ตอนที่ 360: ต่อสู้กับเซียนสวรรค์
ภายในหุบเขาหมื่นพิษ เจียนเฉินใช้ทักษะมายาพริบตาเพื่อที่เขาจะไปยังจุดนัดพบที่เขากับรัมกุยเนสนัดหมายกันไว้
ไม่นานหลังจากที่เขามาถึง ร่างสีขาวก็กระโดดเข้ามาด้วยความเร็วที่ช้ากว่าทักษะมายาพริบตา
ในเวลาสั้น ๆ ร่างสีขาวก็หยุดอยู่หน้าเจี้ยนเฉินก่อนที่จะเปลี่ยนเป็นรัมกุยเนส
รัมกุยเนสมองไปที่เจี้ยนเฉินที่กำลังอุ้มลูกของนางอย่างไม่เต็มใจ ก่อนที่นางจะถอนหายใจและพูดอีกครั้ง เจ้าแข็งแกร่งมากจนข้าตกใจ แม้ว่าจะมีคนมากมายที่นั่นก็ไม่มีใครสามารถหยุดเจ้าได้ ข้าได้ยินจากมนุษย์คนอื่น พวกเขาเรียกเจ้าว่าเจี้ยนเฉินใช่หรือไม่ ?
อืม ข้าชื่อเจียนเฉินจริง ๆ เจี้ยนเฉินตอบ
งั้นข้าก็จะเรียกเจ้าว่าเจี้ยนเฉิน ข้าไม่อาจใช้พลังปราณของข้าเพื่อต่อสู้ได้อีกต่อไปและต้องใช้เพียงแรงกายของข้าอย่างเดียว ข้าไม่อาจช่วยเหลือเจ้าได้ ตั้งแต่ที่ตระกูลกิลลิกันตามหาข้าจนพบ ข้าอาจจะนำความวุ่นวายให้กับเจ้าอย่างมาก ไม่กี่วันก่อนหน้านี้ข้าต้องหลบซ่อน ดังนั้งข้าขอร้องให้เจ้าดูแลลูกข้าอีกครั้ง รัมกุยเนสพูดด้วยเสียงที่เหมือนกับมนุษย์อย่างมากในครั้งนี้ แต่เพราะรูปร่างที่แท้จริงของนางเป็นเสือ เสียงที่นางเปล่งออกมาจึงฟังไม่ออกเป็นชายหรือหญิง
เจี้ยนเฉินพยักหน้าอย่างเคร่งขรึม วางใจได้ ข้าจะดูแลลูกของเจ้า รอจนกว่าข้าจะสามารถรักษาพลังธาตุความมืดในร่างของเจ้าได้ จากนั้นเจี้ยนเฉินก็มีความคิดแวบเข้ามา อ๊ะ! แล้วข้าจะหาพบได้อย่างไร ?
นางหยิบขนเสือออกมาก่อนที่จะหยดมันด้วยเลือดของนางและเกิดเป็นริ้วแดงก่อนที่จะส่งให้เจี้ยนเฉิน ถ้าเจ้าต้องการมาหาข้าหลังจากนี้ก็ให้ลูกของข้าหยดเลือดของเขา มันก็จำนำทางมาหาข้าเอง
เจี้ยนเฉินรับชิ้นส่วนขนเอามาอย่างระมัดระวัง
เจี้ยนเฉิน สิ่งที่เจ้าใช้อำพรางตัวตนอาจจะใช้ได้ดีกับเซียนสวรรค์ แต่มันไม่อาจรอดพ้นเซียนผู้คุมกฎ เจ้าควรระวังให้ดี นางพูด
เมื่อได้ยินอย่างนั้นเจี้ยนเฉินก็เอามือจับหน้าพร้อมกับเผยให้เห็นรอยยิ้มอันขมขื่น การปลอมตัวของเขานั้นสมบูรณ์แบบและทำให้เขาเดินทางไปได้ทุกที่ได้อย่างง่ายด้าย เขาไม่คิดว่าเซียนผู้คุมกฎจะมองเห็นสิ่งนี้ได้อย่างสมบูรณ์
รัมกุยเนสมองไปที่ลูกของนางเป็นครั้งสุดท้ายและพูดกำชับเจี้ยนเฉิน ก่อนที่จะจากไป
วู่วว วู่ววว วูววว ลูกเสือที่อยู่ในมือของเจี้ยนเฉินก็ลืมตาและเริ่มร้องออกมาทันที อาจจะเป็นเพราะการเจ็บปวดที่มันต้องแยกออกจากแม่โดยไม่มีคำร่ำลา มันเริ่มดิ้นและพยายามที่จะยืนขึ้นด้วยตัวเอง
เจี้ยนเฉินลูบหัวของลูกเสืออย่างนุ่มนวลราวกับราวกับว่าจะปลอบมันพร้อมกับเผยให้เห็นสีหน้าที่อ่อนโยน
เจี้ยนเฉินไม่ต้องการอยู่ที่นี่อีกต่อไป หุบเขานี้ไม่ปลอดภัยสำหรับเขาอีกต่อไป ดังนั้นทางเลือกเดียวคือออกจากที่นี่อย่างรวดเร็ว เจี้ยนเฉินเริ่มกระโดดขึ้นไปยังต้นไม้ก่อนที่จะดีดตัวกับกิ่งไม้ออกไปไกล
ด้านหลังเจี้ยนเฉิน กลุ่มคนที่อยู่ด้านหน้าถ้ำต่างก็ส่ายหน้าของพวกเขาด้วยความเสียใจและผิดหวัง ลูกสัตว์ระดับ 6 อยู่ตรงหน้าของเขา แต่ก็ถูกเจี้ยนเฉินที่ชนะการแข่งขันทหารรับจ้างเอาไป นี่คือสิ่งที่พวกเขาไม่อาจยอมรับได้
ทันใดนั้นปราณที่แข็งแกร่งของบุคคลหนึ่งก็สามารถรับรู้ได้แต่ไกล ๆ ก็เข้า เนื่องจากมีคนที่มีพลังอย่างคาดไม่ถึงได้มาอยู่หน้าถ้ำ
พริบตาที่เกิดเสียงลม ผู้อาวุโสผมขาวก็ปรากฏตัวขึ้นกลางอากาศ เขาลอยอยู่บนฟ้าและมองมาอย่างดูถูก สายตาของเขาแหลมคมราวกับว่าเขาเป็นราชาที่อยู่เหนือผู้คน
เซียนสวรรค์ !
กลุ่มคนเกิดความโกลาหล ขณะที่ทุกคนรู้สึกได้ถึงแรงกดดันขนาดใหญ่ที่แผ่ออกมาจากเซียนสวรรค์ ทุกคนมองมาด้วยความหวาดกลัวและความเคารพที่สามารถเห็นได้ผ่านสายตาของเขาต่อผู้อาวุโส
เมื่อเห็นผู้อาวุโส ตระกูลโม่หยวนทุกคนต่างก็ดีใจและผู้นำกลุ่มก็ออกมาพูดว่า ไป่หยวนจินคารวะบรรพชน
คารวะบรรพชน ตระกูลมู่หยวนล้วนป้องมือตามผู้อาวุโสไป่และคุกเข่าลงด้วยความเคารพ
เซียนสวรรค์มองไปรอบ ๆ ก่อนที่จะพูดอย่างใจเย็น ลูกเสือระดับ 6 อยู่ที่ใด ?
ท่านบรรพชน ลูกสัตว์ระดับ 6 ถูกแย่งไปแล้ว ผู้อาวุโสไป่พูดอย่างนอบน้อมต่อเซียนสวรรค์ที่ลอยอยู่ด้านหน้าของเขา
เมื่อได้ยินอย่างนั้นก็เกิดประกายแสงวาบขึ้นมาในดวงตาของเขา เจ้ารู้หรือไม่ว่าใครเป็นคนเอาไป ?
บรรพชน คนที่เอาลูกเสือไปคือราชาทหารรับจ้าง เจี้ยนเฉิน เขาแข็งแกร่งมากเกินว่าที่เราจะต้านไหว ผู้อาวุโสไป่ตอบ
เจี้ยนเฉิน เป็นเขานั่นเอง บรรพชนตระกูลมู่หยวนขมวดคิ้วอย่างลังเลก่อนที่จะกลายเป็นสายตามาดร้ายและถามว่า เจี้ยนเฉินไปทางไหน ?
ทางนั้น ! ผู้อาวุโสไป่ชี้ไปยังทางที่เจี้ยนเฉินไป เขาหวังว่าบรรพชนของเขาจะสามารถตามเจี้ยนเฉินทันและชิงลูกเสือมาไว้ในตระกูลของพวกเขา
บรรพชนของเขาบินไปยังทางที่เขาชี้อย่างรวดเร็ว
เร็ว รายงานเรื่องนี้กลับไปยังสำนักของเรา เราต้องพึ่งพาผู้อาวุโสในสำนักของเราเพื่อช่วยเหลือ
เร็วเข้า รับไปรายงานผู้นำทันที !
..
เซียนสวรรค์จากตระกูลมู่หยวนทำให้เกิดขุมพลังอื่นต้องรีบไปรายงานกลุ่มของตนอย่างรวดเร็ว
ในขณะนี้ เจี้ยนเฉินใช้ทักษะมายาพริบตาข้ามหุบเขา เส้นทางของเขาอยู่ในทิศทางที่เป็นเส้นตรงและบ่อยครั้งที่เขาเปลี่ยนเส้นทางเพื่อสลัดให้คนที่ติดตามทิ้งไป
1 ชั่วยามต่อมาเจี้ยนเฉินก็เดินทางไปได้หลายร้อยกิโลเมตร เจี้ยนเฉินหยุดอยู่ข้างหุบเขาอยู่ครู่หนึ่งเพื่อฟื้นฟูพลังเซียน
ด้วยการต่อสู้ครั้งใหญ่ เขาได้ใช้ทักษะมายาพริบตาด้วยพลังเซียนไปกว่าสองในสามแล้ว ตัวตนของเขาถูกเปิดเผยและเซียนสวรรค์อาจจะมาหลังจากที่เขาออกไป เจี้ยนเฉินจึงต้องสงวนพลังของเขาเอาไว้เพื่อต่อสู้กับเซียนสวรรค์
ลูกเสือที่มีขนาดเท่าสุนัขนั่งอยู่ที่ขาของเขาอย่างเชื่อฟังพร้อมกับส่งเสียงกรนจากการหลับใหล ปีกสีขาวของมันถูกพับขนปลายปีกชี้ขึ้นทำให้มันเป็นภาพที่หาดูได้ยาก
เจี้ยนเฉินนั่งขัดสมาธิพร้อมกับดูดซับปราณที่ออกมาจากแกนสัตว์อสูรเพื่อช่วยฟื้นฟูพลังของเขา ภายใต้การหลบซ่อน พงหญ้าหนาทึบได้ซ่อนเขาจากสายตาของศัตรู
2 ชั่วยามต่อมา เขาได้ยินเสียงดังกึกก้อง ขณะที่ชายชราชุดเทาก็ลอยอยู่บนหัวเจี้ยนเฉินแล้ว
เจี้ยนเฉินรู้สึกได้ถึงร่างที่ลอยอยู่เหนือหัวของเขาขณะที่เขาฟื้นพลังเซียนด้วยท่าทีร้อนรน เขามาเร็วจริง ๆ นี่ต้องเป็นเซียนสวรรค์จากตระกูลมู่หยวน ข้าไม่คิดว่าแม้หลังจากเปลี่ยนทิศทางของข้าหลายครั้งเ ขาจะตามรอยของข้ามายังที่หลบซ่อนของข้าได้อย่างถูกต้อง
อย่างไรก็ตามใบหน้าของเจี้ยนเฉินก็เปลี่ยนไป เขาคิดว่า ไม่ดีแล้ว ข้ามั่นใจว่าเขาพบข้าแล้ว เจี้ยนเฉินกระโดดออกมาจากพงหญ้าทันทีและใช้ทักษะมายาพริบตาพร้อมกับอุ้มลูกเสือออกไป
เขาฟื้นฟูโดยใช้พลังจากแกนอสูรเมื่อเซียนสวรรค์ปรากฏตัวในระยะสั้น ๆ ไม่มีทางที่ผู้เชี่ยวชาญระดับสูงจะพลาดระลอกคลื่นที่แผ่ออกมาจากแกนอสูร
แน่นอนพอเจียนเฉินจากไป เซียนสวรรค์ก็หันกลับมาเห็นเจี้ยนเฉินที่กำลังวิ่งหนีไป เซียนสวรรค์ได้ระเบิดพลังไล่ตามเขาทันที
ด้วยการใช้ทักษะมายาพริบตาเจี้ยนเฉินเดินทางผ่านหุบเขาหมื่นพิษอย่างรวดเร็ว เนื่องจากภูมิประเทศมีความซับซ้อนและพื้นดินไม่ราบเรียบ ทักษะมายาพริบตาจึงไม่อาจปลดปล่อยพลังออกมาได้อย่างเต็มที่และถูกเซียนสวรรค์ตามทันได้ในที่สุด
เมื่อเห็นเซียนสวรรค์ตามมาใกล้ เจี้ยนเฉินก็ยิ่งมีสายตาที่ดุร้ายมากขึ้น ขณะที่เขาหยุดนิ่ง เขากำลังอุ้มลูกเสือที่กำลังนอนอยู่และนำกระบี่วายุโปรยออกมาพร้อมด้วยแสงปกคลุมสีม่วง-ฟ้าเรืองรอง
ภายใน 2 ชั่วยาม เจี้ยนเฉินฟื้นฟูพลังเซียนในร่างของเขาได้เพียงสี่ในห้าส่วน ตอนนี้เขาหนีไม่พ้นแล้ว มันเป็นการดีกว่าที่จะหยุดและสู้กลับ เขาไม่เคยต่อสู้กับเซียนสวรรค์มาก่อน ดังนั้นเขาจึงจะใช้โอกาสนี้ทดสอบว่าเขาจะสู้ได้แค่ไหน
เซียนสวรรค์อยู่ห่างจากเจี้ยนเฉินไป 30 เมตรลอยอยู่เหนือเขา เมื่อมองลงไปที่เจี้ยนเฉินเขาก็มองยังลูกเสือที่มือซ้ายของเขาและพูดด้วยท่าทางที่มีความสุขเล็กน้อย เจี้ยนเฉิน ข้าไม่ต้องการเป็นศัตรูกับเจ้า ตระกูลมู่หยวนของข้าต้องการลูกเสือระดับ 6 ดังนั้นข้าต้องขอให้เจ้าปล่อยมันออกมา ตระกูลมู่หยวนจะให้รางวัลแก่เจ้าอย่างแน่นอน เจ้าที่หล่อเหลาขนาดนี้ขนาดนี้ ข้าจะช่วยเจ้าอย่างไร้เงื่อนไขภายใต้ขอบเขตอำนาจของเรา