ตอนที่ 131 เพื่อนร่วมชั้นเรียน

ปาฏิหาริย์รัก เทพธิดาจำแลง

“ฉันหายแล้ว ถึงได้กลับมาเรียน” ถังซีตอบ พร้อมกับยิ้มให้หนิงเคอ “ขอบใจนะ ที่เป็นห่วง”

 

 

หนิงเคอเกาศีรษะ ยิ้มและกล่าวว่า “ยินดีต้อนรับกลับสู่ชั้นเรียน” จากนั้นเขาก็นึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้จึงกล่าวต่อไปว่า “ผมจดบันทึกบทเรียนล่าสุดไว้ให้เธอด้วย อยากดูไหม”

 

 

อันที่จริงวิชาเหล่านี้ไม่ยากเลยสำหรับถังซีในตอนนี้ เธอเพียงแค่ต้องทบทวน โดยเฉพาะคณิตศาสตร์ เธอเก่งคณิตศาสตร์มาก เธอจึงไม่ต้องการจดบันทึกใดๆ อย่างไรก็ตาม… เมื่อถังซีมองหน้าหนิงเคอ เห็นสายตาเคอะเขินและคาดหวัง เธอก็ไม่ใจร้ายพอที่จะปฏิเสธความใจดีของเด็กชายอายุสิบสาม เธอคงรู้สึกผิดถ้าทำอย่างนั้น!

 

 

เธอพยักหน้าด้วยรอยยิ้ม “ขอบใจนะ นักเรียนหนิง”

 

 

แสงระยิบระยับส่องประกายในดวงตาดำขลับของหนิงเคอ เขาดูตื่นเต้นเล็กน้อยขณะกล่าวว่า “รอแป๊บหนึ่งนะ ผมจะไปหยิบมาให้”

 

 

หางตาถังซีหรี่ลงขณะมองตามท่าทางร่าเริงของหนิงเคอ เขาจะไม่กลายเป็นแฟนคลับของเธอหรอกหรือ

 

 

แต่ก่อนที่ถังซีจะตกอยู่ในภวังค์ความคิด เธอก็ถูกห้อมล้อมไปด้วยนักเรียนหญิงจำนวนมาก รวมทั้งนักเรียนชายด้วย ประกายความประหลาดใจปรากฏในดวงตาเธอ ขณะมองบรรดานักเรียนที่เข้ามาห้อมล้อม เธอเอ่ยถามขึ้นว่า “เอ้อ… มีอะไรให้ฉันช่วยเหรอ ทุกคน”

 

 

“เธออายุยี่สิบสามจริงๆ หรือ” เด็กชายคนหนึ่งถามอย่างไม่อยากเชื่อ

 

 

ถังซีหัวเราะเบาๆ แต่บ่นอยู่ในใจ ศูนย์ ศูนย์ แปด ทำไมคุณถึงให้ประกาศนียบัตรมัธยมต้นแก่ฉัน! ขอบคุณมากเลยนะ ที่ทำให้ฉันต้องมาเรียนในโรงเรียนมัธยมปลาย และถูกจ้องมองเหมือนสัตว์ในสวนสัตว์แบบนี้!

 

 

หากใครสักคนได้มาเป็นนักเรียนชั้นมัธยมปลาย หรือนักศึกษาในวิทยาลัยตอนอายุสิบสาม ทุกคนจะเรียกเขาว่า ‘เด็กอัจฉริยะ’ แต่หากคุณยังเป็นนักเรียนชั้นปีที่หนึ่งของโรงเรียนมัธยมปลายตอนอายุยี่สิบสาม ทุกคนจะคิดว่าคุณแปลกประหลาดและโง่เง่า โชคดีที่เธอไม่ได้แสดงความโง่ออกมาในชั้นเรียน ไม่อย่างนั้นคนอื่นต้องดูถูกเธอแน่ๆ

 

 

“ใช่” ถังซีตอบพร้อมกับหัวเราะกลบเกลื่อน “ฉันดูไม่ ‘แก่’ ขนาดนั้นใช่ไหม”

 

 

ทุกคนพยักหน้า ถังซีเลิกคิ้วคิดกับตัวเองว่า คนพวกนี้ถามฉัน เพราะฉันดูไม่เหมือนหญิงสาวอายุยี่สิบสามใช่ไหม

 

 

“ใช่ ถึงแม้เธอจะสวยมาก แต่ก็ดูเหมือนเด็กวัยรุ่น ฉันคิดไม่ถึงเลยว่าเธอจะอายุยี่สิบสามแล้ว!” เด็กหญิงคนหนึ่งอุทานออกมา จากนั้นเธอก็ถามว่า “ผิวพรรณเธอดีอย่างนี้เพราะอากาศบนภูเขาดีมากใช่ไหม”

 

 

ผิวเธอนุ่มนวลและอ่อนเยาว์ยิ่งกว่าเด็กทารกเสียอีก และเธอขาวมาก เด็กหญิงคนนี้คงอิจฉาถังซี!

 

 

อากาศบนภูเขาดีมากอย่างนั้นเหรอ

 

 

ถังซีย้อนนึกถึงสภาพเธอตอนกลายเป็นเซียวโหรวใหม่ๆ เธอหัวเราะ ส่ายศีรษะก่อนตอบว่า “ไม่ใช่หรอก บางทีที่ผิวฉันดีอาจเป็นเพราะคุณแม่ชอบหาผลิตภัณฑ์ดูแลผิวมาให้ใช้น่ะ”

 

 

เมื่อหนิงเคอกลับมาพร้อมกับสมุดจดบันทึก ก็เห็นเธอถูกห้อมล้อมไปด้วยเพื่อนนักเรียน เขาจึงยืนอยู่รอบนอก มองดูถังซีตอบคำถามนักเรียนทีละคนด้วยรอยยิ้ม เขาก้มมองสมุดบันทึกในมือและรอต่อไป

 

 

“เซียวโหรว ที่เธอได้เกรดดีอย่างนี้เป็นเพราะเธอเคยเรียนบทเรียนพวกนี้มาก่อนแล้วใช่ไหม” เด็กชายคนหนึ่งถาม “เป็นเพราะครูคณิตศาสตร์ที่โรงเรียนในชนบทเก่งกว่าครูของเราใช่หรือเปล่า”

 

 

สีหน้าถังซีเปลี่ยนไป เธอไม่แน่ใจว่าเด็กชายคนนี้ไร้เดียงสาจริงๆ หรือจงใจจี้จุดอ่อนเซียวโหรว เธอยิ้มและตอบว่า “เป็นเพราะคุณแม่สอนพิเศษให้ฉัน คุณแม่ของฉันวิเศษมาก!”

 

 

“ว้าว… เซียวโหรว คุณแม่เธอยอดเยี่ยมจังเลย!” นักเรียนหญิงหลายคนอุทาน “ท่านทำซุปบำรุงความงามให้เธอ แล้วยังสอนหนังสือให้เธออีก!”

 

 

ถังซียิ้ม และคุยโม้ถึงคุณแม่ของเธอ “ใช่แล้ว คุณแม่ฉันยอดเยี่ยมมาก ทุกคนดูได้จากพี่ๆ ของฉัน”

 

 

“นี่เซียวโหรว คุณครูบอกไว้เมื่อตอนเริ่มเปิดภาคเรียนว่า เราจะเลือกหัวหน้าชั้นกันปลายเดือนกันยา เธอทำคะแนนสอบได้ดีและอายุมากกว่าพวกเรา เธอต้องเป็นผู้ใหญ่กว่าเรามากแน่ๆ เธอเป็นหัวหน้าชั้นเรียนของเราได้ไหม” เด็กหญิงคนหนึ่งมองหน้าถังซีด้วยความคาดหวังเล็กน้อย ขณะถามเรื่องนี้

 

 

เนื่องจากหัวหน้าชั้นเรียนต้องช่วยเหลือเพื่อนร่วมชั้นโดยไม่มีเงื่อนไข เธอจึงสามารถขอให้เซียวโหรวช่วยติวคณิตศาสตร์ให้ได้ เธอไม่เก่งคณิตศาสตร์ แต่ได้เข้าเรียนในชั้นเรียนพิเศษเพราะเกรดวิชาอื่นของเธอดี หากเธอสามารถพัฒนาผลการเรียนคณิตศาสตร์ได้ เธอจะติดอันดับหนึ่งในสิบอันดับแรกตลอดทั้งปี

 

 

“ต้องขอโทษด้วยนะ ฉันอาจสอบข้ามชั้นในเดือนตุลา” ถังซีตอบ พร้อมกับมองเหล่านักเรียนที่อยู่ล้อมรอบด้วยรอยยิ้ม “ขอบใจมากนะ แต่ฉันแก่กว่าพวกเธอทุกคน ฉันเลยจำเป็นต้องข้ามเกรด”

 

 

นักเรียนทุกคนดูผิดหวัง ถังซียิ้มและให้ความมั่นใจกับพวกเขาว่า พวกเรายังเป็นเพื่อนร่วมชั้นที่ดีและสามารถเป็นเพื่อนกันได้ แม้เธอจะข้ามเกรดไปแล้ว หลังจากนักเรียนแยกย้ายกันออกไปหนิงเคอก็เข้ามาพร้อมกับสมุดจดบันทึก เขาหน้านิ่วคิ้วขมวดมองถังซีและถามว่า “เธอกำลังจะสอบข้ามเกรดหรือ”

 

 

ถังซีพยักหน้า “ใช่ จริงๆ แล้วฉันอายุมากพอที่จะเป็นน้าเธอได้เลยนะ แต่เพราะมีเหตุการณ์บางอย่างเกิดขึ้นก่อนหน้านี้ ฉันเลยไม่ได้เข้าเรียนในโรงเรียนมัธยมปลายตามที่หวังไว้ ตอนนี้เมื่อฉันได้เข้าเรียนแล้ว และเกรดของฉันก็ใช้ได้ ฉันจึงอยากได้รับประกาศนียบัตรโดยเร็วที่สุด จะได้หางานทำ”

 

 

หนิงเคอขมวดคิ้ว น้ำเสียงเขาเปลี่ยนเป็นเย็นชา “เป็นเพราะผู้หญิงคนนั้นใช่ไหม”

 

 

ถังซีรู้ว่าเขากำลังพูดถึงเซียวจิ้นหนิง แต่ในตอนแรกเซียวจิ้นหนิงก็ไม่รู้ว่าจริงๆ แล้วตนเองไม่ใช่ลูกสาวตระกูลเซียว เธอจึงยิ้มและตอบว่า “ไม่ใช่หรอก ไปโทษเธอไม่ได้ในเรื่องนี้ แม่ผู้ให้กำเนิดฉันเข้าใจผิดสลับตัวฉันกับเธอ เซียวจิ้นหนิงไม่ได้มีส่วนรู้เห็นในเรื่องนี้ เพราะฉะนั้นจึงไม่ใช่ความผิดของเธอ”

 

 

ใบหน้าหนิงเคอเปลี่ยนเป็นเคร่งขรึมยิ่งขึ้น “เธอสมควรถูกกล่าวโทษอย่างยิ่ง เพราะเธอขโมยสิ่งที่ควรเป็นของเซียวโหรวไป”

 

 

ถังซีส่ายศีรษะขณะมองหน้าเด็กชายผู้ดื้อรั้นตรงหน้า จากนั้นก็รับสมุดจดบันทึกมา และกล่าวด้วยรอยยิ้มว่า “ขอบใจนะ นี่ถ้าเธอมีเวลาก็ออกไปเที่ยวกับพี่ชายเธอและเพื่อนๆ เขาบ้างสิ จะได้พักผ่อนบ้าง ฉันออกไปสังสรรค์กับพวกเขาบ่อยๆ เหมือนกัน”

 

 

“พี่ชายผมหรือ” หนิงเคอขมวดคิ้ว “เธอรู้จักพี่ชายผมด้วยหรือ”

 

 

ถังซีแสร้งทำเป็นไม่เห็นสีหน้าหนิงเคอ และยิ้มเมื่อตอบว่า “ใช่ หนิงเหยี่ยนกับฉันเป็นเพื่อนกัน เราออกไปสังสรรค์กันบ่อยๆ เธอไปร่วมกับพวกเราได้นะ”

 

 

หนิงเคอมองหน้าถังซีแล้วถามด้วยความประหลาดใจ “เธอไม่ต้องทบทวนบทเรียนหรอกหรือ”

 

 

ถังซีนิ่งอึ้งไปชั่วขณะ ก่อนจะกล่าวว่า “…ทุกคนต้องได้พักผ่อนหย่อนใจบ้าง หลังจากพักผ่อนเพียงพอแล้ว เราจะสามารถปรับปรุงประสิทธิภาพสมองได้ดีขึ้น ดูฉันสิ ฉันเก่งคณิตศาสตร์กว่าเธอ เพราะฉันไม่ได้เรียนอย่างเครื่องจักร ฉันมักจะเรียนสลับกับพักผ่อน ซึ่งเสริมประสิทธิภาพการเรียนได้ดี”

 

 

หนิงเคอทำปากยื่น แล้วตอบว่า “ผมจะลองดู” จากนั้นเขาก็ผละไป

 

 

ถังซีมองตามร่างหนิงเคอที่กำลังเดินห่างออกไป ดวงตาเธอฉายแวววิตกกังวล เธอเพิ่งจะแนะนำเด็กดีให้เหลวไหลหรือเปล่า

 

 

แต่หนิงเหยี่ยนเคยบอกนี่นาว่าหนิงเคอเป็นเด็กอัจฉริยะ เขาคงไม่คะแนนตกเพียงเพราะเอาเวลาไปพักผ่อนหย่อนใจบ้างหรอกจริงไหม อย่างไรก็ตามเมื่อคิดเช่นนี้ถังซีก็ตะโกนไล่หลังหนิงเคอ “เฮ้ นักเรียนหนิง จริงๆ แล้วการเรียนหนักก็เป็นสิ่งที่ดีนะ เธออาจเอาเวลาไปเล่นหลังจากสำเร็จการศึกษาแล้วก็ได้”