บทที่ 1244 พายุเมฆาดาว

Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน

เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 1244 พายุเมฆาดาว

แปลโดย iPAT

กองทัพมดขนาดใหญ่เคลื่อนที่เข้ามาราวกับคลื่นยักษ์ที่ถาโถม ท่ามกลางพวกมันยังมีอสูรวิญญาณปะปนอยู่ด้วย

สิ่งสำคัญที่สุคดคือมันมีกระทั่งอสูรวิญญษณระดับสัตว์อสูรบรรพกาลและสัตว์อสูรแรกกำเนิด กลุ่มผู้อมตะยังสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายของวิญญาณอมตะป่าอีกมากมาย

“อสูรวิญญาณแรกกำเนิดห้าตัว!”

“พวกเราพึ่งพบโคมทมิฬแต่ตอนนี้พวกเขากลับพบกองทัพสัตว์อสูรอีกครั้ง!”

ผู้อมตะระดับแปดทั้งสามลอบสนทนา

พวกเขารู้สึกสังหรณ์ร้าย โชคของพวกเขาเลวร้ายเกินไป นี่เป็นเรื่องที่น่าสงสัยมาก

เว่ยหลิงหยางกล่าวอย่างเคร่งขรึม “ดูเหมือนนับจากนี้เป็นต้นไปพวกเราต้องพิจารณาถึงสถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุดเอาไว้”

“บัดซบ!” ไป่เฉินเทียนกำหมัดแน่น “ตั้งแต่เทพปีศาจบัวแดงทำลายวิญญาณชะตากรรม ดวงวิญญาณจำนวนมากสามารถหลบหนีจากประตูแห่งชีวิตและความตายและกลับสู่โลกใบนี้ หลังจากเทพปีศาจจิตวิญญาณปกครองโลก ดวงวิญญาณจำนวนมากกลายเป็นอสูรวิญญาณ ตอนนี้สวรรค์สีดำเต็มไปด้วยอสูรวิญญาณ เมื่อใดกันที่พวกเราจะสามารถกวาดล้างพวกมันและทำให้โลกกลับสู่รูปแบบที่ควรจะเป็น!?”

“เร็วๆนี้!” นักรบหมื่นมังกรกล่าว “หลังการต่อสู้บนภูเขาอี้เทียน ผีดิบอมตะส่วนใหญ่ถูกกำจัดไปแล้ว นั่นทำให้วิญญาณชะตากรรมฟื้นตัวขึ้นมาก ตอนนี้ยายชากำลังรักษามันอยู่และมีความคืบหน้าไปมากแล้ว”

เว่ยหลิงหยางส่ายศีรษะ “อย่าพึ่งพูดคุย กองทัพอสูรวิญญาณกำลังมา สิ่งสำคัญที่สุดคือพยายามหลบหนีจากพวกมัน!”

นักรบหมื่นมังกรถอนหายใจ “วิธีที่ดีที่สุดคือท่าไม้ตายอมตะของเทพปีศาจปล้นสวรรค์ ผนึกศักดิ์สิทธิ์ หรือผนึกภูตผีสามารถซ่อนตัวจากการตรวจจบของอสูรวิญญาณ แต่ตอนนี้มาลองใช้ท่าไม้ตายอมตะมังกรล่องนภาของข้ากันเถอะ”

“แต่ในกรณีนี้ข้าต้องนำคฤหาสน์วิญญาณอมตะสามหลังและผู้อมตะอีกมากมายไปพร้อมกันด้วย ดังนั้นเมื่อข้าใช้ท่าไม้ตายนี้ ข้าจะไม่สามารถต่อสู้ได้อีกสามวัน”

ทั้งสามพูดคุยและตัดสินใจใช้วิธีของนักรบหมื่นมังกร

เสียงมังกรคำรามดังขึ้น

ภูตมังกรจำนวนนับไม่ถ้วนบินออกไปและโอบล้อมคฤหาสน์วิญญาณอมตะทั้งสามหลังเอาไว้

จากนั้นพวกมันก็นำคฤหาสน์วิญญาณอมตะทั้งสามหลังออกเดินทาง

กองทัพอสูรวิญญาณส่งเสียงคำรามอย่างดุเดือด พวกมันพยายามปิดกั้นเส้นทางหลบหนีของฝ่ายตรงข้าม

แต่ท่าไม้ตายอมตะของนักรบหมื่นมังกรยอดเยี่ยมมาก มันนำคฤหาสน์วิญญาณอมตะทะลวงฝ่าวงล้อมของอสูรวิญญาณและสามารถหลบหนีได้สำเร็จ

อย่างไรก็ตามกองทัพอสูรวิญญาณยังไล่ล่าอย่างไม่ยอมแพ้ พวกมันติดตามไปอย่างใกล้ชิด

นักรบหมื่นมังกรไม่กล้าหยุดใช้งานท่าไม้ตายอมตะมังกรล่องนภา เขาต้องกัดฟันและกระตุ้นใช้งานมันอย่างต่อเนื่อง

ทั้งสองฝ่ายไล่ล่ากันเป็นเวลาหกชั่วโมงกระทั่งกองทัพอสูรวิญญาณยอมแพ้ไปในที่สุด

“หลังจากนี้ข้าต้องพักเป็นเวลาเจ็ดวัน ระหว่างนี้ทุกอย่างขึ้นอยู่กับพวกเจ้าแล้ว” ใบหน้าของนักรบหมื่นมังกรกลายเป็นซีดขาว ดวงตาของเขาเปลี่ยนเป็นสีแดงก่ำราวกับเขาใช้พลังงานเกินขีดจำกัด

หลังจากหยุดใช้ท่าไม้ตายอมตะ นักรบหมื่นมังกรก็ทิ้งตัวลงและเข้าสู่ห้วงนิทรา

ดวงตาของเขาปิดแน่นและยังกรนเสียงดัง

เสียงกรนของเขาเหมือนเสียงมังกรคำราม

ในขณะที่เขาหลับมีหมอกหนาทึบปรากฏขึ้นรอบตัวเขา

หมอกหนาเริ่มก่อตัวเป็นรังไหม สองชั่วโมงต่อมา รังไหมเปลี่ยนเป็นไข่มังกรสีขาวซีด

“เราสามารถหลบหนีจากกองทัพอสูรวิญญาณ”

“มันอันตรายจริงๆ”

“ท่าไม้ตายก่อนหน้านี้ดูเหมือนจะมาจากหนึ่งในสามผู้อมตะระดับแปดท่านนักรบหมื่นมังกร มันช่างยิ่งใหญ่และน่าเกรงขามอย่างแท้จริง ข้ารู้สึกอัศจรรย์ใจนัก”

ภายในคฤหาสน์วิญญาณอมตะทั้งสาม กลุ่มผู้อมตะโห่ร้องและยกย่อง

แต่ไป่เฉินเทียนและเว่ยหลิงหยางกลับมีการแสดงออกที่น่ากลัว

นักรบหมื่นมังกรหลับสนิท พวกเขาสูญเสียหนึ่งในสามผู้อมตะระดับแปด แต่พวกเขายังมาได้เพียงครึ่งทางเท่านั้น

คฤหาสน์วิญญาณอมตะทั้งสามชะลอความลงเร็วขณะที่กลุ่มผู้อมตะช่วยกับซ่อมแซมพวกมัน

ภายในเวลาสองชั่วโมง พวกเขาพบกับจิ้งจอกจิตวิญญาณอีกหลายฝูงและยังมีฝูงยุงหมี พวกเขาต่อสู้และล่าถอยโดยใช้พลังอำนาจของคฤหาสน์วิญญาณอมตะ

ทันใดนั้นริมฝีปากของไป่เฉินเทียนกลับยกตัวขึ้นเป็นรอยยิ้ม “ท่านเว่ยหลิงหยาง ข้าพบทุ่งราสวรรค์ขนาดใหญ่อยู่ห่างออกไปประมาณสามพันลี้จากที่นี่”

“โอ้ เช่นนั้นพวกเราจะไปพักที่นั่น” เว่ยหลิงหยางถอนหายใจ

คฤหาสน์วิญญาณอมตะทั้งสามหันหลังกลับและบินไปยังทุ่งราสวรรค์

“ที่นี่คือที่ใด? พวกเราปลอดภัยแล้วงั้นหรือ?” จ้าวเหลียนหยุนมองออกไปด้วยความตกใจเมื่อเห็นผู้อมตะหลายคนออกจากคฤหาสน์วิญญาณอมตะและเดินเข้าสู่ทุ่งราสวรรค์

อวี๋อี้เย่ซื่อยิ้มและอธิบาย “สวรรค์ทั้งเก้ามีจุดพิเศษของตัวมันเองเช่นเดียวกับปรากฏการณ์โคมทมิฬซึ่งเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของสวรรค์สีดำ แต่ในสวรรค์ทั้งเก้าก็มีบางสิ่งที่เหมือนกันเช่นหมูป่าเหินเวหาหรือทุ่งราสวรรค์”

“ทุ่งราสวรรค์จะก่อตัวขึ้นในสวรรค์ทั้งเก้า ทุ่งราสวรรค์เป็นทรัพยากรอมตะระดับหก สิ่งสำคัญที่สุดคือมันจะเติบโตขึ้นด้วยตัวของมันเองโดยไม่พึ่งพาพลังงานแห่งเต๋าหรือสิ่งมีชีวิตอื่นๆ แม้แต่หินก็ไม่มีอยู่ที่นี่ ดังนั้นทุ่งราสวรรค์จึงถือเป็นสถานที่ปลอดภัยและเหมาะสมกับการพักผ่อน เอาล่ะ ข้าต้องออกไปเก็บเกี่ยวเล็กน้อย นี่เป็นโอกาสที่หาได้ยาก”

อวี๋อี้เย่ซื่อออกจากหอคอยวายุอย่างรวดเร็ว

จ้าวเหลียนหยุนไม่สนใจสิ่งนี้ นางพึ่งกลายเป็นผู้อมตะและยังไม่รู้ถึงความสำคัญของทรัพยากรในการบ่มเพาะ นางคิดเพียงว่าจะช่วยหม่าหงหยุนได้อย่างไร

ตอนนี้ไม่มีผู้อมตะคนใดเหลืออยู่ในหอคอยวายุอีก

“ท่านไม่ไปเก็บเกี่ยวราสวรรค์งั้นหรือ?” จ้าวเหลียนหยุนมองปู้เจิ้งซือและถาม

ปู้เจิ้งซือยิ้ม “นิกายสั่งให้ข้าปกป้องเจ้า ข้าจะไม่ทิ้งเจ้าแม้แต่วินาทีเดียว”

จ้าวเหลียนหยุนเข้าใจสิ่งนี้ “หากเป็นเช่นนั้นข้าก็จะลงไปเช่นกัน”

ปู้เจิ้งซือส่ายศีรษะ “ขอบคุณสำหรับความคิด แต่กระทั่งเราจะยืนอยู่บนทุ่งราสวรรค์ ข้าก็จะไม่เก็บเกี่ยวพวกมัน นั่นจะทำให้ข้าเสียสมาธิ หากเกิดบางสิ่งขึ้น มันอาจสายเกินไป”

จ้าวเหลียนหยุนได้ยินสิ่งนี้และรู้สึกอบอุ่นอยู่ในหัวใจ นางกล่าวเบาๆ “ขอบคุณ”

ปู้เจิ้งซือส่ายศีรษะ “ไม่จำเป็นต้องสุภาพมากนัก เจ้าคือผู้นำนิกายรุ่นปัจจุบันของนิกายคฤหาสน์วิญญาณ มันเป็นหน้าที่ของข้า”

จ้าวเหลียนหยุนถอนหายใจและมองออกไปนอกหน้าต่างขณะกล่าวด้วยความเศร้าหมอง “สวรรค์สีดำอันตรายมาก แต่มันยังมีสถานที่ปลอดภัยเช่นนี้ นี่แสดงให้เห็นว่าสวรรค์มอบทางออกให้เราสายหนึ่งเสมอ เราจะประสบความสำเร็จในการเดินทางครั้งนี้อย่างแน่นอนใช่หรือไม่?”

ปู้เจิ้งซือไม่ลังเลที่จะตอบ “แน่นอน…”

แต่ในจังหวะนี้เขากลับลากเสียงยาวอย่างแปลกประหลาด

ในเวลาเดียวกันจ้าวเหลียนหยุนเห็นแสงดาวส่องประกายมาจากระยะไกล

นี่ไม่ใช่แสงที่เกิดจากโคมทมิฬ มันแตกต่างออกไป แสงชนิดนี้เหมือนแสงสะท้อนจากเพชรท่ามกลางความมืดมิด

จ้าวเหลียนหยุนถอนหายใจ “งดงามนัก”

“อันตรายมาก! ตามบันทึก มันคือ…” ปู้เจิ้งซือหน้าซีดและกล่าวด้วยเสียงสั่นเครือ

จ้าวเหลียนหยุนเริ่มตื่นตระหนก “อันใด?”

เป็นเพียงเวลานี้ที่เสียงเตือนของผู้อมตะระดับแปดดังขึ้น

กลุ่มผู้อมตะที่อยู่ด้านนอกรีบวิ่งกลับมาด้วยความโกลาหล

เว่ยหลิงหยางมองไปยังแสงดาวด้านหน้าและกล่าวด้วยท่าทางเคร่งขรึม “พายุเมฆาดาวขนาดใหญ่!”

ดวงดาวนับล้านดวงกำลังบินอยู่กลางอากาศเหมือนดาวตกบนท้องฟ้าในยามค่ำคืน

ท่ามกลางกลุ่มดาวเหล่านี้ยังมีประกายสายฟ้าแลบลั่นอยู่รอบๆ

พายุเมฆาดาวเป็นปรากฏการณ์ที่มักเกิดขึ้นในสวรรค์สีน้ำเงิน แต่เมื่อสวรรค์สีน้ำเงินพังทลายลง ดวงดาวจำนวนมากจึงร่วงหล่นลงสู่สวรรค์สีดำ

ดังนั้นพายุเมฆาดาวจึงเกิดขึ้นในสวรรค์สีดำเช่นกัน

“นี่เป็นครั้งแรกที่ข้าเคยพบเห็นพายุเมฆาดาวขนาดใหญ่โตเช่นนี้!” ใบหน้าของไป่เฉินเทียนกลายเป็นน่าเกลียด “ดูเหมือนทุ่งราสวรรค์จะป็นกับดักล่อลวงให้พวกเราเข้ามาพักผ่อนที่นี่!”