ตอนที่ 227 ชัยชนะ

บุตรอสูรบรรพกาล

บุตรอสูรบรรพกาล ตอนที่ 227 ชัยชนะ

 

“เจ้า… ” แทนที่จะดีใจที่ฝั่งตนเองมีคนมาเพิ่ม อสูรเต่ายักษ์กลับเหงื่อตกแทนที่เห็นอสูรปักเป้าลอยลงมาอยู่เบื้องหน้า ท่าทางเรื่องเขตแดนที่มั่นพร่ำบอกเจ้าปักเป้าจะไม่ได้เข้าหัวเลยแม้แต่น้อย

 

“อยู่เฉยๆเลยนะ ห้ามทําอะไรทั้งนั้น” อสูรเต่ายักษ์คํารามพลางลดหัวลงมาจ้องไปทางอสูรปักเป้า

 

“กิ้ว…” อสูรปักเป้าที่โดนสั่งร้องออกมาเบาๆ พลางขยับคลีปที่เหมือนเป็นปีกขนาดเล็กอย่างรวดเร็ว ทําเอาอสูรเต่ายักษ์ใจตุ้มๆ ต่อมๆเพราะไม่ทราบว่ามันจะควบคุมพลังได้แค่ไหน

 

“เอาเถอะ ยังไงก็จัดการศัตรูก่อน” อสูรเต่ายยักษ์ถอนหายใจหลังจากการสื่อสารไม่ได้ผลอย่างชัดเจน ดูท่าเจ้าปักเป้าจะตามพลังของเจ้าหนูไป๋จูเหวินมาแน่ๆถึงได้เข้ามาช่วยแบบนี้

 

ตูม!! อยู่ๆเจ้าคนระดับเจ้าสวรรค์อะไรนั่นก็ใช้กระบี่โจมตีใส่ร่างของอสูรปักเป้าเสียอย่างนั้น ทําเอาอสุรเต่ายักษ์ขนลุกทันที

 

“ไอ้เจ้าบ้า อย่าทําอย่างนั้น”อสูรเต่ายักษ์พยายามห้าม แต่เพราะพลังของระดับเจ้าสวรรค์นั้นไม่ธรรมดาเลย แม้แต่อสุรปักเป้าที่หนังเหนียวอย่างมากยังรู้สึกเจ็บจากการโจมตีของมันได้

 

“กิ้วววว” อสูรปักเป้าหรี่ตาลงราวกับกําลังโมโห มันกระพือปีก(คลีป)เร็วๆราวกับกําลังโวยวายอะไรบางอย่างก่อนที่มันจะ

 

ปุบ! อสูรปักเป้าพองตัวคืนขนาดจริงออกมาทันที ทําเอาเจ้าคนระดับเจ้าสวรรค์เบิกตากว้างด้วยความตกใจ มันรีบยกกระบี่ขึ้นป้องกันหนามพิษที่แทงเข้ามาหาตนเองอย่างรวดเร็ว แต่ความเร็วของการขยายตัวนั้นไวกว่ามาก ทําให้ร่างของมันโดนดีดกระเด็นไปกระแทกร่างของอสูรเต่ายักษ์ที่อยู่ฝั่งตรงข้ามทันที

 

“อัก” เมื่อกระแทกเกราะแข็งๆของอสูรเต่ายักษ์ร่างของคนระดับเจ้าสวรรค์ก็กรีดร้องออกมาราวกับกระดูกหัก แถมร่างกายของมันยังเต็มไปด้วยบาดแผลอีกต่างหาก แต่ที่มันตกใจที่สุดคือ ร่างของอสุรปักเป้าที่ยามนี้มีขนาดไม่ต่างจากภูเขาลูกหนึ่งเลย เมื่อเทียบกันแล้วอสูรปักเป้าตัวหนากว่าอสูรเต่ายักษ์เสียอีกมั้ง

 

“ไอ้เจ้าบ้า เจ้าหนูนั่นโดนลูกหลงขึ้นมาจะทํายังไง”เต่ายักษ์ตะโกนพลางกระทืบเท้าจนพื้นสั่นสะเทือน ยามนี้ทั้งคนและอสูรบนหลังของอสูรเต่ายักษ์ต่างอยู่ในอาการตกใจกันทั้งสิ้นเพราะอยู่ๆก็มีอสูรปักเป้ายักษ์ปรากฏตัวตรงหน้าอสูรเต่ายักษ์นั่นเอง

 

“พวกแกมันตัวอะไรกัน” ชายระดับเจ้าสวรรค์ว่าพลางใช้ดาบยันตัวเองขึ้นมา แม้จะได้รับบาดเจ็บสาหัส แต่มันก็มียาช่วยรักษาทําให้มันยังสามารถสู้ต่อได้

 

ผลัก! อสูรเต่ายักษ์เหยียบร่างของเจ้าคนระดับเทพสวรรค์อย่างไม่เหลือเยื่อใย ยามนี้มันเอาแต่จดจ้องไปที่อสูรปักเป้าอย่างเดียวเท่านั้น

 

“บ้าเอ้ย คลั่งแล้วจริงๆด้วย”เต่ายักษ์กัดฟันกรอดพลางมองที่หลังของตนครู่หนึ่ง อสูรระดับบรรพกาลตั้งแต่กําเนิดอย่างพวกมันนั้นมีความสามารถหนึ่งติดตัวมาตลอด แม้อสูรเต่ายักษ์จะไม่เคยเป็นแต่พวกมันสามารถทําให้ตัวเองอยู่ในสถานะคุ้มคลั่งได้ แม้จะไร้สติแต่พลังที่ออกมาก็มหาศาลจนน่ากลัว อสูรเต่ายักษ์ที่เคยเห็นการต่อสู้ระหว่างอสูรแมงมุมที่คุ้มคลังกับอสูรปักเป้าที่คุ้มคลั่งมากับตาแล้วบอกได้เลยว่ายามพวกมันโกรธนั้นน่ากลัวแค่ไหน

 

ปกติแล้วอสูรแมงมุมจะไม่ค่อยมีอาการคุ้มคลั่งนัก แต่อสูรูปักเป้านนั้นกลับตรงกันข้าม ความอดทนของมันค่อนข้างต่ำ อาจจเพราะมันมีสติปัญญาค่อนข้างต่ำก็เลยเข้าสถานะคลั่งได้ง่ายมาก ขอแค่มีอะไรทําให้มันรู้สึกอันตรายได้นิดหน่อยก็ทําให้มันคลั่งได้แล้ว ต้องขอบคุณความแข็งแกร่งของมันที่แทบจะไม่มีอะไรสร้างความเจ็บปวดให้อสูรปักเป้าได้เลยนอกจากพวกที่อยู่ระดับบรรพกาลด้วยกันเท่านั้น

 

“…..” อสูรเต่ายักษ์กลืนน้ำลายลงคออย่างยากเย็น คราวก่อนมีอสูรแมงมุมปะทะกันทําให้มันไม่ต้องเข้าไปหยุดพวกมันแต่อย่างไร แต่คราวนี้เหลือแต่มันเท่านั้นเสียแล้ว

 

“คิ้ว”เสียงที่ฟังดูน่ารักดียามนี้กลับดูน่ากลัวอย่างประหลาด แม้อสูรปักเป้าจะเป็นอสูรรูปร่างปลา แต่มันกลับเป็นอสูรธาตุลมที่น่ากลัวอย่างมากเลยทีเดียว

 

วูบบบบบบบ!! อยู่ๆอสูรปักเป้าก็อ้าปากออกดูดอากาศภายนอกเข้าไปในร่างกายอย่างต่อเนื่อง แม้แต่อสูรเต่ายักษ์ที่ตัวใหญ่ราวกับภูเขายังโดนดึงเข้าไปหาอสูรปักเป้าเลย ทําเอาอสูรเต่ายักษ์รีบสร้างเกราะน้ำคลุมร่างกายของมันเอาไว้ในทันทีเพราะนอกจากมันแล้วยังมีคนบนหลังมันอีกไม่น้อย

 

“แล้วเจ้าหนูนั่นล่ะ”อสูรเต่ายักษ์ว่าพลางมองไปรอบๆ เมื่อครู่ดูเหมือนไป๋จูเหวินจะไม่ได้โดนการขยายร่างของอสูรปักเป้าเล่นงาน ทําให้ยังรอดอยู่ได้ แต่หากอสูรปักเป้ารวบรวมอากาศรอบๆเสร็จมีหวังเจ้าหนูนั่นได้ตายจริงๆแน่

 

“พี่ปักเป้า”ไป๋จูเหวิ่นที่อยู่ด้านหน้าอสูรปักเป้าไม่มีทางเลือก มันรีบเรียกอสูรปักเป้าที่กําลังโมโหอย่างมากเอาไว้ แต่ท่าทางมันจะไม่ได้ฟังไป๋จูเหวินเลย

 

“เจ้าหนู เข้ามาหลบบนหลังข้า”อสูรเต่ายักษ์ว่าพลางมองอากาศที่ไหลเข้าไปในตัวของอสูรปักเป้าเรื่อยๆ

 

“เร็วเข้า อาการบ้าคลั่งแบบนั้นไม่มีใครหยุดได้หรอก”เต่ายัก์คํารามพลางเพิ่มเกราะน้ำของมมันขึ้นอีกชั้น แม้จะไม่ได้เป็นพวกเน้นป้องกันแต่อย่างไร แต่อสูรเต่าก็ยังเป็นเต่า พวกมันย่อมมีความสามารถด้านการป้องกันตัวมาตั้งแต่เกิด อย่างน้อยมันก็ควรจะรับท่าโจมตีของอสูรปักเป้าได้ละนะ

 

“ปล่อยข้า” อยู่ๆเสียงของคนระดับเจ้าสวรรค์ก็ดังมาจากใต้เท้าของอสูรเต่ายักษ์ มันเปิดตัวเสียอลังการทําไมทํากับมันอย่างกับลูกกระจ๊อกไปได้

 

“อะไรกัน ข้าไม่อยากเปลืองแรงปกป้องเจ้าหรอกนะ” เพราะโดนเหยียบเอาไว้เลยไม่รู้ว่าข้างนอกเกิดอะไรขึ้น ทันทีที่อสูรเต่ายักษ์ยกเท้าขึ้นมันก็รีบกระโดดออกไปทันที

 

ฟูมมมม ร่างของมันราวกับโดนแรงลมมหาศาลดูดเข้าไปหาปากของอสูรปักเป้าทันที่ที่กระโดดออกมา มันรีบหาทางลงพื้นแล้วใช้พลังทั้งหมดผืนแรงดูดของอสูรปักเป้าเอาไว้ให้ได้

 

“แย่ล่ะสิ”ไป๋จูเหวินว่าพลางพยายามฝ่าแรงดูดของอสูรปักเป้าไปหาอสูรเต่าให้ได้ แต่น่าเสียดายกําลังของมันแทบจะทําให้มันเดินไปข้างหน้าไม่ได้เสียด้วยซ้ำ

 

“มาแล้ว” อสูรเต่ายักษ์คํารามพลางสร้างเกราะน้ำขึ้นมาอีกชั้น คราวก่อนอสูรแมงมุมยังเจ็บเพราะท่านี้ของอสูรปักเป้าเลย ความรุนแรงนั้นยังตราตรึงใจของอสูรเต่ายักษ์ไม่หายไปไหน

 

ตูมมมม!! อากาศที่อสูรปักเป้าอัดเข้าไปในร่างถูกปล่อยออกมาในสภาพกระสุนวายุขนาดยักษ์ที่สมควรจะเปาอาณาจักรสักอาณาจักรหายไปได้ในพริบตา

 

“อากกกกกกก”ร่างของเทพสวรรค์ที่โดนกระสุนวายุบีบอัดพิเศษของอสูรปักเป้าเข้าไปแทบจะสลายกลายเป็นฝุ่นไปทันที่ที่แรงอัดมหาศาลกระแทกร่าง ทําเอาอสูรเต่ายักษ์กังวลอย่างมากว่ามันจะสามารถรับมือการโจมตีของอสูรปักเป้าโดยที่ไม่ทําให้คนในเมืองบาดเจ็บได้หรือไม่

 

พริบตานั้นในสมองของเต่ายักษ์ก็พลันนึกภาพของหญิงสาวคนหนึ่งที่ขอร้องให้มันช่วยปกป้องคนของนางขึ้นมาทันที แม้นางจะตายไปนานแล้วแต่คําสัญญาที่มันให้ไว้ยังคงไม่เปลี่ยนแปลง ทําให้อสูรเต่ายักษ์กัดฟันแน่นตาจ้องขเม็งไปยังกระสุนวายุบีบอัดของอสูรปักเป้าอย่างจดจ่อ มันแทบจะเค้นพลังอสูรทั้งหมดออกมาเพื่อรับกระสุนวายุลูกนี้ให้ได้

 

ตูม!! ทันทีที่กระสุนวายุของอสูรปักเป้าเปาใส่ร่างของอสูรเต่ายักษ์ เกราะน้ำที่อสูรเต่ายักษ์สร้างขึ้นมาเป็นชั้นที่ 4 ก็สลายไปทันที พร้อมกับชั้นที่ 3 และ 2 ที่โดนทําลายไปในพริบตาเดียวเช่นกัน เหลือเพียงชั้นในสุดที่อสูรเต่ายักษ์เค้นพลังออกมาเพื่อปกป้องตัวเองและเมืองบนหลังของมัน

 

ซ่า!! ในมุมมองของพวกเหม่ยหลินที่หนีเข้ามาอีกทางนั้นราวกับน้ำทั้งทะเลโดนเป่าขึ้นไปบนท้องฟ้าจนหมด พริบตานั้นราวกับทะเลทั้งผืนหายไปชั่วครู่หนึ่ง ก่อนที่น้ำทะเลจะร่วงลงมากลายเป็นฝนห่าใหญ่ในภายหลัง นับว่าน่าตกใจไม่น้อยที่อสูรเต่ายักษ์จะยังสามารถยืนหยัดรับการโจมตีนั้นของอสูรปักเป้าเอาไว้ได้ ส่วนอสูรปักเป้านั้นยามนี้เหลือสภาพขนาดตัวเท่าลูกบอลอีกครั้งพร้อมร่างที่หมดแรงนอนอยู่บนพื้น ท่าทางท่าโจมตีเมื่อครู่จะเป็นท่าโจมตีฉุกเฉินยามที่มันรู้สึกถึงอันตรายกระมัง พอคิดว่าอสูรแมงมุมที่รับท่าโจมตีนี้เข้าไปแล้วยังรอดมาได้ทั้งๆที่ไม่ได้สร้างเกราะป้องกันอะไรเลยนั้นช่างน่ากลัวจริงๆ

 

ตูม! อีกด้านหนึ่ง ประตูวังของอาณาจักรซุยก็ถูกคนของอาณาจักรอู๋ทําลายและแทรกซึมเข้ามาได้อย่างง่ายดาย เพราะบรรพบุรุษของมันที่เปรียบเสมือนอาวุธลับของอาณาจักรซุยไม่อยู่ ทําให้การป้องกันของอาณาจักรซุยหละหลวมมากๆ แต่น่าเสียดายที่จักรพรรดิของอาณาจักรซุยนั้นกลับไม่ได้อยู่ในวังอีกแล้ว

 

“หึ คอบก่อนเถอะไอ้พวกอาณาจักรอู๋ พอท่านบรรพบุรุษยึดอาณาจักรได้ ข้าจะขึ้นเป็นจักรพรรดิของอาณาจักรใหม่ที่ยิ่งใหญ่ที่สุด” จักรพรรดิของอาณาจักรซุยว่าพลางมองปราสาทของตัวเองที่โดนบุกเข้ามาจากบนยอดเขา มันไม่ได้ทราบเลยว่ายามนี้บรรพบุรุษของมันนั้นได้ตายไปแล้ว และไม่นานหลังจากนั้น อาณาจักรอู๋และชูก็สามารถยึดอาราจักรทั้งหมดที่มาเข้าโจมตีได้สําเร็จ โดยมอบอาณาจักรฮัวให้อาณาจักรชูไปครอบครองตามสัญญาส่วนอาณาจักรจงและอาณาจักรซุยกลายเป็นอาณาเขตของอาณาจักรไปโดยปริยาย

 

“ท่านเต่ายักษ์ ท่านเจอหรือไม่” หลายวันหลังจากนั้น เหม่ยหลินและอสูรเต่ายักษ์ยังคงตามหาไป๋จูเหวินที่น่าจะโดนลูกหลงของอสูรปักเป้าเข้าไปอยู่ แต่ไม่ว่าจะหาทั้งในน้ำหรือบนบกพวกมันก็ไม่เห็นวี่แววเลย

 

“นั่นมัน ยัยหนูเหม่ยหลินไม่ใช่หรือไง”ร่างของพยัคฆ์อัสนีปรากฏเบื้องหน้าอสูรเต่ายักหลังจากมันขึ้นมาจากทะเลแล้ว เพราะสร้อยคอของไป๋จูเหวินส่งสัญญาณมาว่าไป๋จูเหวินบาดเจ็บสาหัส ทําให้พวกมันรีบตามกลิ่นอายของพวกมันเองมาที่นี่

 

“เจ้าเสือ จูเอ๋อเป็นอย่างไรบ้าง”ไก่ฟ้าหงอนทองที่เร่งความเร็วมาเต็มแรงถามพลางร่อนลงจอดที่ชายหาดในทันที ไม่นานหลังจากนั้นทั้งราชสีห์เพลิง จิ้งจอกเหมันต์ แม้แต่ยังกรธรณีเองยังออกมาตรวจสอบว่าเกิดอะไรขึ้น

 

“พี่ไป๋เขา…”เหม่ยหลินที่พยายามตามหาไป๋จูเหวินอยู่นานก็ยังหาไม่เจอนั้นร้องให้จนขอบตาดําคล้ำ ไม่เว้นแม้แต่พวกหลินหลินเองก็พยายามออกตามหามาตลอด แต่ไม่ว่าจะอย่างไรก็ยังไม่เห็นร่องรอยของไป๋จูเหวินเลย

 

“เจ้าไม่ต้องกังวล”มังกรธรณีว่าพลางนําลูกแก้วสีเขียวออกมา มันคือลูกแก้วที่สร้างขึ้นมาตอนทําสร้อยคอให้ไป๋จูเหวิน เพราะพลังที่ใส่ลงไปนั้นจะสะท้อนพลังของไป๋จูเหวิน ทําให้มันสามารถทราบได้ว่าไป๋จูเหวินยังมีชีวิตอยู่หรือไม่ ซึ่งลูกแก้วสีเขียวนั่นยังคงส่องประกายเล็กๆออกมาอยู่ นั่นหมายความว่าไป๋จูเหวินยังไม่ตายนั่นเอง เพียงแต่พวกมันไม่สามารถสัมผัสพลังของสร้อยคอได้เลย นั่นก็คือไป๋จูเหวินยังรอดแต่อาจจะโดนเปาไปไกลจนพวกมันหาไม่เจอนั่นเอง