ตอนที่ 1511 ปลาติดเบ็ดแล้ว (1)
ผู้เยาว์ทั้งสามสบตากันราวกับได้เจออะไรสนุกๆมาเล่น และพากันเดินไปทางจวินอู๋เสีย
จากที่พวกเขาเห็น จวินอู๋เสียรูปร่างผอมบางและยังเด็กมาก แถมด้วยภูติประจำตัวที่ตัวเล็กและอ่อนแอแบบนั้น จะต้องตกรอบในการแข่งขันงานชุมนุมเทพยุทธ์อย่างแน่นอน ทำให้เป็นเป้าหมายที่ดีสำหรับให้พวกเขาอวดเบ่งใส่
จวินอู๋เสียกำลังเดินอยู่ดีๆ ก็ได้ยินเสียงฝีเท้าดังมาจากด้านหลัง นางหันกลับไปและเห็นผู้เยาว์ตัวสูง 3 คนเดินเข้ามาหานางพร้อมสีหน้ามุ่งร้าย
[พวกรนหาที่ตายอีกกลุ่มงั้นซิ] จวินอู๋เสียมองพวกเขาเดินเข้ามาใกล้ด้วยสายตาเย็นชา แต่สีหน้าของนางไม่ได้แสดงความรู้สึกใดๆ
“ไอ้หนู เจ้า……”
แต่ผู้เยาว์คนหนึ่งเพิ่งจะอ้าปากพูดได้ไม่ถึง 3 คำ ก็มีคนปรากฏขึ้นตรงหน้าผู้เยาว์ทั้งสาม ขวางกั้นพวกเขาจากจวินอู๋เสีย
ผู้เยาว์ทั้งสามสะดุ้งตกใจกับการปรากฏตัวอย่างกระทันหันของคนผู้นั้น เมื่อพวกเขาดูดีๆ ก็เห็นว่าเป็นชายร่างสูงเพรียวใบหน้าหล่อเหลา ดวงตาของชายคนนั้นหรี่ลงและมุมปากก็ยกขึ้นเล็กน้อย ดูเหมือนสุนัขจิ้งจอกมาก
“เฮ้ เจ้าคือ……” ผู้เยาว์คนหนึ่งเริ่มพูดด้วยความไม่พอใจ แต่เพื่อนของเขารีบยกมือปิดปากเขาไว้อย่างรวดเร็ว
เขาทำเสียงอู้อี้ด้วยความไม่เข้าใจ แต่เด็กหนุ่มอีกคนที่อยู่ด้านซ้ายของเขาก็ยกมือขึ้นชี้ไปที่หน้าอกของชายที่คล้ายสุนัขจิ้งจอก
เด็กหนุ่มที่โดนปิดปากมองไปตามที่เพื่อนชี้ แล้วสีเลือดก็จางหายไปใบหน้าของเขาทันที ขาของเขาเริ่มสั่น
“ขออภัย! จะไปเดี๋ยวนี้ขอรับ!!!” ผู้เยาว์ทั้งสามรีบก้มหัวขอโทษด้วยใบหน้าซีดขาวตรงหน้าชายที่คล้ายสุนัขจิ้งจอก ร่างของพวกเขาสั่นระริกเหมือนต้นหลิวที่อ่อนแอกลางสายลม
“ความไม่รู้ของเด็กๆไม่ใช่เรื่องผิด แต่ก็ต้องเรียนรู้การยับยั้งชั่งใจบ้าง ไปให้พ้น” ชายคล้ายสุนัขจิ้งจอกพูดด้วยรอยยิ้ม น้ำเสียงของเขาดูเป็นมิตรและอารมณ์ดีอย่างชัดเจน แต่มันกลับทำให้หนาวเย็นไปทั้งกระดูกสันหลัง
ผู้เยาว์ทั้งสามวิ่งหนีหางจุกตูดไปแทบจะทันที ราวกับมีปีศาจร้ายกำลังไล่ตามพวกเขาอยู่ข้างหลัง
ชายที่คล้ายสุนัขจิ้งจอกมองเด็กหนุ่มทั้งสามคนวิ่งหนีไป จากนั้นก็หันกลับมามองจวินอู๋เสียที่ยืนอยู่ตรงหน้าเขาอย่างยิ้มแย้ม
สายตาที่ใสกระจ่างและเย็นชาของจวินอู๋เสียมองผู้มาใหม่อย่างไร้ความรู้สึก นางรู้แก่ใจดีว่าเด็กหนุ่มสามคนเมื่อกี้มีเจตนาอะไร และนางยังสังเกตเห็นอีกว่าผู้เยาว์ทั้งสามเปลี่ยนท่าทีไปอย่างไรเมื่อเห็นสิ่งที่อยู่บนตัวของชายคล้ายสุนัขจิ้งจอก จากท่าทางอวดเบ่งเปลี่ยนเป็นสุนัขจรจัดที่กำลังหวาดกลัวในทันที
“เจ้าหนู การแสดงของเจ้าที่สนามแข่งพรสวรรค์แต่กำเนิดน่าทึ่งมากจริงๆ” ชายหน้าหล่อยิ้มกว้างขณะมองจวินอู๋เสีย ดวงตาของเขาหยีจนดูเหมือนพระจันทร์เสี้ยวสองดวง ปากของเขาโค้งขึ้นเป็นรอยยิ้มที่เป็นมิตร
“เจ้าคือ?” ดวงตาของจวินอู๋เสียกวาดมองร่างของชายคนนั้นวูบหนึ่ง และเห็นเพียงภาพหัวหมาป่าสีเงินที่ปักอย่างประณีตตรงอกเสื้อของเขา
“ข้าบังเอิญได้เห็นการแสดงของเจ้าและคิดว่ามันแปลกใหม่มาก ข้าจึงมาพบเจ้าที่นี่เพราะมีข้อสงสัยสองสามอย่างที่อยากจะถามให้กระจ่าง” ชายคล้ายสุนัขจิ้งจอกเอียงหัวเล็กน้อย รอยยิ้มยังคงอยู่บนใบหน้าของเขา เขายิ้มจนตาหยีจนมองไม่เห็นตาของเขาเลย
จวินอู๋เสียไม่ได้แสดงปฏิกิริยาใดๆบนใบหน้า นางเดาตัวตนของอีกฝ่ายได้อย่างคร่าวๆแล้ว ตั้งแต่นางออกจากสนามแข่งพรสวรรค์แต่กำเนิด นางก็สังเกตเห็นว่ามีผู้ใช้พลังวิญญาณขั้นสีม่วงจำนวนหนึ่งตามหลังนางมา แต่คนพวกนั้นทุกคนมีพลังด้อยกว่านาง นั่นคือสาเหตุที่นางสามารถรับรู้ตัวตนของพวกเขาได้ ส่วนชายตรงหน้านางคนนี้ นางไม่ได้สังเกตเห็นตัวตนของเขาก่อนหน้านี้เลยแม้แต่น้อย
[พลังของชายคนนี้เหนือกว่านาง!]
[ถ้านางเดาไม่ผิด พวกที่ตามนางมาก่อนหน้านี้ต้องมาจากสิบสองวิหารแน่!]