บุตรอสูรบรรพกาล บุตรอสูรบรรพกาล ตอนที่ 229 ผลกระทบ
“นี่ยัยแมงมุม ทําไมจูเอ๋อถึงจําอะไรไม่ได้เลยล่ะ” หวังเฉียนที่นั่งอยู่ภายในห้องที่เปรียบเสมือนจิตใต้สํานึกของไป่จูเหวินถามพลางมองอสูรแมงวมุมที่อยู่ข้างๆ
“มันเป็นผมข้างเคียงของการย้อนเวลานะสิ” อสูรแมงมุมตอบพลางนั่งพักอยู่กับที่ นางในตอนนี้เป็นเพียงร่างในจิตใต้สํานึกของไป่จูเหวินเท่านั้น หรือก็คือนางเป็นแค่พลังเศษเสี้ยวเดียวที่เหลือในแก่นอสูรก่อนร่างกายจริงๆจะดับสลาย ทําให้พลังที่นางใช้ได้มีจํากัดมาก การใช้เวทย้อนเวลาเพียงครั้งเดียวทําให้นางเหนื่อยอ่อนไม่น้อย เทียบกับตอนอยู่ในร่างหลักที่ใช้มันได้ราวกับเรื่องปกติไม่ไหวจริงๆ
“ย้อนเวลา นี่เจ้าทําอะไรแบบนั้นได้ด้วยเหรอ” หวังเฉียนถามด้วยความตกตะลึง แน่นอนว่าการโจมตีของอสูรปักเป้านั้นรุนแรงมาก แค่พลังธาตุศักดิ์สิทธิ์ไม่สามารถรักษาร่างกายของไป่จูเหวินได้ทันอยู่แล้ว แต่ก็นับว่าโชคดีที่ไป่จูเหวินมีพลังศักดิ์สิทธิ์และมีร่างกายที่แข็งแกร่งจากอสูรแมงมุม ทําให้ไป่จูเหวินยังสามารถรอดมาได้ในสภาพใกล้ตาย อสูรแมงมุมจึงใช้วิชาย้อนเวลาเพื่อทําให้ไป่จูเหวินกลับไปอยู่ในสภาพปกติ
“จะว่าไปคราวก่อนก็ทําให้จูเอ๋อจําอะไรไม่ได้เหมือนกันหรือเปล่านะ” อสูรแมงมุมว่าทําท่าครุ่นคิดครั้งแรกที่เจอไป่จูเหวิน นางก็ใช้การย้อนเวลารักษาร่างกายที่ตกลงมาจากหน้าผาของไป่จูเหวินเช่นกัน สภาพในตอนนั้นต่อให้เป็นมังกรธรรณีหรือราชสีห์เพลิงก็คงรักษาไม่ไหวแน่ๆ แต่เพราะตอนนั้นไป่จูเหวินยังเด็กนางเลยไม่ทราบว่าความทรงจําก่อนหน้านี้ของไป่จูเหวินหายไปหรือไม่
“เดี๋ยวสิ แล้วแบบนี้จูเอ๋อจะความจําเสื่อมไปตลอดเลยงั้นเหรอ” หวังเฉียนถามด้วยความเป็นห่วง เพราะหากความทรงจําของไป่จูเหวินหายไปแบบนี้มีหวังได้ลําบากแน่ๆ
“ข้าเองก็ไม่รู้หรอก จะว่าไปเจ้าไก่ฟ้าก็ไม่เห็นความจําเสื่อมนี่นา หรือจะแล้วแต่ความรุนแรงของความเสียหาย”อสูรแมงมุมว่าพลางเอียงคออย่างสงสัย ตอนนั้นนางเองก็ย้อนเวลากับไก่ฟ้าหงอนทองเช่นกัน แต่มันกลับไม่ได้มีอาการความจําเสื่อมเลย หรือเพราะตอนนั้นนางไม่ได้ทําอะไรสมองของมันกันนะ
“แต่ถ้ามีอะไรมากระตุ้นก็อาจจะจําได้ก็ได้นะ” อสูรแมงมุมว่าพลางยิ้มเจื่อนๆ นางเองก็ไม่อยากให้ไป่จูเหวินลืมเรื่องของนางหรอก
“กระตุ้น แล้วในต่างแดนแบบนี้จะมีอะไรกระตุ้นจูเอ่อได้ละ” หวังเฉียนว่าพลางมองไปรอบๆ ในยามที่ไป่จูมีสติไม่ได้หลับไป พวกนางจะเห็นว่าภายนอกเกิดอะไรขึ้นบ้าง แต่ไป่จูเหวินโดนพัดมาไกลมาก เรียกได้ว่าอยู่แผ่นดินคนละผืนเลยก็ได้ แล้วจะมีอะไรมากระตุ้นไป่จูเหวินได้กัน?
“ก็คงแล้วแต่โชคชะตาละมั้ง” อสูรแมงมุมตอบพลางส่ายหน้าเบาๆ พวกนางเป็นแค่รูปแบบหนึ่งของพลังที่ไป่จูเหวินครอบครอง ไม่สามารถทําอะไรได้มากมายเลย
“แบบนั้นก็ทําให้จูเอ่อพัฒนาเร็วๆเถอะ หากเขาเลื่อนเป็นระดับเทียนเซียนเขาจะได้มาเจอพวกเราอีกครั้ง ตอนนั้นเขาต้องจําพวกเราได้แน่ๆ” หวังเฉียนตอบปรบมือที่หนึ่ง คราวก่อนตอนที่ไป่จูเหวินได้เห็นนางครั้งแรก ก็เห็นได้ชัดเลยว่าไป่จูเหวินยังมีสายสัมพันธ์กับนางอยู่ แม้มันจะจํานางไม่ได้ก็ตาม
“พวกเราก็ได้แต่เอาใจช่วยเขาละนะ” อสูรแมงมุมตอบพลางมองสิ่งที่ไป่จูเหวินกําลังมองเห็นอยู่ นางไม่คิดว่าแค่เสียความทรงจําไปจะทําให้ไป่จูเหวินเปลี่ยนไปหรอก
“เป็นยังไงบ้าง ร่างกายของเจ้าไม่เป็นไรนะ” ชายที่พบไป่จูเหวินเป็นคนแรกถามพลางพาไป่จูเหวินเข้าไปในบ้านของมันที่มีรูปร่างเหมือนกระท่อมทั่วๆไปไม่มีผิด
“ไม่เป็นไรขอรับ ข้าสบายดี”ไป่จูเหวินตอบพลางมองพื้นที่รอบๆอย่างประหลาดใจ มันจําไม่ได้หรอกว่าก่อนหน้านี้มันเป็นอย่างไร แต่กระท่อมของชายคนนี้ดูแล้วแปลกตาดี การตกแต่งและรูปแบบการสร้างค่อนข้างแตกต่างจากสิ่งที่มันคุ้นเคยที่เดียว
“แปลกดี ทั้งๆที่ร่างกายของเจ้าซีดขนาดนั้นแท้ๆ” ชายคนนั้นตอบพลางมองร่างของไป่จูเหวิน แม้ความจริงแล้วสีเช่นนี้เกิดจากพลังของอสูรแมงมุม แต่ในสายตาคนทั่วไปแล้วกลับมองว่ามันขาวจนซีดไปหน่อยมากกว่า
“อาจจะเป็นสีผิวแต่เดิมของข้าก็ได้ขอรับ”ไป่จูเหวินตอบพลางยิ้มน้อยๆ
“อ่อ แล้วเจ้าจําได้ไหมว่าเจ้าชื่ออะไร” ชายหนุ่มถามพลางมองมาทางไป่จูเหวินนิ่ง
“ไม่ขอรับ…”ไป่จูเหวินว่าพลางส่ายหน้าเบาๆ
“แบบนั้นคงลําบากแย่ แต่ยังไงก็ต้องมีชื่อเรียกเจ้าละนะ” ชายคนนั้นว่าพลางมองร่างของไป่จูเหวินอีกครั้ง แม้จะออกขาวซีด แต่ร่างของมันทําให้รู้สึกถึงไข่มุกขึ้นมาเลย
“เพิร์ล ข้าจะเรียกเจ้าแบบนั้นก็แล้วกัน” ชายตรงหน้าว่าพลางหยักหน้าช้าๆ
“เพิร์ล?”ไป่จูเหวินที่ถูกตั้งชื่อให้ขมวดคิ้วงงๆ แม้จะฟังดูแปลกๆ แต่ชื่อเดิมของไป่จูเหวินก็มีคําว่าจูที่แปลว่าไข่มุกอยู่ แม้จริงๆแล้วพวกท่านน้าจะตั้งให้เพื่อเลียนเสียงคําว่าตู ที่แปลว่าแมงมุมก็ตาม แต่ชื่อนั้นก็ทําให้มันรู้สึกคุ้นเคยดี
“แล้วท่านล่ะ”ไป่จูเหวินถามพลางมองกลับไปที่ชายตรงหน้า
“ข้าชื่อวัลเดน ข้าเป็นผู้คุ้มครองแห่งชายฝั่งตะวันออกแห่งนี้”ได้ยินคําตอบไปจุเหวินก็เอียงคอสงสัยทันที
“ไม่ใช่ว่าท่านแค่นั่งตกปลาหรอกหรือ”ไป่จูเหวินถามเพราะครั้งแรกที่มันเห็นวัลเดนมันกําลังตกปลาอยู่จริงๆ
“ผู้คุ้มครองก็ต้องกินต้องใช้ พอไม่มีข้าวกินก็ต้องหาปลากินสิ” วัลเดนตอบพลางจุดไฟภายในบ้าน
“เจ้าละ จะเอายังไงต่อ”วัลเดนถามพลางเอามือยังที่ไฟ เพื่อให้ร่างกายอบอุ่น มันนั่งท้าลมทะเลมาทั้งวัน แม้จะเป็นพื้นที่เขตอบอุ่นแต่มันก็ยังหนาวอยู่ดี
“ข้าเองก็ไม่ทราบขอรับ”ไป่จูเหวินตอบพลางยิ้มเจื่อนๆ เอาตามตรงมันยังจับต้นชนปลายไม่ถูกเสียด้วยซ้ํา
“งั้น เจ้าก็มาช่วยข้าคุ้มกันเมืองเป็นอย่างไร” วัลเดนถามพลางจ้องมองมาทางไป่จูเหวิน
“คุ้มครอง คุ้มครองอะไรขอรับ”ไป่จูเหวินถามงงๆ เพราะตรงนี้มีแต่บ้านของวัลเดนเท่านั้น
“ขึ้นเหนือชายฝั่งไปจะมีเมืองเล็กๆอยู่ ข้าปกป้องเมืองนั้นจากศัตรู” วัลเดนว่าพลางชี้ไปที่เนินดินที่อยู่สูงขึ้นไป ทําให้ไป่จูเหวินเปลี่ยนดวงตาเป็นสีน้ําเงินพลางมองออกจากหน้าต่างของวัลเดนไปยังเมืองที่ตั้งอยู่บนหน้าผา
“อ๋อ เป็นแบบนี้เอง”ไป่จูเหวินตอบเรียบๆ ส่วนวัลเดนก็ไม่ได้รู้ว่าตอนนี้ไป่จูเหวินกําลังมองเมืองของมันจากระยะห่างเกินกว่าตามนุษย์จะมองเห็นได้อยู่
“แล้วท่านปกป้องเมืองจากอะไรหรือขอรับ”ไป่จูเหวินถามด้วยความสงสัย ทางด้านนี้ก็มีแต่ทะเล หรือจะมีสัตว์ทะเลที่ขึ้นมาโจมตีมนุษย์กัน
“พวกคนเถื่อน พวกมันเป็นโจรที่คุ้มคลั่งและน่ากลัวมาก”ได้ยินเช่นนั้นไป่จูเหวินก็เลิกคิ้วขึ้นทันที
“แบบนั้นข้าจะรับมือได้หรือขอรับ”ไป่จูเหวินถามด้วยความกังวล จะให้มันไปรับมือโจรงั้นเหรอ แม้แต่มันเองยังไม่ทราบเลยว่าจะรับมือได้ไหม
“ไม่ต้องห่วง ในตัวเจ้ามีพลังอยู่ ข้าเชื่อว่าเจ้าสามารถช่วยข้าได้แน่นอน”วัลเดนยิ้ม ตัวมันสัมผัสพลังในร่างของไป่จูเหวินได้ มันมีมากกว่าที่วัลเดนมีเสียอีก รับรองว่าเจ้าหนุ่มนี้จะต้องเก่งกาจไม่น้อย
“พลังหรือขอรับ”ไป่จูเหวินถามเอามือทาบที่อกตนเอง แม้สมองจะลืมไปแล้ว แต่ร่างของของไป่จูเหวินก็ยังคงโคตรพลังวิญญาณและพลังอสูรด้วยตนเองอยู่เสมอจากความเคยชินที่ทํามาหลายปี
“ใช่ พวกเราเรียกมันว่า รูน เป็นพลังที่ได้รับมาจากพระเจ้า” วัลแคนว่าพลางปล่อยพลังของมันออกมา ทําให้ไป่จูเหวินสัมผัสได้เช่นกัน แม้ชื่อเรียกจะไม่เหมือนกัน แต่พลังที่เรียกว่ารูนก็คือพลังวิญญาณแน่ๆ
“ข้าเดาว่าก่อนเจ้าจะลืมเรื่องก่อนหน้านี้ เจ้าคงเป็นนักรบมาก่อนแน่ๆ”วัลเดนว่าพลางยิ้มออกมา มันแองก็รับมือกับพวกโจรเถื่อนมานานแล้วได้ผู้ช่วยเสียหน่อยก็คงดี
ตูม!! ระหว่างกับกําลังพูดคุยกันอยู่นั้น เสียงๆหนึ่งก็ดังขึ้นจากทางชายฝั่ง เสียงนั่นคือเสียงกับดักที่วัลเดนทําเอาไว้ เสียงของมันดังมากแต่ไป่จูเหวินกลับไม่มีท่าทีตกใจเลย
“ท่าทางเจ้าจะได้ทดลองงาน ดูแล้วล่ะ”วัลเดนว่าพลางเดินออกมาดูตรงหน้าต่าง ที่ชายฝั่งนั้นมีเรือกว่า 8 ลําจอดอยู่บนผืนทราย โดยที่ชายหาดมีชายคนหนึ่งโดนก้อนหินทับอยู่ท่าทางมันจะเป็นคนที่โดนกับดักของวัลเดนเข้า
“วันนี้พวกมันมาเยอะทีเดียว”วัลเดนว่าพลางเรียกดาบออกมาจากมิติของมัน ท่าทางตัวมันนั้นจะมีฝีมือไม น้อยเลย
“ท่านวัลเดน แล้วให้ข้าทําอะไรกัน”ไป่จูเหวินถามพลางจับหอกที่วัลเดนเอามาให้เอาไว้
“แล้วแต่เจ้าเลย จะยืนดูหรือเข้ามาช่วยก็ได้”วัลเดนว่าพลางนําโล่เหล็กออกมาจากมิติอีกอัน หากมันมีชุดเกราะละก็คงเหมือนอัศวินไม่มีผิด
ตูม! ก้อนหินอีกก้อนหล่นลงมาจากหน้าผาด้านข้างของชายหาด มันเป็นกับดักที่วัลเดนวางเอาไว้ในชายหาดแถบนี้ การที่ไป่จูเหวินสามารถเดินขึ้นมาได้โดยไม่โดนกับ ดักเลยนับว่ามันดวงดีไม่น้อย
เครั้ง!! วัลเดนไม่รอช้า พุ่งเข้าไปโจมตีคนที่เดินขึ้นมาเหนือชายหาดได้สําเร็จ พวกโจรพวกนี้ไม่มีท่าทีตกใจเลยตอนสหายของมันตายไปเพราะกับดักหินถล่ม แถมพวกมันยังเดินเข้ามาต่อสู้กับวัลเดนอีกต่างหาก
เครงๆๆๆ ดาบในมือวัลเดนปะทะกับพวกโจรหลายครั้งจนในที่สุดวัลเดนก็ชิงแทงร่างของมันได้ก่อน แม้จะไม่มากเท่าวัลเดนแต่พวกโจรเองก็มีพลังเช่นกัน
“อากกก”เหล่าโจรโดนวัลเดนจัดการไปทีละคนสองคน แต่การเคลื่อนไหวของวัลเดนนั้นทําให้ไป่จูเหวินรู้สึกแปลกๆ ขาของวัลเดนเคลื่อนไหวได้ไม่สะดวกนัก หรือจะเคยบาดเจ็บที่ขามาก่อนกัน แต่ถึงจะแบบนั้นมันก็ยังสามารถสู้ได้อย่างยอดเยี่ยม ท่าทางก่อนจะบาดเจ็บที่ขามันคงเป็นนักรบมีฝีมือแน่ๆ
ตูมมม!! อยู่ๆก็มีคลื่นพลังมาจากทางชายฝั่ง แต่โชคดีที่วัลเดนสามารถหลบคลื่นโจมตีได้อย่างฉิวเฉียด
“มีพวกเก่งๆเหมือนกันนี่”วัลเดนยิ้มพลางมองโจรที่โจมตีจากระยะไกลเข้ามา ในมือของมันถือขวานคู่เอาไว้บนหัว ของมันสวมหมวกที่มีเขาประดับเอาไว้ดูแล้วน่ากลัวไม่น้อย
“XXX” ชายคนนั้นพูดพลางโจมตีเข้ามาใส่วัลเดน กระบวนท่าขวานคู่ของมันเร็วและรุนแรงมาก ทําเอา ดาบในมือวัลเดนปั่นป่วนไปหมด
“หนอย” วัลเดนคํารามพลางปลดปล่อยพลังรูนออกมา พริบตานั้นกระแสลมก็ปรากฎรอบๆดาบของวัลเดนก่อนจะฟันใส่โจรที่ใช่ขวานคู่อย่างรุนแรง
เครั้ง!! ดาบของวัลเดนถูกหยุดเอาไว้ได้ แต่กกระแสลมกลับกรีดเข้าที่ร่างของโจรใช้ขวานคู่เข้าอย่างจังทําเอาร่างของมันปรากฏรอยแผลเป็นทางยาว
“XXXXX”มันคํารามออกมาพลางผลักดาบของวัลเดนออก ขวานในมือของมันปรากฏน้ําแข็งเกาะกุมส่วนคมเอาไว้ ก่อนที่มันจะกระแทกดาบของวัลเดนเข้าอย่างจัง พริบตานั้นไอเย็นก็ลามเข้ามาหาวัลเดนอย่างรวดเร็วแต่เพราะวัลเดน เห็นอยู่ก่อนแล้วเลยปล่อยพลังของตัวเองต้านเอาไว้ไม่ให้ไอเย็นเข้ามาถึงตัว
โครม!! อยู่ๆหอกเล่มหนึ่งก็พุ่งเข้ามาใส่ร่างของชายใช้ขวานคู่ พริบตานั้นวัลเดนถึงทราบว่าไป่จูเหวินลงมือช่วยมันแล้วนั่นเอง
“เท่านี้ก็พอแล้วหรือขอรับ”ไป่จูเหวินถามวัลเดนที่ยังปรับอารมณ์ไม่ทัน พอละสายตาจากเจ้าคนใช้ขวานคู่แล้วมันกลับพบว่าพวกลูกน้องของเจ้าขวานคู่นั้นโดนไป่จูเหวินจัดการไปหมดแล้วนั่นเอง
“อะ อืม เจ้าทําได้ดีมาก”วัลเดนมองไปรอบๆด้วยท่าที่ตกใจ รู้หรอกว่าเจ้าเพิร์ลนี่มีพลัง แต่ไม่นึกว่าจะจัดการคู่ต่อสู้ได้เร็วขนาดนี้