บทที่ 168 พิษกู่แมลงสีดำ

ข้าคือเขยผู้ยิ่งใหญ่

“นี่พ่อหนุ่ม เธอมั่นใจใช่มั้ยว่าการที่หัวหน้ากงหลับใหลไม่ยอมตื่นนั้นเป็นเพราะติดพิษกู่เข้าจริงๆ?”

สายตาที่ดุจสายฟ้าของว่านชิงเฟิง กำลังจ้องเขม็งไปที่เย่เทียน พร้อมกับสีหน้าที่ซีเรียสที่สุด

“ทำไมผมถึงต้องโกหกพวกคุณด้วย? อีกอย่าง ถ้าผมโกหกพวกคุณไปแล้วผมจะได้ประโยชน์อะไร?”

“เมื่อกี้ตาแก่ก็ตรวจดูแล้ว ระบบต่างๆ ในร่างกายของหัวหน้ากงนั้นปกติดี และอาจจะดีกว่าคนทั่วไปด้วย นอกจากจะติดพิษกู่แล้วมันจะเป็นอะไรได้อีก?”

“พูดตามตรง ถ้าไม่รีบเอาพิษกู่ออกมา เกรงว่าคืนนี้มันก็น่าจะเข้าไปกัดกินหัวใจของหัวหน้ากงแล้ว พอถึงตอนนั้น มันก็จะไม่ทันการณ์แล้วจริงๆ!”

สิ่งที่เย่เทียนพูดมานั้นไม่ใช่การจงใจทำให้หวาดกลัว เมื่อชาติที่แล้ว เพื่อการตามหาเบาะแส สามารถพูดได้เลยว่าเขานั้นไปมาทุกที่แล้ว มีเรื่องประหลาดอะไรที่เขาไม่เคยเจอบ้าง

แน่นอน ว่าการตรวจเจอว่าหัวหน้ากงติดพิษกู่ในครั้งนี้ มันก็เกินความคาดหมายของเขาไปบ้าง

เมื่อชาติที่แล้ว เขาไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่ายายลี่ชุ่ยฮวาจะใช้กู่ที่เป็นวิธีการที่ล้ำเลิศแบบนี้

แต่ว่า พอคิดว่าลี่ชุ่ยฮวาเป็นคนที่ออกมาจากสำนักพิษห้า เย่เทียนก็ไม่ได้รู้สึกว่ามันเป็นเรื่องที่น่าแปลกอะไร

อีกอย่าง พิษห้านั้นเป็นแค่ชื่อ ความจริงพิษที่สำนักพิษห้าใช้นั้นคงไม่ต่ำกว่าพันกว่าหมื่นหรอกมั้ง?

พอได้คำตอบที่ชัดเจนแล้ว ว่านชิงเฟิงก็อดไม่ได้ที่จะมองเย่เทียนอย่างลึกซึ้งครั้งหนึ่ง แล้วบอกกับเขาอย่างเจียมตัว พ่อหนุ่มคนนี้อายุยังน้อยไม่น่าจะโกหกหรอก

“แล้วเธอมีวิธีที่จะรักษาเขามั้ย?”

“สิ่งที่คุณพูดมามันไม่ต่างอะไรกับผายลมเลย ในเมื่อผมสามารถดูออกว่าอาการของหัวหน้ากงเป็นยังไง งั้นก็แสดงว่าผมต้องรู้วิธีรักษาอยู่แล้วสิ!”

เย่เทียนเหลือบมองว่านชิงเฟิงอย่างไม่ชอบใจไปทีหนึ่ง จากนั้นก็แบมือออก “มีเข็มเงินมั้ย?”

ว่านชิงเฟิงที่ได้ยินอย่างนั้น ก็ลังเลไปแปบหนึ่ง แต่สุดท้ายก็หยิบกระเป๋าเข็มเงินให้เขาอยู่ดี

เดิมที่เขาก็เติบโตจากการเป็นหมอแผนจีนอยู่แล้ว ดังนั้นพวกเข็มเงินกับเครื่องมือทางการแพทย์ก็ต้องติดตัวไว้ตลอดอยู่แล้ว

เย่เทียนกางกระเป๋าเข็มเงินออก เผยให้เห็นเข็มเงินระยิบระยับความยาวไม่เท่ากันที่อยู่ภายใน

“ใช้ได้ใช้ได้ เป็นเข็มเงินแท้ซะด้วย ดูไม่ออกจริงๆ ว่าตาแก่อย่างคุณจะลงทุนถึงขนาดนี้”

พอเห็นอย่างนั้น เย่เทียนก็อดไม่ได้ที่จะมองว่านชิงเฟิงอย่างชื่นชมไปทีหนึ่ง

พอเห็นเย่เทียนที่สามารถมองออกในทีเดียว พวกหมอของโรงพยาบาลในเครือมหาวิทยาลัยแพทย์ที่อยู่รอบๆ ก็พากันทำหน้าประหลาดขึ้นมาทันทีจะบอกว่าไอ้หนุ่มนี้จะไม่ได้โกหกจริงๆ อย่างนั้นเหรอ? เขาเป็นหมอจริงๆ เหรอ?

เย่เทียนไม่ได้สนใจว่าพวกเขาจะคิดยังไง แค่หยิบเข็มเงินขึ้นมาเล่มหนึ่ง ชี่ทิพย์อันบริสุทธิ์ถูกขับออกจากร่างกาย แล้วไปรวมอยู่ที่เข็มทั้งหมด

ทันใดนั้น เข็มเงินที่ควรจะเป็นแค่สิ่งของกลับเปลี่ยนเป็นส่ิงที่คล้ายจะมีชีวิต ตรงปลายเข็มมีการสั่นสะเทือนเล็กน้อยและยังสามารถได้ยินเสียงกรีดร้องเบาๆ ด้วย!

“อ้า!”

ยังไม่ทันที่ทุกคนจะตั้งสติได้ ว่านชิงเฟิงที่พบเห็นอะไรมามากมายก็ร้องออกมาด้วยความตกใจ ราวกับได้เห็นสิ่งที่ไม่คิดว่าจะได้เห็นเข้าแล้ว “ระ หรือนี่จะเป็นวิชาต่อชีวิตสามเข็ม?”

“วิชาต่อชีวิตสามเข็ม? มันคืออะไร?” ทุกคนต่างทำหน้างง แล้วมองเย่เทียนด้วยสีหน้าที่แปลกประหลาด

นี่มันก็แค่การฝังเข็มไม่ใช่เหรอ? แล้วขั้นตอนมันแตกต่างกันตรงไหน?

“ท่านว่าน วิธีฝังเข็มที่ น้องน้อยเย่ใช้มันมีชื่อเสียงมากเลยเหรอครับ?”

เฉาจื้อเหาถามออกมาด้วยความสนใจ

“คุณเฉา! วิธีฝังเข็มที่น้องน้อยเย่ใช้มันไม่ธรรมดาจริงๆ!”

ว่านชิงเฟิงถึงกับต้องกลืนน้ำลายจากนั้นก็ค่อยๆ อธิบายว่า “คุณเฉาครับ มันก็เหมือนกับชื่อเรียกของวิธีการฝังเข็มนี่เลย ไม่ว่าจะเป็นโรคอะไร โรคอะไรที่รักษายากๆ อย่างมากก็ใช้แค่สามเข็มก็สามารถดึงคนไข้กลับมาจากความตายได้!”

ระหว่างที่พูด สายตาที่ขุ่นมัวคู่นั้นของเขาก็ได้จับจ้องไปที่เย่เทียน แววตาก็เต็มเปี่ยมไปด้วยความอิจฉาที่ไม่อาจปิดบังได้

สิ่งที่เขาไม่ได้พูดก็คือ วิชาต่อชีวิตสามเข็มที่ว่ามานี้ มันควรจะสาบสูญไปเป็นร้อยปีแล้ว ต่อให้เป็นเขา ก็แค่เคยเห็นผ่านๆ จากในหนังสือแพทย์โบราณเท่านั้น นี่จึงเป็นครั้งแรกที่เขาคนใช้มันกับตาตัวเอง!

การที่จู่ๆ ว่านชิงเฟิงก็พูดออกมานั้น ก็ทำให้เย่เทียนที่กำลังตั้งสมาธิอยู่ถึงกับตกใจจนมือสั่น คัมภีร์หวงที่อยู่ในร่างกายเกือบจะตามไม่ทัน จึงได้หันมาถลึงตาใส่ว่านชิงเฟิงไปทีหนึ่ง

“พวกคุณช่วยทำตัวให้รู้กาลเทศะหน่อยจะได้มั้ย? ไม่รู้รึไงว่าเวลาที่คนอื่นกำลังทำการรักษามันต้องการสมาธิ? ถ้าใครที่ทนไม่ไหวจนอยากจะพูด ก็รีบไสหัวออกไปซะ!”

การที่เย่เทียนพูดแบบนั้นออกมาก็แสดงว่าเขาไม่พอใจมากแล้ว

ทว่า ว่านชิงเฟิงไม่เพียงไม่โกรธ แต่กลับเชื่อฟังอย่างว่าง่าย หุบปากลงทันที กลัวว่าตัวเองจะถูกไล่ออกไป

พอทุกคนได้เห็นอย่างนั้น ต่างก็อึ้งไปตามๆ กัน

คนที่เป็นที่ยอมรับในวงการแพทย์อย่างว่านชิงเฟิงถูกไอ้หนูคนหนึ่งต่อว่าเข้าให้? แต่เขากลับทำตัวเหมือนเด็กนักเรียนที่ถูกครูตำหนิแล้วไปยืนเงียบอยู่ข้างๆ?

“นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่? หรือวันนี้ฉันจะเหนื่อยเกินไป? แล้วตอนนี้ก็กำลังฝันอยู่ใช่มั้ย?”

“ฉันว่ามันจะเป็นภาพหลอนล่ะมั้ง? นี่ยังเป็นท่านว่านอยู่จริงๆ ใช่มั้ย?”

เหล่าหมอที่รู้จักนิสัยของว่านชิงเฟิงเป็นอย่างด่างพาก็ช็อกไปตามๆ กัน ต่างก็ไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นตรงหน้า

วิ้ง!

เย่เทียนไม่สนใจว่าพวกเขากำลังคิดอะไรอยู่ เข็มเงินในมือก็ได้ส่งเสียงวิ้งอันบริสุทธิ์ขึ้น ทันใดนั้นมันก็พุ่งออกจากมือแล้วทิ่มลงไปที่หน้าอกของกงหย่วนอย่างมั่นคง

แต่สิ่งที่น่าตกใจที่สุดก็คือ ที่ส่วนปลายของเข็มยังคงมีการสั่นอยู่เบาๆ ผ่านไปตั้งนานก็ยังไม่ยอมหยุด!

เข็มแรกผ่านไป เย่เทียนก็ยังไม่ได้หยุดมือ เขาได้แทงเข็มอีกสองเล่มเข้าไปในตัวของกงหย่วนอย่างรวดเร็วราวกับสายฟ้า

ว่านชิงเฟิงรวบรวมสมาธิ ไม่แม้แต่จะกะพริบตาด้วยซ้ำ เพราะกลัวตัวเองจะพลาดรายละเอียดอะไรไป

เหตุการณ์ทุกอย่างมันเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว นอกจากเข็มแรก อีกสองเข็มที่เหลือเย่เทียนก็ฝังมันลงไปอย่างรวดเร็วดั่งสายฟ้าฟาด

ทุกคนต่างก็รู้สึกเหมือนตาลาย และไม่มีทางมองตามการเคลื่อนไหวของเย่เทียนได้เลย

หลังจากที่เข็มทั้งสามถูกแทงลงไป เย่เทียนก็ยังไม่กล้าวางใจ สายตาจ้องมองไปยังกงหย่วน ยื่นมือออกไปแล้วพูดออกมาโดยที่ไม่เงยหน้าเลยด้วยซ้ำ

“เอามีดมา!”

เมื่อคำพูดนั้นดังขึ้น ทุกคนที่อยู่ตรงนั้นก็ไม่มีใครขยับตัวเลย

นี่แกเป็นใคร? แกบอกจะเอามีดก็คิดว่าจะได้เลยรึไง คิดว่าตัวเองเป็นใคร!

โจ๋หย่วนหันอยากเข้าไปช่วย แต่ใครจะไปคิดว่าว่านชิงเฟิงกลับชิงออกไปก่อน แล้วรีบยื่นมือไปหยิบมีดปอกผลไม้ในถาดผลไม้ที่วางอยู่ตรงหัวเตียง แล้ววางมันไว้ในมือของเย่เทียนด้วยท่าทางที่สุภาพ

ทุกคนตรงนั้นต่างตกใจกับพฤติกรรมที่ผิดปกติของเย่เทียนมาก พอได้มาเห็นว่านชิงเฟิงทำตัวแบบนี้ หางตาก็กระตุกหนักยิ่งกว่าเดิม

คนที่สามารถทำให้ว่านชิงเฟิง นายท่านว่านลงมือด้วยตนเอง ในช่วงหลายสิบปีมานี้เห็นทีก็น่าจะมีไอ้หนูนี่แหละที่เป็นคนแรก? เย่เทียนไม่มีเวลาไปสนใจพวกเขา ตอนที่รับมีดปอกผลไม้มา ไม่พูดไม่จาแล้วหันมันไปทางกงหย่วน

“นี่แกจะทำอะไร!”

“บังอาจ!”

การกระทำนี้ทำให้ทุกคนถึงกับโมโหขึ้นมา การที่เขากล้าทำร้ายร่างกายต่อหน้าสายตามากมายขนาดนี้ มันจะใจกล้าเกินไปแล้ว!

แต่ไม่ว่ายังไงเย่เทียนก็ไม่มีทางหยุดมือกลางคันอยู่แล้ว ด้านคมของมีดปอกผลไม้ได้กรีดนิ้วของกงหย่วนเป็นแผลอย่างรวดเร็ว

ท่านกลางความตื่นตกใจของทุกคน ก็เห็นว่านิ้วที่เป็นแผลของกงหย่วนมีเลือดที่ทั้งดำทั้งเหม็นคาวได้ไหลออกมา!

พรึบพรึบ!

ยังไม่ทันที่ทุกคนจะตั้งสติได้ ก็ได้มีแมลงสีดำตัวหนึ่งมุดออกมาจากปลายนิ้วของกงหย่วน พอสัมผัสกับอากาศมันก็กางปีกแล้วบินออกไปทันที

“แกคิดว่าจะหนีรอดเหรอ?”

เย่เทียนทำเสียงฮึดฮัด รีบหยิบเข็มเงินที่วางอยู่ข้างๆ ขึ้นมา แล้วเหวี่ยงเข็มเงินที่ฉายเเสงเยือกเย็นออกไป!