให้สมกับเป็นลูกผู้ชาย
ซุนลูกั่วเป็นหนึ่งในนั้น
และยิ่งไปกว่านั้น เป้าหมายของการกดขี่ข่มเหงยังเป็นครอบครัวเพื่อนของหลินฟานอีก
สิ่งนี้ทำให้ซุนลูกั่วโกรธมากกว่าเดิม
ซุนลูกั่วก็พูดขึ้นอย่างเย็นชา “ดูเหมือนก่อนหน้านี้ฉันจะไม่เคยได้ยินว่ามีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นในโรงงานเลยนะ ผู้อำนวยการเผิง ถ้าคุณไม่สามารถจัดการเกี่ยวกับเรื่องในโรงงานครั้งนี้ได้ ฉันคิดว่าฉันคงต้องเปลี่ยนคุณออกและเอาคนที่มีความสามารถมากกว่าคุณมาแทนที่แล้วล่ะ”
ทันทีที่เขาพูดแบบนี้ออกมา เหงื่อเย็นก็ได้ปรากฏขึ้นบนหน้าผากของเผิงปิง
ซุนลูกั่วคือใคร?
เขาคือลูกของเจ้าของบริษัทยาขนาดใหญ่!
ในสายตาของหลายๆคนตอนนี้ คงมองว่าตัวตนของเขาที่อยู่ในฐานะผู้อำนวยการของโรงงานนั้นยิ่งใหญ่สุดๆแล้ว

แต่มันไม่ใช่เลย คนที่มีอำนาจจริงๆก็คือซุนลูกั่วต่างหาก!
และเขาไม่ได้พูดเล่นแน่ๆ ดูจากน้ำเสียงที่เขาพูดออกมาเมื่อกี้ ฉันกำลังจะโดนทิ้ง!
เผิงปิงรีบพูดด้วยความตื่นตระหนก “ที่ผ่านมา…ผมยุ่งอยู่กับการพัฒนาตลาดอยู่ตลอดเวลาเลยครับ ผมจึงไม่มีเวลาอบรมณ์พนักงานชั้นล่างเลย…”
“เรื่องนี้เป็นความผิดของผมเองที่ทำงานได้ไม่ดี ผมจะทำให้คุณซุน … และพี่ฟานของคุณพอใจอย่างแน่นอน”
จากนั้นเผิงปิงก็หันไปพูดอย่างเคร่งขรึม “หัวหน้าโจว! เกิดอะไรขึ้นกัน?”
“นี่…มัน…” หัวหน้าโจวพูดอย่างตะกุกตะกัก
จากนั้นหลินฟานก็เอียงศีรษะเล็กน้อยและพูดว่า “นี่ จางซ่ง ดูเหมือนว่าหัวหน้าโจวจะพูดไม่ได้แล้วล่ะ นายช่วยพูดแทนเขาหน่อยสิ”
จางซ่งหายใจเข้าลึก ๆ จากนั้นเขาก็พูดสาเหตุและผลที่ตามมาของเรื่องทั้งหมดให้ฟัง
ซึ่งหลังจากที่เผิงปิงได้ฟังเรื่องราวทั้งหมด ความอดทนของเขาก็ขาดสะบั้น เขาตวาดออกมาทันที “คุกคาม ไล่ออก! ได้สิ ได้เลย! นายกล้าปฏิบัติแบบนี้กับฮีโร่ที่อุทิศชีวิตเพื่อร่วมสร้างโรงงานของเราขึ้นมาอย่างนั้นหรอ ไอ้สารเลว!”
จากนั้นเขาก็หยิบโทรศัพท์มือถือออกมาแล้วกดโทรออกไป
“หลี่ต้าเจียง ตอนนี้ฉันอยู่ที่หอพักของพนักงาน มาที่นี่เดี๋ยวนี้!”
จากนั้นเผิงปิงก็โทรออกไปอีกสองครั้ง “มีวางเอกสารที่ด้านล่างโต๊ะฉัน หยิบมันมาให้หน่อย”
“ผู้กำกับหวาง รบกวนมาที่ห้องพักของพนักงานที”
ผ่านไปได้ไม่นาน ก็เห็นได้ว่ามีชายคนหนึ่งกำลังวิ่งมาแต่ไกล
เขาคือหลี่ต้าเจียง
และเมื่อหลี่ต้าเจียงได้เห็นสถานการณ์ที่อยู่ตรงหน้าเขา เขาก็คิดในใจว่า จางซ่งและครอบครัวของเขาที่เป็นผู้ร่วมก่อตั้งโรงงานแห่งนี้ขึ้นมาตั้งแต่แรก คงกำลังเรียกร้องความยุติธรรมอยู่
แต่อย่างไรก็ตาม หลี่ต้าเจียงไม่ได้รู้สึกผิดอะไรด้วย
และตอนนี้เขาก็พร้อมที่จะพูดอะไรบางอย่างมานานแล้ว
และเขาก็เชื่อว่าเผิงปิงจะต้องชื่นชมเขาอย่างแน่นอน
“ผอ.เผิง วันนี้ผมใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการเคลียร์ใบทะเบียนหอพักของพนักงาน และได้พบกับห้องว่าง 3 ห้อง…”
“ซึ่งนี่ก็เป็นทรัพย์สินของโรงงานไจ่เว่ยของเรา…”
“ผมรู้ว่าสิ่งนี้อาจทำให้ใครบางคนไม่พอใจ แต่ไม่มีใครอยู่นอกกฎเกณฑ์ของโรงงานเราทั้งนั้น”
หลี่ต้าเจียงพูดอย่างดีใจที่เขาทำหน้าที่นี้ได้สำเร็จลุล่วง
เขาเชื่อว่าเผิงปิงจะต้องหันมายิ้มและชมเขาอย่างแน่นอน
แต่นี่ก็เป็นเพียงความปราถนาของเขาเท่านั้น
เผิงปิงกล่าวอย่างเคร่งขรึม “ไม่มีใครอยู่นอกกฎเกณฑ์ของโรงงานเราอย่างงั้นหรอ! นี่คือเหตุผลที่แกบังคับและขับไล่สมาชิกในครอบครัวของพนักงานที่อุทิศชีวิตให้กับการทำงานในโรงงานของเราอย่างงั้นหรอ!?”
หลี่ต้าเจียงไม่คิดว่าเผิงปิงจะพูดรุนแรงแบบนี้ออกมา หัวใจของเขาเต้นเร็วขึ้นทันที
“หลอกลวง! สร้างความเสียหายต่อชื่อเสียงของโรงงาน! หลี่ต้าเจียง จากนี้ไป แกไม่ใช่ผู้จัดการทั่วไปของโรงงานไจ่เว่ยอีกต่อไป!” เผิงปิงพูด
เผิงปิงยังคงจำคำพูดที่เย็นชาของซุนลูกั่วได้อย่างชัดเจน
ถ้าซุนลูกั่วและหลินฟ่านไม่พอใจล่ะก็ โชคร้ายต้องเกิดขึ้นกับฉันอย่างแน่นอน
ฉะนั้นแล้ว หลี่ต้าเจียง ผู้ที่กระทำความผิด จะต้องถูกลงโทษอย่างรุนแรง!
จากนั้นหลี่ต้าเจียงก็อุทานออกมาทันที “อะไรกัน ผอ.เผิง ผมแค่พิจารณาถึงการใช้ทรัพย์สินของโรงงานให้เกิดผลประโยชน์มากที่สุด! คุณไปฟังใครพูดอะไรมา!”
“ยิ่งไปกว่านั้น ผมทำงานหนักและอุทิศตนให้กับโรงงานแห่งนี้มาหลายกว่าปีแล้ว ผู้อำนวยการเผิง คุณจะไล่ผมออกไปแบบนี้ไม่ได้นะ!”
เมื่อหลี่ต้าเจียงคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ ซึ่งถึงแม้ว่าเผิงปิงจะรู้เรื่องที่แท้จริงทั้งหมดแล้ว เขาก็คิดว่าเขาคงจะแค่ถูกตำหนิเท่านั้น
เขาไม่คิดว่าเผิงปิงจะไล่เขาออกทันทีแบบนี้
“ตึกกกก!”
ในเวลานี้ ผู้หญิงรูปร่างสมส่วนที่สวมรองเท้าส้นสูงก็เดินเข้ามา
“ผู้อำนวยการเผิง นี่คือเอกสารที่คุณต้องการค่ะ”
ขณะพูด ผู้หญิงคนนั้นก็ยื่นถุงกระดาษด้วยมือทั้งสองข้างออกมา
เผิงปิงหยิบเอกสารข้างในออกมาและอ่านว่า: “ในเดือนมกราคม 2556 มีเพียงโรงงานที่มีมูลค่า 1 ล้านอุปกรณ์ MIV เท่านั้นที่ขายในราคา 200,000 หยวน และได้รับค่าธรรมเนียมผลประโยชน์ 300,000 หยวน”
“ในเดือนพฤศจิกายน 2556 เราซื้อผลิตภัณฑ์ที่ด้อยกว่า 700,000 รายการ และได้รับค่าธรรมเนียมผลประโยชน์ 200,000 รายการ”
“ในเดือนพฤษภาคม 2557 สร้างอาคารหมายเลข 5 ของโรงงานและเรียกเก็บค่าธรรมเนียมผลประโยชน์ 800,000…”
หลังจากได้ฟังประโยคเหล่านี้ ร่างกายของหลี่ต้าเจียงก็เย็นลงและมีเหงื่อออก เสื้อผ้าของเขาเปียกไปทั้งตัว และใบหน้าของเขาก็ซีดขาวไปหมด

เพราะสิ่งเหล่านี้คือสิ่งที่เขาทำ
ทำไม……
ทำไมผู้อำนวยการถึงได้รู้มากขนาดนี้กัน?
เผิงปิงพูดอย่างเย็นชา “หลี่ต้าเจียง นี่คือสิ่งที่นายทำเพื่อโรงงานของเราหรอ?”
“เผิง… ผู้อำนวยการเผิง นาย… คุณฟังคำอธิบายของผม…” หลี่ต้าเจียงตื่นตระหนก
แต่อย่างไรก็ตาม เขาไม่มีคำอธิบายใดๆ เลย
เพราะท้ายที่สุด นี่ก็คือสิ่งที่เขาทำจริงๆ และไม่มีทางที่จะอธิบายได้
“วี้! หว๋อ!”
ในเวลานี้ เสียงไซเรนของตำรวจได้ดังขึ้นมาจากด้านนอก จากนั้น พนักงานสอบสวนสองคนก็เดินเข้ามาข้างในอย่างรวดเร็ว
เผิงปิงกล่าวว่า: “ไหนล่ะคำอธิบาย? นายไปอธิบายให้กับหน่อยสอบสวนฟังก็แล้วกัน!!”
หลังจากพูดจบ เขาก็ส่งข้อมูลในมือไปให้กับตำรวจ
“ผู้กำกับหวาง รบกวนคุณจัดการด้วยนะ”
“ฟึบบ!”
เมื่อเขาเห็นข้อมูลถูกส่งให้ตำรวจ…
หลี่ต้าเจียงก็อ่อนตัวลงและล้มตัวลงกับพื้นโดยทันที
เขาไม่เพียงแต่ตกงานในฐานะผู้จัดการทั่วไป แต่…ยังต้องติดคุกอีกด้วย!
มันจบแล้ว มันจบแล้ว!
จากนั้นเผิงปิงก็พูดอย่างระมัดระวัง “คุณซุนลูกั่ว เรื่องของหลินฟาน ผมจัดการให้แล้ว พอใจหรือเปล่าครับ”
ซุนลูกั่วไม่ตอบอะไร เขามองไปที่หลินฟาน
หลินฟานพูด “จางซ่ง คุณคิดอย่างไร”
“อ่า…อ่า…ก็…” จางซ่งพยักหน้า
เขาพอใจกับเรื่องนี้แล้ว
และผู้จัดการทั่วไปของโรงงานก็ถูกไล่ออกและถูกจับกุมต่อหน้าของเขาแล้วด้วย
ซึ่งเผิงปิงก็เข้าใจดี ว่าซุนลูกั่วและหลินฟานจะพึงพอใจก็ต่อเมื่อครอบครัวของจากซ่งนั้นโอเค
ดังนั้นเขาจึงรีบพูดว่า “จางหย่งเหลียงได้มอบชีวิตของเขาให้กับการทำงานในโรงงานของเรา แต่ผมกลับปล่อยให้ครอบครัวของเขาอยู่ในที่ที่เรียบง่ายแบบนี้ ผมทำงานได้ไม่ดีเลยจริงๆ
“ผมจะมอบบ้านในเขตทางเหนือของโรงงานให้ในภายหลังนะ”
บ้านของเขตทางเหนือมีพื้นที่ขนาดใหญ่และมีการจัดวางโครงสร้างของบ้านที่ดี แม้แต่ผู้บริหารทั่วไปก็ไม่สามารถย้ายเข้าไปอยู่ได้
ในเวลานี้ หลี่ต้าเจียงรู้แล้วว่าชีวิตของเขาได้จบลง ทั้งหมดเป็นเพราะลูกชายของเขาไปบังคับครอบครัวของจางซ่ง
ซึ่งเมื่อเขาคิดอย่างนี้ หลี่ต้าเจียงก็เดินไปข้างหน้าและตบหน้าของหลี่ฉางตงพร้อมกับสาปแช่ง “แกมันไอ้ลูกสารเลว!”