ตอนที่ 238

Crazy Leveling System

CLS ตอนที่ 238: การจัดการ

 

ความผิดพลาดติดๆ กันของเฉิงเฟิงทำให้พวกเขาได้เปิดหูเปิดตาจริงๆ พวกเขาไม่เคยเห็นใครที่ผิดพลาดหลายครั้งติดขนาดนี้ จนสุดท้ายกระทั่งถูกกระบี่เสียบ หนักกว่าก่อนหน้ามาก

 

หนานเฟิงหยุนหน้าเปลี่ยนสี นี่คืออาวุธของเขา ถ้าคิดจะเอาเรื่องล่ะก็ ไม่รู้ว่าตัวเขาจะต้องเจอกับอะไรบ้าง คงมีแต่ต้องอดทนให้มันผ่านพ้นไปเท่านั้น!

 

มีคนอยากจะเข้าไปช่วย แต่ก็ไม่กล้าเข้าไป เพราะถ้าเกิดอะไรขึ้นอีก พวกเขาจะทำยังไง?

 

โชคดีที่ไม่ถึงชีวิต หลังจากเฉิงเฟิงหายใจหนักๆ อยู่หลายครั้ง พร้อมกับโคจรพลังอยู่หลายรอบ ก็ทำให้เขาหยุดเลือดที่ไหลออกมาได้ พร้อมกับกระชากกระบี่ออกมาอย่างแรงจนเลือดสาด เขาสูดหายเฮือก ก่อนจะหยิบเม็ดยารักษาออกมาหลายเม็ด ทำให้เลือดหยุดไหลออกมาอย่างรวดเร็ว ยังไงก็ตาม บาดแผลที่เกิดก็น่าตกใจจริงๆ แต่โชคดีที่หยุดเอาไว้ได้ ถ้าเป็นคนอื่นที่ไม่ใช่เฉิงเฟิงถูกอย่างนี้เข้าไป คงจะตายไปแล้วอย่างแน่นอน

 

นี่ทำให้เฉิงเฟิงอารมณ์เสีย พร้อมกับนั่งลงรักษาบาดแผลในทันที ขณะเดียวกันก็คอยมองดูรอบๆ ดูว่ามีของมีคมอะไรอีก ถ้าเกิดว่าโดนเข้าไปอีกล่ะก็ คงจะทรมานอย่างแสนสาหัส

 

“ติ๊ง เม็ดยาโชคร้ายได้หมดฤทธิ์แล้ว!”

 

ในตอนนี้เอง วงแหวนบนร่างเฉิงเฟิงก็ได้หายไป คนที่มองเห็นมีแค่อี้เทียนหยุนคนเดียว ส่วนคนอื่นมองไม่เห็น

 

“น่าเสียดายที่ออกฤทธิ์แค่ 5 นาที ไม่อย่างนั้นจะต้องเล่นจนมันพิการอย่างแน่นอน……”

 

เพียงแค่ 5 นาทีก็ทำให้เฉิงเฟิงตกอยู่ในสภาพนี้แล้ว ถ้าเกิดว่าเพิ่มอีกสัก 10 หรือ 15 นาทีล่ะก็ บางทีเขาอาจจะเหลือแค่ลมหายใจสุดท้ายก็ได้ เมื่อโชคร้ายถึงขีดสุด ต่อให้เขาจะยืนอยู่เฉยๆ ก็ต้องมีคนมาชนเขาเข้าอยู่ดี

 

แต่เม็ดยาของเขาก็ไม่เหลือแล้ว มีเพียงต้องซื้อจากร้านค้าระบบเท่านั้น แต่ว่าราคาของเม็ดยาโชคร้ายก็ไม่ใช่น้อยๆ มันมีราคาถึง 100,000 ค่าความคลั่งเลยทีเดียว แม้ว่าจะสามารถทำให้อีกฝ่ายโชคร้าย แต่เขาก็รู้สึกว่าผลลัพธ์ของมันมีจำกัด บางทีใช้ไปอาจเสียเปล่าได้ พลังชีวิตของปรมาจารย์ระดับผันแปรวิญญาณนั้นแข็งแกร่งมาก ทำได้แค่นี้ก็ถือว่าดีมากแล้ว

 

ทั้งยังจำกัดไว้ด้วยสภาพแวดล้อม แต่ถ้าเกิดใช้ในพื้นที่ที่อันตรายแล้วล่ะก็ คงจะหวังผลถึงชีวิตได้จริงๆ แต่พื้นที่รอบๆ นี้ล้วนแต่ธรรมดา อย่างมากก็ทำให้เขาเกิดแผล แต่ถ้าจะเอาให้ถึงชีวิต คงยาก

 

ยังไงก็ตาม การจะเอาชีวิตของเขานั้นไม่จำเป็นต้องใช้เม็ดยาโชคร้ายนี้ แค่อี้เทียนหยุนลงมือด้วยตนเองก็พอแล้ว!

 

“ผลลัพธ์นี้ช่างน่ากลัวจริงๆ ไว้วันหลังใครที่มันขวางหูขวางตา ข้าจะใช้เม็ดยาโชคร้ายกับพวกมันให้หมด” ก่อนหน้านี้อี้เทียนหยุนคิดว่าผลลัพธ์ที่ได้จากเม็ดยาโชคร้ายนี้จะต้องธรรมดามากๆ แต่ตอนนี้เขารู้แล้วว่าเข้าใจผิด ผลลัพธ์ที่ได้ช่างน่ากลัวนัก!

 

สามารถพูดได้ว่าน่าตกตะลึงอย่างแท้จริง ไว้วันไหนที่มีใครขวางหูขวางตาแล้วเขาสู้ไม่ได้ เขาจะต้องโยนเม็ดยาโชคร้ายใส่มันผู้นั้นอย่างแน่นอน

 

ตอนนี้บรรยากาศรอบๆ กลายเป็นอึดอัด กระทั่งมีบางคนเห็นเป็นเรื่องตลก หรือไม่ก็น่าอับอาย แต่ทุกคนก็ไม่รู้ว่าควรจะพูดยังไงดี พวกเขาได้แต่มองไปที่เฉิงเฟิง จะยิ้มก็ไม่กล้า นี่มันช่างโชคร้ายยิ่งนัก

 

อย่างรวดเร็ว หลังจากที่เฉิงเฟิงบรรเทาอาการลงได้แล้ว บาดแผลของเขาก็หายดีกว่าครึ่ง อย่างน้อยก็หยุดเลือดที่ไหลออกมาแล้ว ถ้าได้พักสักครู่ เขาจะต้องดีขึ้นกว่านี้อย่างแน่นอน

 

เขาค่อยๆ ลุกขึ้นอย่างยากลำบาก จากนั้นก็ค่อยๆ เดินไปทีละก้าว แต่คราวนี้เขาไม่ลื่น ไม่สะดุด หรือว่าหกล้มลงไป เมื่อไม่มีอะไรเกิดขึ้น เขาก็ถอนหายใจออกมาน้อยๆ เมื่อมองไปที่ผู้คนก็ทำให้เขารู้สึกอึดอัด “เรื่องในวันนี้ห้ามเอาไปพูดต่อเด็ดขาด!”

 

“ทราบแล้ว เฉิงต้าเหริน!” ทันใดนั้นก็มีผู้คนตอบสนอง แม้ว่าเรื่องที่ไม่ให้พูดคือเรื่องไหนนั้นออกจะไม่ชัดเจนอยู่บ้าง แต่ก็ต้องตอบรับออกไปก่อน

 

“วันนี้เอาไว้แค่นี้ก่อน หลังจากนี้ค่อยว่ากันอีกที!” เฉิงเฟิงคิด จากนั้นก็พูดว่า “พวกเจ้าอาศัยอยู่ในตำหนักนี้ก่อน พวกเราอาณาจักรใต้พิภพจะเป็นผู้คอยดูแลพวกเจ้าเอง!”

 

ท่าทางอวดดีในตอนแรกหายไปกว่าครึ่ง กลายเป็นตัวตลกต่อหน้าผู้คน ตอนนี้ต้องรีบหุบปากพวกเขา ส่วนเรื่องที่จะประกาศนั้น เมื่อเกิดเรื่องนี้ขึ้นก็ไม่รู้จะพูดยังไงดีแล้ว จึงได้แต่ให้พวกเขาพักอยู่ที่นี่ไปก่อน

 

“ท่านครับ แล้วอาวุธนี้…..” ยามชี้ไปยังอาวุธที่หนานเฟิงหยุนมอบให้ บนนั้นยังมีคราบเลือดของเฉิงเฟิงอยู่

 

“ถ้าเจ้าอยากได้ก็เอาไป หลังจากนี้อย่าให้ข้าเห็นมันอีก ยิ่งเห็นยิ่งโมโห!” พูดจบเขาก็โบกมือ พร้อมกับเดินเข้าไปในตำหนัก ท่าทางดูจะขยาดอาวุธเอามากๆ ราวกับเป็นของแสลง ขณะที่เดินก็ไม่ยอมให้ใครเข้ามาใกล้ ทั้งยังใส่ใจในทุกย่างก้าวของตน ราวกับกลัวว่าจะเกิดอะไรขึ้นอยู่ทุกขณะ

 

“ขอบคุณท่านมากครับ!” ยามคนนั้นรีบรับไว้อย่างเร็ว นี่เป็นสุดยอดสมบัติ ซึ่งแน่นอนว่าเขาไม่มีทางพลาด แม้ว่าบนนั้นจะมีรอยเลือดอยู่เล็กน้อย แต่ก็ไม่ได้ทำให้คุณค่าของมันลดน้อยลงไปเลย

 

เฉิงเฟิงคิดว่าวันนี้ช่างโชคร้าย ช่างโชคร้ายจริงๆ

 

หนานเฟิงหยุนใบหน้าดำคล้ำราวกับอีกไม่นานจะมีพายุฝนเกิดขึ้น นี่เป็นอาวุธประจำตัวของเขา ตอนนี้กลับมาถูกยามเอาไป แต่เขาก็ไม่สามารถเอาคืนได้ นี่เป็นของที่ให้ไปแล้ว จะเอากลับคืนได้ยังไง ยิ่งกว่านั้น ตามทฤษฎีแล้ว กระบี่เล่มนี้เป็นของเฉิงเฟิงแล้ว เฉินเฟิงจะมอบมันให้กับเขา เขาก็ไม่มีสิทธิ์ไปยุ่ง

 

“ท่านทั้งหลาย ตอนนี้ได้จัดเตรียมห้องไว้เรียบร้อยแล้ว โปรดตามข้ามา” ได้มียามเดินเข้ามาที่นี่ พร้อมกับนำทางไปยังห้องพักของพวกเขา

 

ก่อนจาก หนานเฟิงหยุนยังมองมาที่นี่ด้วยสายตาเย็นชา ทั้งในสายตานั้นยังเต็มไปด้วยจิตสังหาร จากนั้นถึงจะตามยามไปยังห้องที่เตรียมไว้ให้พวกตน

 

อี้เทียนหยุนก็ได้รับห้องเช่นกัน เพียงแต่ห้องนี้เห็นได้ชัดว่าไม่ใช่ห้องที่เลิศหรูอะไร แต่คล้ายกับเป็นห้องของข้ารับใช้มากกว่า! นอกจากพวกเขาวังเทียนจี๋ สำนักอื่นต่างก็ได้ห้องดีๆ กันทั้งนั้น มีแต่พวกเขาที่ไม่ได้!

 

นี่ทำให้มู่เซียนเอ๋อระเบิดออกมาทันที “ท่านปู่ พวกเขาเลือกที่รักมักที่ชังชัดๆ จัดห้องข้ารับใช้ให้พวกเราอย่างนี้ มันไม่ถูกต้อง นี่มันโหดร้ายเกินไปแล้ว! จัดห้องข้ารับใช้ให้ไม่พอ ยังมีห้องเดียวอีก ก่อนหน้านี้พวกเราถึงกลับมอบศาสตราจิตวิญญาณขั้นสูงให้ ถ้าเป็นข้างนอก ไม่รู้ว่าสามารถพักห้องหรูๆ ได้ตั้งกี่ห้อง!”

 

แม้ว่าพวกเขาจะนั่งสมาธิแทนการนอนได้ แต่จัดห้องอย่างนี้ให้พวกเขา แล้วอย่างนี้จะไม่ทำให้พวกเขาโกรธได้ยังไง

 

ไม่ใช่แต่มู่เซียนเอ๋อเท่านั้น แม้แต่สีหน้าพวกผู้อาวุโสใหญ่เองก็ไม่น่าดูด้วย ไม่ใช่ว่าห้องไม่พอ แต่เป็นพวกเขาต้องการแสดงพลังมากกว่า จึงได้จัดห้องนี้ให้พวกเขาเป็นพิเศษ!

 

“ถูกเชิญมางานเลี้ยงนี้ แน่นอนว่าต้องไม่ใช่เรื่องดีอยู่แล้ว พวกเขาต้องการแสดงพลังต่อหน้าพวกเรา เพราะว่าวังเทียนจี๋ของพวกเราไม่คุ้มค่าพอ เป็นธรรมดาที่ต้องถูกจัดการอย่างนี้” ผู้อาวุโสใหญ่ถอนหายใจ นี่เป็นเรื่องที่พวกเขาคิดไว้อยู่แล้ว

 

“เราสังหารคนของพวกมันไปตั้งหลายคน ถูกจัดการแค่นี้ก็ดีแค่ไหนแล้ว” อี้เทียนหยุนพูดอย่างไม่ใส่ใจ “ที่จัดการอย่างนี้ก็เพื่อจะตรวจสอบพวกเรา ดูว่าวังเทียนจี๋ของพวกเรามีใครเป็นผู้ช่วยอยู่เบื้องหลัง”

 

“ถ้างั้น ท่านประมุข ท่าน…..” ผู้อาวุโสใหญ่หน้าเปลี่ยนสี

 

“ไม่เป็นไร ข้าไม่ลงมือก่อนหรอก แต่ถ้าจำเป็นก็ต้องทำ” อี้เทียนหยุนพูดอย่างใส่ใจ “พวกมันก็แค่เอาเรื่องการขออภัยโทษมาบังหน้า ที่สามารถสังหารผู้คุ้มกันเงาทั้งหลายของพวกมันได้ พวกมันจะต้องคิดว่าพวกเรามีผู้ช่วย หรือไม่ก็ผู้เชี่ยวชาญคอยช่วยแน่ ที่พวกมันต้องการไม่ใช่สำนักที่ตกต่ำของพวกเรา แต่ต้องการให้เราปฏิเสธ ด้วยเหตุนี้จะทำให้พวกมันมีเหตุผลมากพอให้ลงมือกับพวกเรา….. แต่ถึงจะตอบรับ สุดท้ายพวกมันก็จะทำให้พวกเราตายอยู่ดี”

 

อาณาจักรใต้พิภพมีขีดจำกัดของตน ตราบเท่าที่ให้ประโยชน์ต่อพวกมันได้ พวกมันก็จะให้โอกาส แต่ถ้าต่อต้านเมื่อไหร่ล่ะก็ จะต้องถูกสังหารสิ้น! ก็เหมือนกับหัวข้อแรกที่เฉิงเฟิงพูดในงานเลี้ยงคืนนี้นี่ล่ะ มันอยากจะแสดงให้เห็นว่าคนที่ต่อต้านนั้น จะต้องตาย!