“ดูเหมือนว่าสาธารณะจะเดือดดาลอย่างมาก”

เซี่ยปิงขมวดคิ้วขึ้นมา การที่เขาใช้พลังอำนาจของไกอา เขาก็ได้ยินถึงเสียงของมนุษย์แต่ละคน ล่วงรู้ว่ามนุษย์กว่าสองล้านล้านคนที่ตนเองจับมากำลังรู้สึกหงุดหงิดอย่างมาก เกลียดชังตัวเขาที่เป็นอาชญากรที่อยู่เบื้องหลัง

สายตาของเขาเป็นประกายทันที หากเขาทำการกระตุ้นเล็กน้อยล่ะก็ จะสามารถเก็บเกี่ยวคะแนนความเกลียดชังได้อย่างมหาศาลแน่นอน

ในสายตาของเขา คนเหล่านี้เป็นเหมือนกับสมบัติที่สามารถเก็บเกี่ยวได้

ทว่าตอนนี้ยังไม่ใช่เวลาเก็บเกี่ยว รอให้อารมณ์ของคนเหล่านี้พุ่งทะยานไปจนถึงขีดสุด นั่นจะเป็นเวลาที่เขาจะเริ่มลงมือ

“ใช่สิ หากสร้างค่ายกลเทเลพอร์ตทางเดียวขึ้นมาในดาวเคราะห์ดวงนี้ ทำให้ดาวเคราะห์ไกอาและขุมนรกเชื่อมต่อกัน มันจะส่งผลให้มีผีอเวจีและเดม่อนจำนวนมากที่เข้ามารุกรานในดาวเคราะห์ดวงนี้”

ทันใดนั้น เซี่ยปิงก็มีความคิดชั่วร้ายผุดขึ้นมา ดวงตาของเขาเปล่งประกาย “หากเดม่อนและผีอเวจีจำนวนมากตายไป พลังงานวิญญาณที่สลายจากพวกมันก็จะหลอมรวมเข้ากับดาวเคราะห์ไกอาอย่างแน่นอน เพิ่มความเร็วการเจริญเติบโตของดาวเคราะห์ไกอาเป็นอย่างมาก”

เขาคิดถึงวิธีการที่จะใช้ประโยชน์จากพลังอำนาจของกลุ่มผู้คนเหล่านี้

บอกตามตรง จิตวิญญาณของผีอเวจีและเดม่อนนั้นทรงอำนาจยิ่งกว่ามนุษย์ถึงสิบเท่า หากสามารถที่จะกลืนกินพลังอำนาจทางจิตวิญญาณของผีอเวจีได้นั้น จากนั้นพัฒนาการของไกอาก็จะเพิ่มขึ้นมาอย่างไร้ที่สิ้นสุด

ยิ่งไปกว่านั้นนี่ก็เป็นการต่อสู้ที่เขาไม่ต้องการเข้าไปยุ่งเกี่ยว มนุษย์ภายในดาวเคราะห์ไกอาจะต่อสู้เอาตัวรอดตามธรรมชาติ นี่มันเทียบเท่าได้กับการจ้างวานกลุ่มของอันธพาลโดยไม่มีค่าใช้จ่ายก็ว่าได้

อีกทั้งเขาก็ยังสามารถจับตัวอาชญากรต่างๆจากทุกซอกทุกมุมของจักรวาลมา ให้อาชญากรเหล่านี้ช่วยสร้างสนามรบที่ดุเดือดเลือดพล่านขึ้นมาในดาวเคราะห์ดวงนี้ ทำให้สถานที่แห่งนี้กลายเป็นขุมนรกแห่งการฆ่าฟัน

และแน่นอนว่าค่ายกลเทเลพอร์ตนั้นก็จะต้องเป็นการเทเลพอร์ตชั่วคราว สามารถที่จะเปิดปิดได้ทุกเมื่อ

ไม่อย่างนั้นหากเป็นช่องทางที่เชื่อมต่อกับขุมนรกอย่างถาวรจริงๆ มันจะทำให้เดม่อนโผล่ออกมาอย่างต่อเนื่อง มนุษย์ในโลกนี้ก็จะไม่สามารถต้านทานได้ นี่จะเป็นการนำพาความตายไปสู่พวกเขา

“การที่ต้องการจะสร้างค่ายกลเทเลพอร์ตที่เชื่อมต่อกับขุมนรก ดูเหมือนว่าจะต้องเข้าไปศึกษาในโลกที่ลึกลับแห่งนั้นก่อน ค้นหาตำแหน่งพิกัดของขุมนรก” เซี่ยปิงหรี่ตามอง เขากำลังครุ่นคิดถึงความเป็นไปได้ของเรื่องนี้ เพราะว่าถึงอย่างไรนี่ก็เกี่ยวข้องกับอนาคตของตนเอง

หากไตน้อยพัฒนาต่อไปอย่างต่อเนื่อง เธอจะสามารถพัฒนากลายเป็นยอดฝีมือในระดับเซนต์ได้อย่างแน่นอน ซึ่งหากเป็นเช่นนั้น เขาก็จะมีผู้ช่วยที่ทรงอำนาจและไม่จำเป็นที่จะต้องกังวลเกี่ยวกับอันตรายอื่นๆอีก!

………….

ในเวลาเดียวกัน ห่างออกไปหลายปีแสงจากดาวรังอสูร ในช่วงเวลานี้มีหลุมหนอนขนาดใหญ่ปรากฏขึ้นมา ยานอวกาศกระโดดข้ามมิติออกมาเป็นจำนวนมาก มีมากกว่าหนึ่งพันลำ

ยิ่งไปกว่านั้นยานอวกาศแต่ละลำก็แข็งแกร่งมาก ไม่ใช่สิ่งที่ยานอวกาศจักรวาลปกติธรรมดาจะเทียบด้วยได้ ตัวยานนั้นมีกระบอกปืนมากมายที่ถูกติดตั้งไว้ เรียกได้ว่าเป็นปืนใหญ่เลเซอร์จำนวนนับไม่ถ้วน มีพลังอำนาจที่สามารถทำลายล้างสวรรค์และโค่นล้างแผ่นดิน

พลังอำนาจทางการทหารเช่นนี้ ทรงพลังพอที่จะทำลายอาณาจักรขนาดเล็กภายในจักรวาลได้ ทำลายดาวเคราะห์ได้นับสิบๆดวง

ทว่ายานอวกาศเหล่านี้ก็คือยานอวกาศของกลุ่มโจรสลัดผ้าคาดหัวสีแดงนั่นเอง เกือบที่จะส่งกองกำลังออกมาทั้งหมดที่นี่

และหนึ่งในยานอวกาศเหล่านี้ ไม่สิ ควรที่จะเรียกว่าเป็นป้องปราการลอยได้ มันมีขนาดใหญ่อย่างหาที่เปรียบไม่ได้ มันเป็นเหมือนกับเรือบรรทุกเครื่องบินในยุคเดินเรือ เป็นเหมือนกับดาวเคราะห์น้อยก็ว่าได้ นี่คือสำนักงานใหญ่ที่แท้จริงของกลุ่มโจรสลัดผ้าคาดหัวสีแดง

ทำไมกลุ่มโจรสลัดผ้าคาดหัวสีแดงถึงได้เดินทางไปมาเสมือนกับสายลมได้เสมอ ไม่มีใครสามารถตามหาสำนักงานใหญ่ของพวกเขาได้ เหตุผลก็เป็นเพราะว่าสำนักงานใหญ่ของพวกเขาก็คือป้อมปราการเคลื่อนที่นี้ สามารถที่จะเคลื่อนที่ไปในที่ต่างๆของจักรวาลได้ทุกเวลา

การที่พึ่งพาความสามารถในการเคลื่อนที่เช่นนี้ ไม่ว่าใครก็สามารถตามหารังของพวกเขาได้

ในช่วงเวลานี้ อู๋อันผู้นำกลุ่มโจรสลัดผ้าคาดหัวสีแดงรวมถึงสมาชิกระดับสูงจำนวนมากกำลังรวมตัวกันอยู่ที่ศูนย์บัญชาการของป้อมปราการนี้

พลังอำนาจของคนเหล่านี้น่าสะพรึงกลัวทีเดียว อย่างน้อยก็อยู่ในระดับแกนทองขั้นเริ่มต้นและมีผู้คนจำนวนมากที่อยู่ในระดับแกนทองขั้นสูงสุด

เรียกได้ว่าเดิมทีที่มีสมาชิกระดับสูง108คนนั้น ตอนนี้ถูกเซี่ยปิงสังหารไปสี่คน สามคนได้รับบาดเจ็บสาหัสและรวมกับความสูญเสียในสงครามอื่นๆนั้น ตอนนี้สมาชิกระดับสูงจึงหลงเหลือประมาณ90คน

นอกเหนือจากนั้น กลุ่มโจรสลัดผ้าคาดหัวสีแดงก็ยังมีรองผู้นำถึงสี่คน ตำแหน่งของพวกเขารองลงมาจากอู๋อันเพียงเท่านั้น มีพลังอำนาจที่อยู่ในระดับแตกฉานขั้นเริ่มต้น ทว่าอู๋อันนั้นมีพลังอำนาจอยู่ในระดับแตกฉานขั้นกลาง ใกล้ที่จะก้าวเข้าไปในระดับแตกฉานขั้นสูงเต็มที

ไม่ว่ากองกำลังนี้จะเคลื่อนทัพไปที่ใดของจักรวาล มันก็เป็นกองกำลังที่ไม่สามารถเพิกเฉยได้

“ในที่สุดก็มาถึง ที่นี่คืออาณาเขตดวงดาวที่อยู่ใกล้กับดาวรังอสูรหรือ? ทว่าท่านผู้นำ การที่พวกเรานำกองกำลังขนาดใหญ่นี้ออกมาโจมตีดาวรังอสูรและสังหารลูกศิษย์สายตรงของนิกายฟ้าดินนั้น นี่จะเป็นการท้าทายนิกายฟ้าดินอย่างแท้จริง หลังจากที่เสร็จสิ้นเรื่องนี้ บางทีพวกเราอาจจะอาศัยอยู่ในอาณาเขตดวงดาวที่อยู่ภายใต้การปกครองของนิกายฟ้าดินไม่ได้อีก” รองผู้นำคนหนึ่งพูดออกมาอย่างเคร่งขรึม

“เจ้าเด็กนั่นจะต้องตาย ไม่อย่างนั้นกลุ่มโจรสลัดผ้าคาดหัวสีแดงของพวกเราจะมีหน้าไปพบใครอีก จะต้องจัดการกับเขาเพื่อเป็นการเตือนคนอื่นๆไม่ให้คิดทำตาม ทำให้ผู้คนในจักรวาลเกรงกลัวพวกเรา” อู๋อันแสยะออกมา “เชื่อว่าพวกเจ้าก็คงจะรู้ดี ในช่วงเวลาหลายปีที่ผ่านมานี้ กลุ่มโจรสลัดผ้าคาดหัวสีแดงของพวกเราเผชิญกับความสูญเสียมามากมาย”

“อย่างแรกกลุ่มของอวี๋โค่วที่ได้นำกองกำลังออกไปได้หายไปอย่างไร้ร่องรอย จากนั้นก็มีโจรที่เข้ามาปล้นดาวเคราะห์ลับของพวกเรา ส่งผลให้ข้าวคริสตัลและผืนดินเก้าสวรรค์ปริมาณมหาศาลหายไป ทำให้พวกเราเผชิญกับความสูญเสียอย่างหนัก สูญเสียแหล่งรายได้ที่ยิ่งใหญ่ที่สุด อีกทั้งในตอนนี้พวกเราก็ยังหาผู้ที่กระทำความผิดนั่นไม่ได้”

เขากัดฟันอย่างแน่น มีน้ำเสียงที่เกลียดชังอย่างมาก

กลุ่มของอวี๋โค่วและคนอื่นๆที่หายไปนั้นเป็นเพียงแค่เรื่องเล็กน้อย เพราะว่าถึงอย่างไรเขาก็เป็นเพียงแค่ผู้อาวุโสในระดับเปลวไฟที่แท้จริงเท่านั้น ไม่ใช่ยอดฝีมือที่แท้จริงของกลุ่มโจรสลัดผ้าคาดหัวสีแดง

ทว่าสิ่งที่ทำให้กลุ่มโจรสลัดผ้าคาดหัวสีแดงเผชิญกับความสูญเสียจริงๆนั้น ก็คือการที่มีโจรเข้ามาปล้นดาวเคราะห์ไร้กฎหมายของพวกเขา ส่งผลให้ข้าวคริสตัลและผืนดินเก้าสวรรค์ปริมาณมหาศาลหายไป ทำให้พวกเขาไม่มีทางที่จะส่งสินค้าได้ตามกำหนด ละเมิดสัญญาระหว่างตระกูลที่ยิ่งใหญ่เป็นจำนวนมาก

ดังนั้นพวกเขาจึงต้องชดใช้สำหรับความเสียหายที่เกิดขึ้น ถือว่าเป็นการสูญเสียซ้ำสอง ตอนนี้ไม่รู้ว่ามีกลุ่มโจรสลัดจักรวาลจำนวนมากแค่ไหนที่เห็นพวกเขาในสภาพเช่นนี้และต้องการที่จะเข้ามาฉกฉวยผลประโยชน์

ในช่วงเวลาที่ผ่านมานี้ พวกเขาอยู่ในสภาวะที่มอดไหม้อย่างรุนแรง รับมือกับตระกูลที่ยิ่งใหญ่จำนวนมากที่พยายามจะฟ้องร้องพวกเขาสำหรับความเสียหายที่เกิดขึ้น เพราะว่าถึงอย่างไรการที่พวกเขาไม่มีข้าวคริสตัลนั้น มันก็เป็นการละเมิดสัญญาที่ได้ตกลงกันไว้

ดังนั้นด้วยเรื่องทั้งหมดนี้ที่เกิดขึ้น พวกเขาจึงไม่มีเวลาที่จะให้ความสนใจกับการหายตัวไปของอวี๋โค่วและคนอื่นๆ

แน่นอนว่าสำหรับอู๋อันนั้น สิ่งที่สำคัญที่สุดซึ่งไม่มีอะไรเหนือไปกว่านั้นก็คือแกนดาว นี่เป็นสมบัติสำคัญที่ตัดสินใจอนาคตของเขา เมื่อใดที่ได้ครอบครอง ในอนาคตเขาก็จะสามารถเลื่อนขั้นไปในระดับกฎเทวรูปได้อย่างแน่นอน

หากพัฒนาไปในระดับกฎเทวรูปได้ จากนั้นเขาก็จะเป็นใหญ่ในจักรวาล ไม่มีที่ไหนที่เขาจะไปไม่ได้ ไม่มีอะไรที่จะสำคัญไปกว่าแกนพลังฉีของเขา ต่อให้จะต้องทอดทิ้งกลุ่มโจรสลัดผ้าคาดหัวสีแดงนี้ไปเพื่อแลกกับแกนดาวนั้น เขาก็ยังคงเต็มใจที่จะทำ

“ท่านผู้นำพูดถูก”

“ช่วงที่ผ่านมานี้กลุ่มโจรสลัดผ้าคาดหัวสีแดงของพวกเราเผชิญกับเรื่องที่เลวร้ายมามากมาย ความเจริญรุ่งเรืองของพวกเราถดถอยลงไปมาก ไม่ได้มีความน่าเกรงขามเหมือนกับก่อนหน้านี้ คนอื่นๆต่างก็เห็นพวกเราเป็นแมวป่วย”

“จะต้องเชือดไก่ให้ลิงดู ควรที่จะใช้โอกาสนี้ในการสังหารลูกศิษย์สายตรงของนิกายฟ้าดินคนนี้ ทำให้ผู้อื่นหวั่นเกรงพวกเรา ทำให้กลุ่มอิทธิพลอื่นๆไม่กล้าที่จะทำอะไรสิ้นคิดกับพวกเรา”

“ว่ากันว่าดาวเคราะห์ดวงนั้นมีทรัพยากรที่ดีเหมือนกัน อุดมสมบูรณ์อย่างมาก มีสมบัติมหาศาล เพียงพอที่จะชดเชยให้กับความสูญเสียของพวกเราได้”

“ฆ่าฟัน จากนั้นก็ยึดครอง จะต้องทำให้เจ้าลูกศิษย์ของนิกายฟ้าดินที่โง่เขลานั่นได้รู้ซึ้งถึงความน่าสะพรึงกลัวของพวกเรากลุ่มโจรสลัดผ้าคาดหัวสีแดง ให้เขาได้จดจำไปตลอดทั้งชีวิต”

“หึหึ ข้ารอเวลานี้มานานแล้ว ข้าจะทำให้กลุ่มของผู้คนในดาวรังอสูรได้ล่วงรู้ถึงความน่าสะพรึงกลัวของพวกเรา ทำให้ชื่อเสียงของพวกเรากลุ่มโจรสลัดผ้าคาดหัวสีแดงดังก้องไปทั่วทั้งจักรวาลอีกครั้ง!”

โจรสลัดผ้าคาดหัวสีแดงจำนวนมากต่างก็ส่งเสียงคำรามออกมา ยานอวกาศจำนวนนับพันและป้อมปราการเคลื่อนที่กำลังบินออกไปอย่างรวดเร็ว เข้าไปใกล้ดาวรังอสูรมากขึ้นเรื่อยๆ