ตอนที่ 361 มีโทรศัพท์นี่มันสะดวกจริง ๆ

เกิดใหม่เป็นสามีภรรยาชาวสวนผู้มั่งคั่งยุค 70 [宠婚蜜恋在八零]

ตอนที่ 361 มีโทรศัพท์นี่มันสะดวกจริง ๆ

ตอนที่ 361 มีโทรศัพท์นี่มันสะดวกจริง ๆ

พี่สะใภ้สี่จ้าวได้ยินก็ยิ่งร้องไห้หนัก

“แล้วจะทำยังไง?” พี่สะใภ้รองจ้าวก็ไม่ต่างกัน

“ผมจะไปถามเจ้าหกดู” พี่รองจ้าวพูดพลางสวมเสื้อนวมบุฝ้าย

หัวหน้าหมู่บ้านเอ่ย “ฉันไปกับนายด้วยแล้วกัน”

“ก็ได้ งั้นรบกวนหัวหน้าหมู่บ้านด้วยนะครับ!” พี่รองจ้าวกล่าว

ครั้นพวกเขาออกไปกันแล้ว พี่สะใภ้สี่จ้าวก็พูดเคล้าน้ำตา “พี่สะใภ้รอง ฉันจะทำยังไงดีคะ? บ้านหลังใหญ่ขนาดนี้ ฉันไม่กล้าอยู่คนเดียวหรอก!”

พี่สะใภ้รองจ้าวก็จนปัญญา “คืนนี้เดี๋ยวฉันไปอยู่เป็นเพื่อนเธอเอง พรุ่งนี้ค่อยว่ากัน”

พี่สะใภ้สี่จ้าวจึงร้องไห้พลางด่าพี่สี่จ้าวต่อ

พี่สามจ้าวและหัวหน้าหมู่บ้านมาถึงบ้านของจ้าวเหวินเทาแล้ว ซึ่งจ้าวเหวินเทาเพิ่งกินข้าวเสร็จและกำลังเล่นกับลูกชายของเขา

“เจ้าหก พี่สี่ของนายหนีไปแล้ว!” พี่สามจ้าวพูดด้วยท่าทางตื่นตระหนก

  

จ้าวเหวินเทาถึงกับตกใจจนสะดุ้งโหยง “อะไรนะ พี่สี่หนีไปแล้ว?”

หัวหน้าหมู่บ้านรีบอธิบาย จ้าวเหวินเทายิ่งตกใจเข้าไปใหญ่ “เขาไปค้าขายที่ทางใต้แล้ว!”

เย่ฉูฉู่ได้ยินเรื่องนี้ก็รีบเดินเข้ามาในบ้าน “พี่สาม พี่สี่ไปทางใต้แล้วจริง ๆ เหรอคะ?”

 

พี่สามจ้าวถอนหายใจ “ก็ใช่น่ะสิ พวกเราเองก็เพิ่งรู้เหมือนกัน เขานั่งรถขนของไป ออกไปนานขนาดนี้แล้ว จะไปหาตัวจากที่ไหนเนี่ย!”

เย่ฉูฉู่หันมามองจ้าวเหวินเทา

จ้าวเหวินเทาก็รู้สึกปวดหัวเช่นกัน แม้แต่เขาที่วิ่งรถไปข้างนอกบ่อย ๆ ก็ยังไม่กล้าไปทางใต้ แต่พี่สี่จ้าวออกไปครั้งเดียว กลับกล้าเดินทางไกลขนาดนั้น!

 

“หัวหน้าหมู่บ้าน คุณเห็นป้ายทะเบียนรถคันนั้นไหม?” จ้าวเหวินเทาถาม

“ไม่เห็น” หัวหน้าหมู่บ้านตอบ “ฉันไม่ได้นึกถึงเรื่องพวกนี้เลย”

รถยนต์ถือเป็นสิ่งที่ไม่คุ้นเคยสำหรับคนในหมู่บ้าน ยิ่งไม่ต้องพูดถึงการจดจำป้ายทะเบียนรถเลย

“แล้วรถเป็นแบบไหนล่ะ ขนอะไรอยู่บนรถ?” จ้าวเหวินเทาถาม “พวกเขามีกันกี่คน?”

  

หัวหน้าหมู่บ้านจึงเล่าถึงรูปพรรณสัณฐานของรถ “ขนอะไรอยู่บนนั้นฉันไม่รู้หรอก มีไม่เยอะ ฉันเองก็เห็นไม่ชัด ส่วนจำนวนคน ดูเหมือนจะมีสองสามคนนี่แหละ ฉันไม่ได้สังเกต ตอนนั้นฉันเอาแต่สงสัยว่าพี่สี่ของนายไปทำอะไรที่ทางใต้ เลยไม่ได้นึกถึงเรื่องอื่น”

จ้าวเหวินเทาถอนหายใจ “ทำไมพี่สี่ถึงได้เป็นแบบนี้เนี่ย!”

“เจ้าหก จะทำยังไงกันดี?” พี่สามจ้าวถาม

 

“จะทำอะไรได้ล่ะ เดี๋ยวผมลองโทรถามดู” จ้าวเหวินเทายื่นลูกชายให้เย่ฉูฉู่ จากนั้นจึงยกหูโทรศัพท์กดโทรไปหาเฉินเซิ่ง

 

เฉินเซิ่งเป็นคนขับรถขนส่งของทางไกล จึงค่อนข้างคุ้นเคยกับการขนส่งสินค้าภายในเมือง ให้เขาไปสอบถามดูสักหน่อยก็น่าจะสอบถามได้

“พี่เฉิน ผมจ้าวเหวินเทานะ!”

ปลายสายได้ยินว่าเป็นจ้าวเหวินเทาจึงกล่าวว่า “เหวินเทาเหรอ ฮ่า ๆ กินข้าวรึยัง?” เฉินเซิ่งพูดเคล้ารอยยิ้ม “คิดยังไงถึงโทรมาหาฉันได้ล่ะ อย่าบอกนะว่าเปลี่ยนใจแล้ว?”

  

เฉินเซิ่งยังอยากไปขนข้าวสารอีกรอบ เขาเคยถามจ้าวเหวินเทาแล้วว่าจะไปด้วยกันหรือไม่ จ้าวเหวินเทากลับปฏิเสธ เขาคิดว่าที่จ้าวเหวินเทาโทรมาหาอาจเป็นเพราะเปลี่ยนใจแล้ว

จ้าวเหวินเทายิ้ม “เปล่า มีเรื่องอื่นน่ะ”

  

“เรื่องอะไรว่ามาได้เลย” เฉินเซิ่งตอบ

 

จ้าวเหวินเทาจึงเล่าเรื่องที่พี่สี่จ้าวออกจากบ้านให้อีกฝ่ายฟัง “ผมเองก็เพิ่งรู้เหมือนกัน พี่สี่ผมคือคนที่ออกไปกับพวกเราครั้งนี้นี่แหละ ก่อนหน้านี้เขาไม่เคยออกไปข้างนอกเลย ผมเลยเป็นห่วงเขามาก พี่เฉิน รบกวนพี่ช่วยถามสถานีขนส่งสินค้าให้หน่อยได้ไหม ถ้าเจอเขาก็ช่วยรั้งเขาไว้ให้ผมหน่อย วันพรุ่งนี้ผมจะไปหาพี่ที่ในเมือง รอถึงที่นู่นแล้วค่อยคุยกัน แต่ถ้าไม่เจอเขา พี่ช่วยถามให้หน่อยนะว่าเขาไปที่ไหน”

  

เฉินเซิ่นตอบ “ให้ฉันไปสอบถามไม่มีปัญหาอะไรอยู่แล้ว วันพรุ่งนี้ฉันต้องไปสถานีขนส่งสินค้าพอดี แต่จะเจอตัวเหรอ นี่ใกล้จะหนึ่งวันแล้วนะ ถ้าพี่สี่ของนายไปที่นู่นคงไปนานแล้ว อีกอย่างนะ เขาอาจติดรถขนส่งสินค้ามาในเมือง หลังจากมาถึงอาจนั่งรถไฟไปก็ได้ เรื่องนี้ไม่แน่นอนหรอก เขาคงมีแผนในใจแล้วแหละ”

 

“ผมรู้ แต่ครอบครัวก็เป็นห่วงอยู่ดีนั่นแหละ เฮ้อ พี่คิดดูสิ โตขนาดนี้แล้ว ออกไปข้างนอกทีหนึ่ง หัวใจจะวายอยู่แล้ว จนปัญญาจริง ๆ!” จ้าวเหวินเทากล่าว

เขาย่อมไม่บอกเรื่องที่พี่สี่จ้าวมีปัญหากับคนในครอบครัว แบบนั้นคงยิ่งขายหน้าเข้าไปใหญ่ ถึงบอกไปก็ไม่มีความจำเป็นอะไร

เฉินเซิ่งกล่าวเคล้ารอยยิ้ม “เหวินเทา นายไม่ต้องเป็นกังวลใจให้มากเกินไปหรอก พี่สี่ของนายเป็นผู้ชายจะเกิดอะไรกับเขาได้? ฉันเห็นคืนนั้นเขาก็สู้คนเป็นด้วย ไม่ใช่คนที่ใครจะรังแกได้ง่าย ๆ ร่างกายก็แข็งแรงขนาดนั้น จะมีปัญหาอะไรได้? ออกไปเดิน ๆ ดูสักหน่อยก็ถูกแล้ว จะได้เปิดประสบการณ์ด้วย ทางใต้ก็ไม่เลวเลยนะ บางทีพี่สี่ของนายอาจร่ำรวยจากทางนั้นก็ได้!”

 

จ้าวเหวินเทายิ้ม “ผมขอแค่เขากลับมาอย่างปลอดภัยก็พอแล้ว เอาล่ะ พี่เฉิน รบกวนพี่ด้วยนะ”

“ไม่ใช่เรื่องเหลือบ่ากว่าแรงอะไรเลย! นายไม่ต้องเกรงใจขนาดนั้น” เฉินเซิ่งพูดอย่างไม่ใส่ใจ

หลังจากทั้งสองคุยกันครู่หนึ่งจึงวางสาย

 

ตั้งแต่ต้นจนจบพี่สามและหัวหน้าหมู่บ้านมองจ้าวเหวินเทาคุยโทรศัพท์อยู่ตลอด ทั้งยังฟังการสนทนาของจ้าวเหวินเทาอย่างเงียบ ๆ นี่เป็นอีกครั้งที่พวกเขาได้เห็นถึงประโยชน์ของโทรศัพท์ ของสิ่งนี้ใช้งานได้ทันเวลาขนาดนี้ แค่คุยอยู่ที่บ้าน ทางฝั่งนั้นก็ไปจัดการให้แล้ว สะดวกเกินไปแล้ว!

“เจ้าหก ว่ายังไงบ้าง?” น้ำเสียงของพี่สามจ้าวให้ความรู้สึกที่ไม่อาจบรรยายออกมาได้

  

“ผมโทรไปหาคนรู้จักแล้ว บอกให้เขาไปถามที่สถานีขนส่งสินค้า ลองดูว่ามีข่าวคราวของพี่สี่หรือเปล่า แต่คิดว่าความหวังคงมีไม่มาก ผ่านไปนานขนาดนี้แล้ว ถ้าพี่สี่จะไปก็คงไปที่นู่นนานแล้ว” จ้าวเหวินเทาตอบ “หัวหน้าหมู่บ้าน ขอบคุณมากนะครับ รบกวนหัวหน้าหมู่บ้านแล้ว!”

“ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรเลย รบกวนอะไรกัน” หัวหน้าหมู่บ้านตอบ “ถ้ารู้ว่าเป็นแบบนี้ตั้งแต่แรก ฉันคงไม่ให้เขาขึ้นรถไป และคงรั้งให้เขากลับมา”

 

“หัวหน้าหมู่บ้าน อย่าพูดแบบนี้สิ เขาไม่ใช่เด็กน้อยแล้วนะ โตขนาดนั้นแล้ว เขาอยากจะไปไหนก็คงไม่มีใครรั้งเขาได้” จ้าวเหวินเทากล่าว

“ก็จริง เอาล่ะ ถ้าไม่มีเรื่องอื่นแล้วฉันกลับก่อนนะ ฉันยังไม่ได้กินอะไรเลย” หัวหน้าหมู่บ้านกล่าว

 

จ้าวเหวินเทาประหลาดใจ “หัวหน้าหมู่บ้านยังไม่กินข้าวเหรอ ทำไมไม่รีบบอกล่ะ ในหม้อมีกับข้าวที่เพิ่งทำใหม่ ๆ เลย ถ้าหัวหน้าหมู่บ้านไม่รังเกียจก็กินสักหน่อยแล้วค่อยกลับนะ”

 

“ไม่ต้อง ๆ ฉันต้องกลับแล้ว ที่บ้านทำอาหารไว้เรียบร้อยแล้ว” หัวหน้าหมู่บ้านพูดพลางชี้ไปที่โทรศัพท์ “ของชิ้นนี้ดีจริง ๆ ไม่แปลกใจเลยที่นายติดตั้งไว้ สะดวกทันเวลา!”

จ้าวเหวินเทาแย้มยิ้ม “จ่ายเงินก็ดีทั้งนั้นแหละครับ”

หัวหน้าหมู่บ้านยิ้มพลางพูดปลอบใจว่าไม่ต้องเป็นห่วงพี่สี่จ้าว จากนั้นจึงขอตัวกลับ

  

พี่สามจ้าวยังไม่ไป เอ่ยถามจ้าวเหวินเทาว่า “นายว่าพี่สี่ของนายจะไปไหน?”

“ไม่รู้สิ” จ้าวเหวินเทาตอบ “เขาไม่เคยบอกผมเลยว่าจะไปทางใต้ ผมว่าเขาคงตัดสินใจแบบกะทันหันแหละ”

“ตัดสินใจกะทันหัน ทำแบบนี้ไม่น่าเชื่อถือเกินไปแล้ว!” พี่สามจ้าวพูด “จริงสิ พี่สี่ของนายพกเงินติดตัวไว้เท่าไร นายรู้หรือเปล่า?”

จ้าวเหวินเทาส่ายหน้า “ผมไม่รู้หรอก เรื่องนี้พี่สะใภ้สี่น่าจะรู้มั้ง”

“ยัยนั่นจะไปรู้อะไร!” พี่สามจ้าวพูดอย่างขุ่นเคือง “พี่สี่ของนายกลับไปก็ทะเลาะกันวันนั้นเลย นี่คงโกรธจนถึงวันนี้เลยมั้ง ฉันถามพี่สะใภ้สี่ของนายดูแล้ว ยัยนั่นบอกว่าพี่สี่ของนายได้เงินมาก็ฝากธนาคารทั้งหมด ไม่รู้ว่าพูดจริงหรือโกหก เฮ้อ ออกไปข้างนอกถ้าไม่มีเงินติดตัวคงไม่ได้หรอก แต่พกเงินไว้ก็ไม่ปลอดภัยอีก พี่สี่ของนายเป็นแบบนั้น หวังว่าจะไม่ถูกคนหลอก!”

“ไม่หรอก อย่ามองว่าตอนอยู่ที่บ้านพี่สี่จะเป็นคนซื่อตรงมาก แต่ตอนไปอยู่ข้างนอกเขาก็ต้องระวังตัวอยู่แล้ว” จ้าวเหวินเทากล่าว

คนที่มีความตงฉินมากกว่านี้หากไปอยู่ข้างนอกก็ต้องยิ่งระมัดระวังตัว คนเหล่านั้นที่ถูกหลอกไม่ใช่เพราะระมัดระวังตัวไม่มากพอ แต่เป็นเพราะดวงซวยเกินไปต่างหากล่ะ

พี่สามจ้าวกล่าว “หวังว่าจะเป็นแบบนี้ คนคนนั้นที่นายโทรหาทำงานอะไรเหรอ?”

“เป็นคนที่ไปขนข้าวสารพร้อมกับผม เขาเองก็วิ่งรถขนส่งสินค้าทางไกล มีความคุ้นเคยกับสถานีขนส่งสินค้าด้วย” จ้าวเหวินเทาอธิบาย

…………………………………………………………………………………

สารจากผู้แปล

ดีที่เหวินเทามีเส้นสายรู้จักคนเยอะ ไม่อย่างนั้นก็คลำทางหาไปเถอะ แผ่นดินกว้างใหญ่ขนาดนั้นจะหาจากไหนเจอ

ไหหม่า(海馬)