ตอนที่ 343

Taming Master

‘มอนสเตอร์ที่แข็งแกร่งที่สุด’

เมื่อได้ยินคำนี้เป็นครั้งแรกผู้เล่นปกติทุกคนจะนึกถึงชื่อบัลโร๊คทันที

แม้ว่าทุกคนจะรู้ว่าการปรากฏตัวที่แข็งแกร่งที่สุดในไคลันระหว่างสงครามมิติคือมาเรี่ยนคาร์ลิฟาร์ เมื่อพูดคาร์ลิฟาร์ทำให้ความรู้สึกเหมือนมอนสเตอร์ระดับบอส – มันให้ความรู้สึกแตกต่างจากมอนสเตอร์ทั่วไปเล็กน้อย

ยิ่งไปกว่านั้นเมื่อมิติอาณาจักรปีศาจถูกเปิด ทุกคนก็รู้ว่าบอสที่แข็งแกร่งที่สุดคือบัลโร๊คและแม้แต่ผู้เล่นที่ยังไม่ได้เข้าสู่อาณาจักรปีศาจ บัลโร๊คก็ถือว่าเป็นศัตรูที่แข็งแกร่งที่สุดที่พวกเขารู้จัก

บัลโร๊คมีพลังมหาศาล

ทั้งตัวของมันมักจะถูกเปลวไฟขนาดใหญ่ลุกโชนอยู่ตลอดเวลาและมีสองเขาบนหัวของมัน

และในบรรดาเขาที่โค้งงอไปด้านหน้าเหมือนแพะนั้นมีใบหน้าที่น่าสยดสยอง

และขนาดของมันล่ะ?

ร่างกายมีขนาดใหญ่ซึ่งดูเหมือนจะทำจากควันและเปลวไฟซึ่งสร้างความกลัวให้กับฝ่ายตรงข้าม

และมือมีขนาดใหญ่กว่าขนาดมือของมนุษย์ มีความยาวและแหลมคมยิ่งกว่าดาบที่วอริเออร์พกติดตัวซะอีก

เอียนรู้สึกกังวล

มันเป็นมอนสเตอร์ที่เอียนจัดการในสงครามมิติ แต่มันไม่ใช่สถานการณ์ที่ง่าย

ฮูนี่ย์ถามเอียนว่า

“พี่สู้กับบัลโร๊คโดยไม่มีบัฟของเทพหรอ?”

เอียนพยักหน้าเมื่อได้ยินคำถาม

“ห้ะ… ก็แน่สิ”

“คนเดียวหรอ?”

“ไม่ ฉันจะฆ่าบัลโร๊คคนเดียวได้ยังไงกัน? มีกันสองคนน่ะ”

“กับใครหรอ? คงไม่มีใครแข็งแกร่งเท่าพี่ใช่ไหมล่ะ?”

“ชยาคราน”

เมื่อได้รับคำตอบจากเอียน ฮูนี่ย์และคาโนเอลต่างก็พยักหน้า

ถ้าเป็นชยาคราน เขาก็มีความสามารถและพลังเพียงพอที่จะต่อสู้เคียงข้างกับเอียน

เนื่องจากอาชีพแตกต่างกันจึงไม่มีทางที่พวกเขาจะเปรียบเทียบทักษะการต่อสู้และการควบคุมของชยาครานกับเอียนได้ แต่ในเกม ชยาครานอาจเป็นผู้เล่นที่แข็งแกร่งกว่าเอียน

ทั้งฮูนี่ย์และคาโนเอลต่างตกใจเล็กน้อย แต่คำพูดจากเอียนยังไม่จบลง

“ทำไมล่ะฮูนี่ย์? ทำไมไม่ตอบกลับล่ะ นายดูแปลกๆนะ”

“แปลกหรอ! ใครแปลก!”

“ทำไม? ฉันจะพูดถึงใครได้นอกจากนายล่ะ”

“…! เจ้าบัลโร๊คนั่น ฮูนี่ย์สามารถฆ่าพวกมันได้ทั้งหมด!”

เอียนส่ายหัวและเริ่มออกเดินอีกครั้ง

“เมื่อเห็นนายกรีดร้องและตะโกน ฉันไม่ได้เชื่อมั่นในตัวนายมากนักหรอกนะ…”

“ว้า…”

ตอนนั้นเอียนกำลังผ่านโซนที่ 15 ของอาณาจักรปีศาจ

และโชคดีที่ภายในหนึ่งชั่วโมงพวกเขาสามารถค้นพบทางเข้าของดันเจี้ยนซึ่งให้ความรู้สึกแตกต่างกันเล็กน้อย

ในหลายๆที่เวทย์มนตร์พวยพุ่งขึ้นและลง ควันที่ออกมาจากเวทย์มนตร์ดูเหมือนจะทำให้พวกเขาตาย

นั่นดูเหมือนเส้นทางสู่สุสานของวิญญาณที่ถูกลืมอย่างชัดเจน

ฮูนี่ย์ถึงกับตกตะลึง แต่เอียนพยายามทำให้เขาสงบลง

“ไม่เป็นไรหรอก แม้ว่าบัลโร๊คจะทรงพลัง แต่เราก็กำจัดเบเฮมอธไปได้แล้ว ยิ่งไปกว่านั้นบัลโร๊คนั้นเลเวลสูงกว่าบัลโร๊คประมาณ 50 ถึง 70 เลเวลที่พวกมันจัดการในสงครามมิติ”

1พี่คิดอย่างนั้นหรอ?”

คำพูดของเอียนยังคงดำเนินต่อไป

“และบัลโร๊คที่เราจัดการในสงครามมิตินั้นยาก แต่ตอนนี้ฉันแข็งแกร่งขึ้นประมาณ 1.5 เท่าแล้ว”

การพูด 1.5 เท่าเป็นการกระทำที่ถ่อมตัว

ไคซาร์และคาร์เซอุสและบุ๊กค์

Myth ทั้งสามตัวและเลเวลของปาร์ตี้เพิ่มขึ้นประมาณ 20 ถึง 30 ดังนั้นมันจึงคิดเป็นพลัง 2 เท่า

ตอนนี้เอียนจมอยู่ในความคิดที่ว่าเขาสามารถจัดการกับบัลโร๊คได้มากกว่าสองตัวในเวลาเดียวกัน

‘ถ้าเลเวลของบัลโร๊คใกล้เคียงกับที่ปรากฏตัวในสงครามต่างมิติก็ถือว่าดี’

แต่ถ้ามันเหมือนกับเบเฮมอธที่มีเลเวลมากกว่า 400 ขึ้นไปนั่นจะเป็นความเจ็บปวด

“เฮ้อ ทำไมทางเข้าดันเจี้ยนถึงยาวจังและไม่มีมอนสเตอร์แม้แต่ตัวเดียว”

“จริงๆด้วย บรรยากาศน่าขนลุกจริงๆ”

ถ้าหอคอยแห่งผู้บัญชาการดูน่าขนลุกและไม่เป็นที่พอใจ ดันเจี้ยนนี้ก็รู้สึกเหมือนเป็น ‘เส้นทางแห่งความตาย’ มันน่าขนลุกและเย็นเฉียบ

เอียนและปาร์ตี้เดินไปตามเส้นทางแห่งความตายประมาณ 20 นาที

และในไม่ช้าพวกเขาก็พบประตูที่สามารถพาพวกเขาเข้าไปในดันเจี้ยนได้อีก

“โอเค ตรวจครั้งสุดท้าย…”

“ตกลง!”

“โอเคครับพี่”

เอียนตรวจสอบสถานะของสมาชิกปาร์ตี้ทั้งหมดอย่างชำนาญและรวดเร็วและก้าวเข้ามาใกล้ประตูหลังจากหายใจเข้าลึกๆ

“ไปกันเถอะ! ไปฆ่าบัลโร๊คกัน”

 

* * *

 

กริ๊ง-

 

[ท่านเป็นคนแรกที่เข้าสู่ดันเจี้ยนของ ‘สุสานของวิญญาณที่ถูกลืม’]

[ท่านได้รับชื่อเสียง 150,000 หน่วย]

[ในสัปดาห์หน้า ค่าสถานะเวทย์มนตร์ทั้งหมดในสุสานของวิญญาณที่ถูกลืมจะเพิ่มขึ้น 1.5 เท่า]

[ในสัปดาห์หน้า จำนวนค่าประสบการณ์ที่ได้รับจะเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าและอัตราการดรอปไอเทมก็เพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าด้วย]

 

อย่างที่พวกเขาเห็น พวกเขาคุ้นเคยกับข้อความการค้นพบครั้งแรก

เอียนเลื่อนดูข้อความของระบบอย่างรวดเร็วและเริ่มวาดแผนว่าจะจัดการกับบัลร็อกอย่างไร

‘อย่างแรก ฉันจะต้องกำหนดค่าสัตว์เลี้ยงขั้นต่ำ’

การต่อสู้ทางกายภาพของบัลโร๊คนั้นอ่อนแอ

มันไม่ใช่แค่อ่อนแอ แต่อ่อนแอมากเมื่อเทียบกับเบเฮมอธ ดังนั้นมันอาจจะเป็นมอนสเตอร์ที่จัดการได้ง่ายเมื่อเทียบกับเบเฮมอธ?

แต่น่าเสียดายที่มันไม่เป็นเช่นนั้น

ในทางตรงกันข้ามสำหรับเอียน มันจะง่ายกว่าถึง 2 เท่าเมื่อเทียบกับเบเฮมอธ

และเหตุผลก็คือพลังที่เหล่าสัตว์เลี้ยงที่เอียนมี

“ฮูนี่ย์ คราวนี้เราต้องตั้งใจอย่างมาก ดังนั้นอย่าเรียกอันเดธทั้งหมดออกมาเฉพาะตนที่นายสามารถควบคุมได้”

“ทำไมล่ะพี่? เป็นเพราะพลังแฝงของบัลโร๊คงั้นหรอ?”

เอียนพยักหน้าและตอบ

“อ่อ นายก็รู้เหมือนกันนิ การรุกล้ำวิญญาณ”

ในช่วงเวลาของสงครามมิติ เหตุผลในการเข้าใกล้บัลโร๊คเป็นเรื่องยากเพราะเหตุนั้น ผู้เล่นเผ่าพันธุ์มนุษย์จึงรู้สึกหดหู่เนื่องจากมัน

พลังแฝงของบัลโร๊คคือ การรุกล้ำวิญญาณ

 

– – – –

 

การรุกล้ำวิญญาณ –

– บัลโร๊คเปล่งเวทย์มนตร์อันทรงพลังและทำให้วิญญาณของเป้าหมายเปราะบางที่อยู่ในระยะถูกตรึงชั่วคราว

– เป็นไปได้ที่จะใช้มันลงบนเป้าหมายที่มีพลังน้อยกว่า 5% และความน่าจะเป็นของความสำเร็จนั้นขึ้นอยู่กับเป้าหมายและความสามารถทางสติปัญญาของบัลโร๊ค

(สติปัญญาบัลโร๊ค / สติปัญญาเป้าหมาย * 100%)

– ในระหว่างช่วงเวลานั้น เป้าหมายจะถูกเคลื่อนที่โดยคำสั่งของบัลโร๊คและการโจมตีทั้งหมดจะเพิ่มขึ้น 30% นอกจากนี้ ‘สถานะคงกระพัน’ ยังคงมีอยู่จนกว่าบัลโร๊คจะตาย

เวลาคูลดาวน์: 120 นาที

ระยะเวลา: 30 นาที

 

– – – – – – – –

 

มันไม่ใช่ความสามารถในการร่ายใส่หลายสิบตัวเนื่องจากมันไม่ใช่พื้นที่กว้าง แต่มันคือความสามารถในการควบคุมเป้าหมายขนาดเล็กที่จะตายภายใน 5 ถึง 7 ครั้ง

ในกรณีของเอียน ถ้าไคซาร์ คาร์เซอุสและบุ๊กค์ถูกควบคุม!

ในขณะนั้นก็คงไม่มีทางแก้ไขอื่น

แต่ถ้าใช้การโจมตีกับสัตว์เลี้ยงของเอียน เขาก็มีโอกาสที่จะป้องกันการโจมตีได้

แต่สำหรับสัตว์เลี้ยงที่โดนการควบคุม สัตว์เลี้ยงตัวนั้นก็จะตายลงไป

สำหรับซัมมอนเนอร์ปกติ นั่นเป็นการโจมตีที่พวกเขาต้องหลีกเลี่ยงจากบัลโร๊ค ผลลัพธ์จะออกมาแย่เกินไป

เอียนที่จำลองเกมอยู่ในหัวของเขาเริ่มออกคำสั่งให้ฮูนี่ย์และคาโนเอล

“ฮูนี่ย์ นายควรอัญเชิญเดธไนท์ [1] ดาร์กซัมมอน 2 ตัว แล้วก็โครงกระดูก 5 ตัวและไอร่อนโกเลมหนึ่งตัวด้วย”

“ห้ะ ห้ะ ห้ะ? พี่ไม่อยากให้ผมอัญเชิญนักรบโครงกระดูกหรอ? ผมสามารถอัญเชิญเดธไนท์ออกมาได้มากกว่านี้และร่ายมนตร์ดำได้ด้วยนะ”

ขณะที่ฮูนี่ย์ยังคงพูดอยู่ เอียนก็ขัดคำพูดของเขา

“นายต้องควบคุมสัตว์เลี้ยงเหล่านั้นเท่านั้น นอกจากนั้นจะเป็นเพียงภาระ ดังนั้นเท่าที่ฉันขอให้นายอัญเชิญได้ไหม?”

“ก็ได้ครับ…”

ในตอนท้ายของคำพูดเย็นชาจากเอียน ฮูนี่ย์ไม่มีความกล้าที่จะปฏิเสธ

น่าแปลกใจที่คำสั่งของเอียนแทบจะเหมือนกับคำสั่งของฮูนี่ย์

เอียนสั่งสิ่งเดียวกันนี้ให้คาโนเอลด้วยและเริ่มตั้งสมาธิกับด้านในของดันเจี้ยน

คาโนเอลเพียงแค่ยอมรับคำสั่งจากเอียน

“อืม ผมจะต้องควบคุมด้วยสมาธิให้มาก… และเดินให้ปลอดภัยที่สุด”

เอียนพยักหน้าเมื่อได้ยินจากคาโนเอล

“ใช่ ในกรณีที่นายสังเกตเห็นว่าพลังชีวิตของสัตว์เลี้ยงของนายลดลงเหลือ 10% ให้ยกเลิกอัญเชิญมันกลับมาอย่างกล้าหาญ”

“โอเคครับพี่”

ในอีกด้านหนึ่ง ฮูนี่ย์ที่เดินตามหลังเอียนก็ถามว่า

“แต่ทำไมพี่ถึงอัญเชิญพวกมันทั้งหมดล่ะ?”

เอียนตอบราวกับว่ามันเป็นเรื่องธรรมชาติ

“ฉันทำได้ทุกอย่าง ฉันควบคุมได้ 100%”

เอียนไม่มีอะไรจะพูดอีกแล้ว!

และในไม่ช้า พวกเขาก็สามารถพบกับมอนสเตอร์ของดันเจี้ยน ‘สุสานของวิญญาณที่ถูกลืม’

และที่น่าแปลกใจคือมอนสเตอร์ที่ปรากฏตัวในตอนแรกคือ บัลโร๊ค

ทั้งฮูนี่ย์และคาโนเอลต่างลุกลี้ลุกลน

“เวรเอ้ย บัลโร๊คตั้งแต่เริ่มเลยหรอ?”

“ฉันคิดว่าสุดท้ายแล้วมันจะเหมือนบอสตอนที่เราไปที่หอคอยแห่งผู้บัญชาการ…!”

แต่เอียนดูเหมือนจะไม่มีการแสดงออกที่ดูประหลาดใจ

เมื่อนานมาแล้วเขาเคยได้ยินคำอธิบายง่ายๆจากราชาปีศาจริคาร์โด้เกี่ยวกับสุสานของวิญญาณที่ถูกลืม

 

[สถานที่นั้น… มีบัลโร๊คหลายสายพันธุ์อยู่ในนั้น]

[อยู่กันเป็นฝูงหรือเปล่าครับ?]

[งั้นเจ้าคงไม่อยากท้าทายมันง่ายๆหรอก แม้แต่ปีศาจก็ไม่อยากจะก้าวเท้าเข้าไปในสถานที่นั้น แม้ว่าจะเป็นเจ้าชายปีศาจก็เหมือนกัน]

[นั่น… มันยากมาก]

 

และในเวลานั้นเอียนได้ยินบางอย่างที่มีความหมายมากจากริคาร์โด้

“และที่ลึกที่สุดของที่นั่น… อ่า ไม่ดีสิ มันคงไม่สมเหตุสมผลสักเท่าไหร่แม้ว่าฉันจะคุยกับเจ้าเกี่ยวกับเรื่องนี้ก็ตามเพราะเจ้าจะไม่สามารถไปถึงที่นั่นได้”

ในบทสนทนานั้นเอียนพบว่ามันน่ารำคาญมากที่ริคาร์โด้ไม่บอกให้เขารู้เรื่องนี้

ดังนั้นเขาจึงยอมแพ้ แต่ไม่ลืมจนกระทั่งถึงเวลาปัจจุบัน

‘ฉันต้องได้รับหัวใจของบัลโร๊คมาก่อน… และไปยังสถานที่ลึกลับนั้น ฉันจะกลับไปอีกครั้งและไปหาเขา ตอนนี้มีเวลาไม่มาก…’

เอียนที่ยังคงเดินอยู่ก็หยุดลงกลางคัน

และคาโนเอลพร้อมกับฮูนี่ย์ที่อยู่ข้างหลังเขาก็หยุดเช่นกัน

“เดี๋ยวก่อน บางทีมันอาจจะไม่ได้อยู่ตัวเดียว”

ฮูนี่ย์พูดทันที

“อะไรนะ…? มอนสเตอร์ระดับ Legendary กำลังจับกลุ่มกับตัวอื่นเหมือนมอนสเตอร์ทั่วไป?”

จากมุมมองของผู้เล่นคนใดคนหนึ่งอาจกล่าวได้ว่าการยอมจำนนต่อบัลโร๊คเพียงอย่างเดียวนั้นดีกว่ามาก

แต่ในสถานการณ์ปัจจุบัน ภายในดันเจี้ยนไม่มีสถานการณ์ร้ายแรงเมื่อมอนสเตอร์ในดันเจี้ยนอยู่ตัวเดียว

ดังนั้นเอียนรอสักครู่และไม่นานม่านสีแดงก็เริ่มเยอะขึ้น บัลโร๊คเข้ามาในบริเวณใกล้เคียง

Whooong- Whoong-!

หมอกสีแดงลอยขึ้นช้าๆพร้อมเสียงสะท้อนต่ำๆ

และสักครู่ต่อมา

เอียนอดไม่ได้ที่จะรู้สึกประหลาดใจกับจำนวนบัลโร๊คที่ปรากฏตัว

 

[1] เดธไนท์ = อัศวินแห่งความตาย