ฝากติดตามเพจด้วยนะครับ แฟนเพจ แจ้งเตือนก่อนใคร กดเลย

https://www.facebook.com/AncientStrengtheningTechnique

บทที่ 1467 – กลั่นยาเม็ดสวรรค์หยางระดับที่ 5

 

ถ้าหากเป็นในอดีตชิงสุ่ยคงไม่กล้ากล่าวคำล้อเล่นแบบนี้อย่างแน่นอน

 

ถานท่าย หลิงเยียนหันกลับมามองชายที่กำลังฉกฉวยโอกาสอย่างมืออาชีพ แต่ใจของเธอนั้นก็ไม่ได้รู้สึกปฏิเสธใดๆทั้งสิ้นเธอจึงพยักหน้าตามใจของเธอ

 

“ได้สิ แต่จะต้องไม่มีอะไรเกินเลยมากกว่านั้น”

 

เมื่อเห็นการตอบสนองของเธอ ชิงสุ่ยก็ค่อยๆเผยรอยยิ้มอย่างมีความสุข “แน่นอนว่าข้าจะต้องมารับประทานอาหารที่นี่บ่อยๆ และข้ารับประกันว่าจะไม่มีอะไรมากกว่านั้นแน่”

 

………

 

ชิงสุ่ยกลับมายังลานกว้างหน้าคฤหาสน์ของตนเอง ที่อยู่อาศัยของเขานั้นค่อนข้างใกล้กับที่อยู่อาศัยของถานท่าย หลิงเยียน ความจริงแล้วมันห่างกันเพียงแค่ไม่กี่ช่วงตึกธนัน เพียงแค่มองจากหน้าต่างก็สามารถมองเห็นหน้าต่างของอีกฝ่ายหนึ่งได้ทันที

 

เขารู้สึกว่าเขาได้รับประโยชน์มากมายจากการกระทำครั้งนี้ เขาได้ลงทุนลงแรงอย่างหนักเพื่อได้ใกล้ชิดเธอ และหวังว่าเธอจะไม่หันไปมองใครคนอื่น

 

กิจวัตรดั่งที่เคยทำเป็นประจำ เขากลับเข้าไปในดินแดนหยกยุพราชอมตะและเริ่มต้นการฝึกฝนตามปกติ เขารู้สึกผ่อนคลายอย่างยิ่ง น้ำหนักแห่งปัญหาที่อยู่ในใจของเขาค่อยๆลดลงในทุกวัน มันค่อยๆกลายเป็นภูเขาที่ไม่ได้สร้างแรงกดดันให้กับเขา

 

มันเป็นดั่งคำพูดที่ว่า “เมื่อปล่อยวางก็จะบรรลุธรรม” นี่คือสิ่งที่ชิงสุ่ยรู้สึกได้มากที่สุด เมื่อเขาสามารถปลดภาระที่ค้างคาอยู่ในใจได้ไม่ว่าจะเป็นเรื่องครอบครัวเรื่องส่วนตัว มันก็ทำให้ปราณจิตที่อยู่ในใจของเขาพัฒนาไปข้างหน้าอย่างฉับพลัน

 

โดยปกติคนเราจะใช้แรงกดดันในการก้าวไปข้างหน้าแต่เมื่อความกดดันหายไปจิตใจของคนเราก็จะรู้สึกผ่อนคลาย แน่นอนว่าแรงกดดันจะเป็นเรื่องที่ดีเพราะมันเป็นแรงผลักดันให้เราต้องต่อสู้เพื่อสิ่งต่างๆที่เราต้องการ และหวังว่าสักวันหนึ่งเราจะได้ตามที่หวัง

 

โดยปกติแล้วแรงกดดันจะมาใน 2 รูปแบบ ประการแรกก็คือแรงกดดันที่ทำให้เรากระตือรือร้นเพื่อจะทำให้ทุกอย่างง่ายขึ้นแต่เมื่อมีแรงกดดันสักวันหนึ่งมันย่อมหายไปและเราก็จะกลายเป็นคนขี้เกียจ เมื่อความทะเยอทะยานหายไปก็คงจะเป็นเรื่องยากที่จะทำให้เราพัฒนาไปข้างหน้าได้ ผู้คนจึงพยายามรังสรรค์เพื่อไขว่คว้าต่างๆเฉกเช่น “วีรบุรุษย่อมต้องการสาวงามมาอยู่ข้างกาย”มันเป็นความกระตือรือร้นที่ผลักดันให้คนคนหนึ่งพัฒนาตัวเองเพื่อให้แข็งแกร่งจนสามารถมัดใจหญิงสาวหรือทำให้ตัวเองมีพลังมากพอที่จะครอบครองหญิงสาวทั้งหลายที่ตัวเองต้องการ

 

ในรูปแบบที่สอง มันคล้ายคลึงกับเศรษฐีที่มีความกระหายอยากจะมั่งคั่งมากขึ้น เมื่อคนจนวันนึงได้กลายเป็นเศรษฐีแต่กลับไม่พึงพอใจในความเป็นอยู่ของตนเอง นั่นก็คือความต้องการอันมหาศาลที่อยากก้าวไปสู่ความยิ่งใหญ่ที่มากกว่าเดิม

 

ชิงสุ่ยคบคิดต่างๆนานาและรู้สึกได้ว่าถานท่าย หลิงเยียนมีแนวโน้มอย่างมากที่จะเป็นคนในรูปแบบที่หนึ่ง  ดูเหมือนตอนนี้เธอจะค่อยๆลบล้างเจตนาในการตามหาความจริงจากนิกาย 5 พยัคฆ์อมตะที่อยู่ในมหาทวีปอุดรเทวา

 

ซึ่งถ้าเป็นเช่นนั้น ชิงสุ่ยก็ไม่รู้ว่าเขาควรพอใจกับจุดที่ยืนอยู่หรือควรจะมุ่งหน้าขึ้นสู่ที่สูงขึ้นไปอีก

 

ภายในดินแดนห้วงมิติ เขายังคงครุ่นคิดซ้ำไปซ้ำมา ไม่ใช่ว่าเขาไม่พอใจกับการเป็นอยู่ในปัจจุบัน แต่อาจเป็นเพราะว่าเขายังไม่มีเจตนารมณ์ในการทำสิ่งใด

 

ชิงสุ่ยพยายามพัฒนาความแข็งแกร่งอยู่ตลอดเวลา ซึ่งตัวเขาเองก็ไม่เคยพอใจในความแข็งแกร่งที่คืบหน้าของตนเอง เขาไม่เคยปล่อยให้โอกาสหลุดมือหายไป และทุกคนก็รู้จักเขาดีว่าเขานั้นเป็นคนโง่ที่บ้าคลั่งในการต่อสู้

 

“ขจัดความคิด และบ่มเพาะจิตวิญญาณ”คำพูดเหล่านี้ปรากฏขึ้นในสมองของชิงสุ่ย มันเป็นคำพูดที่เขาเคยเรียนในตอนที่เขาอยู่ในโรงเรียนที่สอนเกี่ยวกับลัทธิเต๋าในโลกก่อนหน้า มันเป็นคำที่โลกจดจำ มันคือการรักษาความสมดุลของโลก

 

คำพูดสั้นๆทำให้เขารู้สึกถึงความเป็นธรรมชาติ

 

ชิงสุ่ยตัดสินใจที่จะเก็บเรื่องทั้งหมด เพื่อที่จะหาความสมดุลของตนเองเขาจำเป็นต้องกำหนดเป้าหมายที่เขาต้องการเสียก่อน เพราะมันเป็นเรื่องง่ายๆถ้าหากมีเป้าหมายคนเราก็จะมีความพยายามที่จะไปถึงจุดนั้น

 

ดังนั้น ชิงสุ่ยจึงตั้งเป้าหมายง่ายๆขึ้นในทันทีก็คือหนึ่ง  เขาจะต้องมีพลังพื้นฐานที่แข็งแกร่งกว่าถานท่าย หลิงเยียนแล้วทำให้เธอกลายเป็นผู้หญิงของเขาให้ได้ สองเขาจะต้องตามหาอี่เย่เจี้ยนเก้อและสร้างเทือกเขาปู๋โถว สำนักสวรรค์เร้นลับ และนิกายบงกชเทวะให้แข็งแกร่งกว่านี้

 

ชิงสุ่ยรู้ดีว่าภัยอันตรายยังคงวนเวียนอยู่รอบรอบตัวเขาตลอดเวลา หากวันนึงก็กำลังที่ยิ่งใหญ่อย่างนิกายห้าพยัคฆ์อมตะมาปรากฏตัวอีกครั้งไม่ว่าจะเป็นมหาทวีปมังกรอหังกาล มหาทวีปวิหคอัคคีร่ายรำ หรือมหาทวีปอู่เซียตะวันตก โศกนาฏกรรมย่อมเกิดขึ้นอย่างแน่นอน และเพื่อป้องกันไม่ให้มันเกิดขึ้นเขาจะอ่อนแอไม่ได้

 

มหาทวีปอุดรเทวาคือมหาทวีปที่เขาหมายตาว่าสักวันหนึ่งเขาจะต้องไปเหยียบมันให้ได้ แต่สำหรับตอนนี้คงต้องรออีกสักพักใหญ่ เขายังไม่พร้อมที่จะจากที่นี่ไป

 

ยาเม็ดสวรรค์หยางระดับที่ 5!!

 

ชิงสุ่ยตั้งสติและกลับมาเริ่มต้นในการกลั่นตัวยาเม็ดสวรรค์หยางระดับที่ 5 ด้วยสมุนไพรต่างๆที่เขาได้เก็บรวบรวมมา จึงทำให้เขาพร้อมที่จะเริ่มต้นในการกลั่นยาเม็ดสวรรค์หยางระดับที่ 5 เขาเริ่มทำใจให้สงบและเตรียมตัวเริ่มกระบวนการกลั่น และด้วยการที่เขาได้ทําการกลั่นยาเม็ดสวรรค์หยางระดับที่ 4 จนเชี่ยวชาญจึงทำให้เขามีความพร้อมอย่างมากในตอนนี้

 

ชิงสุ่ยทำตามคำแนะนำทุกอย่างตามตำราและใส่สมุนไพรอันมีค่าตามลำดับ หลังจากนั้นก็เริ่มต้นถ่ายเทพลังปราณลงไปในหม้อกลั่นและค่อยๆกลั่นจนกระบวนการทุกอย่างเป็นไปอย่างราบรื่น

 

ปังงง!!

 

ล้มเหลว!!

 

ชิงสุ่ยมองดูผงที่ปกคลุมเคลือบหม้อกลั่นยาเหล็กทองคำประกายเพลิง ก่อนที่เขาจะส่ายหน้าเริ่มทำการกลั่นตัวยาใหม่ เขาใช้เวลาในการกลั่น 2-3 วันต่อการทำ 1 ครั้งเพื่อปรับแต่งตัวยาเพียงแค่เม็ดเดียว และผลลงเอยทุกครั้งก็จบลงด้วยคำว่าล้มเหลว ตลอดความพยายามที่เขาทุ่มเทลงไปนั้นไร้ค่าและสูญหายไปพร้อมกับกาลเวลา

 

ปังง!!

 

ล้มเหลวเหมือนเดิม นี่เป็นวันที่ 6 แล้วตั้งแต่ที่เขาเริ่มต้นการกลั่น แม้ว่ามันจะยังคงล้มเหลวแต่ก็เหมือนกับทุกๆครั้ง ชิงสุ่ยไม่ได้มีความรู้สึกอะไรเลยนอกจากความรู้สึกเคยชิน เขาลดเวลาในการพักผ่อนลงเพื่อเพิ่มเวลาในการกลั่นยา จนกระทั่งอีก 6 วันผ่านไป แม้จะยังล้มเหลวแต่เขาเชื่อมั่นว่าทุกครั้งที่ทำทุกครั้งที่พยายามความสำเร็จจะใกล้เข้ามาเรื่อย

 

ติ๊งงงงงง!!

 

หลังจากที่ได้ยินเสียงแห่งความล้มเหลวซ้ำแล้วซ้ำเล่า ชิงสุ่ยก็มีความสุขเสียทีที่ได้ยินเสียงแห่งความสำเร็จ

 

มันได้ผล ยาเม็ดสวรรค์หยางระดับที่ 5 ได้เสร็จสิ้นสมบูรณ์แล้ว ทุกอย่างหลงเหลือเพียงแค่ความสงสัยว่ายาเม็ดสวรรค์หยางระดับที่ 5 จะแข็งแกร่งกว่ายาเม็ดสวรรค์หยางระดับที่ 4 เพียงใด? แน่นอนว่าในแต่ละขั้นนั้นความแตกต่างที่เกิดขึ้นมหาศาลราวกับช่องว่างขนาดใหญ่ของพลัง

 

ชิงสุ่ยค่อยๆเปิดหม้อกลั่นยาเหล็กทองคำประกายเพลิงและมองดูสิ่งของที่อยู่ภายในทันทีด้วยทักษะเบิกเนตรสวรรค์

 

ยาเม็ดสวรรค์หยางระดับที่ 5!!

 

ผลลัพธ์ : ปรับปรุงความแข็งแกร่งของร่างกาย เพิ่มพูนความแข็งแกร่งที่อยู่ในรากฐานของร่างกาย 3 สุริยา หรือความแข็งแกร่งโดยรวม 300 สุริยา นอกจากนี้ยังทำให้จุดตันเถียน เส้นลมปราณและอวัยวะภายในของผู้ใช้แข็งแกร่งและทนทานมากขึ้น

 

ทุกคนจะสามารถบริโภคมันได้ปีละ 1 ครั้งเท่านั้น และสามารถกินมันได้มากสุดในชีวิตพียงแค่ 10 เม็ดเท่านั้น โดยที่ยาในแต่ระดับจะไม่ทับซ้อนกัน

 

เงื่อนไขในการใช้งาน : ผู้ใช้จะต้องมีความแข็งแกร่งอย่างน้อยที่สุด  100 สุริยา

 

ผลของยาเม็ดสวรรค์หยางระดับที่ 5 เป็นสิ่งที่ชิงสุ่ยคาดเดาเอาไว้อยู่แล้ว เขารู้ดีว่าผลของมันจะต้องดีเลิศอย่างแน่นอนแล้วมันก็ทำให้เขาประหลาดใจในช่วงสั้นๆได้

 

ชิงสุ่ยมองดูยาเม็ดสวรรค์หยางระดับที่ 4 ที่เขาได้กลั่นเอาไว้ก่อนหน้านี้ทั้ง 4 เม็ด ชิงสุ่ยยังคงจำภาพที่เขาใช้มันครั้งแรกได้ ในเมื่อร่างกายของเขายังไม่พร้อมที่จะใช้ยาเม็ดสวรรค์อย่างระดับที่ 5 เขาจึงคิดว่าการใช้ยาเม็ดระดับที่ 4 คือเรื่องที่ดีกว่า

 

เขานำยาเม็ดทั้ง 4 ออกมา พร้อมกับยาเม็ดตำรับสี่ซึ่งจะช่วยเขาสามารถกินยาเม็ดชนิดนี้ได้มากขึ้นจากทีละ 1 เม็ดเป็นทีละ 4 เม็ด

 

หลังจากกินเข้าไปพลังรากฐานของเขาก็เพิ่มพูนขึ้นกว่า 10 สุริยา  มันอาจจะดูเป็นพลังที่เล็กน้อยมากในสายตาผู้อื่น แต่สำหรับตัวของชิงสุ่ยนั้นมันคือพลังในระดับที่น่ากลัว

 

เมื่อถึงเช้าวันรุ่งขึ้น ชิงสุ่ยก็นำยาเม็ดชนิดใหม่ที่เขาพึ่งกลั่นออกมาได้ไปมอบให้กับถานท่าย หลิงเยียน แม้ว่าตอนนี้ชิงสุ่ยจะมีมันไม่มากแต่เขาก็ไม่ได้กังวลเพราะเขาใช้เวลาในการกลั่นมันแล้วล้มเหลวเพียงไม่กี่ครั้งเองเท่านั้น