ตอนที่ 226 ขัดขวาง

บุตรอสูรบรรพกาล

บุตรอสูรบรรพกาล ตอนที่ 226 ขัดขวาง

 

“ต้านเอาไว้ กําลังเสริมของเรากําลังจะมาแล้ว” ที่หน้าวังของอาณาจักรจงยามนี้ปรากฏร่างของเหล่าคนของอาณาจักรอู๋และอาณาจักรชูจํานวนมากล้อมเอาไว้เป็นจํานวนมาก แถมหากมองดีๆแล้วกลับมีคนของอาณาจักรฮัวเข้าร่วมด้วยอีกต่างหาก

 

“ไอ้พวกเลว ออกมาซะดีๆ ” คนของอาณาจักรฮัวตะโกนออกมาพลางชี้ดาบมาที่ประตูวังอย่างดุดัน ทันทีที่ทราบข่าวว่าอาณาจักรจงเข้ายึดอาณาจักรฮัว คนของอาณาจักรฮัวก็หันคมดาบใส่อาณาจักรจงทันที ระหว่างความวุ่นวายนั้นอาณาจักรภู่และชูก็เข้าโจมตี เพียงแต่พวกมันไม่ได้ฆ่าคนของอาณาจักรฮัวทั้งหมด เหล่าเม่ทัพภายใต้การปกครองจองอู๋หมิงเสนอโอกาศแก้แค้นให้กับพวกมัน เพราะนอกจากยึดวังหลวงแล้วพวกอาณาจักรจงยังสังหารจักรพรรดิของอาณาจักรฮัวอีกด้วย ทําเอาเหล่าทหารต่างมีท่าที่โกรธแค้นอย่างมาก สุดท้ายคนของอาณาจักรฮัวส่วนหนึ่งก็เข้าร่วมกองทัพของอาณาจักรอู๋และเข้าโจมตีอาณาจักรจงตามคําสั่งของอู๋หมิงทันที

 

ตูม!! กําแพงวังของอาณาจักรจงโดนทําลายจนล้มลงนอนกับพื้น เพราะอกฝีมือส่วนใหญ่ถูกสั่งให้ไปยึดวังของอาณาจักรฮัวและยังไม่กลับมา ทําให้การป้องกันของวังอ่อนแอลงมาก เมื่อกองทัพหน้าของอาณาจักรอู๋มาถึง การที่วังหลวงให้แตกนั้นก็ขึ้นอยู่กับเวลาเท่านั้น

 

“อากกกก” ร่างของยอดฝีมือแห่งอาณาจักรจงโดนเสียบจนดาบทะลุร่างของมัน สร้างความฮึกเหิมให้กับกองทัพฝ่ายอาณาจักรอู๋ อาณาจักรชู และ ฮัว อย่างมาก เหล่ายอดฝีมือที่มากกว่า 5 เท่าตัวเข้าไปเล่นงานยอดฝีมือของอาณาจักรจงตายไปทีละคนๆราวกับใบไม้ร่วง

 

“หลังจากบุกอาณาจักรจงเสร็จ ก็เหลือแค่รอดักพวกที่จะกลับมาสินะ” แม่ทัพของฝั่งอาณาจักรอู๋ว่าพลางมองสภาพสนามรบตรงหน้า เพราะยอดฝีมือของอาณาจักรจงโดนฆ่าไปมากทําให้ทางเดินในวังมีแต่พวกมันทั้งสิ้น แถมพวกมันยังฆ่าคนส่งสารไปแล้วด้วย พวกที่ไปยึดวังอาณาจักรฮัวคงกลับมาโดยไม่รู้เรื่องอะไรแน่ๆ หลังจากยึดวังของอาณาจักรจงเอาไว้ได้ก็เหมือนพวกตนชนะสงครามแล้ว แต่ก็ต้องจัดการพวกอาณาจักรจงที่เหลือด้วยโดยการจับมาสอบถามที่ละคนว่าจะยอมมาอยู่กับอาณาจักรอู๋หรือจะตาย

 

“หลบเอาไว้ อย่าเข้าไปใกล้นะ” ทางด้านไป๋จูเหวินนั้นหลังจากเดินทางมาถึงทะเลของอาณาจักรอู๋ พวกมันก็ได้พบกับบุคคลปริศนาที่อยู่ๆก็โผล่ออกมาจากทะเลเสียอย่างนั้น แถมชุดที่มันใส่ยังเป็นชุดของอาณาจักรซุยอีกต่างหาก หรือมันคิดจะโจมตีอาณาจักรอู๋ด้วยตัวคนเดียวกัน?

 

นับว่าเป็นโอกาสดีมากจริงๆหากจะบุกอาณาจักรอู๋ตอนนี้ เพราะเหล่ายอดฝีมือและทหารแทบจะอยู่ที่อาณาจักรจงทั้งหมด แถมพวกมันไม่คิดอีกว่าจะมีคนกล้าฝ่าการป้องกันของอสูรเต่ายักษ์เข้ามาอีกด้วย หากเป็นเช่นนี้ชายแปลกหน้าคนนั้นย่อมสามารถฝ่าเข้าไปยังเมืองหลวงของอาณาจักรอู๋และเอาชนะพวกยอดฝีมือที่เหลือเฝ้าวังไม่มากได้อย่างไม่ยากเย็นเป็นแน่

 

วูบ! ดูเหมือนประสาทสัมผัสของคนระดับเหนือกว่าเทียนเซียนชะไม่ใช่เล่นๆ เพียงเดินเข้ามาใกล้ไป๋จูเหวินอีกไม่กี่สิบเมตรก็สัมผัสถึงไป๋จูเหวินได้ทันที และพริบตานั้นร่างของมันก็หายวูบเข้ามายืนอยู่ตรงหน้าไป๋จูเหวินเสียแล้ว

 

“พวกเจ้าเป็นใครกัน” ชายแปลกหน้าถามพลางมองไป๋จูเหวินและเหล่าอสูรแมงมุมอย่างประหลาดใจ มีผู้ฝึกฝนพลังวิญญาณ 2 คนกับคนธรรมดา 3 คนอย่างนั้นหรือ?

 

“พะ พวกเราเป็นคนของกลุ่มนักล่าอสูร”ไป๋จูเหวินตอบออกไปตามตรงเพราะมันยังสวมเครื่องแบบของกลุ่มนักล่าอสูรอยู่ มันกลัวว่าหากโกหกออกไปจะน่าสงสัยมากกว่า

 

“กลุ่มนักล่าอสูรของอาณาจักรอู๋งั้นเหรอ พวกเจ้ามาทําอะไรที่นี้” ชายแปลกหน้าถามอีกครั้ง พวกมันทั้งคู่ดูกลัวมันอย่างมาก ท่าทางจะสัมผัสพลังของมันได้แล้ว

 

“พะ พวกเรามาส่งของให้กลุ่มผู้ฝึกอสูรขอรับ”ไป๋จูเหวินตอบพลางถอยออกมาก้าวหนึ่ง ระดับพลังของอีกฝ่ายสูงกว่าระดับเทียนเซียนเสียอีก

 

“งั้นเหรอ” ชายแปลกหน้ารําพึงออกมาพลางเรียกกระบี่ออกมาจากมิติของมัน พริบตานั้นใบหน้าของไป๋จูเหวินก็ซีดเผือดเพราะเห็นได้ชัดเลยว่าอีกฝ่ายไม่มีความคิดจะปล่อยพวกมันไปเลย

“น่าเสียดาย ข้าไม่สามารถปล่อยให้เรื่องของข้าหลุดออกไปได้” พูดจบกระบี่ชายแปลกหน้าก็พุ่งวาบเข้าใส่ไป๋จูเหวินในทันที

 

เคร๊ง!! คนที่รับการโจมตีกลายเป็นหลินหลินที่แทรกตัวออกมาข้างหน้าแทน นางถูกไก่ฟ้าหงอนทองสอนมาอย่างจริงจังว่าต้องเป็นผู้รับการโจมตีของอีกฝ่ายเพราะนางเป็นคนที่มีเกราะอันแข็งแกร่งอย่างมากนั่นเอง

 

“หึม…” ชายแปลกหน้าประหลาดใจมากที่อยู่ๆเด็กสาวที่ไม่มีพลังวิญญาณกลับออกมารับกระบี่แทน แถมกระบี่วิเศษของมันที่คมไม่แพ้กระบใดๆบนโลกกลับไม่สามารถทําร้ายเด็กสาวตรงหน้าได้เลย

 

“เจ็บ” หลินหลินว่าพลางมองแขนของตนเอง มันไม่มีร่องรอยโดนบาดแต่อย่างไรเพียงแต่แรงกระแทกของกระบี่กลับแรงมากจนหลินหลินชาไปทั้งแขน

 

ฟุบๆๆๆๆ แม้จะทราบดีว่าต่อต้านไปก็เท่านั้น แต่หงเยว่ที่อยู่ด้านหลังก็ใช้ใยแมงมุมของตนจึงร่างของชายคนนั้นเอาไว้ก่อนจะตรงเข้าไปกัดอีกฝ่ายทันทีเพื่อฉีดพิษของนาง

 

“ได้ข่าวว่ากลุ่มนักล่าอสูรของอาณาจักรอู๋จะเลี้ยงอสูรไว้ใช้งานด้วย” ชายแปลกหน้าว่าพลางบีบคอของหงเยว่เอาไว้ แม้นางจะฉีดพิษใส่ร่างของมันแล้ว แต่ดูเหมือนพิษจะไม่ได้ผลเลยแม้แต่น้อย

 

“ไม่นึกเลยว่าอสูรพวกนั้นจะมีความสามารถกันเช่นนี้” ชายแปลกหน้ากล่าวชื่นชมพลางออกแรงบีบคอของหงเยว่มากกว่าเดิม

 

ตูม! ไป๋จูเหวินไม่รอช้าซัดฝ่ามือเพลิงพิโรธใส่อีกฝ่ายทันที ทําให้หยงเยว่สามารถรอดจากมือของอีกฝ่ายมาได้อย่างฉิวเฉียด

 

“…” ชายแปลกหน้าได้รับบาดเจ็บไม่มาก แต่ก็อดไม่ได้ที่จะแปลกใจกับความรุนแรงของฝ่ามือที่ไป๋จูเหวินซัดออกมา เจ้าหนูนี่ยังไม่ถึงระดับเทียนเซียนด้วยซ้ำ แต่ฝ่ามือเมื่อครู่อาจจะล้มพวกระดับเทียนเซียนขั้นต้นๆได้ในฝ่ามือเดียวเลย

 

“อย่างนี้นี่เอง เจ้าเป็นเมล็ดพันธุ์ใหม่ของอาณาจักรอู๋สินะ” ชายแปลกหน้ายิ้มอย่างพึงพอใจ แม้แต่ในอาณาจักรของมันยังหาคนเช่นไป๋จูเหวินไม่ได้ ช่างน่าอิจฉาอาณาจักรอู๋จริงๆ

 

เปรี้ยง! ร่างของเหม่ยหลินทะยานเข้ามาใส่ร่างของชายแปลกหน้าอย่างรวดเร็วและรุนแรง ฝ่ามือที่นางใช้ออกมาเมื่อครู่คือฝ่ามือปักษาข้ามสุธรนั่นเอง มันเป็นกระบวนท่าเข้าโจมตีที่ได้ผลมากทีเดียว

 

เปรี้ยงๆๆ ฝ่ามือของเหม่ยหลินกระแทกใส่ร่างของชายตรงหน้าอย่างต่อเนื่อง ฝ่ามือปักษาโรมรันถือเป็นกระบวนท่าที่รุนแรงที่สุดในกลุ่มวิชาของน้าไก่ฟ้า แต่เพราะพลังของทั้งสองฝ่ายต่างกันเกินไปทําให้เหม่ยหลินพอจะทําได้แค่สร้างความรําคาญให้อีกฝ่ายเท่านั้น

 

ตูมมม! ไป๋จูเหวินเห็นว่าฝ่ามือเพลิงพิโรธไม่ได้ผล ไป๋จูเหวินจึงใช้ท่าฝ่ามือเพลิงผลาญคล้อยสํานึกออกมาแทน พลังที่ดุดันนั้นทําให้ชายแปลกหน้าอดชื่นชมไม่ได้ แต่เมื่อปะทะกันกลับไม่อาจทําให้ชายแปลกหน้าถอยไปได้เลยแม่แต่ก้าวเดียว ทั้งๆที่พลังมันสมควรจะมากขึ้นเพราะการเลื่อนขั้นอย่างต่อเนื่องของไป๋จูเหวินแท้ๆ

 

“ยอดเยี่ยม” ชายแปลกหน้าว่าพลางปลดปล่อยพลังเซียนของตนออกมา

 

“หากพวกเจ้าได้ตอบโตยิ่งกว่านี้ คงมาถึงระดับเจ้าสวรรค์ได้สักวันแน่ๆ” ชายแปลกหน้าชมพลางหยุดฝ่ามือของทั้งเหม่ยหลินและไป๋จูเหวินเอาไว้ทั้งคู่

 

“เจ้าสวรรค์?”ไปจเหวินขมวดคิ้วอย่างสงสัย อะไรคือระดับเจ้าสวรรค์ หรือจะเป็นระดับที่ชายตรงหน้าอยู่กัน

 

“ช่วยไม่ได้นี่นา ก็มันไม่มีใครตั้งชื่อระดับที่มันเหนือกว่าเทียนเซียนเลย ข้าก็เลยตั้งมันเอง” ชายแปลกหน้าหัวเราะพลางปล่อยพลังออกไปกระแทกใส่ร่างของไป๋จูเหวินและเหม่ยหลินพร้อมกัน ทําเอาร่างของทั้งสองถอยไปกระแทกต้นไม้ด้านหลังในทันที

 

“เหม่ยหลินเจ้าพาพวกหลินหลินหนีไปทางอื่นก่อน”ไป๋จูเหวินเห็นว่าสู้ไม่ได้แน่เลยสั่งให้เหม่ยหลินพาพวกหลินหลินหนีไปก่อน

 

“แล้วท่านล่ะ” เหม่ยหลินถามด้วยความเป็นห่วง หากไป๋จูเหวินจะสละชีวิตละก็นางไม่ยอมแน่ๆ

 

“ข้าจะลงทะเลไป ลุงเทพผู้คุ้มครองของกลุ่มผู้ฝึกอสูรต้องช่วยข้าได้แน่”ไป๋จูเหวินว่าพลางมองไปทางทะเล หากลงไปในทะเลละก็ย่อมเจอกับอสูรเต่ายักษ์เป็นแน่

 

“เข้าใจแล้ว” เหม่ยหลินเห็นว่ายังมีทางรอด นางจึงพยักหน้าเข้าใจในทันที

 

“ไป”ไป๋จูเหวินสั่งพลางกระโดดเข้าไปโจมตีใส่ชายแปลกหน้าด้วยฝ่ามือประกายอัสนี้เพราะตอนนี้ไป๋จูเหวินต้องการเรียกร้องความสนใจจากอีกฝ่าย มันจึงเลือกการโจมตีรัวๆเพื่อให้ชายแปลกหน้าหันมาสนใจมันแทน

 

เปรี้ยง! ชายแปลกหน้าแทงกระบี่ใส่ไป๋จูเหวิน แต่แขนของไป๋จูเหวินเองก็แข็งแกร่งไม่ต่างจากร่างของหลินหลินทําให้มันสามารถป้องกันกระบี่ของอีกฝ่ายเอาไว้ได้

 

“ท่านลุงเต่า”ไป๋จูเหวินพุ่งตัวหนีไปทางทะเลพลางส่งเสียงเรียกเต่ายักษ์ในทันที

 

ตูมมม!! ราวกับรออยู่แล้ว อสูรเต่ายักษ์ที่ปกติจะลอยอยู่กลางทะเลกลับยืนอยู่ตรงชายหาดพอดี เมื่อได้ยินเสียงเรียกของไป๋จูเหวินมันก็เห็นว่าไป๋จูเหวินกําลังโดนคนที่มันปล่อยให้หนีรอดไปไล่โจมตีอยู่ มันจึงจัดกระสุนน้ำเข้าไปตุมหนึ่งเพื่อหยุดมันเอาไว้

 

“เชอะ” ชายคนนั้นส่งเสียงออกมาอย่างไม่พอใจเมื่อเห็นว่าไป๋จูเหวินได้อสูรเต่ายักษ์เข้าปกป้อง มันจึงหันหลังวิ่งไปอีกทางเพื่อไปจับหลินหลินเอาไว้แทน เห็นได้ชัดเลยว่าไป๋จูเหวินเป็นห่วงพวกเด็กสาวมากๆชายแปลกหน้าจึงคิดจะจับตัวพวกผู้หญิงก่อนเพื่อล่อไป๋จูเหวินออกมา

 

เปรี้ยง! ยังไม่ทันจะได้วิ่งไปไหนไกล กระสุนลมสายหนึ่งก็กระแทกใส่ร่างของมันจนมันต้องหยุดชะงักไปทั้งๆแบบนั้น

 

“คิ้ว”อสูรปักเป้าที่คราวนี้ทําอะไรถูกที่ถูกทางเสียที่ลงมาขวางมันเอาไว้ไม่ให้ไปไหน แม้กระสุนลมในร่างขนาดเล็กของอสูรปักเป้าไม่สามารถทําร้ายคนระดับเจ้าสวรรค์ได้ แต่ก็มากพอที่จะทําให้มันตามเหม่ยหลินและเหล่าแมงมุมไปไม่ทัน