ตอนที่ 349 นอนโรงพยาบาล

” ตรวจสอบทั้งร่างกายแล้วรึยัง ? ไม่ได้รับบาดเจ็บจริงๆ ใช่ไหม ? ” ชุยอี้ผิงเอ่ยถามอย่างร้อนใจอีกครั้ง

” นอกจากข้อมือร้าว อย่างอื่นก็ไม่มีปัญหาใหญ่อะไร ” ชุยซื่อหยวนตอบ

ชุยอี้ผิงพยักหน้าเบาๆ หันหลังดึงหยางโปออกไป ” เกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่ ? “

หยางโปเล่าเหตุการณ์เมื่อครู่ออกมาอย่างละเอียด

ชุยอี้ผิงพลันสองตาเบิกโพลง ” ใต้ฝ่าเท้าสวรรค์ ถึงกับมีคนถือดีขนาดนี้ ! นายแจ้งความไปรึยัง ? “

หยางโปพยักหน้า ” แจ้งความไปก่อนหน้านี้แล้ว พวกเขาน่าจะรีบมากันแล้วนะ ! “

” เรื่องนี้ฉันจะจัดการเอง ! ” ชุยอี้ผิงโบกมือ ส่งสัญญาณให้หยางโปกลับไปที่ห้องพักผู้ป่วย

ชุยซื่อหยวนนั่งอยู่หน้าเตียงผู้ป่วย ไม่ยอมนอนลงไป เขามองหยางโป ” ไม่ต้องนอนโรงพยาบาลหรอกมั้ง ? กลับไปรักษาแผลก็พอแล้ว นอนโรงพยาบาลอย่างนี้ไม่รู้ว่าจะดึงเรื่องช้าไปเท่าไหร่ ! “

 

หยางโปส่ายหน้า ท่าทีจริงจัง ” ต้องนอนโรงพยาบาลสังเกตการณ์สักหลายวันก่อนแล้วค่อยว่ากันอีกที ! “

ชุยซื่อหยวนอ้าปาก อยากจะพูด ท้ายที่สุดแล้วก็ไม่ได้พูดจาอะไรออกมา เขานอนไปบนเตียงผู้ป่วยทันที !

ไม่นานก็มีตำรวจรีบมาสอบถาม หยางโปเล่าเรื่องเมื่อครู่นี้อีกรอบหนึ่ง แล้วก็อธิบายอาการบาดเจ็บของชุยซื่อหยวน

ตำรวจคนนั้นท่าทางอายุห้าสิบหกสิบปี ดูแล้วค่อนข้างเจ้าเล่ห์ เอ่ยถามสถานการณ์โดยละเอียดแล้วก็ส่ายหน้า ” เจ้าหนุ่ม ในเมื่อติดหนี้ข้างนอก งั้นก็ต้องรีบคืนไปนะ ถ้าหากกู้ดอกเบี้ยแพง นายก็แจ้งความเพิ่มได้ แต่คดีครั้งนี้ เกรงว่าจะหาตัวคนร้ายไม่ง่ายขนาดนั้น “

กล่าวจบ ตำรวจมองหยางโป เห็นสีหน้าของหยางโปไม่พอใจ เขาก็ยังกล่าวว่า ” อีกอย่างนี่ก็ไม่ใช่คดีใหญ่ ทรัพยากรของพวกเราที่นี่นั้นมีจำกัด ดังนั้นถ้าหากพวกนายให้เบาะแสได้มากกว่านี้ ก็จะช่วยเหลือในการคลี่คลายคดีของพวกเราได้มากกว่าเดิมอีกด้วย “

 

หยางโปพยักหน้า เขามองไปทางตำรวจ แต่เขารู้สึกว่าอีกฝ่ายนั้นมีท่าทีไม่ใส่ใจอย่างมาก

จากนั้นก็ได้ยินอีกฝ่ายกล่าว ” อีกอย่าง ถ้าหากสืบเจอคนร้ายจริงๆ เกรงว่าโทษจะไม่หนักเท่าไหร่ นายต้องทำใจเอาไว้ให้ดีนะ “

หยางโปขมวดคิ้ว ” รับโทษมากที่สุดได้เท่าไหร่ ? เป็นคดีอาญาไหม ? “

” เกรงว่าจะต้องอ้างอิงเป็นคดีแพ่งนะ ” ตำรวจกล่าว

ชุยซื่อหยวนนอนอยู่บนเตียงตลอด มีแค่ตอนที่ตำรวจเอ่ยถาม เขาถึงจะเอ่ยตอบสองประโยค จากนั้นก็จ้องหยางโปอยู่ตลอด มองเขาที่ทำความเข้าใจรายละเอียดของคดี

 

ประตูห้องพักผู้ป่วยเปิดออก หยางโปหันหลังไปมองก็เห็นชายสวมชุดทหารเดินเข้ามา ชายคนนั้นอายุประมาณหกสิบปี ผมเป็นสีดอกเลา ตอนที่เดินเข้ามานั้นองอาจดุดัน กลิ่นอายทรงพลัง เขาสาวเท้าก้าวใหญ่เข้ามา กวาดสายตามองหยางโปครั้งหนึ่งแล้วก็มองชุยซื่อหยวน ” นายไม่เป็นอะไรใช่ไหม ? “

ชุยซื่อหยวนลุกขึ้นนั่ง ” พี่ชาย พี่เป็นอะไรไป ? “

ชุยซื่อหย่งกดชุยซื่อหยวนกลับลงไปบนเตียงพยาบาล ” นายรักษาตัวอย่างสบายใจเถอะ “

กล่าวจบ ชุยซื่อหย่งก็ส่งสายตาไปทางหยางโป เขามองหยางโปแวบหนึ่งแล้วก็พยักหน้าเบาๆ จากนั้นก็เอ่ยถามเหตุการณ์ของชุยซื่อหยวนจากตำรวจ

ชุยซื่อหย่งเป็นทหารเก่ามาหลายสิบปี เขามีประสบการณ์ล้นเหลือมาก รวมกับสังเกตเห็นตำรวจคนตรงหน้านี้ถึงกับห้อยยศพลตำรวจโท ขณะพูดจาก็ซื่อสัตย์จริงใจดี แต่ชุยซื่อหย่งยอดเยี่ยมกว่าหยางโปมาก มองปราดเดียวเขาก็เจอปัญหาแล้ว

 

” ลูกไม้พวกนี้ไม่ต้องเอามาใช้ต่อหน้าฉัน ฉันต้องการแค่ผลลัพธ์ ! ความคืบหน้าของเรื่องนี้ ฉันจะประสานงานร่วมกับอธิบดีกรมตำรวจของจิ่งเฉิงเอง ! ” คำพูดของชุยซื่อหย่งกึกก้องทรงพลัง ทำให้ตำรวจเฒ่าไม่กล้าพูดสักประโยค เขาทำได้แค่ตอบรับทุกอย่างไป

เมื่อส่งตำรวจออกไปแล้ว ชุยซื่อหย่งก็มองไปทางหยางโป ใบหน้าก็เผยรอยยิ้มออกมา เอ่ยถามอย่างนุ่มนวลว่า ” นายก็คือเสี่ยวโป ? “

หยางโปมองไปแล้วพยักหน้าน้อยๆ

ชุยซื่อหยวนหัวเราะ ” นี่คือคุณลุงใหญ่ “

หยางโปไม่ได้พูดจาแล้วก็ไม่ได้เอ่ยเรียก ชุยซื่อหยวนสีหน้าอึมครึมเล็กน้อย แต่ในที่สุดแล้วก็ไม่กล้าพูดมาก

ส่วนชุยซื่อหย่งที่มองหยางโปก็กล่าว ” ไม่เลวจริงๆ ! ไม่เคยเป็นทหาร ไม่เคยไปรบ ขาดแค่ท่าทีขึงขังไปสักหน่อย แต่ก็ทรงภูมิมากความรู้ดี ! “

 

ต่อมาประตูห้องพักผู้ป่วยก็ถูกเปิดออกอีกครั้งก็มองเห็นเงาร่างสีแดงแทรกเข้ามา หยางโปหันหลังไปก็มองเห็นหญิงวัยกลางคนคนนี้เอนอยู่หน้าเตียงผู้ป่วยของชุยซื่อหยวน เธอกอดชุยซื่อหยวนแล้วร้องไห้โฮ

” ซื่อหยวน คุณได้รับบาดเจ็บเหรอ ? บาดเจ็บตรงไหนกันแน่ ? ไอ้เวรตัวไหนถึงกับทำร้ายคุณ ? “

กล่าวจบ หญิงวัยกลางคนก็ก้มหน้าร้องไห้กระซิกๆ ทันที

หยางโปนั่งอยู่ด้านข้าง จ้องมองหญิงวัยกลางคน เขาจำอีกฝ่ายได้ คนผู้นี้ก็คือหลี่หมิ่น !

ชุยซื่อหยวนเอ่ยปาก ” ร้องไห้อะไร ฉันยังไม่ตายสักหน่อย แค่ข้อมือร้าวเท่านั้นเอง ! “

หลี่หมิ่นจ้องชุยซื่อหยวนอยู่ครู่หนึ่ง ” เกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่ ? “

หยางโปนั่งอยู่ด้านข้าง จำต้องเอ่ยอธิบายอีกครั้ง ชุยซื่อหยวนช่วยเอ่ยอธิบาย ” ตอนนั้นฉันไม่ทันระวัง เลยยืนอยู่ระหว่างขั้นบันได ฉันก็ควรจะยืนบนพื้นราบขวางพวกนั้นเอาไว้ แบบนี้น่าจะดีกว่าเยอะเลย “

 

หลี่หมิ่นหันมามองหยางโป ” ตอนนั้นนายกำลังทำอะไรอยู่ ? ทำไมนายไม่ไปขวางพวกมันเอาไว้ ? ชุยซื่อหยวนอายุมากขนาดนี้แล้ว ถ้าเกิดเป็นอะไรขึ้นมาจะทำยังไง ? “

หยางโปขมวดคิ้ว ไม่ได้พูดมากอะไร เขาเสียใจเรื่องการบาดเจ็บของชุยซื่อหยวนจริงๆ เขาคิดไม่ถึงว่าตอนนั้นชุยซื่อหยวนจะโผล่มา แล้วขัดขวางคนพวกนั้น !

หลี่หมิ่นกลับไม่ปล่อยหยางโปไป เธอเก็บความไม่พอใจต่อหยางโปมาโดยตลอด เมื่อเจอกับเรื่องแบบนี้เธอก็ยิ่งโกรธขึ้นมา ” นายก็จริงๆเลยนะ ถ้าหากนายไม่ติดหนี้ข้างนอก คนอื่นจะมาขวางประตูนายเหรอ ? ถ้าหากไม่ใช่นายไปก่อศัตรูข้างนอก คนอื่นจะทำแบบนี้เหรอ ? ก็ไม่รู้ว่าตอนเด็กคนเลี้ยงดูนายให้โตมายังไง ! “

หยางโปเดิมยังคิดจะปล่อยเรื่องนี้ไปไม่พูดถึงอีก แต่หลี่หมิ่นก็พูดแบบนี้กับเขาอีก ท้ายที่สุดแล้วยังลอบก่นด่าขึ้น ทันใดนั้นก็ทำให้เขาโมโหขึ้นมา

 

” เธอหุบปาก ! ” ไม่รอให้หยางโปโมโห ชุยซื่อหยวนก็โกรธจนตวาดออกมาแล้ว

หลี่หมื่นพลันชะงักไป เธอไม่รู้ว่าทำไมจู่ๆ ชุยซื่อหยวนก็เป็นแบบนี้

” คำพูดพวกนี้เธอควรจะพูดเหรอ ? ” ชุยซื่อหยวนตวาดใส่หลี่หมิ่น ปีนั้นเขาทอดทิ้งหยางโป และไม่ได้เลี้ยงดูหยางโป เรื่องนี้ทำให้เขาเสียใจมาหลายปีมาก เมื่อได้ยินหลี่หมิ่นพูดแบบนี้ ย่อมแทงใจดำเขามากทีเดียว !

ชุยซื่อหย่งยืนอยู่ด้านข้างก็ขมวดคิ้วแน่น น้องสะใภ้คนนี้ถือทิฐิเกินมากไป !

ชุยซื่อหยวนจ้องมองหลี่หมิ่นอยู่ครู่หนึ่ง แล้วแค่นเสียงเย็น ” ครั้งหน้าอย่าให้ฉันได้ยินคำพูดแบบนี้อีก ! “

หลี่หมิ่นชะงักไปครู่หนึ่ง จู่ๆ ก็เดือดดาลขึ้นมา ” ชุยซื่อหยวน หรือว่าฉันต้องยอมเป็นวัวเป็นม้าให้คุณอย่างงั้นเหรอ ? “

ชุยซื่อหยวนมองหลี่หมิ่น แต่ไม่ได้เอ่ยปาก

ต่อมาประตูห้องพยาบาลก็เปิดออก ชุยอี้ผิงเดินเข้ามา เขาสับเท้าเดินเข้ามาหลายก้าวถึงค่อยสังเกตเห็น

 

บรรยากาศกระอักกระอ่วนเล็กน้อยภายในที่นี่ เขามองชุยซื่อหย่ง เรียก ” พ่อ ” คำหนึ่งแล้วค่อยหันไปมองชุยซื่อหยวนและภรรยา

ชุยซื่อหยวนมองชุยอี้ผิง ” อี้ผิง สืบเจอใครกันแน่ ? พูดออกมาตรงๆ เลย ! “

ชุยอี้ผิงสีหน้าลังเล มองไปที่หลี่หมิ่นแวบหนึ่ง