“แกคิดว่าจะหนีรอดเหรอ?”
พอเห็นแมลงพิษกู่สีดำคิดที่จะบินหนี เย่เทียนที่เตรียมตัวมานานแล้วจะปล่อยให้มันทำสำเร็จได้ยังไง
ความจริง ด้วยความสามารถของเย่เทียน ต่อให้ไม่ใช้เข็มเงินก็ยังสามารถบังคับให้มันออกมาจากร่างกายของกงหย่วนได้
เพียงแต่ เขาแค่ไม่มั่นใจว่าหนอนกู่จะลวงไปทั่วร่างของกงหย่วนอย่างไม่สนใจอะไรเลยรึเปล่า
พอถึงตอนนั้น ต่อให้สามารถบังคับหนอนกู่ให้ออกได้ แต่กงหย่วนก็คงไปนั่งจิบชากับยมบาลแล้ว
ด้วยเหตุนี้ เย่เทียนจึงจำเป็นต้องให้เข็มเงินสกัดจุดของกงหย่วนเอาไว้ ทำให้เลือดมันมุ่งมาที่ปลายนิ้ว
เมื่อหนอนกู่ตกอยู่ในภาวะวิกฤติ มันจึงจะหนีไปทางเดียว แล้วมุดออกมาจากร่างของกหย่วน
พอเปลี่ยนความคิด มุมปากของเย่เทียนก็ยิ้มออกมาอย่างเยือกเย็น มือขวาได้หยิบเข็มเงินขึ้นมาอย่างรวดเร็ว แล้วเหวี่ยงมันออกไปอย่างสบายๆ
ติ้ง!
เครื่องมือที่ทุกคนยากที่จะจับต้องได้อย่างเข็มเงิน ได้เกิดเสียงโลหะดังขึ้นเบาๆ
พอมองตามไป ก็เห็นเจ้าแมลงสีดำได้ถูกเสียบอยู่ที่กำแพง เข็มเงินกว่าครึ่งได้ปักเข้าไปในกำแพงที่ขาวเหมือนหิมะ!
ทุกคนต่างพากันเพ่งมองไป จากนั้นก็หันมาสบตากัน แล้วช็อกไปตามๆ กัน
ถึงจะบอกว่าเจ้าแมลงได้ถูกตรึงอยู่ตรงกำแพงแล้ว แต่สิ่งที่อัศจรรย์ที่สุดก็คือมันไม่ได้ทำอันตรายใดๆ กับเจ้าแมลงเลยมันแค่เสียบอยู่ตรงปีกของเจ้าแมลงที่กำลังดิ้นรนสุดชีวิตก็เท่านั้น
พอทำทุกอย่างไปแล้ว เย่เทียนถึงรู้สึกโล่งอกสักที มันถือว่าปัญหาทุกอย่างได้ถูกจัดการแล้ว
“นะ นี่นะเหรอหนอนกู่?”
ว่านชิงเฟิงจ้องมองแมลงสีดำที่ถูกตรึงไว้ตรงกำแพงด้วยสีหน้าที่ตื่นตกใจ ทุกสิ่งทุกอย่างที่ได้เห็นในวันนี้มันได้ทำลายความรู้ทุกอย่างที่เขามีแล้ว
นึกไม่ถึงว่าพิษกู่ที่เลื่องลือจะมีอยู่จริง!
เย่เทียนพยักหน้าเบาๆ พอเห็นทุกคนต่างพากันเดินเข้าไปดูหนอนกู่นั่น มุมปากก็อดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมาอย่างชั่วร้าย
“ไอ้ดูก็ดูได้ แต่ว่าพวกคุณต้องระวังด้วยกันนะ!”
พลังในการกัดของแมลงตัวนี้รุนแรงมาก แถมยังเร็วมากด้วย มันสามารถใช้เวลาสั้นๆ เพียงไม่กี่วิในการมุดเข้าไปในเส้นเลือดของคน จากนั้นก็เคลื่อนที่ผ่านเส้นเลือดเดินทางไปทั่วร่าง”
“ถ้าไม่สามารถเอามันออกมาได้ รับรองได้เลยว่าภายในเวลาสิบสองชั่วโมงมันก็จะกัดกินหัวใจของคนที่ติดพิษ แล้วทำให้คนๆนั้นเจ็บปวดจนตาย!”
พอพูดไปอย่างนั้น สีหน้าของทุกคนก็เปลี่ยนไป ไม่คิดไม่ฝันว่าในโลกจะมีสิ่งมีชีวิตที่โหดเหี้ยมแบบนี้ ทำเอาพวกเขาตกใจจนรีบก้าวถอยหลัง กลัวว่าตัวเองจะถูกกัดกินหัวใจอย่างเจ็บปวด!เย่เทียนรู้สึกตลกในใจ สิ่งที่พูดไปก็แค่อยากทำให้ทุกคนตกใจก็เท่านั้น
หนอนกู่นั้นเป็นแค่ชื่อเรียกรวมๆ เท่านั้น แต่จะเป็นการใช้พิษแบบไหนหรืออาการยังไง ก็ยังต้องดูว่าหนอนกู่ตัวนั้นเป็นตัวอะไร
แต่ว่า เย่เทียนนั้นมั่นใจว่าหนอนกู่ตัวนี้ไม่ใช่แบบที่กัดกินหัวใจแน่นอนไม่อย่างนั้นกงหย่วนได้ตายไปนานแล้ว และไม่รอดจนต้องให้เขาออกโรงหรอก
พอเห็นทุกคนก้าวถอยหลัง เย่เทียนก็อาศัยจังหวะนี้หยิบขวดที่ไว้ใส่ยาออกมาขวดหนึ่ง ในตอนที่ดึงเข็มเงินออกเขาก็ขังแมลงตัวนั้นเอาไว้ในขวดอย่างรวดเร็ว
ถึงความอันตรายของหนอนกู่จะมีสูง แต่มูลค่าของมันก็สูงมากเหมือนกัน ไม่ต่างอะไรกับแมงมุมร้อยพิษหกสีเมื่อก่อนหน้านี้ แล้วเย่เทียนจะปล่อยให้หลุดมือไปได้ยังไง
“อืม……”
ทันใดนั้น ก็ได้มีเสียงครวญครางที่เหนื่อยล้าดังขึ้นจากบนเตียง
ภรรยาของกงหย่วนที่จับตาดูอาการของกงหย่วนอยู่ตลอดเวลา พอได้ยินเสียงนั้น เธอก็รีบอุ้มลูกสาวแล้ววิ่งเข้าไปดูแล้วกุมมือของกงหย่วนเอาไว้แน่นๆ น้ำตาที่เป็นประกายได้ก่อตัวและไหลลงมาอีกครั้ง
สิ่งที่เกิดขึ้นก็ได้ดึงดูดความสนใจของทุกคนเข้าทันที แล้วหันความสนใจออกจากหนอนกู่มองไปยังกงหย่วนที่ค่อยๆ ฟื้นคืนสติมา พร้อมกับสีหน้าที่ไม่อยากจะเชื่อ
หมอทุกคนของโรงพยาบาลอันดับสาม หรือแม้แต่ผู้อำนวยการอย่างว่านชิงเฟิงก็ยังอับจนหนทาง แต่ตอนนี้กลับถูกพ่อหนุ่มคนนี้รักษาจนหายแล้ว?
แต่ว่า สิ่งที่ไม่มีใครสังเกตเห็นคือ ชายในเสื้อผ้าหรูหราที่ยืนอยู่ข้างหลังเฉาจื้อเหา พอเห็นกงหย่วนฟืนคืนสติ แววตาก็เกิดเป็นประกายที่ยากจะสังเกตเกิดเห็นขึ้น สายตาที่มองไปยังเย่เทียนก็ร้อนแรงขึ้น
เพื่อความมั่นใจ ว่านชิงเฟิงจึงรีบเดินไปอีกฝั่ง จับมืออีกข้างของกงหย่วนขึ้นมาแล้วทำการตรวจชีพจรอย่างละเอียด
หลังผ่านไปพักใหญ่ เป็นไปตามคาด ว่านชิงเฟิงก็รู้ว่าร่างกายของกงหย่วนนั้นหายเป็นปกติแล้ว ในใจก็รู้สึกตื่นเต้นมาก!
“ผะ ผมเป็นอะไรไป?”
กงหย่วนค่อยๆ ลืมตาด้วยความอ่อนล้าอย่างถึงที่สุด
ว่านชิงเฟิงอธิบายอยู่ข้างๆ “หัวหน้ากง ก่อนหน้านี้คุณได้หมดสติโดยที่ไม่ยอมฟื้นขึ้นมาสักที ในที่สุดตอนนี้คุณก็ฟื้นขึ้นมาแล้ว!”
เห็นได้ชัดว่ากงหย่วนนั้นรู้จักกับว่านชิงเฟิง ใบหน้าที่ซีดเซียวได้แสดงความตื้นตันออกมา และพูดออกมาอย่างแผ่วเบาว่า “ผะผู้อำนวยการว่าน คุณเป็นคนช่วยผมไว้เหรอครับ?”
พอว่านชิงเฟิงได้ยินอย่างนั้น มุมปากก็ยิ้มขมขื่นออกมาอย่างเลี่ยงไม่ได้ เขาส่ายหน้า “หัวหน้ากง ผมมันไม่ได้มีความสามารถถึงขนาดนั้น พ่อหนุ่มคนนี้ต่างหากที่ช่วยคุณไว้”
ระหว่างที่พูด สายตาที่ว่านชิงเฟิงมองไปยังเย่เทียนก็เต็มเปี่ยมไปด้วยความเร่าร้อน ลำพังแค่เย่เทียนที่สามารถช่วยกงหย่วนที่เขาไม่อาจช่วยให้ฟื้นขึ้นมาได้ แค่นี้ก็รู้แล้วว่าความสามารถในการรักษานั้นสูงส่งแค่ไหน!
ที่สำคัญ วิชาต่อชีวิตสามเข็มที่ควรสาบสูญไปกว่าร้อยปีที่เย่เทียนแสดงออกมาเมื่อกี้ มันยิ่งทำให้เขารู้สึกว่าเทียบไม่ติด แค่ได้ยืนมองก็ถือว่าเป็นบุญตาแล้ว!
“นะ น้องเย่?”
กงหย่วนมองตามสายตาของว่านชิงเฟิงไป จ้องมองใบหน้าของเย่เทียนด้วยความอึ้ง และช็อกอย่างสมบูรณ์แล้ว
จากที่จี้เยียนหรันพูดมา เขารู้แค่ว่าเย่เทียนนั้นเป็นคนที่ไขคดีเก่งมาก ฝีมือก็เก่งกาจ แต่ไม่นึกเลยว่าวิชาการรักษาของเย่เทียนจะสูงส่งถึงเพียงนี้!
ทันใดนั้น กงหย่วนที่เคยประมือกับเย่เทียนก็รู้สึกเสียใจขึ้นมาทันที
เสียใจที่ตัวเองแต่งงานช้าถึงขนาดนี้ เสียใจที่มีลูกสาวช้าไป ไม่อย่างนั้นเขาต้องขอเย่เทียนให้มาเป็นลูกเขยของตนแน่นอน!
“คุณไม่ต้องมองผมแบบนั้นก็ได้ ตอนแรกผมก็ตั้งใจที่จะช่วยคุณฟรีๆ นะ แต่ดันมีคนอยากจะออกค่ารักษาให้ จึงต้องถือเป็นการรับเงินแล้วช่วยจัดการปัญหาให้คนอื่น มันจึงเป็นสิ่งที่ผมควรทำตั้งแต่แรกแล้วครับ”
เย่เทียนไม่แม้แต่จะเงยหน้า โบกไม้โบกมืออย่างเรียบง่าย แต่สายตากลับจ้องไปยังหนอนกู่อย่างไม่ยอมละสายตา
ถึงนี่จะเป็นชีวิตที่สองของเขา แต่นี่เป็นเพียงครั้งที่สองเท่านั้นที่เขาได้เห็นหนอนกู่
ชาติก่อนที่เห็น เป็นแมงป่องที่ตัวใหญ่เท่ามด ถ้าไม่เอาแว่นขยายส่องดูตั้งนาน เขาก็คงไม่อาจแยกออกว่ามันเป็นตัวอะไรกันแน่
แต่ มันก็ทำให้เย่เทียนรู้สึกสนใจในวิธีการฝึกกู่ขึ้นมา ตกลงมันใช้วิธีอะไรจึงจะสามารถทำให้แมงป่องตัวหนึ่งหดให้เล็กเท่ามดได้?
พอมาเจออีกครั้ง จะให้เขาไม่สงสัยได้ยังไงล่ะ?
“อะหยวน นายเพิ่งจะได้สติขึ้นมา ร่างกายยังอ่อนเพลียมาก ควรพักผ่อนก่อนดีกว่านะ!”
ทันใดนั้น เฉาจื้อเหาก็ได้ตื่นจากความช็อกแล้ว จึงเดินมาข้างหน้า แล้วพูดเบาๆ ที่ข้างเตียง
ความจริงร่างกายของกงหย่วนนั้นอ่อนล้ามาก ฟื้นขึ้นมาได้เพียงไม่กี่นาทีก็หมดสติไปอีกแล้ว
“น้องชาย ขอบคุณมาก ต้องขอบคุณมากจริง”
ภรรยาของกงหย่วนรีบกล่าวขอบคุณเย่เทียนทันที
“ไม่เป็นไร ไม่ต้องขอบคุณผมหรอกครับ เมื่อกี้ผมเองก็ได้พูดไปแล้ว”
“ในเมื่อมีคนอยากทำตัวเป็นคนสายเปย์ กับการที่ผมรับผลประโยชน์จากคนอื่น มันก็เป็นสิ่งที่ผมควรทำอยู่แล้ว” เย่เทียนที่ยังไม่รู้ที่มาที่ไปได้เก็บหนอนกู่เอาไว้อย่างระมัดระวัง แล้วจ้องมองไปยังเฉาจื้อเหาด้วยสีหน้าที่จะยิ้มไม่ยิ้ม