แดนนิรมิตเทพ บทที่ 529
ในบรรดาเครื่องรางแล้ว เครื่องรางป้องกันตัวเป็นของล้ำค่าที่สุด และการที่เฉินโม่ได้เครื่องรางป้องกันตัวจากโลกมนุษย์ แล้วยังเป็นเครื่องรางชั้นสูง สำหรับเฉินโม่แล้วมันเป็นเรื่องประหลาดใจที่อยู่เหนือความคาดหมาย

เฉินโม่เคลื่อนจิต กระจกทองสัมฤทธิ์หายไปจากมือ แล้วเข้าไปอยู่ในวงแหวนเก็บของ

หลังจากนั้นเฉินโม่มองไปที่กงซุนจั่วเสวียน

กงซุนจั่วเสวียนตกใจจนขนลุกไปทั้งตัว เจตนาฆ่าที่อยู่ในสายตาของเฉินโม่ เกือบจะทำให้คนใหญ่คนโตแห่งมณฑลซีไห่ตกใจจนขวัญหนีดีฝ่อ

เมื่อมองหยวนชิงซานที่หมดสติอยู่บนพื้น กงซุนจั่วเสวียนอดไม่ได้ที่จะหลับตา ใบหน้าเต็มไปด้วยความสิ้นหวัง เขารู้ว่าอำนาจของตระกูลกงซุนกำลังจะสิ้นสุดลงแล้ว

“เฮ้อ ผมรู้สึกเสียใจที่ไม่ฟังคำเตือนของตระกูลจิน เพราะคิดว่ามีสำนักโยวหลานหนุนหลัง ผมจะสามารถต่อต้านเฉินไต้ซือได้ แต่ดูเหมือนว่าผมคิดผิด และผิดอย่างมหันต์!”

กงซุนจั่วเสวียนค่อย ๆ คุกเข่าลงบนพื้นด้วยสีหน้าเศร้าซึม กล่าวขอร้องว่า “เฉินไต้ซือ ผมรู้ตัวว่าผิดแล้ว ขอร้องคุณได้โปรดยกโทษให้ผมสักครั้ง! ต่อไปตระกูลกงซุนจะเป็นทาสรับใช้คุณ!”

สีหน้าของกงซุนจื่อยิงซีดเผือด ความไม่เต็มใจปรากฏอยู่ในดวงตา และกล่าวว่า “ท่านพ่อ…… ”

เดิมทีเธออยากจะเกลี้ยกล่อมกงซุนจั่วเสวียนว่าอย่าไปข้อร้องเฉินโม่ แต่ตอนนี้เธอไม่สามารถพูดออกมาได้ ตอนนี้ชีวิตของพวกเขาอยู่ในกำมือของเฉินโม่แล้ว เธอมีคุณสมบัติอะไรที่จะไปเหยียดหยามเฉินโม่อีก!

เมื่อนึกถึงตอนที่อยู่ในงานตรวจสมบัติ เธอเข้าใจผิดว่าเฉินโม่ก็เหมือนลูกเศรษฐีพวกนั้นที่อยากจะจีบเธอ และเธอทำให้เฉินโม่อับอายขายหน้าอย่างรุนแรง แล้วบอกว่าเฉินโม่เป็นเพียงมด ตอนนี้คิดแล้ว ช่างน่าขำจริง ๆ!

ด้วยพลังอำนาจของเฉินไต้ซือ ต้องการผู้หญิงแบบไหน แล้วไม่มีบ้างล่ะ?

มดที่แท้จริงคือตัวเธอเองต่างหาก!

สีหน้าของคนชั้นสูงที่อยู่รอบ ๆ เต็มไปด้วยความตกตะลึง เพราะเขาคือกงซุนจั่วเสวียน ซึ่งเป็นคนใหญ่คนโตแห่งมณฑลซีไห่ที่รองจากตระกูลเย่ แต่ตอนนี้เขาคุกเข่าและยอมรับผิดกับเด็กหนุ่มคนนี้!

แต่เมื่อนึกถึงพลังการทำลายล้างของเฉินโม่แล้ว ราวกับเวทมนตร์ของเทพเจ้า ความอึดอัดใจของทุกคนก็ค่อย ๆ หายไป

เฉินโม่เป็นเหมือนเทพเจ้า ถึงแม้ว่าสถานะของกงซุนจั่วเสวียนจะสูง แต่เขาเป็นเพียงมนุษย์ธรรมดาเท่านั้น แล้วเขาจะสามารถต่อสู้กับเทพเจ้าได้อย่างไร?

มนุษย์ธรรมดาคุกเข่าขอความเมตตาต่อเทพเจ้า เป็นเรื่องที่สมเหตุสมผล!

เฉินโม่มองกงซุนจั่วเสวียนที่หมอบอยู่บนพื้นด้วยสีหน้าราบเรียบ กล่าวด้วยน้ำเสียงไร้อารมณ์ว่า “สายแล้ว”

หลังจากกล่าวจบ เขาชี้นิ้วออกไป แล้วกงซุนจั่วเสวียนก็ตายทันที

“ท่านพ่อ!” กงซุนจื่อยิงร้องออกมา จากนั้นกระโจนไปอยู่ข้างกงซุนจั่วเสวียน และร้องไห้ด้วยความเจ็บปวด

“ห๊ะ!”

บรรดาคนชั้นสูงต่างอุทานด้วยความตกใจ

กงซุนจั่วเสวียนเจ้าถิ่นแห่งมณฑลซีไห่ ตายแบบนี้เหรอ?

ถ้าไม่ได้เห็นด้วยตาตนเอง ก็ยากที่จะเชื่อ!

คนชั้นสูงที่สวามิภักดิ์กงซุนจั่วเสวียนเหล่านั้นตกใจจนตัวสั่น หมอบอยู่บนพื้นและร้องขอความเมตตา “เฉินไต้ซือ ได้โปรดยกโทษให้ผมด้วย! ผมถูกตระกูลกงซุนบีบบังคับ และผมก็ไม่ได้ตั้งใจจะล่วงเกินคุณ!”

ขณะนี้อานซื่อเฉิงตกใจเช่นกัน เขานึกไม่ถึงว่าเฉินโม่จะเป็นคนที่เด็ดขาดและไร้ความปรานีเช่นนี้ เพราะบุคคลนั้นคือกงซุนจั่วเสวียน เฉินโม่บอกฆ่าก็ฆ่าเขาทันที เหมือนกับฆ่ามดตายตัวหนึ่งเท่านั้น !

ตอนแรกเขาคิดว่าเฉินโม่เป็นเพียงเด็กหนุ่มดื้อรั้นที่มีความแค้นกับตระกูลกงซุน และมีน้ำใจอยากจะช่วยเหลือเขาเท่านั้น แต่นึกไม่ถึงว่าเฉินโม่จะทรงพลังเช่นนี้ และสุดท้ายเฉินโม่ก็เป็นคนที่ช่วยเขาเอาไว้!

“เป็นเรื่องที่คาดไม่ถึงจริง ๆ กงซุนจั่วเสวียนเป็นคนที่ฉลาดหลักแหลมเสมอมา กระทั่งตายเขาคงนึกไม่ถึงว่าผลลัพธ์จะเป็นแบบนี้!” อานซื่อเฉิงมองศพของกงซุนจั่วเสวียนและยิ้มด้วยความขมขื่น มีความรู้สึกเศร้าเล็กน้อย

เฉินโม่เหลือบมองทุกคนและกล่าวด้วยน้ำเสียงราบเรียบว่า “ทุกคนลุกขึ้นเถอะ เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับพวกคุณ ผมมาที่นี่ก็เพื่อคิดบัญชีแค้นกับตระกูลกงซุนเท่านั้น”

เฉินโม่ฆ่ากงซุนจั่วเสวียนตายเพื่อต้องการสยบคนเหล่านี้ ต่อไปเวลาที่พวกเขาคิดจะต่อต้านเขา พวกเขาก็จะนึกถึงจุดจบของกงซุนจั่วเสวียน  

สำหรับพวกนกสองหัวแล้ว เฉินโม่ไม่มีอารมณ์ที่จะสนใจ