ในช่วงเวลานี้ ณ สำนักงานใหญ่ของนิกายฟ้าดินภายในดาวฟ้าดิน

ผู้อาวุโสจำนวนมากของนิกายฟ้าดินก็ได้รับข่าวว่ากลุ่มโจรสลัดผ้าคาดหัวสีแดงได้ระดมพลกองกำลังออกมา เพราะว่าการเคลื่อนไหวขนาดใหญ่ของกลุ่มโจรสลัดผ้าคาดหัวสีแดงนี้ ไม่สามารถที่จะปิดบังความจริงไปจากเครือข่ายของนิกายฟ้าดินได้

ทว่ารอให้พวกเขาได้รับข่าวนี้ กลุ่มโจรสลัดผ้าคาดหัวสีแดงก็ได้ไปถึงบริเวณใกล้เคียงกับดาวรังอสูรแล้ว

“เจ้าว่าอย่างไรนะ? กลุ่มโจรสลัดผ้าคาดหัวสีแดงส่งกองกำลังออกมาทั้งหมด วางแผนที่จะโจมตีดาวรังอสูร? นี่มันเป็นไปได้อย่างไร กลุ่มโจรสลัดผ้าคาดหัวสีแดงเหล่านั้นเสียสติไปแล้วรึ กล้าที่จะท้าทายนิกายฟ้าดินของข้ารึ?!” หลังจากที่ผู้อาวุโสอวี๋ซิวจวินได้รับข่าวนี้ เขาก็ตกใจอย่างมาก

เขาไม่คาดคิดว่ากลุ่มโจรสลัดผ้าคาดหัวสีแดงจะอาจหาญถึงเพียงนี้ กล้าที่จะท้าทายอำนาจของนิกายฟ้าดินโดยตรง กลุ่มของโจรสลัดจักรวาลเหล่านั้นไม่เกรงกลัวว่านิกายฟ้าดินจะพิโรธขึ้นมาจริงๆและไล่ล่าตามพวกเขาไปทุกหนแห่งหรือ?

แน่นอนว่าหากนี่เป็นการโจมตีดาวเคราะห์ธรรมดาทั่วไปก็คงจะไม่ใช่เรื่องใหญ่นัก แต่ปัญหาก็คือว่าภายในดาวรังอสูรที่กลุ่มโจรสลัดผ้าคาดหัวสีแดงเหล่านั้นต้องการโจมตีนั้น มีเซี่ยปิงซึ่งเป็นลูกศิษย์ของเซนต์อสูรมืดอยู่ที่นั่น!

หากเกิดอุบัติเหตุใดๆขึ้นมากับเซี่ยปิง ต่อให้จะได้ครอบครองสมบัติมามากแค่ไหน ก็ไม่สามารถที่จะชดเชยให้กับความสูญเสียนี้ได้

“ข่าวนี้เป็นความจริง”

ลูกศิษย์คนหนึ่งพูดออกมา “ในตอนนี้กลุ่มโจรสลัดผ้าคาดหัวสีแดงได้ปรากฏตัวขึ้นมาในบริเวณใกล้เคียงกับดาวรังอสูร กองทัพของพวกเขากำลังจะรุกรานเข้าไปที่ดาวดวงนั้น ว่ากันว่ากลุ่มโจรสลัดผ้าคาดหัวสีแดงเดือดระอุเพราะว่าศิษย์พี่หยางปู๋ตงได้ทำการฆ่าฟันในดาวรังอสูร ทำลายผู้นำของตระกูลใต้ดินทั้งหมดภายในคราวเดียวรวมถึงกำจัดสมาชิกระดับสูงของกลุ่มโจรสลัดผ้าคาดหัวสีแดงไปถึงสี่คนเช่นกัน ทว่าก็มีสามคนที่หลงเหลืออยู่และหลบหนีออกไปได้ จากนั้นก็รายงานเรื่องนี้กลับไป ดังนั้นกลุ่มโจรสลัดผ้าคาดหัวสีแดงจึงเดือดระอุอย่างมาก ต้องการที่จะส่งกองกำลังทั้งหมดออกมาล้างแค้นให้ได้”

เขาได้อธิบายอย่างเรียบง่ายถึงสาเหตุของเรื่องที่เกิดขึ้นนี้

อะไรนะ?!

ผู้อาวุโสจำนวนมากที่ได้ยินเช่นนี้ พวกเขาก็พูดอะไรไม่ออก พวกเขารู้เรื่องที่เซี่ยปิงได้เดินทางไปที่ดาวรังอสูร ล่วงรู้ว่าฝ่ายตรงข้ามกำลังดำเนินภารกิจของนิกาย ทว่าให้ตายพวกเขาก็ไม่คาดคิดว่าการที่เข้าไปได้เพียงไม่นานนั้น เขาจะสร้างปัญหาใหญ่โตขึ้นมาเช่นนี้

“เวรเอ๊ย เจ้าเซี่ยปิงนี่โหดเหี้ยมเหลือเกิน ไม่คาดคิดว่าจะกำจัดผู้นำของตระกูลใต้ดินทั้งหมดภายในคราวเดียว นั่นมันคือยอดฝีมือในระดับแกนทองกว่าสิบคน บอกว่าจะสังหารก็สังหารอย่างนั้นรึ?!”

“เซี่ยปิงเป็นเพียงแค่ผู้บ่มเพาะในระดับแกนทองขั้นเริ่มต้นเท่านั้น อีกทั้งก็ยังเพิ่งก้าวเข้าสู่ระดับนั้นได้ไม่นาน เป็นไปได้อย่างไรที่จะแข็งแกร่งถึงขั้นนี้ ต่อกรกับยอดฝีมือในระดับเดียวกันกว่าสิบคน อีกทั้งยังเหยียบย่ำฝ่ายตรงข้ามจมดิน ตายไปโดยที่ไม่สามารถหลบหนีไปได้”

“ลูกศิษย์ของเซนต์นี่เป็นพยัคฆ์ร้ายหรืออย่างไรกัน? สามารถที่จะเอาชนะยอดฝีมือในระดับเดียวกันกว่าสิบคนหรือ?!”

กลุ่มของผู้อาวุโสต่างก็มีสีหน้าที่ตกตะลึง เดิมทีพวกเขาต้องการที่จะส่งเซี่ยปิงเข้าไปรับประสบการณ์ของโลกใต้ดิน รับรู้ถึงด้านมืดของโลก ทว่าใครจะไปคิดกันว่าเจ้าเด็กนี่จะใช้ไม้แข็ง ใช้กลยุทธ์ถอนฟืนใต้กระทะโดยตรง กำจัดผู้นำตระกูลใต้ดินไปจนหมดสิ้น นี่คือการที่ให้ความตายยุติปัญหาทุกอย่าง

แต่ปัญหาก็คือว่าการแก้ปัญหาเช่นนี้เป็นวิธีการที่เรียบง่ายและโหดเหี้ยมเกินไป เป็นเหมือนกับการแหย่รังแตน ซึ่งส่งผลให้กลุ่มโจรสลัดผ้าคาดหัวสีแดงเคลื่อนไหวออกมาอย่างเต็มกำลังเช่นนี้ สร้างปัญหาที่ไม่รู้จบขึ้นมาในอนาคต

“ท้ายที่สุดแล้วไม่ว่าเขาจะบรรลุสิ่งนี้ได้อย่างไร เซี่ยปิงก็คือลูกศิษย์ของเซนต์ในนิกายฟ้าดินของข้า จะปล่อยให้กลุ่มโจรสลัดผ้าคาดหัวสีแดงเหล่านั้นจัดการกับเขาไม่ได้อย่างแน่นอน” อวี๋ซิวจวินพูดออกมาทันที “รีบส่งผู้อาวุโสออกไปทันที ต้านทานกลุ่มของโจรสลัดผ้าคาดหัวสีแดงเหล่านั้น การที่ต้องการจะฆาตกรรมผู้อื่นในพื้นที่เขตปกครองของนิกายฟ้าดินของข้านั้น ช่างเป็นการเบื่อหน่ายกับชีวิตจริงๆ”

ออร่าจิตสังหารที่เข้มข้นแผ่ออกมาจากร่างกายของเขา

“ทว่าพวกเราไม่ได้มีค่ายกลเทเลพอร์ตที่เคลื่อนย้ายไปมาระหว่างดาวฟ้าดินกับดาวรังอสูรได้ การที่จะเดินทางไปให้ถึงโดยเร็วที่สุดนั้น จะต้องจัดตั้งค่ายกลเทเลพอร์ตชั่วคราวขึ้นมา ซึ่งอย่างน้อยก็ต้องใช้ระยะเวลาสามชั่วโมง ไม่รู้ว่าจนถึงตอนนั้นศิษย์น้องเซี่ยจะต้านทานไว้ได้หรือไม่”

ผู้อาวุโสบางคนที่พูดอย่างเป็นกังวล

ตอนนี้กลุ่มโจรสลัดผ้าคาดหัวสีแดงได้เคลื่อนตัวออกมาอย่างเต็มกำลัง มียอดฝีมือที่มากมายดั่งก้อนเมฆบนฟากฟ้า ยอดฝีมือที่ยิ่งใหญ่ในระดับแตกฉานก็มีอยู่ถึงห้าคน เรียกได้ว่าเป็นกองกำลังที่ทรงอำนาจอย่างมาก แม้แต่เซี่ยปิงก็ไม่สามารถต้านทานได้

อย่าว่าแต่ต้านทานไว้สามชั่วโมงเลย แม้แต่การที่ต้านทานไว้ได้หนึ่งชั่วโมงนั้นก็ถือว่าเป็นการขัดบัญชาสวรรค์แล้ว

“หยุดพูดจาไร้สาระ ศิษย์น้องเซี่ยจะต้องมีแผนสำรองอยู่อย่างแน่นอน คงจะไม่ตายไปอย่างง่ายดาย จัดตั้งค่ายกลเทเลพอร์ตชั่วคราวขึ้นมาโดยเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้และรีบเทเลพอร์ตไปสู่ดาวรังอสูร” อวี๋ซิวจวินถ่ายทอดคำสั่งออกไปทันที ไม่ได้มีความลังเลแม้แต่น้อย

ผู้อาวุโสจำนวนมากก็พยักหน้า

…………

ทว่าในตอนนี้ ท่ามกลางดาวเคราะห์น้อยใกล้ๆกับดาวรังอสูร มีภาพเงาของเผ่าพันธุ์เทวดาจำนวนกว่า40-50คนปรากฏขึ้นมา ร่างกายของพวกเขามีปีกสีขาวราวกับหิมะ ดูเหมือนจะควบแน่นมาจากพลังงานแสง ขนแต่ละเส้นมาจากพลังงานของร่างกาย แผ่ออร่าของแสงศักดิ์สิทธิ์ที่ใสสะอาดออกมา

ออร่าเหล่านี้ที่แผ่ออกมานั้น มีผลที่ทำให้จิตใจสงบนิ่ง แม้แต่ผู้ที่คลุ้มคลั่งที่สุด มีอารมณ์ของการฆ่าฟันและความโกรธแค้นก็จะต้องผ่อนคลายลง ดูเหมือนกับเป็นการทำให้จิตใจบริสุทธิ์ก็ว่าได้

ยิ่งไปกว่านั้นพลังอำนาจของพวกเขาก็น่าสะพรึงกลัวอย่างมาก มีเทวดาในระดับแตกฉานอยู่20คนและมีเทวดาในระดับแกนทองอยู่30คน ไม่ว่าจะเดินทางไปที่ไหน นี่ก็เป็นกลุ่มอิทธิพลที่น่าสะพรึงกลัวอย่างมาก

เทวดาเหล่านี้ต่างก็ได้ติดตั้งค่ายกลไว้รอบๆ สามารถที่จะบิดเบือนพลังงาน ส่งผลให้ซ่อนร่างกายและออร่าของตนเองได้ เหมือนกับว่าอยู่ในอีกห้วงมิติหนึ่งก็ว่าได้ ไม่ว่าจะเป็นการสแกนจากเครื่องมือใดๆหรือว่าจากจิตตระหนักรู้ศักดิ์สิทธิ์ก็ไม่สามารถตรวจจับตัวตนของพวกเขาได้

“หัวหน้า”

เทวดาคนหนึ่งพูดออกมาอย่างกะทันหัน “ในที่สุดกลุ่มของโจรสลัดผ้าคาดหัวสีแดงเหล่านั้นก็ได้มาถึงที่ดาวรังอสูร ข้อมูลที่ได้รับมาเป็นความจริง พวกเขาต้องการที่จะโจมตีดาวรังอสูร เดินทางมาเพื่อล้างแค้น นี่เป็นโอกาสทองของพวกเรา”

“เยี่ยมมาก”

ได้ยินเช่นนี้ ชายวัยกลางคนที่มีลักษณะของเทวดาก็ได้แสยะออกมา “เดิมทีดาวรังอสูรของทางตะวันออกของจักรวาลดวงนี้เป็นแหล่งรวมของความชั่วร้าย กลุ่มของอาชญากรจากดาวดวงนี้มักที่จะเดินทางเข้าออกตะวันตกของจักรวาลอยู่บ่อยครั้ง จับตัวเผ่าพันธุ์ส่วนใหญ่ในทางตะวันตกของจักรวาลของพวกเราไป นำไปขายเป็นทาส อีกทั้งพวกเขาก็ยังอาจหาญอย่างถึงที่สุด แม้แต่คนของเผ่าพันธุ์เทวดาของพวกเราก็กล้าที่จะจับไป”

“ก่อนหน้านี้เป็นเพราะว่าพวกเรากังวลเกี่ยวกับอิทธิพลของนิกายฟ้าดิน เป็นกังวลว่าเผ่าพันธุ์เทวดาของพวกเราจะขัดแย้งกับนิกายฟ้าดินได้ จึงได้อดทนอดกลั้นและปล่อยให้ดาวเคราะห์ที่ชั่วร้ายนี้ได้ดำรงอยู่ต่อไป ปล่อยให้พวกเขาได้ก่อกรรมทำชั่วได้ตามใจชอบ”

“ทว่าตอนนี้แตกต่างออกไป การที่มีกลุ่มโจรสลัดผ้าคาดหัวสีแดงเปิดนำทางให้พวกเราและโจมตีดาวรังอสูรเช่นนี้ พวกเราก็สามารถที่จะฉกฉวยโอกาสนี้ในการจัดการกับดาวรังอสูรและกลุ่มโจรสลัดผ้าคาดหัวสีแดงไปพร้อมๆกัน สังหารทุกคนให้หมดสิ้น”

“จากนั้นพวกเราก็จะโยนความผิดของความเสียหายที่เกิดขึ้นในดาวรังอสูรไปที่กลุ่มโจรสลัดผ้าคาดหัวสีแดงทั้งหมด ทำให้พวกเขากลายเป็นแพะรับบาป พวกเราก็จะสามารถกำจัดดาวเคราะห์ที่ชั่วร้ายนี่ได้โดยที่ไม่ต้องเผชิญกับความสูญเสียใดๆ”

บนตัวของเขามีจิตสังหารที่น่าสะพรึงกลัวแผ่ออกมา

“หัวหน้า กลุ่มของโจรสลัดผ้าคาดหัวสีแดงเหล่านั้นไม่ธรรมดาเลย อย่างน้อยก็มีผู้บ่มเพาะในระดับแตกฉานถึงห้าคน มียานอวกาศกว่าพันลำ มีป้อมปราการเคลื่อนที่และอาวุธอื่นๆอีกมากมาย หากพวกเราต้องการที่จะจัดการกับพวกเขา บางทีพวกเราก็อาจจะต้องรับมือกับความสูญเสียไม่มากก็น้อย” เทวดาบางคนที่เริ่มพูดออกมาพร้อมกับมองไปที่หัวหน้าเทวดาคนนี้

“ไม่ต้องกังวล พวกเราจะไม่เข้าไปปะทะโดยตรง ทว่าปล่อยให้กลุ่มโจรสลัดผ้าคาดหัวสีแดงต่อกรกับลูกศิษย์ของนิกายฟ้าดินไปก่อน นี่คือการที่ปล่อยให้สุนัขกัดกันเอง พวกเราไม่จำเป็นที่จะต้องเข้าไปยุ่งเกี่ยวเป็นการชั่วคราว”

หัวหน้าเทวดาแสยะออกมาอย่างต่อเนื่อง “เมื่อพวกเขาเผชิญหน้ากันจนบาดเจ็บทั้งสองฝ่าย ข้าก็จะลงมือ ทำลายทั้งสองฝ่ายในคราวเดียว กำจัดให้สิ้นซาก คาดการณ์ได้ว่าพวกเขาก็คงไม่คาดคิดว่าจะมีมือที่สามอย่างพวกเราที่กำลังจับจ้องพวกเขาเหมือนกับเสือที่จ้องมองเหยื่อ”

ในจุดๆนี้ เขาก็หยุดลงชั่วครู่หนึ่งก่อนที่จะพูดออกมา “บอกพวกเจ้าตามตรง สำหรับเรื่องในวันนี้ ข้าได้เตรียมพร้อมมาแล้ว พวกเราไม่จำเป็นที่จะต้องใช้พลังอำนาจมากมาย ก่อนหน้านี้ข้าได้จัดตั้งค่ายกลลำแสงชำระล้างขึ้นมาในพื้นที่ส่วนนี้ของจักรวาล ครอบคลุมพื้นที่ในระยะรัศมีหลายล้านกิโลเมตร”

“รอให้ทั้งสองฝ่ายบาดเจ็บด้วยกันทั้งคู่ ทันใดนั้นก็จะเริ่มการทำงานของค่ายลนี้ ชำระล้างกลุ่มของคนเหล่านี้ทั้งหมด ทำให้พวกเขาหายไปในกลีบเมฆ หากเป็นเช่นนั้น พวกเราก็จะสามารถฆ่าล้างกลุ่มของมนุษย์บัดซบเหล่านี้ได้อย่างง่ายดายเหมือนกับการเป่าฝุ่นให้หายไป”

เขาเผยสายตาที่น่าสะพรึงกลัวออกมา