“ค่ายกลลำแสงชำระล้าง?!”

เทวดาคนหนึ่งที่ได้ยินเช่นนี้ ร่างกายของเขาก็อดไม่ได้ที่จะสั่นเทา “หัวหน้า อย่าบอกนะว่านี่คือค่ายกลโจมตีในตำนานของเผ่าพันธุ์เทวดา ค่ายกลที่ยิ่งใหญ่เช่นนี้ที่เริ่มต้นทำงาน มันจะควบแน่นแสงศักดิ์สิทธิ์แห่งเทวดาขึ้นมาในทันทีและปะทุพลังอำนาจของการชำระล้างออกมา”

“เมื่อถึงเวลาที่ค่ายกลไหลเวียน สิ่งมีชีวิตทั้งหมดที่อยู่ภายในระยะรัศมีของค่ายกลนี้ ไม่ว่าจะเป็นเผ่าพันธุ์ใดๆ ก็จะถูกชำระล้างไปจนหมดสิ้น หายวับไปกับตา นี่คือค่ายกลสังหารระดับสุดยอด มีความพิเศษและเป็นเอกลักษณ์อย่างถึงที่สุด”

เมื่อได้ยินเช่นนี้ เทวดาจำนวนมากก็ช็อกไปตามๆกัน เพราะว่านี่เป็นค่ายกลโจมตีที่โด่งดังของเผ่าพันธุ์เทวดา ชำระล้างทุกสิ่งทุกอย่าง ทำลายทุกชีวิต ถือว่าเป็นค่ายกลที่ใช้ล้างบางโลกก็ว่าได้

ความจริงในอดีต เมื่อพวกเขาคิดว่าสิ่งมีชีวิตภายในดาวเคราะห์ดวงใดมีความชั่วร้ายเกินไป เกินเยียวยาและไม่สามารถที่จะรักษาได้อีกแล้วนั้น พวกเขาก็จะเริ่มการใช้งานของค่ายกลดังกล่าว ทำการชำระล้างทุกสิ่งทุกอย่าง ส่งผลให้สิ่งมีชีวิตทั้งหมดภายในดาวเคราะห์ถูกสังหารไปจนหมดสิ้น

“ใช่ ดูเหมือนว่าเจ้าก็มีความรู้อยู่เหมือนกัน”

หัวหน้าเทวดาพยักหน้า “การที่มีค่ายกลที่ยิ่งใหญ่นี้อยู่ในมือ กลุ่มของผู้คนเหล่านั้นก็จะกลายเป็นเต่าในขวดโหล ไม่มีที่ให้หลบหนี ค่ายกลที่เริ่มต้นทำงาน กลุ่มของมนุษย์เหล่านั้นจะต้องตายไปจนหมดสิ้น”

“ทว่าหัวหน้า หากเป็นเช่นนั้น สิ่งมีชีวิตทั้งหมดในดาวรังอสูรก็จะหลีกเลี่ยงความตายไปไม่ได้เช่นกัน พวกเขาจะต้องตายไปทั้งหมดหรือ?”

เทวดาบางคนที่เป็นกังวลถึงจุดๆนี้

“แน่นอนว่าจะต้องตายไปเช่นกัน มนุษย์ที่ต่ำต้อย เผ่าพันธุ์ชั้นต่ำนั้น ต่อให้ตายไปมากแค่ไหนก็ไม่ได้สำคัญ ดาวเคราะห์ที่ชั่วร้ายอย่างดาวรังอสูรควรที่จะถูกทำลายไป มนุษย์ที่อาศัยอยู่ภายในดาวเคราะห์ดวงนั้นล้วนเป็นคนบาปทั้งสิ้น การที่จะไม่ชำระล้างพวกเขาไปด้วยนั้น มันก็จะไม่ทำให้ความยุติธรรมบังเกิดขึ้นมา” หัวหน้าเทวดาพูดออกมา “ในความเป็นจริง ที่พวกเราทำเช่นนี้ไม่ใช่เป็นการสังหารพวกเขา ทว่าเป็นการไถ่บาปให้กับกลุ่มคนบาปเหล่านี้ ส่งพวกเขาไปสู่สวรรค์ ทำให้พวกเขาพบเจอกับความสุขที่แท้จริง”

เขาพูดว่านี่เป็นเพียงแค่การไถ่บาป เป็นการชำระล้างบาป ไม่ใช่การสังหาร

“สมกับที่เป็นหัวหน้า คำพูดของหัวหน้าไม่มีผิดจริงๆ”

เทวดาจำนวนมากก็พยักหน้า บ่งบอกว่าตนเองเข้าใจ

“อันดับแรกพวกเราจะต้องหลบซ่อนตนเองชั่วคราว ปล่อยให้ทั้งสองฝ่ายฆ่าฟันกันอย่างถึงพริกถึงขิง เมื่อพวกเขาทั้งสองเผชิญกับความเสียหายทั้งคู่ นั่นก็จะเป็นเวลาที่พวกเราเคลื่อนไหวออกไป สังหารกลุ่มคนเหล่านี้ให้หมดสิ้น ชำระล้างสิ่งสกปรกไปจากโลกใบนี้”

จากนั้นหัวหน้าเทวดาก็โบกมือออกไป อวกาศรอบๆบิดเบือน ค่ายกลที่ยิ่งใหญ่ไหลเวียนและปกปิดร่างกายและออร่าของพวกเขาไว้ ไม่มีใครที่จะสามารถค้นพบพวกเขาได้

…………

ในช่วงเวลานี้ ณ ดาวรังอสูร

“หืมม?!”

ทันใดนั้นเซี่ยปิงก็ลืมตาขึ้นจากการบ่มเพาะอย่างกะทันหัน ดวงตาเผยแสงที่น่าสะพรึงกลัวออกมา สัญชาตญาณนักวิทยายุทธของเขากำลังสัมผัสได้ถึงอันตรายที่ยิ่งใหญ่ เหมือนกับว่าวิกฤติกำลังใกล้เข้ามา

ดิ้ง ดิ้ง!!

ในตอนนี้ เครื่องมือสื่อสารของเขาดังขึ้นมา ซึ่งเป็นผู้คนส่วนใหญ่ขององค์กรใต้ดินที่ได้ติดต่อมา เซี่ยปิงก็ได้เชื่อมต่อการสื่อสารอย่างกะทันหัน ทันใดนั้นก็มีภาพเงานับสิบที่ปรากฏขึ้นมา

“ท่านหยาง แย่แล้ว ในตอนนี้มีกองทัพขนาดใหญ่ที่ปรากฏขึ้นมาซึ่งอยู่ห่างออกไปจากดาวรังอสูรเพียงแค่หนึ่งปีแสง หากต้องคาดเดาจริงๆ ข้าคิดว่าพวกเขาคือกลุ่มโจรสลัดผ้าคาดหัวสีแดง พวกเขาได้ส่งกองกำลังออกมาอย่างเต็มรูปแบบ” บางคนที่ตะโกนออกมาอย่างหวาดกลัว

ในดาวรังอสูรนั้นมีระบบการตรวจจับที่ทรงอำนาจติดตั้งไว้อยู่ สามารถที่จะสำรวจพื้นที่ในระยะกว่าร้อยปีแสงได้ ดังนั้นเมื่อกองกำลังของกลุ่มโจรสลัดผ้าคาดหัวสีแดงปรากฏขึ้นมา พวกเขาก็ค้นพบได้ในทันที

ในความเป็นจริง กลุ่มโจรสลัดผ้าคาดหัวสีแดงก็ไม่ได้มีความคิดที่จะปกปิดตนเองแม้แต่น้อย พวกเขาเคลื่อนที่เข้ามาอย่างเปิดเผยและไม่เกรงกลัว ต้องการที่จะทำลายล้างอิทธิพลของดาวรังอสูรด้วยกลยุทธ์สายฟ้าแลบ

“ตามการคาดการณ์ ภายในครึ่งชั่วโมงกองกำลังเหล่านี้ก็จะมาถึงดาวรังอสูรของพวกเรา ท่านหยาง ตอนนี้พวกเราควรจะทำอย่างไรกันดี?!” ผู้คนต่างก็เกรงกลัวกันอย่างมาก ทั่วทั้งร่างกายหนาวสั่น

กลุ่มโจรสลัดผ้าคาดหัวสีแดง นี่เป็นกลุ่มโจรสลัดจักรวาลที่มีชื่อเสียงฉาวโฉ่อย่างมาก

อย่าพูดถึงการที่พวกเขาเป็นกลุ่มตระกูลใต้ดิน ก่อกรรมทำชั่วมามากมาย ทว่าเมื่อเทียบกับกลุ่มโจรสลัดผ้าคาดหัวสีแดงแล้วนั้น มันก็แตกต่างราวกับฟ้ากับดิน เป็นเหมือนความแตกต่างของโจรในชนบทกับกองทัพอัศวินก็ว่าได้

กลุ่มโจรสลัดผ้าคาดหัวสีแดงนั้นได้เดินทางมาทั่วทั้งจักรวาล ฆ่าล้างดาวเคราะห์มามากมาย ทำการปล้นชิงและแผดเผาบ้านเมืองมานับไม่ถ้วน พวกเขาเป็นกลุ่มของผู้คนที่มีประสบการณ์ที่โชกโชน มีพลังอำนาจที่แข็งแกร่งอย่างมาก

สามารถที่จะจินตนาการได้ว่ากลุ่มตระกูลใต้ดินเหล่านี้หวาดกลัวกลุ่มโจรสลัดผ้าคาดหัวสีแดงแค่ไหน

อย่าพูดถึงว่าตอนนี้กลุ่มโจรสลัดผ้าคาดหัวสีแดงได้ส่งกองกำลังออกมาอย่างเต็มรูปแบบ ต้องการที่จะทำลายล้างพวกเขาให้สิ้นซาก เป็นไปได้อย่างไรที่พวกเขาจะไม่รู้สึกหวาดกลัว ตอนนี้ต้องการที่จะขุดหลุมลงไปแอบด้วยซ้ำ

“จะทำอย่างไรได้อีก? พวกเราก็จะต้องต่อสู้กับฝ่ายตรงข้ามไปจนตัวตายเท่านั้น”

เซี่ยปิงพูดออกมาอย่างนิ่งเฉย “ตอนนี้ต่อให้จะยอมจำนน ก็เป็นไปไม่ได้ที่ฝ่ายตรงข้ามจะไว้ชีวิตพวกเรา การที่พวกเขาได้ส่งกองกำลังมามากมายขนาดนี้ ไม่ได้พิจารณาถึงการไว้หน้านิกายฟ้าดินแม้แต่น้อย ไม่ได้มาท่องเที่ยวดูดาวรังอสูรอย่างแน่นอน”

เขาสามารถสัมผัสได้ลางๆถึงออร่าที่ทรงอำนาจรวมถึงจิตสังหารที่ฝ่ายตรงข้ามแผ่ออกมา เป็นไปไม่ได้ที่จะประนีประนอม นี่คือลางสังหรณ์ของสายเลือดอีกานรกทองคำของเขา

“ต่อสู้ไปจนตัวตาย?!”

ผู้คนต่างก็มีสีหน้าที่ซีดเผือด หากสามารถต่อสู้จนตัวตายได้ แน่นอนว่าพวกเขาก็ไม่ต้องการที่จะปิดตารอคอยความตาย ทว่าตอนนี้ฝ่ายตรงข้ามส่งยานอวกาศมากว่าพันลำ อีกทั้งยังมีป้อมปราการเคลื่อนที่อีก

ยิ่งไปกว่านั้นยอดฝีมือในระดับแตกฉานก็มีถึงห้าคน เป็นการประกาศอย่างชัดเจนว่าต้องการจัดการกับพวกเขา กองกำลังที่ทรงอำนาจเช่นนี้ ต่อให้พวกเขาจะต้องการต่อต้าน ก็ยังคงเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้

“ท่านหยาง ข้าคิดว่าควรรายงานเรื่องนี้กับนิกายฟ้าดินทันที ให้พวกเขาส่งกำลังเสริมมาที่นี่”

ในตอนนี้กลุ่มของผู้คนก็นึกขึ้นได้ว่าเซี่ยปิงเป็นลูกศิษย์สายตรงของนิกายฟ้าดิน หากผู้อาวุโสของนิกายฟ้าดินเดินทางมาที่ดาวรังอสูรแห่งนี้ จากนั้นกลุ่มโจรสลัดผ้าคาดหัวสีแดงเหล่านั้นก็คงจะไม่กล้าทำอะไรสิ้นคิด

“ข้าได้รายงานพวกเขาแล้ว ทว่าดาวรังอสูรก็อยู่ห่างจากดาวฟ้าดินมากเกินไป ดาวเคราะห์อื่นๆในบริเวณใกล้เคียงก็ไม่ได้มีผู้อาวุโสในระดับกฎเทวรูปอยู่เช่นกัน พวกเขาต่างก็อยู่รวมกันในสำนักงานใหญ่ การที่คิดจะรอให้กำลังเสริมาถึงนั้น อย่างน้อยก็ต้องใช้ระยะเวลาสามชั่วโมง ทว่าในช่วงเวลานี้นั้น พวกเขาสามารถทำลายล้างพวกเราได้นับสิบๆครั้งและหลบหนีออกไปอย่างไม่รีบร้อนได้”

เซี่ยปิงพูดออกมาอย่างเยือกเย็น

อะไรนะ?!

ได้ยินเช่นนี้ ผู้คนต่างก็มีสีหน้าที่ซีดเซียว เท้าทั้งสองข้างสั่นไหว แม้แต่บางคนที่ขี้ขลาดก็ถึงกับหวาดกลัวจนล้มลงไปกับพื้น ไม่ว่ากรณีไหนก็ต้องตายไม่ใช่หรือ?!

ถึงแม้ว่าพวกเขาต้องการที่จะกล่าวโทษเซี่ยปิงที่ทำตัวยโสโอหังเกินไป ดังนั้นจึงได้ยั่วยุให้กลุ่มโจรสลัดผ้าคาดหัวสีแดงเคลื่อนไหวออกมาเช่นนี้ แต่ปัญหาก็คือว่าหากพวกเขากล้าพูดออกมา บางทีก็อาจจะถูกเซี่ยปิงสังหารไปก่อนที่จะถึงมือกลุ่มโจรสลัดผ้าคาดหัวสีแดงเสียอีก

ในตอนนี้ทุกคนต่างก็ล่วงรู้เป็นอย่างดีถึงความโหดเหี้ยมของเจ้าลูกศิษย์สายตรงของนิกายฟ้าดินคนนี้ ไม่สามารถทำให้หงุดหงิดได้อย่างแน่นอน

ดังนั้นพวกเขาจึงทำได้เพียงแค่กล้ำกลืนคำพูดของตนเองไว้ในใจ ทำได้เพียงแค่โทษตนเองที่โชคร้าย มาพบกับเจ้าบัดซบที่ดึงดูดภัยพิบัติมาเช่นนี้

………..

ปัง!

หลังจากนั้นครึ่งชั่วโมง ในที่สุดกองทัพขนาดใหญ่ของกลุ่มโจรสลัดผ้าคาดหัวสีแดงก็ได้มาถึงในระยะที่ห่างไปจากดาวรังอสูรเพียง3หมื่นกิโลเมตร นี่สำหรับระยะห่างภายในจักรวาลนั้น ถือว่าใกล้มาก สามารถที่จะข้ามผ่านระยะทางนี้ภายในไม่กี่นาที

ในช่วงเวลานี้ ภายในป้อมปราการเคลื่อนที่ของกลุ่มโจรสลัดผ้าคาดหัวสีแดง สมาชิกระดับสูงจำนวนมากของกลุ่มโจรสลัดผ้าคาดหัวสีแดงกำลังรวมตัวกันอยู่ มีทั้งผู้นำ รองผู้นำและบุคคลที่สำคัญคนอื่นๆ แต่ละคนต่างก็มีออร่าที่ทรงอำนาจ บนใบหน้าเผยให้เห็นถึงความโหดเหี้ยม

“ทุกๆคนจงจำไว้ อันดับแรกจะต้องไกล่เกลี้ยให้พวกเขายอมจำนน”

อู๋อันผู้นำกลุ่มโจรสลัดผ้าคาดหัวสีแดงได้พูดออกมา “อย่าหุนหันพลันแล่นไป อย่าทำลายดาวเคราะห์ดวงนี้  ข้างในมีทรัพยากรมากมาย สิ่งมีชีวิตทั้งหมดเป็นทรัพย์สินของพวกเรา หากขายไปทั้งหมด พวกเราก็จะมีกินเป็นระยะเวลานานหลายปี เพียงพอที่จะชดเชยให้กับความสูญเสียทั้งหมดได้”

ถึงแม้ว่าครั้งนี้เป้าหมายหลักของพวกเขาจะเป็นการล้างแค้น แต่ในขณะเดียวกันพวกเขาก็ต้องการที่จะปล้นสะดมและครอบครองความมั่งคั่งเช่นกัน

เพราะว่าถึงอย่างไรทุกๆครั้งที่ขับเคลื่อนยานอวกาศนั้น มันก็จำเป็นที่จะต้องใช้พลังงานและความมั่งคั่งอย่างมาก ดั่งคำกล่าวที่ว่าไว้ การยิงปืนใหญ่นัดหนึ่ง ต้องใช้ทองคำมากล้นทวีคูณ

หากไม่ได้ครอบครองความมั่งคั่งมาจากดาวรังอสูรและได้กินลมกินแล้งจริงๆ คาดการณ์ได้ว่าภายในระยะเวลาไม่นาน พวกเขาก็จะไม่มีเงินเหลือ เมื่อถึงเวลานั้นก็ไม่สามารถขับยานอวกาศได้อีก กลายเป็นเพียงแค่โรงศพขนาดใหญ่เท่านั้น