ตอนที่ 313-2 ลอบสังหาร

ชายาเคียงหทัย

​ไป๋​ชิง​หนิง​ปิดปาก​หัวเราะ​กล่าวว่า​ ​“​พระ​ชายา​เป็น​หลานสาว​สาย​หลัก​ของ​ท่าน​อาจารย์​ชิง​อวิ​๋น​ ​หาก​พระ​ชายา​ไม่ใช่​คน​สุนทรี​แล้ว​พวกเรา​ก็​คง​เป็น​เพียง​คนธรรมดา​อย่างมาก​”

​ ​ซุนฮุ​หยิน​มอง​ไป๋​ชิง​หนิง​คล้าย​ยิ้ม​คล้าย​ไม่​ยิ้ม​ ​แล้ว​กล่าว​กับ​ไป๋ฮู​หยิน​ว่า​ ​“ฮู​หยิน​ ​ลูกสาว​ท่าน​พูดเก่ง​เสีย​จริง​ ​ประโยค​นี้​ของ​นาง​ทำ​ข้า​ชื่นชอบ​เสีย​จน​หัวหมุน​ไป​หมด​”​ ​รอยยิ้ม​บน​ใบหน้า​ไป๋ฮู​หยิน​แข็งทื่อ​ ​กล่าว​เสียง​เรียบ​ว่า​ ​“​ซุนฮู​หยิน​ล้อเล่น​แล้ว​ ​ลูกสาว​คน​นี้​ไหน​เลย​จะ​วาจา​คมคาย​ได้​เท่า​ซุนฮู​หยิน​”

​ ​ซุนฮู​หยิน​หัวเราะ​เล็กน้อย​แล้ว​กล่าวว่า​ ​“​ข้า​ไม่ได้​ล้อเล่น​ ​ที่ผ่านมา​มี​ผู้ใด​ไม่รู้​บ้าง​ว่า​สตรี​ตระกูล​ไป๋​แต่ละคน​วาจา​คมคาย​เพียงใด​ ​ไม่เช่นนั้น​ไหน​เลย​จะ​ได้รับ​น้ำพระทัย​จาก​องค์​ฮ่องเต้​ให้​เป็น​พระสนม​พระ​ชายา​กัน​ทุก​รุ่น​ทุก​สมัย​เช่นนี้​”

​ ​ไป๋ฮู​หยิน​สีหน้า​มืดครึ้ม​ ​มอง​ซุนฮู​หยิน​อย่าง​โกรธ​เกรี้ยว​ ​แต่​ซุนฮู​หยิน​กลับ​ไม่ใส่ใจ​และ​ยังคง​จูง​ลูกสาว​เดิน​พูดคุย​กับ​เยี​่ย​หลี​อย่าง​ยิ้มแย้ม​ต่อไป

​ ​“​พระ​ชายา​ ​คุณชาย​สี่​ขอ​เข้าพบ​ขอรับ​”​ ​องครักษ์​ด้านหลัง​เข้ามา​รายงาน

​ ​“​พี่​สี่​หรือ​”​ ​เยี​่ย​หลี​ตกใจ​เล็กน้อย​ ​งานเลี้ยง​วันนี้​แขก​ที่​เชิญ​มา​ล้วน​เป็น​สตรีทั​้ง​สิ้น​ ​บุรุษ​ไม่​อนุญาต​ให้​เข้ามา​ด้านใน​ได้​ ​ขนาด​ม่อ​ซิว​เหยา​ยัง​มาส​่ง​นาง​แค่​หน้า​ประตู​เสร็จ​แล้วก็​ไป​ ​แต่​เยี​่ย​หลี​ทราบ​ดี​หาก​ไม่ใช่​ว่า​มีเรื่อง​สำคัญ​ ​สวี​ชิงปั​๋​วก​็​คง​ไม่​มาหา​นางใน​เวลา​เช่นนี้​แน่​ ​“​ซุนฮู​หยิน​สะดวก​หรือไม่​”

​ ​ซุนฮู​หยิน​ครุ่นคิด​ก่อน​จะ​ยิ้ม​ตอบ​ว่า​ ​“​คุณชาย​สี่​โด่งดัง​ยิ่งใหญ่​ ​ไม่มี​อะไร​ไม่​สะดวก​เพ​คะ​ ​เช่นนั้น​พระ​ชายา​ไปรอ​คุณชาย​สี่​ที่​ศาลา​รับลม​ด้านหน้า​ดี​หรือไม่​”

​ ​เยี​่ย​หลี​พยักหน้า​ตอบ​ ​“​ก็ดี​”

​ ​ไม่นาน​นัก​ ​สวี​ชิงปั​๋​วก​็​ถูก​องครักษ์​พา​เข้ามา​อย่าง​รีบร้อน​ ​“​หลี​เอ๋อร​์​”

​ ​“​พี่​สี่​ ​เกิดเรื่อง​อะไร​ขึ้น​หรือ​”​ ​เยี​่ย​หลี​ถาม​ด้วย​ความกังวล

​ ​สวี​ชิงปั​๋ว​มอง​สตรี​สอง​สาม​คน​ข้างๆ​ ​เมื่อ​ตรอง​ดูแล​้​วว​่า​ไม่ใช่​ความลับ​อะไร​จึง​กล่าว​ออกมา​ ​“​แม่​ข้ามา​ที่​ซี​หลิง​แล้ว​!​”

​ ​“​ว่า​อย่างไร​นะ​”​ ​เยี​่ย​หลี​ตกใจ​ ​ไม่​ค่อย​เข้าใจ​นัก​ว่ายา​มนี​้​เกิด​อะไร​ขึ้น​ ​ครู่​ต่อมา​จึง​ได้​ตั้งสติ​ถาม​ต่อว่า​ ​“​ท่าน​ป้า​สะใภ้​ใหญ่​…​เหตุใด​ท่าน​ป้า​สะใภ้​ใหญ่​จึง​มาซี​หลิง​ได้​เล่า​”​ ​สวี​ชิงปั​๋ว​ยิ้ม​ขมขื่น​ ​กล่าว​เสียง​เบา​ว่า​ ​“​ก่อนหน้านี้​ไม่รู้​ว่า​ท่าน​แม่​ข้า​ไปรู​้​มาจาก​ไหน​ว่า​ข้า​อยู่​ที่​ซี​หลิง​ ​ข้า​พึ่ง​จะ​ได้รับ​จดหมาย​จาก​พี่ใหญ่​ว่า​ครึ่ง​เดือนก่อน​ท่าน​แม่​เดินทางออก​จาก​เมือง​หลี​ ​คาด​ว่า​คง​ใกล้​จะ​ถึง​แล้ว​”

​ ​เยี​่ย​หลี​ตั้งสติ​แล้ว​กล่าวว่า​ ​“​ในเมื่อ​พี่ใหญ่​และ​ท่าน​ลุง​ต่าง​รู้เรื่อง​นี้​ ​ความปลอดภัย​ของ​ท่าน​ป้า​สะใภ้​ใหญ่​คง​ไม่ต้อง​กังวล​ ​เดี๋ยว​ข้า​จะ​ให้​คน​ไปรั​บท​่าน​ป้า​สะใภ้​เอง​ ​พี่​สี่​ไม่ต้อง​กังวล​ไป​”​ ​สวี​ชิงปั​๋ว​ยิ้ม​อย่าง​จำใจ​ ​เห็น​สีหน้า​เยี​่ย​หลี​ฉายแวว​สงสัย​จึง​บอก​ไป​ตรงๆ​ ​ว่า​ ​“​ข้า​ยัง​ต้อง​อยู่​ที่​ซี​หลิง​อีก​นาน​ ​ถึง​เวลา​นั้น​เกรง​ว่า​ท่าน​แม่​…​อย่างไร​ก็​ฝาก​หลี​เอ๋อร​์​เกลี้ยกล่อม​ท่าน​แม่​แทน​ข้า​ด้วย​”

​ ​เยี​่ย​หลี​พลัน​เข้าใจ​แจ่มแจ้ง​ ​ก่อนหน้านี้​นาง​กับ​ม่อ​ซิว​เหยา​เคย​คุย​กัน​ว่า​หลังจาก​พวก​นาง​ออกจาก​ซี​หลิง​ไป​แล้ว​ใคร​จะ​มารับ​ผิด​ชอบ​หน้าที่​นี้​แทน​ ​ดูๆ​ ​แล้ว​ม่อ​ซิว​เหยา​คงจะ​เลือก​ได้​แล้ว​ ​อีกทั้ง​สวี​ชิงปั​๋ว​เคย​มีประสบการณ์​ใน​การบริหาร​บ้านเมือง​มาก​่อน​ ​ซ้ำ​ยัง​ปกครอง​ดูแล​ได้​ไม่เลว​ ​หลาย​ปี​มานี​้​ที่​ซี​เป่ย​เขา​ก็​ดูแล​ดินแดน​ทางเหนือ​ที่​ทุรกันดาร​ได้​อย่างดี​ยิ่ง​ ​เหมาะสม​แล้ว​ที่จะ​ให้​เขา​มาป​กค​รอง​ ​นับได้ว่า​เยี​่ย​หลี​เข้าใจ​แล้ว​ว่า​เหตุใด​ท่าน​ป้า​สะใภ้​ใหญ่​จึง​ได้​รีบร้อน​เดินทาง​มา​โดย​ไม่สน​อันตราย​เช่นนี้​ ​พี่​สี่​ต้อง​อยู่​ที่​ซี​หลิง​ต่อ​อีก​นาน​กว่า​จัดการ​เรื่อง​ให้​แล้วเสร็จ​ ​ไม่แน่​อาจ​ใช้เวลา​ถึง​สาม​ปี​ห้า​ปี​ ​ยาม​นี้​พี่​สี่​ก็​อายุ​อานาม​ไม่น้อย​แล้ว​ ​หาก​สาม​ปี​ห้า​ปีนี​้​ไม่ได้​กลับ​เมือง​หลี​คงได้​ทำท่าน​ป้า​สะใภ้​นั่ง​ไม่​ติด​แน่

​ ​นาง​แอบ​ปิดปาก​หัวเราะ​ครู่หนึ่ง​ก็​พยักหน้า​กล่าวว่า​ ​“​พี่​สี่​ ​ข้า​ทราบ​แล้ว​ ​ข้า​จะ​พูด​กับ​ท่าน​ป้า​ให้​เอง​”

​ ​สวี​ชิงปั​๋​วจึง​ถอนหายใจ​ด้วย​ความ​โล่งอก​ ​แล้ว​พยักหน้า​กล่าวว่า​ ​“​เช่นนั้น​ก็​ขอบคุณ​หลี​เอ๋อร​์​มาก​”​ ​สวี​ชิงปั​๋ว​พูด​ธุระ​เสร็จ​ก็​เบาใจ​ลง​ไม่น้อย​ ​พยักหน้า​กล่าว​กับ​ซุนฮู​หยิน​ว่า​ ​“​ชิงปั​๋​วร​บก​วน​แล้ว​ ​ขอฮู​หยิน​โปรด​อภัย​ด้วย​”​ ​ซุนฮู​หยิน​ยิ้ม​กล่าว​ ​“​คุณชาย​สี่​กล่าว​เกินไป​แล้ว​ ​สวีฮู​หยิน​เดินทางไกล​มา​เป็น​พัน​ลี้​ ​หาก​มีเรื่อง​ใด​อยาก​ให้​ข้า​น้อย​ช่วย​ ​คุณชาย​สี่​และ​พระ​ชายา​เชิญ​กล่าว​มา​ได้​เลย​นะ​เพ​คะ​”

​ ​สวี​ชิงปั​๋ว​ครุ่นคิด​ ​เขา​มีเรื่อง​ให้​ซุนฮู​หยิน​ช่วย​จริงๆ​ ​จึง​ยิ้ม​กล่าว​อย่าง​ไม่​เกรงใจ​ว่า​ ​“​ท่าน​แม่​อาจจะ​ต้อง​อยู่​ที่​ซี​หลิง​อีก​หลาย​วัน​ ​ให้​อยู่​ที่​หอพัก​ม้า​คงจะ​ไม่​ค่อย​สะดวก​…​”

​ ​ซุนฮู​หยิน​ตรึกตรอง​แล้ว​ยิ้ม​กล่าว​ ​“​ดูแล​้ว​คุณชาย​สี่​คง​ต้อง​อยู่​ที่​ซี​หลิง​อีก​หลาย​วัน​ ​ให้​คุณหนู​แห่ง​ซี​หลิง​เหล่านี้​…​ฮิ​ๆ​ ​หลาย​วัน​มานี​้​ใน​เมือง​มีที​่​พัก​ที่ประกาศ​ขาย​อยู่​ไม่น้อย​ ​ข้า​น้อย​จะ​จัดการ​เป็น​ธุระ​ให้​คุณชาย​เอง​”​ ​แม้​จะ​มีต​ระ​กูล​ร่ำรวย​อีก​มากมาย​ที่​เลือก​เข้า​ฝ่าย​พระ​ชายา​ ​แต่​ก็​มี​ผู้คน​มากมาย​เช่นกัน​ที่​ติดตาม​ลง​ใต้​ไป​กับ​ฮ่องเต้​ซี​หลิง​ ​ใน​เมืองหลวง​นี้​จึง​มีที​่​พัก​หลาย​หลัง​ที่​ต้องการ​จะ​ขาย

​ ​สวี​ชิงปั​๋ว​ประสานมือ​ยิ้ม​กล่าว​ ​“​เช่นนั้น​ก็​ลำบากฮู​หยิน​แล้ว​”

​ ​เยี​่ย​หลี​นั่ง​อยู่​อีก​พัก​หนึ่ง​ ​ก็​อาศัย​ข้ออ้าง​เรื่อง​ที่​สวีฮู​หยิน​จะ​มา​ลุกขึ้น​บอกลา​และ​กลับ​ออก​ไป​พร้อมกับ​สวี​ชิงปั​๋ว​ ​เดิมที​ด้วย​ตำแหน่ง​ฐานะ​ของ​นาง​ ​มาร​่ว​มงาน​เลี้ยง​เช่นนี้​ไม่ต้อง​อยู่​จน​จบ​ก็ได้​ ​ออกมา​ให้​พวก​สตรี​สูงศักดิ์​เหล่านี้​ได้​เห็น​หน้า​ ​พูดคุย​สอง​สาม​ประโยค​ก็​นับว่า​ได้​ทำตาม​มารยาท​แล้ว​ ​ยิ่งไปกว่านั้น​นาง​ตากลม​มาสัก​พัก​ก็​รู้สึก​ครั่นเนื้อครั่นตัว​อยู่​บ้าง​ ​ซุนฮู​หยิน​จึง​ไม่กล้า​รั้ง​อยู่นาน​ ​ลุกขึ้น​ตาม​ไป​ส่ง​พวก​นาง​กลับ​ ​พอ​พวก​นาง​ไป​ส่ง​ถึง​หน้า​ประตู​เยี​่ย​หลี​จึง​หันมา​กล่าวว่า​ ​“ฮู​หยิน​ไม่ต้อง​ตาม​ไป​ส่ง​แล้ว​ ​ส่ง​เพียงเท่านี้​เถิด​”

​ ​ซุนฮู​หยิน​ก็​ไม่​เกรงใจ​ ​พยักหน้า​ยิ้ม​กล่าวว่า​ ​“​เช่นนั้น​พระ​ชายา​กลับดี​ๆ​ ​นะ​เพ​คะ​”

​ ​“​ขอตัว​”​ ​เยี​่ย​หลี​พยักหน้า​หันกลับ​เดิน​ไป​ยัง​รถม้า

​ ​“​พระ​ชายา​ระวัง​!​”​ ​เงา​สีเงิน​แวววาว​สาย​หนึ่ง​เฉียด​ผ่าน​ท่ามกลาง​แสงตะวัน​อัน​เจิดจ้า​ ​เยี​่ย​หลี​หลบ​โดยสัญชาตญาณ​ ​ธนู​ก้าน​หนึ่ง​พุ่ง​มาจาก​ด้านหลัง​นาง​ปัก​เข้าที่​รถม้า​ข้างๆ​ ​เสียงดัง​ฟุ่บ​ ​องครักษ์​ที่​ตามมา​รอบ​ๆ​ ​พลัน​ตีวง​คุ้มกัน​เยี​่ย​หลี​และ​สวี​ชิงปั​๋ว​ให้​อยู่​ตรงกลาง​ ​ชายฉกรรจ์​ที่​แต่งกาย​ต่างกัน​ ​แต่​ล้วน​ปิดบัง​ใบหน้า​เหมือนกัน​กลุ่ม​หนึ่ง​กระโดด​ลงมา​จาก​ทั่วทุก​มุม​บ้าน​ ​มุ่ง​ตรง​ไป​ที่​เยี​่ย​หลี

​ ​องครักษ์​ของ​ตำหนัก​ติ้ง​อ๋อง​เข้าไป​รับหน้า​อย่าง​ไม่​เกรงใจ​ ​ไม่นาน​ทั้งสองฝ่าย​ก็​ต่อสู้​กัน​ชุลมุน​วุ่นวาย​ ​เยี​่ย​หลี​ถูก​คุ้มกัน​ไว้​ตรงกลาง​ ​นาง​มองออก​อย่าง​ทะลุปรุโปร่ง​ ​คน​เหล่านี้​แม้​สี​ของ​เสื้อผ้า​จะ​ต่างกัน​ ​แต่​ฝีมือ​ล้วน​ไม่เลว​ ​เห็นได้ชัด​ว่า​เคย​ผ่าน​การ​ฝึก​มา​แล้ว​ทั้งสิ้น​ ​แต่​ใน​ยาม​นี้​นาง​กลับ​นึกไม่ออก​ว่า​ใน​เมืองหลวง​แห่ง​ซี​หลิง​นี้​นอกจาก​ฮ่องเต้​ซี​หลิง​แล้วยัง​จะ​มี​ผู้ใด​อีกที​่​มีท​หาร​ยอด​ฝีมือ​ซ้ำ​ยัง​ต้องการ​ลอบสังหาร​นาง​เช่นนี้

​“​กรี๊ด​!​”​ ​คน​พวก​นี้​มากัน​โดย​ไม่ทัน​ตั้งตัว​ ​เหล่า​บรรดา​สตรี​ชั้นสูง​ที่​ยืน​อยู่​หน้า​ประตู​กลับ​เข้าไป​ไม่ทัน​จึง​พลอย​โดน​ลูกหลง​ไป​ด้วย​ ​แม้​จะ​ไม่ได้​พุ่ง​ไป​ทาง​พวก​นาง​ ​แต่​ภายใต้​การต่อสู้​ที่​วุ่นวาย​นี้​ก็​ยาก​ที่จะ​เลี่ยง​อันตราย​ได้​ ​สตรี​นาง​หนึ่ง​ถูก​แทง​ด้วย​กระบี่​เสียชีวิต​ล้ม​ลง​ตรงหน้า​ซุนฮู​หยิน​พอดี​ ​สีหน้าฮู​หยิน​ซีดเผือด​ด้วย​ความตกใจ​แต่​ก็​ยังคง​อุ้ม​ลูกสาว​ที่​กรีดร้อง​ด้วย​ความ​เสียขวัญ​เอาไว้​แน่น​พร้อม​ถอย​ไป​ยัง​มุม​หนึ่ง​ ​พลาง​ตะโกน​เสียงดัง​ว่า​ ​“​ยัง​ไม่​รีบ​ไป​จับมือ​สังหาร​อีก​!​”

​ ​งานเลี้ยง​นี้​เป็น​งานเลี้ยง​ที่​รวบรวม​เหล่า​สตรี​สูงศักดิ์​และ​มีอำนาจ​ใน​เมือง​ไว้​ ​ย่อม​ต้อง​มี​องครักษ์​คอย​ปกป้อง​คุ้มกัน​อยู่​แล้ว​ ​เพียงแต่​องครักษ์​เหล่านี้​กลับ​ไม่ใช่​คู่ต่อสู้​ของ​นักฆ่า​พวก​นี้​เลย​ ​แค่​เพียง​ชักดาบ​ก็​บาดเจ็บ​ล้มตาย​กัน​สาหัส​แล้ว

​ ​องครักษ์​นาย​หนึ่ง​ถูก​ฟัน​เข้าที่​ศีรษะ​จน​กระเด็น​ไป​กระแทก​กับ​หน้า​ประตู​แล้ว​ล้ม​ลง​ข้างๆ​ ​ ​ไป๋​ชิง​หนิง​พอดี​ ​แม้​ไป๋​ชิง​หนิง​จะ​ใจเย็น​อย่างไร​ก็​เป็น​เพียงแค่​สตรี​อายุ​สิบ​หกสิบ​เจ็ด​ปี​เท่านั้น​ ​นาง​ตกใจ​จน​หวีดร้อง​ออกมา​ ​เสียง​นั้น​แหลม​สูง​กว่า​ซุน​เสี่ยว​ฟู่​ไม่น้อย​ ​นักฆ่า​ที่​ห่าง​จาก​นาง​ไป​ไม่​ไกล​ได้ยิน​เข้า​ก็​หันมา​ปามีด​สั้น​ใส่​ ​ไป๋​ชิง​หนิง​เบิกตา​โพลง​ ​แต่​ร่างกาย​กลับ​ไม่​อาจ​ขยับเขยื้อน​ได้​แม้แต่น้อย​ ​ทำได้​เพียง​หลับตา​เพื่อ​รอค​วาม​ตาย​เท่านั้น

​ ​ชิ​้ง​ ​เสียง​ชน​ปะทะ​ใส​กังวาน​ดัง​ขึ้น​ ​มีด​สั้น​เล่ม​นั้น​ที่​ควรจะ​ปัก​ลง​บน​ร่าง​นาง​ถูก​ปัด​ไป​ปัก​ลง​กับ​พื้น​ ​ด้าน​ข้าง​มี​ปิ่นปักผม​สีแดง​หัก​เป็น​สอง​ท่อน​ ​ไป๋​ชิง​หนิง​จำได้​ว่านั​่น​เป็น​ปิ่น​ของ​พระ​ชายา​ติ้ง​อ๋อง​จึง​รีบ​มอง​ไป​ทาง​เยี​่ย​หลี​ ​เห็น​เยี​่ย​หลีกั​บส​วี​ชิงปั​๋ว​ถูก​คน​ล้อม​คุ้มกัน​อยู่​ข้าง​รถม้า​ ​แม้​รอบด้าน​จะ​วุ่นวาย​แต่​รอบ​ๆ​ ​ทั้งคู่​นั้น​กลับ​ปลอดภัย​ ​ไม่รู้​ว่า​ไป๋​ชิง​หนิง​ไป​เอา​ความกล้า​มาจาก​ไหน​ ​นาง​พุ่ง​ไป​ยัง​ทิศทาง​ที่​เยี​่ย​หลี​ยืน​อยู่​ ​บางที​นี่​อาจ​เป็น​โชคดี​ของ​นาง​ที่​ยัง​ไม่​ถึงฆาต​จึง​ทำให้​นาง​ฝ่า​มาถึง​ด้านหน้า​ของ​เยี​่ย​หลี​และ​สวี​ชิงปั​๋ว​ได้​ ​“​พระ​ชายา​…​”