บทที่ 460 กลยุทธ์ลอบตีเฉินชาง

บัญชามังกรเดือด

หนึ่งนาที สองนาที สามนาที……

  ด้วยเวลาที่ผ่านไปเหมือนกับสายน้ำ ผ่านไปประมาณเกือบสิบนาที

  หยางคุนไม่เพียงไม่มีอาการตื่นตระหนกตกใจกลัวแสดงออกมา เหมือนกับพวกคนก่อนหน้าเลยแม้แต่น้อย ในทางตรงกันข้าม บนใบหน้าแฝงไปด้วยรอยยิ้มจางๆตลอดเวลา

  มองดูไป ราวกับเพลิดเพลินจำเริญใจ

  ทันใดนั้น แม้แต่ลมบริเวณรอบๆ ราวกับว่ากำลังเปลี่ยนเป็นอ่อนโยนขึ้นมา

  “ดวงสมพงศ์!”

  “พี่คุนก็คือคนที่ดวงสมพงศ์!”

  “ที่ดินผืนนี้ จะต้องเป็นของพี่คุนแน่นอนแล้ว!” อู๋ลี่ตะโกนเสียงดังขึ้นมาอย่างตื่นเต้น

  ในที่สุด หยางคุนถอนหายใจออกมา ลืมตาขึ้น

  ดวงตาของหลิวเต๋อเปล่งประกาย กล่าว: “คุณชายหยาง บอกผมที ว่าเมื่อครู่นี้คุณเห็นอะไรบ้าง?”

  หยางคุนกล่าวอย่างตื่นเต้น: “ผมมองเห็นทิวทัศน์ที่สวยงามในฤดูใบไม้ผลิ มองเห็นมีตึกสูงผุดขึ้นมาจากที่ดินว่างเปล่า มองเห็นการร้องเล่นเต้นระบำ เจริญรุ่งเรือง!”

  “ปรมาจารย์ ทำไม ผมจึงเห็นสิ่งเหล่านี้?”

  หลิวเต๋อหัวเราะชอบใจ กล่าว: “เป็นอย่างที่คิดไว้”

  “ฉันคาดการณ์ไว้ไม่ผิด แม้ว่าจะเป็นที่ดินอัปมงคล เมื่อได้พบกับคนที่บุญหนักศักดิ์ใหญ่ ก็จะเปลี่ยนเรื่องร้ายให้กลายเป็นดี”

  “คุณชายหยาง ยินดีกับคุณด้วย”

  “คุณมองเห็นสิ่งเหล่านี้ หมายความว่าถ้าหากที่ดินผืนนี้ตกอยู่ในมือของคุณ จะต้องเป็นกำไรมหาศาลแน่นอน”

  “ดูเหมือนว่า คุณก็คือคนที่ดวงสมพงศ์คนนั้น”

  “ดี!”

  คุณชายหยางคู่ควรกับชื่อเสียง“!”

  “เป็นคนที่เปี่ยมด้วยสิริมงคลจริงๆ พวกเรายอมรับจริง!”บริเวณรอบๆ เถ้าแก่เหล่านั้นเริ่มปรบมือ

  มาถึงตอนนี้ พวกเขาก็ไม่ได้มีความคิดที่จะแข่งขันกับหยางคุนแม้แต่น้อยอีกต่อไป

  เนื่องจาก เมื่อครู่พวกเขาทุกคน ต่างก็ได้เห็นถึงสัญญาณอัปมงคลที่รุนแรง อย่างจริงแท้แน่นอนแล้ว

  “ ขอบคุณทุกท่านมาก”

  “แต่ว่ายังมีอีกข้อ ณ ที่แห่งนี้ผมยังขอความช่วยเหลือของทุกคน นั่นก็คือ ที่จะต้องยื่นหนังสือประมูล ยังไงก็จะต้องยื่น”

  “อย่างไรก็ตามคงไม่ให้ผมเข้าประมูลเพียงตระกูลเดียว ทำให้คนของเทศบาล นึกว่าผมกำลังผูกขาดเพียงคนเดียวใช่ไหม?” หยางคุนเอ่ยกล่าวหัวเราะชอบใจ

  ทุกคนรีบร้อนยิ้มกล่าว: “ข้อนี้พวกเราย่อมเข้าใจ”

  “พวกเราจะเข้าร่วมประมูล สร้างสถานการณ์ที่สมบูรณ์แบบขึ้นมา แต่ว่า ในหนังสือประมูล จะกดราคาที่ประมูลให้ต่ำ ทำให้คนของเทศบาล เลือกแค่คุณชายหยางเท่านั้น”

  “คุณชายหยาง ยินดีด้วยยินดีด้วย”

  “ที่ดินหรูอี้ตกเป็นของพวกคุณ ต่อไปมีโครงการอื่นๆ ก็พิจารณาถึงพวกเราด้วยล่ะ”

  หยางคุนกล่าวอย่างตื่นเต้น: “นี่มันแน่นอนอยู่แล้ว”

  “ทุกท่าน เรื่องเหล่านี้ พวกเราค่อยคุยรายละเอียดกันทีหลัง พวกคุณวางใจ พวกเราตระกูลหยาง ไม่มีทางทำให้พวกคุณผิดหวังแน่นอน”

  “ค่าน้ำชา อีกประเดี๋ยวผมจะให้คนนำมามอบให้”

  เมื่อพูดถึงตรงนี้ ทันใดนั้นเขาก็มองเห็นฉินเทียน

  ภายใต้ความลำพองใจ เขาเดินเข้ามา นำฉินเทียนลากไปอีกด้าน กล่าวเสียงเบา: “ประธานฉิน เรื่องมาจนถึงตอนนี้ ผมก็ไม่ปิดบังคุณเช่นกัน”

  “อันที่จริงแล้วผมมีเรื่องต้องการไหว้วานให้คุณช่วยเหลือ”

  ฉินเทียนเลิกหางคิ้วขึ้น: “งั้นหรือ? เรื่องอะไร?”

  หยางคุนกล่าวเสียงเบา: “ได้ยินมาว่าคุณมีความสัมพันธ์ที่ค่อนข้างดีกับอานกั๋วของเมืองหนานเจียง ตระกูลจ้าวแห่งเมืองหยุนชวน”

  “ผมอยากจอขอให้คุณ มีโอกาสช่วยนัดพวกเขา มาเจอพวกเราด้วยกันสักหน่อย”

  “คุณวางใจ หลังจากเรื่องสำเร็จแล้ว ผมมีของขวัญตอบแทนอย่างยิ่งใหญ่แน่นอน”

  “ถึงแม้ว่าตอนนี้คุณจะไร้วาสนากับที่ดินผืนนี้แล้ว แต่ว่า เมืองจิ่นหูนี้ ที่ดินมากมายก่ายกอง คุณชอบที่ดินผืนไหน บอกผมมาคำเดียว ผมช่วยเอามาให้คุณครอบครองได้”

  หืม?

  ในที่สุดฉินเทียนก็เข้าใจ ทำไมหยางคุนคนนี้ถึงได้อดทนอดกลั้นต่อตนเองครั้งแล้วครั้งเล่า

  แท้ที่จริงแล้ว เป็นเพราะอานกั๋วและตระกูลจ้าแห่งหยุนชวน

  หยางคุนมีเรื่องอะไรที่ต้องขอร้องอานกั๋วและตระกูลจ้าวนะ?

  ฉินเทียนอยากจะถามดูสักหน่อบ แต่ว่า หยางคุนรู้สึกตัวทันทีว่า ภายใต้ความลำพองใจของเขา ได้แพร่งพรายข่าวคราวก่อนกำหนดแล้ว

  เขาตบไหล่ของฉินเทียนและเปลี่ยนหัวข้อสนทนา: “เอาละ เรื่องนี้ พวกเราค่อยคุยรายละเอียดกันทีหลัง”

  “คุณวางใจ เอาเป็นว่าผมจะไม่ปฏิบัติอย่างไม่ยุติธรรมก็ถูกต้องแล้ว”

  “เวลาก็ดึกมากแล้ว พวกเรากลับเถอะ”

  ฉินเทียนกล่าว: “คุณชายหยาง คุณแน่ใจได้อย่างไร ว่าคุณเป็นคนที่ดวงสมพงศ์แต่เพียงผู้เดียวล่ะ?”

  “ไม่แน่ว่า ผมอาจจะปราบที่ดินอัปมงคลผืนนี้เอาไว้ก็ได้นะ?”

  “คุณว่าอะไรนะ?”หยางคุนอึ้งไปครู่หนึ่ง กล่าว: “คุณยังอยากจะทดสอบ?”

  ฉินเทียนยิ้มกล่าว: “ในเมื่อมาแล้ว ถ้าหากไม่ลองดูเสียหน่อย ก็จะน่าเสียดายเกินไปหน่อยไม่ใช่หรือ”

  พูดไป เขาก็เดินมุ่งหน้าไปยังค่ายกลสี่สัตว์เทวะอย่างสง่าผ่าเผย

  ค่ายกลสี่สัตว์เทวะ หลิวเต๋อและลูกศิษย์ทั้งสี่คน เมื่อเสร็จสิ้นภารกิจ ก็เตรียมที่จะเก็บของแล้ว เมื่อมองเห็นฉินเทียนเดินเข้ามา สีหน้าเปลี่ยนไปทันทีอย่างห้ามไม่ได้

  หยางคุนจ้องมองภาพด้านหลังของฉินเทียน ทันใดนั้นก็กล่าวเสียงดัง: “คุณฉินพูดถูกต้อง!”

  “ปรมาจารย์หลิว ก็ขอให้พวกคุณช่วยทดสอบเขาเป็นครั้งสุดท้าย!”

  ภายใต้การจับจ้องของทุกคน ฉินเทียนเดินเข้ามาใจกลางค่สยกลแล้ว เพียงแต่ว่า เมื่อเผชิญหน้ากับหลิวเต๋อ เขาไม่ได้คุกเข่าลง แต่สีหน้าที่แสดงออกแฝงไปด้วยใบหน้าที่เหมือนจะยิ้มแต่ไม่ยิ้ม

  หลิวเต๋อกล่าวเสียงขรึม: “คุกเข่าลงไป เพื่อรับการประเมินของเทพเจ้า”

  ฉินเทียนไม่ขยับ ราวกับว่าไม่ได้ยิน

  “คุณฉิน——”เถียหลินเฟิงและคนอื่นๆ ไม่เข้าใจว่าฉินเทียนต้องการทำอะไร ทั้งหมดสีหน้าล้วนเต็มไปด้วยความกังวล

  “คนแซ่ฉิน ปรมาจารย์ให้คุณคุกเข่าลง คุณไม่ได้ยินหรือไง?”

  “ยังไม่รีบคุกเข่าลงไปอีก!” หม่าจินหลงหน้าตาถมึงทึง

  ฉินเทียนยังคงเป็นทำเป็นทองไม่รู้ร้อน มองหลิวเต๋อด้วยใบหน้าที่เหมือนจะยิ้มแต่ไม่ยิ้มแบบนั้น

  บริเวณรอบๆ มังกรฟ้าพยัคฆ์เพลิงหงส์แดงเต่าดำ โมโหอย่างเดือดดาลพร้อมกัน

  “กล้าสบประมาทอาจารย์ จะทำให้แกตายไม่มีที่ฝังศพ!”

  ท่ามกลางเสียงตะโกนที่ดังขึ้น พวกเขาก็กวัดแกว่งกระบี่ไม้ท้อในมือ พุ่งโจมตีไปทางฉินเทียนพร้อมกัน

  “ปรมาจารย์หลิว——”ในตอนนี้เอง ในที่สุดฉินเทียนก็เอ่ยปากพูด

  เพียงแต่ว่า ที่เขาตะโกนออกมาไม่กี่คำเมื่อครู่ อยู่ๆก็พ่นเลือดออกมาคำหนึ่ง

  เลือดคำนี้ พ่นไปบนใบหน้าของหลิวเต๋อ

  หลิวเต๋อตกใจทันที รีบถอยไปด้านหลัง

  แต่ฉินเทียน หลังจากกระอักเลือด ทั้งตัวคน ก็ล้มหงายหลังไปทันที

  “คุณฉิน!”เถียหลินเฟิงตกใจทันที พุ่งตัวเข้าไปทันที นำฉินเทียนเข้ามากอดไว้ในอ้อมแขน

  เห็นแค่ฉินเทียน ที่ใบหน้าซีดขาว กัดฟันเอาไว้แน่น ไม่ได้สติ

  “คุณฉิน คุณรีบฟื้น!”

  “คุณเป็นอะไรไป? คุณอย่าทำให้พวกเราตกใจซิ!”อู๋เทียนสงใบหน้าเต็มไปด้วยความตื่นตระหนก

  คนอื่นๆที่เหลือ ต่างก็ชุลมุนวุ่นวาย

  ทำไมถึงเป็นแบบนี้?

  หม่าจินหลงได้สติกลับคืนมา หัวเราะชอบใจด้วยความลำพองใจ: “คนแซ่ฉินล่วงเกินเทพเจ้า แล้วลบหลู่ที่ดินอัปมงคลผืนนี้”

  ““ทุกท่าน เขาแม้แต่พวกคุณก็ยังเทียบไม่ได้ ไม่ว่าพวกคุณจะเป็นอย่างไร ก็ยังสามารถอดทนได้ครู่หนึ่ง”

  “คนแซ่ฉินอยู่ๆก็กระอักเลือดแล้วหมดสติไปทันที!”

  “หมายความว่าเขากับที่ดินผืนนี้ชงกัน!”

  ทุกคนเข้าใจแล้ว ถอนหายใจพร้อมกัน

  “เร็ว ส่งโรงพยาบาล!”

  เถียหลินเฟิงร้อนใจอย่างยิ่ง อู๋เทียนสง หลิวชั่นยังมีหลี่เฉิงหนาน แบกฉินเทียนขึ้นมา แล้วพาขึ้นรถอย่างร้อนรน

  “ผมเคยบอกไปแล้ว อย่าแข่งขันกับหยางคุน เฮ้อ ตอนนี้กลายเป็นแบบนี้ จะทำอย่างไรดี!”บนรถ สีหน้าของหลิวชั่นเต็มไปด้วยความเสียใจและโกรธแค้น

  เถียหลินเฟิงกล่าวเสียงขรึม: “คุณฉินไม่เคยทำเรื่องที่ไม่มีความมั่นใจมาก่อน ในนี้จะต้องมีลับลมคมในแน่นอน”

  “ทุกท่าน ตอนนี้สนใจอะไรมากขนาดนั้นไม่ได้แล้ว ไปถึงโรงพยาบาลก่อนแล้วค่อยว่ากันเถอะ”

  “ใช่ ไปโรงพยาบาลก่อน”

  “เฉิงหนาน ขับเร็วหน่อย!”

  หลี่เฉิงหนานขับรถ เนื่องด้วยไม่ชำนาญเส้นทาง ประกอบกับในใจร้อนรน ชนมั่วเหมือนกับคนที่ไม่มีหลักแหล่ง

  ในเวลานี้เอง เสียงหนึ่งก็ดังขึ้นอย่างเอ้อระเหย

  “ไม่ต้องไปโรงพยาบาล กลับไปที่โรงแรมเลยเถอะ”

  ทุกคนอึ้งไปครู่หนึ่ง ก็มองเห็นฉินเทียนที่เดิมทีสลบไสลไม่ได้สติ ลุกขึ้นมานั่งอย่างไม่คาดฝัน

  ใบหน้าของเขาอมยิ้ม เหมือนกับว่าไม่เคยเกิดเรื่องอะไรขึ้นมาก่อน

  “คุณฉิน แท้ที่จริงแล้วเกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่?”เถียหลินเฟิงเอ่ยถามด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความตกตะลึง

  ” ฉินเทียนยิ้มกล่าว: “ผมรู้การเล่นกลของหยางคุนกับที่เรียกว่าปรมารจารย์หลิวคนนี้แล้ว”

  “ผมจงใจหมดสติ เพื่อให้หยางคุนลดความระแวงลง”

  “ถ้าไม่ผิดจากที่คาดการณ์ไว้ละก็ หยางคุนจะต้องคิดว่า พวกเราทั้งหมดปล่อยวางการประมูลแล้ว การเข้าร่วมประมูลเป็นเพียงแค่การเล่นละครตบตาเท่านั้น”

  “ฉะนั้น จำนวนเงินที่เขาจะประมูล จะต้องไม่สูงแน่นอน”

  “ถ้าเป็นเช่นนี้แล้ว ขอเพียงแค่พวกเราแอบเข้าร่วมประมูลตามราคาปกติ ก็สามารถครอบครองที่ดินผืนนี้ได้อย่างราบรื่นแล้ว?”

  เถียหลินเฟิงและทุกคนได้สติกลับคืนมา กล่าวอย่างตื่นเต้น: “คุณจะใช้กลยุทธ์ปิดฟ้าข้ามทะเล กลยุทธ์ลอบตีเฉินชาง(ดึงดูดความสนใจ ฉกฉวยโอกาสบุกเข้าโจมตี)?”