“ไอ้บ้า แกรีบออกไปเลยนะ!ไม่อย่างนั้นฉันจะเรียกรปภ.แล้ว!”
พอเห็นเย่เทียนที่กำลังทำหน้าหลงตัวเอง หมอหนุ่มที่อยู่ใกล้ประตูที่สุดก็รู้สึกไม่พอใจขึ้นมา
“คุณหมอสวี่! รอเดี๋ยว!”
“นี่พ่อหนุ่ม นายมีทางที่จะรักษาอะหย่วนให้หายจริงๆ เหรอ?”
ทันใดนั้น ชายวัยกลางคน คนแรกที่ปลอบใจภรรยาของกงหย่วนได้พูดออกมา และไม่สนว่าเย่เทียนจะมีความสามารถนั้นมั้ย เพราะเขากำลังมีความรู้สึกเหมือนป่วยหนักแล้วหาหมอไปทั่ว
เย่เทียนได้สังเกตเห็นการมีอยู่ของชายคนนี้ตั้งนานแล้ว กับคนที่ถูกกำหนดมาให้มีตำแหน่งที่สูงนั้น ถึงจะไม่อยากให้ใครสนใจก็คงจะยาก!
เขาได้ยักไหล่อย่างไม่ใส่ใจ ก่อนที่จะได้ตรวจดูอาการของกงหย่วน และถ้าไม่มีความมั่นใจที่มากพอ เขาก็ไม่กล้ารับปากพล่อยๆ เผื่อถึงเวลาแล้วตัวเองก็ไร้หนทางเหมือนกัน มันจะขายหน้าเอาได้
“ยังไงก็ควรให้ผมดูอาการของหัวหน้ากงก่อนจริงมั้ย? อยู่ห่างขนาดนี้ ก่อนที่จะได้รู้ว่าหัวหน้ากงเป็นอะไร ผมเองก็ไม่กล้ารับปากพล่อยๆ หรอกครับ!”
“ได้! งั้นนายก็ลองเข้ามาดูก่อน!”
ชายวัยกลางคนที่ยศไม่ต่ำพยักหน้าอย่างต่อเนื่อง ทั้งที่ยังไม่ทันรู้อย่างแน่ชัดเลยว่าเย่เทียนเป็นใคร ก็อยากให้เย่เทียนเข้ามาลองดูแล้ว
“คุณเฉา อาการของหัวหน้ากงแม้แต่ท่านว่านยังอับจนหนทางเลย บวกกับการแต่งตัวของเจ้านี่ มันต้องเป็นพวกต้มตุ๋นแน่นอน! คุณอย่าถูกมันหลอกเอานะครับ!”
ชายหนุ่มที่ถูกเรียกว่าคุณหมอสวี่จ้องมองเย่เทียนด้วยสีหน้าที่หวาดระแวง
นี่มันก็เป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้จริงๆ ก็การแต่งตัวของเย่เทียนนั้นยากที่จะทำให้คนอื่นเกิดความเชื่อใจได้จริงๆ นี่!
“คุณเฉาครับ ก่อนอื่นเรายังไม่ต้องคุยกันเรื่องที่ว่าพ่อหนุ่มนี่จะเป็นหมอจริงๆ รึเปล่า หรือต่อให้เป็น แต่จากประสบการณ์ของของผมแล้ว ด้วยหมอที่มีอายุเท่าเขา เกรงว่าความสามารถก็คงไม่ได้มากมายอะไรหรอกมั้ง?”
ว่านชิงเฟิงกำลังนั่งขมวดอยู่ข้างเตียง พร้อมกับทำหน้าไม่ยอมเชื่อ
เย่เทียนคิ้วกระตุก คาดไม่ถึงว่าคนใส่ชุดกาวน์พวกนี้จะไม่ยอมเชื่อเขา
เขาจึงทำเสียงฮึดฮัดทันที “ทั้งพี่พูดกันว่าอย่าดูคนแค่ภายนอก ไม่นึกเลยว่าพวกคุณที่อายุปูนนี้แล้วยังมองคนจากรูปลักษณ์ภายนอกอีก อยู่มาจนถึงปูนนี้มันช่างสูญเปล่าจริงๆ!”
“ผมอาจจะอายุน้อยไปหน่อย แต่วิชาทางการแพทย์นั้นมีมากกว่าคุณไม่ต่ำกว่าร้อยเท่า!”
คำพูดที่พูดออกมาบอกได้เลยว่าจองหองเป็นอย่างมาก ต่อให้เป็นว่านชิงเฟิงที่มากด้วยประสบการณ์ ก็ยังทนไม่ไหวจนหน้าแดง เห็นได้ชัดว่าเย่เทียนทำให้เขาโมโหไปไม่น้อยเลย
เฉาจื้อเหาที่ถูกเรียกว่าคุณเหาตอนนี้เริ่มตั้งสติได้แล้ว และรู้ตัวว่าเมื่อกี้ตัวเองได้ไม่คิดให้ถี่ถ้วนก่อน
เดิมทีอาการของหัวหน้ากงก็ไม่ดีอยู่แล้วพ่อหนุ่มเสื้อผ้าขาดรุ่ยที่อยู่ตรงหน้าก็ไม่รู้เป็นใครมาจากไหน ถ้าเกิดอะไรที่ผิดพลาดขึ้น งั้นเขาก็จะกลายเป็นผู้สมรู้ร่วมคิดของผู้ร้ายฆ่าคนตายแล้ว!
คุณหมอสวี่เป็นคนที่จับตาดูความเปลี่ยนแปลงของเฉาจื้อเหาอยู่ตลอด คนที่ชอบไขว่คว้าหาอำนาจและความมั่งคั่งอย่างเขา จะไม่รู้ได้ยังไงว่านี่แหละคือโอกาสที่ตัวเองจะได้ออกโรงแล้ว
เขารีบหันหลังตะโกนออกไปนอกประตูว่า “พวกพี่ชายที่อยู่ด้านนอก ช่วยเข้ามาเอาตัวไอ้หมอนี่ที่ไม่รู้โผล่มาจากไหนออกไปที!”
ทันทีที่สิ้นเสียง เจ้าหน้าที่สองคนที่ยืนอยู่ด้านนอกก็เดินเข้ามาในห้อง
“พี่เฉา!”
ทันใดนั้น น้ำเสียงที่แตกตื่นก็ได้ดังขึ้น โจ๋หย่วนหันได้เดินดุ่มๆ แทรกกลางสองคนนั้นมา ระหว่างที่เดินเข้ามาก็ไม่ลืมที่จะเหลียวมองเย่เทียนด้วยความคับแค้นใจไปทีหนึ่ง ไอ้หมอนี่มันมาที่นี่ได้เร็วอะไรขนาดนี้โดยที่ไม่รอเขาเลย!
พอเห็นโจ๋หย่วนหันปรากฏตัว เฉาจื้อเหาดูผ่อนคลายลงเล็กน้อย แล้วกวักมือให้เขาเข้ามา
ในเวลาเดียวกัน ตำรวจในเครื่องแบบสองคนก็ได้เดินตามหลังเข้ามา ยืนประกบอยู่ซ้ายขวาของเย่เทียน จ้องมองเย่เทียนด้วยสายตาที่ไม่เป็นมิตร รอคอยคำสั่งจากผู้บังคับบัญชา
พอโจ๋หย่วนหันเห็นอย่างนั้น ก็ขมวดคิ้วแล้วถามไปว่า “นี่พวกคุณคิดจะทำอะไร?”
คุณหมอสวี่นั้นเคยพบหน้ากับโจ๋หย่วนหันมาก่อนแล้ว จึงมองว่าเขาเป็นคนที่ยังไม่เข้าใจสถานการณ์และพูดไปยิ้มไปว่า “ผู้บัญชาโจ๋ คือมันมีนักต้มตุ๋นที่ไม่กลัวตายโผล่มาจากไหนก็ไม่รู้ นี่ก็กำลังจะให้พี่ๆ ตำรวจจับมันไปขังสักสองสามวัน มันจะได้จำใส่กะโหลกเอาไว้!”
“นักต้มตุ๋น? คุณบอกว่าใครเป็นนักต้มตุ๋นนะ?”
โจ๋หย่วนหันทำหน้าเคร่งขรึมขึ้นมาทันที เขานั้นรู้จักความอดทนที่เย่เทียนมีได้เป็นอย่างดี ที่สำคัญคืออาจจะเป็นคนสำคัญในการที่จะสามารถช่วยชีวิตของกงหย่วนก็ได้ ถ้าเย่เทียนเกิดคิดเล็กคิดน้อยขึ้นมา แล้วจะให้ทำยังไงกันต่อก็ไม่รู้?
คุณหมอสวี่จับต้นชนปลายไม่ถูก พอเห็นโจ๋หย่วนหันที่กำลังโมโห จึงงงไปชั่วขณะ แต่ก็ไม่กล้าทำอะไรโดยพลการ
“พี่เฉา เขาก็คือเย่เทียนที่ผมเคยพูดกับพี่ ฝีมือในการรักษาสุดยอดมาก!”
พอเห็นว่าคุมสถานการณ์ได้แล้ว โจ๋หย่วนหันก็รีบอธิบายกับเฉาจื้อเหาทันที
“เย่เทียน?”
เฉาจื้อเหารู้สึกสับสนขึ้นมาทันที “น้องโจ๋ ผมจำได้ว่าก่อนหน้านี้คุณเคยบอกผมว่า คนที่ชื่อเย่เทียนนี่ไขคดีเก่งไม่ใช่เหรอ? แล้วทำไมตอนนี้ถึงกลายเป็นรักษาเก่งไปแล้วล่ะ?”
พอโจ๋หย่วนหันได้ยินอย่างนั้น เขาก็เงียบไปทันที ไม่รู้ว่าจะอธิบายยังไงดี
เขารู้ว่าเย่เทียนนั้นแข็งแกร่งมาก แต่มันก็ไม่ได้แปลว่าฝีมือในการรักษาของเย่เทียนจะดีมากไม่ใช่รึไง?
พอเห็นโจ่หย่วนหันที่เอาแต่อ้ำๆ อึ้งๆ ไม่ยอมอธิบายที่มาที่ไปสักที คุณหมอสวี่ที่รีบร้อนอยากจะเสนอหน้าก็คิดว่าเขาถูกเย่เทียนแหกตาเข้าแล้ว จึงได้พูดพร้อมกับยิ้มอย่างไม่ชอบใจว่า “คุณโจ๋ครับ ไม่ใช่ว่าคุณถูกไอ้หมอนี่หลอกเข้าให้แล้วเหรอครับ?”
“คุณบอกว่าใครถูกหลอกหา? ถ้าไม่เข้าใจสถานการณ์ก็หุบปากไปเลย!”
โจ๋หย่วนหันโกรธจนอยากจะใช้กำลัง นี่ไปเอาหมอที่สายตาไม่ได้เรื่องแบบนี้มาจากไหนเนี่ย? ถ้าเกิดว่าไล่เย่เทียนออกไปจริง เกรงว่ากงหย่วนก็คงจะหมดหวังแล้วจริงๆ!เย่เทียนก็เริ่มโมโหแล้วเหมือนกัน ตอนแรกเขาก็เห็นว่าจี้เยียนหรันเป็นห่วงเรื่องของกงหย่วนมากจึงตัดสินใจมา ไม่นึกเลยว่าคนพวกนี้กลับไม่ยอมเชื่อเขาเลยสักคน
พอคิดได้อย่างนั้น เย่เทียนก็ไม่อยากไปเอาอกเอาใจใครแล้ว!
“ในเมื่อพวกคุณไม่ยอมเชื่อ งั้นผมไปก็ได้ เพียงแต่……”
“อย่าหาว่าผมพูดจาเสียมารยาทไว้ก่อนเลยนะครับ เพราะถ้าอีกเดี๋ยวพวกคุณจะมาขอให้ผมช่วยละก็ มันคงไม่ง่ายแล้วล่ะ!”
พุดจบ เย่เทียนก็หันหลัง แล้วทำท่าจะออกไปทันที
พอคุณหมอสวี่เห็นอย่างนั้น ก็นึกว่าเย่เทียนเกิดละอายใจ ก็ยิ่งได้ใจเข้าไปใหญ่ “ไปๆไป! รีบออกไปซะ!”
เย่เทียนขี้เกียจสนใจ หน้าก็ไม่หันเตรียมที่จะออกไป
โจ๋หย่วนหันตกใจจนสะดุ้ง จึงรีบวิ่งไปดักอยู่ตรงหน้าของเย่เทียน พร้อมกับรอยยิ้มที่หดหู่ “คุณชายเย่ คุณจะไปไม่ได้นะครับ! ถ้าคุณไป แล้วหัวหน้ากงจะทำยังไง?”
เย่เทียนยักไหล่อย่างช่วยไม่ได้ “คุณโจ๋ครับ ไม่ใช่ว่าผมไม่อยากอยู่ แต่มีคนที่ไม่อยากให้ผมช่วยจริงๆ แล้วผมจะทำให้ตัวเองอึดอัดไปทำไมล่ะครับ?”
พูดจบ เย่เทียนก็ก้าวเท้าออกไป ทำท่าจะออกไปทันที
โจ๋หย่วนหันร้อนใจอย่างมาก แล้วหันหน้าไปพูดกับเฉาจื้อเหาว่า “พี่เฉาครับ คนที่ช่วยหัวหน้าจี้กับหัวหน้ากงออกมาก็คือเย่เทียน ให้เย่เทียนดูหน่อยเถอะนะครับ!”
เมื่อคำพูดนี้ออกมา ทุกคนที่อยู่ตรงนั้นก็พากันสงสัยขึ้นมาทันที
“มันจะเป็นไปได้ยังไง? ก็เขาที่ตัวเล็กแค่นี้ จะไปช่วยหัวหน้าจี้กับหัวหน้ากงกลับมาได้ยังไง?”
“หรือว่า พ่อหนุ่มนี่จะมีดีกับเขาจริงๆ?”
แต่เฉาจื้อเหากลับทำหน้าจริงจังไม่เหมือนกับคนอื่น เขาได้รับข้อมูลจากซือเฮ่าเจียแทบจะในทันที ต่อให้เขาไม่เชื่อที่โจ๋หย่วนหันพูด แต่ก็ยังเชื่อใจซือเฮ่าเจียที่ร่วมงานกันมาหลายสิบปีมากๆ
เพียงแต่ สิ่งที่ทำให้เขาคาดไม่ถึงก็คือ อายุของยอดฝีมือคนนี้จะน้อยขนาดนี้
แต่ว่า พอตอนนี้ได้รับการยืนยันจากโจ๋หย่วนหันที่เป็นตำรวจยศสูงสุดของเมืองเจียงหนัน ยืนยันฐานะของเย่เทียนแล้ว เขาก็คงยากที่จะปฏิเสธได้แล้ว…