โคลนที่มีกล้ามเนื้อแข็งแรงเหล่านี้ทั้งหมดลอยอยู่ในของเหลวสีแดงภายในหลอดทดลองราวกับเปียกโชกไปด้วยน้ำคร่ำในครรภ์ของแม่ หน้าตาของพวกเขาดูไร้เดียงสาและสงบราวกับยังอยู่ในครรภ์ และยังไม่ได้ ‘มาถึง’ โลกนี้
มีเพียงเครื่องมือวัดที่อยู่ด้านบนของหลอดทดลองเท่านั้นที่แสดงให้เห็นว่าพวกเขามีความพิเศษยังไง ทุกคนมีสถานะพลัง 3.0 พวกเขาสูงและมีกล้ามเนื้อแข็งแกร่งคล้ายเทพในตำนานกรีก
ถ้ามันเป็นหนึ่งหรือสองก็ยังคงดี แต่มีมากกว่าพันถึงหมื่น จำนวนมากเท่าที่จะมีในกองทัพ ถ้าพวกเขาถูกเปิดเผยต่อสาธารณชน มันจะกลายเป็นความหายนะ
ในความคิดของเขาโคลนเหล่านี้คือมนุษย์ทดลอง แต่ทันทีที่คิดดังกล่าว จิตใจของเฟิงหลินก็ทำเครื่องหมาย ‘x’ และส่ายหัวทันที
ยิ่งไปกว่านั้นเมื่อดูจากสถานะพลังของโคลนเหล่านี้ มันชัดเจนว่าพวกมันถูกดัดแปลงพันธุกรรมและเพียงตัวเดียวก็ต้องใช้เงินทุนจำนวนมาก เป็นไปไม่ได้ที่มนุษย์ทดลองจะถูกนำมาใช้ทดลองแค่ครั้งเดียว
มีความเป็นไปได้เพียงทางเดียวเท่านั้นที่เหลืออยู่!
กองทัพโคลน!
เฟิงหลินนึกถึงสิ่งที่ลุคพูดตอนนั้น แต่ลุคไม่สามารถเดาคำตอบได้ถูกต้อง
มันเป็นความจริงที่บริษัทยาไจแอนท์กำลังสร้างกองทัพ อย่างไรก็ตามสิ่งที่พวกเขากำลังสร้างไม่ใช่กองทัพธรรมดาวัตถุประสงค์ที่แท้จริงเหล่านี้คือการสร้างโคลนนิ่ง และกลายเป็นกองทัพโคลน
โคลนนิ่งเหล่านี้มีค่าพลังชีวิตถึง 3.0 แข็งแกร่งกว่ามนุษย์ธรรมดาที่มีค่าพลังชีวิตเพียง 0.1 ถึงสามสิบเท่า พอโคลนนี้ถูกสร้างและกองทัพได้ก่อตัวขึ้น พวกเขาจะไม่อ่อนแออย่างแน่นอนในระบบสุริยจักรวาล
สิ่งนี้แตกต่างจากกองทัพทางพันธุกรรมของผู้บ่มเพาะระหว่างดวงดาวที่ลุคพูดถึง โคลนเหล่านี้มีสถานะพลังที่น่ากลัว แต่อย่างมากที่สุดพวกเขายังถือว่าเป็นแค่ผู้บ่มเพาะฝึกหัด และยังไม่ถึงระดับของผู้บ่มเพาะดวงดาว
แต่ถึงกระนั้นก็น่ากลัวมากพอแล้ว
การโคลนถือเป็นข้อห้ามที่มนุษย์ทุกคนในยุคสมัยดวงดาวเห็นพ้อง ไม่ใช่แค่จักรวรรดิดวงดาวจะต้องเชื่อฟัง แต่แม้กระทั่งประเทศเล็กๆที่วุ่นวายและเขตดาวโกลาหลก็ยังต้องเชื่อฟังเช่นกัน
เพราะเมื่อการโคลนถูกตรวจสอบ มันอาจละเมิดหลักคำสอนของมนุษยชาติและทำให้ยีนของมนุษยชาติอ่อนแอลงและไม่เป็นระเบียบ หลังจากนั้นไม่นานมนุษย์ที่บริสุทธิ์อาจจะสูญพันธุ์ ดังนั้นเพื่อประโยชน์ของมนุษยชาติในอนาคตและเพื่อหลีกเลี่ยงความเสียหายที่อาจเกิดขึ้น มนุษย์ยุคระหว่างดวงดาวทุกคนจึงทำข้อตกลงเพื่อจัดแบบแผนระหว่างดวงดาวขึ้น
ถ้าประเทศใดสร้างโคลนอย่างลับๆ เมื่อความจริงถูกเปิดเผย ประเทศนั้นก็จะกลายเป็นศัตรูสาธารณะของมนุษยชาติทั้งหมดทันที แม้ว่ากาแลคซีจะกว้างใหญ่ขนาดไหนก็จะไม่มีสถานที่ให้เริ่มต้นใหม่ได้
…
หัวใจของเฟิงหลินเต็มไปด้วยความตกใจ เขาไม่ได้คิดว่าบริษัทยาไจแอนท์จะกล้าขนาดนี้ พวกเขาท้าทายการชุมนุมระหว่างดวงดาว พวกเขาวางแผนจะทำอะไรกันแน่?
คลื่นในใจของเขาเหมือนคลื่นในมหาสมุทร แต่การแสดงออกของเขาก็ยังคงสงบนิ่ง ไม่เคยเปิดเผยว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่
ในเวลานั้น แฟรงค์ก็เดินมาและพูดด้วยน้ำเสียงครุ่นคิด “ดูเหมือนคุณจะสามารถบอกได้ว่านี่คือโคลน คุณรู้หรือไม่ว่าพวกมันจะถูกนำมาใช้เพื่ออะไร?”
“พวกมันจะถูกนำไปใช้ในการทดลองใช่ไหมครับ?” เฟิงหลินลังเลอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่เขาจะพูด เขาเข้าใจถึงคุณค่าของการแกล้งโง่บ้างในบางครั้ง
“คุณยังเด็กเกินไป!” แฟรงค์หัวเราะ“ โคลนนิ่งเป็นสิ่งมีชีวิตที่ได้รับการดัดแปลงพันธุกรรมตั้งแต่ตอนปฏิสนธิ พวกมันสูญเสียความบริสุทธิ์ของยีนดั้งเดิมตั้งแต่แรก หากคุณต้องการทดลองผลของการใช้มนุษย์ธรรมดาที่ไม่ได้รับการดัดแปลงพันธุกรรมใด ๆ มันจะเป็นทางเลือกที่ดีกว่าอย่างไม่ต้องสงสัย เนื่องจากตอนนี้คุณเป็นสมาชิกหลักของบริษัทยาไจแอนท์แล้ว ผมก็ไม่จำเป็นต้องปิดบังอะไร ยังไงคุณก็ต้องรู้เรื่องนี้ไม่ช้าก็เร็ว ผมจะบอกความจริงกับคุณ ทุกสิ่งที่คุณเห็นที่นี่จะกลายเป็นกองทัพของเรา! “
“กองทัพโคลน?!” เฟิงหลินทำเหมือนเพิ่งและตะโกนด้วยความสับสน หลังจากนั้นเขาดูเหมือนจะคิดอะไรบางอย่าง “การสร้างกองทัพเราจะไม่ถูกลงโทษจากมนุษย์ทุกคนในยุคระหว่างดวงดาวหรอครับ? “
เขาแสร้งทำเป็นเป็นมือใหม่ที่ไม่รู้อะไร มีใบหน้าที่เต็มไปด้วยความตกใจและประหลาดใจ
แฟรงค์พยักหน้า เขาพอใจกับปฏิกิริยาของเฟิงหลินมาก จากนั้นเขาพูดด้วยน้ำเสียงสบายๆ “สิ่งต่างๆเช่นกฎหมายเป็นเพียงการทำเพื่อให้คนธรรมดาเห็น แม้ว่าจะมีการห้ามโคลนนิ่งแต่ในความเป็นจริงก็มีการผลิตพวกมันลับๆ เหตุผลที่เราจัดตั้งกองทัพเป็นเพราะระบบสุริยจักรวาลถือเป็นเขตดาวโกลาหล บริษัทยาไจแอนท์ของเราเป็นธุรกิจขนาดใหญ่ และนี่คือเหตุผลที่เราต้องการกองทัพที่ทรงพลังเพื่อปกป้องความปลอดภัย! “
เขาพยายามหลอกเด็ก?
เฟิงหลินหัวเราะอย่างเยือกเย็นในใจ แต่ใบหน้าเคร่งเครียด เขาพยักหน้าอย่างเข้าใจ
ตั้งแต่ต้นจนถึงปัจจุบันแฟรงค์ก็ยังไม่พบข้อบกพร่องใดๆในท่าทีของเฟิงหลิน ในที่สุดเขาก็ปล่อยวาง
“แต่สิ่งนี้เกี่ยวข้องกับหัวข้อการวิจัยของผมหรือครับ?” เฟิงหลินถามด้วยความงุนงง
แฟรงค์ยิ้มอย่างลึกลับ “มากับฉันสิ!”
เฟิงหลินตามหลังแฟรงค์ และเดินท่ามกลางโคลนเหล่านี้
หลอดทดลองมีอยู่ทุกหนทุกแห่ง คล้ายเสาหลักที่ตั้งอยู่
หลังเดินเข้ามาลึก เฟิงหลินก็ค้นพบกลุ่มคนชุดขาวที่เคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว และคอยสังเกตโคลนนิ่งอย่างใกล้ชิด จดบันทึกคร่าวๆราวกับว่าพวกเขากำลังวิเคราะห์อะไรบางอย่าง
เฟิงหลินครุ่นคิดเงียบๆ ดูเหมือนว่าการคาดเดาก่อนหน้านี้ของเขาจะถูกต้อง ที่นี่คือห้องปฏิบัติการใต้ดิน
แต่สิ่งที่ทำให้เขารู้สึกแปลกคือนักวิจัยที่นี่ทุกคนต่างมีผมสีบลอนด์และตาสีฟ้า พวกเขาคือชาวผิวขาวแท้ๆ
ทำไมบริษัทยาไจแอนท์ถึงรับแต่พนักงานผิวขาวเท่านั้น?
เฟิงหลินรู้สึกงงมาก แต่เขาไม่กล้าถาม เขาฝังความอยากรู้อยากเห็นไว้ในใจของเขา
“เฟิงหลิน ในอนาคตคนพวกนี้จะเป็นสมาชิกหน่วยงานของคุณ!” แฟรงค์ชี้ไปที่คนผิวขาวและแนะนำ
“อะไรนะ” เฟิงหลินประหลาดใจอย่างมาก
“นี่คือหัวกะทิของบริษัทยาเรา คนเหล่านี้ก็เหมือนกับคุณ อัจฉริยะที่แท้จริงที่เราคัดเลือกมาเป็นพิเศษ พวกเขาทั้งหมดเป็นผู้เชี่ยวชาญขอบเขตของทฤษฎีทางพันธุกรรม และตอนนี้ผมก็พร้อมที่จะส่งพวกเขาให้คุณ พวกเขาจะเป็นผู้ใต้บังคับบัญชาของคุณ คุณต้องมุ่งเน้นไปที่เทคนิคการสร้างยาผลึกผงที่สมบูรณ์ แนวคิดใหม่นี้มีโอกาสสูงที่จะประสบความสำเร็จมากกว่าเมื่อเปรียบเทียบกับวิธีเก่าๆที่เราเคยลอง มันอาจเป็นคำตอบในการแก้ไข เราจะสามารถทำลายความลับทางพันธุกรรมของยาโบราณและสร้างยาทางพันธุกรรมที่คนทั่วไปสามารถบริโภคได้ “แฟรงค์ยิ้ม
เฟิงหลินพยักหน้าและมองคนเหล่านี้
งั้นคนพวกนี้ก็คืออัจฉริยะทางพันธุกรรมที่บริษัทยาไจแอนท์คัดเลือก พวกเขาทั้งหมดถูกส่งมาห้องปฏิบัติการใต้ดินเพื่อทำงาน ไม่แปลกใจที่กองทัพปฏิวัติดาวอังคารจะไม่สามารถหาร่องรอยได้และคิดว่าพวกเขาหายไป
ในกรณีดังกล่าวบริษัทยาไจแอนท์ไม่ควรเป็นอันตรายอย่างที่กองทัพปฏิวัติดาวอังคารกล่าวไว้
อย่างไรก็ตามเฟิงหลินกลับรู้สึกทันทีว่ามีอะไรผิดปกติ คนผิวขาวกลุ่มนี้แปลกเกินไป
เป็นไปได้ไหมที่บริษัทไจแอนท์จะคัดเลือกแต่คนผิวขาวเท่านั้น? ถ้าเป็นเช่นนั้นทำไมถึงรับเขาเข้ามา?
ด้วยเหตุผลบางอย่างที่ยังไม่รู้ เขารู้สึกถึงความหนาวที่วิ่งแล่นลงกระดูกสันหลัง
เมื่อเปรียบเทียบกับเฟิงหลินแล้ว คนผิวขาวเหล่านี้ล้วนสับสนอย่างมาก มองเฟิงหลินด้วยใบหน้าแปลกๆ
“นี่คือคนที่จะเป็นผู้นำของเราหรอครับ?”
“เด็กเหลือขอนี่ทำยังไงถึงปีนไปถึงตำแหน่งนั่นได้?”
“เทคนิคการสร้างการยาผลึกผง? เรื่องไร้สาระนี้มันอะไรกัน”
…
คนเหล่านี้พึมพำ ไม่เชื่อในความสามารถของเฟิงหลิน
เฟิงหลินสงบนิ่งๆ
ในขณะนั้น ชายผิวขาววัยกลางคนที่อวบเล็กน้อย ทรงผมสไตล์ดวงจันทร์จากญี่ปุ่นเดินมาข้างหน้า ศีรษะของเขาล้าน แต่มีผมอยู่ด้านข้าง มัดเป็นมวยไว้ด้านหลัง ทำให้เขาดูค่อนข้างแปลกและตลก
เขาพยักหน้าและเอามือเท้าเอว “ผู้จัดการ เด็กนี่จะกลายเป็นหัวหน้าในหน่วยงานของเราได้ยังไง นอกจากนี้เขายังเป็นคนจีน เป็นไอพวกผิวเหลือง!เขามีความสามารถอะไร?”
สีหน้าของแฟรงค์เปลี่ยนไป “มัตสึชิตะ โอนิจิน ผมหวังว่าคุณจะไม่สงสัยในการตัดสินใจของผม เฟิงหลินได้คิดค้นวิธีสร้างยาผลึกผงขึ้นมาจากยาโบราณ แม้มันจะแค่ช่วงเริ่มต้นก็ตามเถอะ นี่คือเหตุผลที่ผมต้องการให้คุณทุกคนเป็นลูกน้องและช่วยเหลือเขาสุดความสามารถ เพื่อทำให้เทคนิคนี้สมบูรณ์แบบ! ผมไม่สนใจว่าจะเป็นใคร แต่ถ้าใครกล้าต่อต้านเฟิงหลินไม่ว่าจะเปิดเผยหรือลับหลัง คนๆนั้นจะถูกไล่ออก! “
“เป็นไปได้ยังไง?” นักวิจัยเหล่านี้ไม่กล้าเชื่อ ยาโบราณที่อัจฉริยะหลายคนพยายามค้นหาความลับแต่ล้มเหลวนั่น?!
แต่เนื่องจากแฟรงค์พูดเองกับปาก พวกเขาจึงไม่อาจปฏิเสธมันได้
แฟรงค์พูดความจริง เขาใช้ไมโครชิปของเขาเพื่อฉายภาพฉากที่เกิดขึ้นให้นักวิจัยเหล่านี้เห็น
หลังจากที่พวกเขาเห็นมัน พวกเขาก็ไม่แสดงความคิดเห็นอีกต่อไป ยอมรับความจริงที่ว่าเฟิงหลินจะกลายเป็นหัวหน้าของพวกเขา
“เฟิงซาน ผมขอโทษ ผมไม่ควรสงสัยคุณ โปรดยอมรับคำขอโทษของผมด้วย” ชายที่ชื่อมัตสึชิตะโอนิจินมาต่อหน้าเฟิงหลินและโค้งคำนับเขาอย่างสุดซึ้งแสดงคำขอโทษ
ดวงตาของเฟิงหลินลดลง ไม่ว่าเขาจะดูยังไง ชาวผิวขาวตรงหน้าเขาก็มีร่องรอยของคนญี่ปุ่นอยู่ทั่ว แต่ทำไมเขาถึงมีผมสีบลอนด์และตาสีฟ้า?
อย่างไรก็ตาม หน้าเขากลับยังคงยิ้ม “มัตสึชิตะ โอนิจิน ไม่จำเป็นต้องสุภาพมากนัก เราทุกคนจะเป็นเพื่อนร่วมงานกันในอนาคต โปรดชี้แนะผมด้วย!”
“ครับ!” มัตสึชิตะ โอนิจินโค้งตัวและพูดด้วยความเคารพ
“ผมควรทำยังไงต่อ” เฟิงหลินถาม
“คุณรู้ไหมว่าทำไมบริษัทของเราถึงว่าเรียกบริษัทยาไจแอนท์” แฟรงค์ตอบคำถามของเขาด้วยการถามคำถามอื่น
เฟิงหลินส่ายหัว เขารู้สึกว่าความลับสุดยอดของบริษัทยาไจแอนท์กำลังเผยออกมา
แฟรงค์ยิ้ม “นี่เป็นเพราะเราเชี่ยวชาญหนึ่งในเส้นทางตำนานเพื่อกลายเป็นยักษ์ ความพยายามของเราในการวิจัยทั้งหมดเป็นเพราะเราต้องการที่จะพัฒนายาทางพันธุกรรมที่สามารถทำให้มนุษย์สามัญสามารถกระตุ้นยีนยักษ์ในตัวพวกเขาได้ เราหวังที่จะสร้างยักษ์เกรดต่างๆที่เป็นผู้บ่มเพาะดวงดาว!”
หลังจากพูดแล้ว เขาก็นำยาที่มีสีเขียวและสีอำพันออกมา
“นี่คือน้ำยาพันธุกรรมยักษ์เขียวระดับต่ำเกรดสูง!ภารกิจของคุณคือการปรุงยาเหล่านี้ให้คนทั่วไปสามารถบริโภคได้ ถ้าคุณทำได้ เราจะได้รับการยกย่องจากมนุษยชาติในดวงดาวทุกดวง อนุญาตให้พวกเขาทั้งหมดปลุกยีนยักษ์เขียวขึ้น หากคุณทำสำเร็จผมจะอนุญาตให้คุณมีส่วนในพิธีกรรมเลือดศักดิ์สิทธิ์ ช่วยให้คุณกลายเป็นบุตรของพระเจ้า คุณจะเพลิดเพลินไปกับชีวิตที่ยาวนานและสถานะพลังของคุณจะพุ่งสูงขึ้น! ในเวลานั้นคุณจะได้รับการพิจารณาให้เป็นหนึ่งในพวกเรา ได้รับตำแหน่งระดับสูงในบริษัทยาไจแอนท์และได้รับโอกาสอันล้ำค่าที่จะเข้าสำนักงานใหญ่ของเราในโลกระหว่างดวงดาวเพื่อบ่มเพาะ”
“พิธีกรรมเลือดศักดิ์สิทธิ์?บุตรแห่งพระเจ้า?!” เฟิงหลินร้องอุทานออกมา
“ถูกต้องแล้ว” แฟรงค์ยิ้ม “นี่เป็นพิธีกรรมประเภทหนึ่งที่สามารถเปลี่ยนยีนของคุณ เปลี่ยนสายเลือดและปรับแต่งพันธุกรรมของคุณ ทำให้คุณกลายเป็นบุตรแห่งพระเจ้า!”
“เป็นไปได้ไหมว่าพวกเขาทั้งหมดเป็น … ” เฟิงหลินจ้องมองไปที่นักวิจัยชาวผิวขาวเหล่านี้ เห็นได้ชัดว่ารูปร่างหน้าตาและท่าทางต่างเชื้อชาติกัน แต่พวกเขาทั้งหมดมีผิวขาวผมบลอนด์และตาสีฟ้า
“ถูกต้องแล้ว! พวกเขาได้กลายเป็นบุตรแห่งพระเจ้าผ่านพิธีกรรมเลือดศักดิ์สิทธิ์แล้ วการมีผิวขาวผมบลอนด์และดวงตาสีฟ้าเป็นหนึ่งในคุณลักษณะที่ยิ่งใหญ่ที่สุดที่บุตรแห่งพระเจ้าต้องมี ยังไงก็ตามมีการเปลี่ยนแปลงที่ดีกว่าด้วยวิธีธรรมชาติ” เขาพูดด้วยความตื่นเต้น
เฟิงหลินยืนนิ่ง รู้สึกหนาวสั่นไปทั่ว หัวใจเขาแทบดีดเต้นหลุดออกมา