สงครามภายในดาวอังคารปะทุขึ้นทันทีอย่างไม่มีสัญญาณ เกินความคาดหมายของทุกคน
กองทัพปฏิวัติดาวอังคารซึ่งแต่เดิมเหมือนหนูที่ซ่อนตัวอยู่ใต้พื้นดิน ตอนนี้กลายเป็นแสงอาทิตย์หลังฝนตก ทำให้เกิดการจราจลในเมืองใต้ดินของดาวอังคาร และพยายามโค่นล้มรัฐบาล สงครามมีให้เห็นทุกที่
สถานการณ์บนดาวอังคารมีแต่ความโกลาหล
การต่อสู้รุนแรงและกระจายอย่างรวดเร็วคล้ายไฟป่า
ทุกที่บนดาวอังคารล้วนพัวพันในสงคราม
เฟิงหลินอ่านข่าวอย่างตั้งใจ เขาค้นพบว่าแผนที่ของดาวอังคารแยกดาวอังคารออกเป็นสองส่วนคือส่วนสีแดงและส่วนสีน้ำเงิน ดูเหมือนสัตว์ป่าสองตัวพยายามกัดและตะครุบ มีอาวุธทุกชนิด เช่น จักรกล ไอพ่น ปืนอนุภาค มีให้เห็นในข่าวอาวุธที่อันตรายถูกนำมาใช้ และสถานการณ์ก็ถึงจุดสูงสุดอย่างรวดเร็ว
โชคดีที่ดาวอังคารได้รับพิจารณาว่าเป็นดาวเคราะห์ที่แห้งแล้ง มนุษย์ส่วนใหญ่อาศัยอยู่ใต้ดิน ไม่เช่นนั้นด้วยความหนาแน่นของปืนไฟ มนุษยบนดาวอังคารคงสูญพันธุ์ไปหมดแล้ว
ภูเขาถูกระเบิด เกิดหลุมอุกกาบาตเจาะพื้นดินไปหมด
ภูมิภาคสีน้ำเงินที่แสดงบนแผนที่เป็นดินแดนที่ถูกควบคุมโดยรัฐบาลดาวอังคาร กองทัพปฏิวัติของดาวอังคารคือพื้นที่สีแดง อาณาเขตขยายจากเล็กไปใหญ่เหมือนปลาตัวเล็กๆที่เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในท้ายที่สุดปลาตัวเล็กก็กลายเป็นปลาใหญ่
ตอนนี้ดาวอังคารถูกแยกออกเป็นสองกลุ่มอย่างสมบูรณ์
การเปลี่ยนแปลงทั้งหมดนี้เกิดขึ้นในช่วงเวลาสั้นๆภายในครึ่งเดือน จากแผนที่ที่แสดง พื้นที่สีแดงยังขยายตัวอย่างต่อเนื่อง – ไปยังเมืองชิไทบนดาวอังคาร!
ตอนนี้บรรยากาศภายในบริษัทยาไจแอนท์เปลี่ยนไป ตึงเครียดมากจนทำให้รู้สึกอึดอัด
บริษัทยาไจแอนท์เป็นหนึ่งในกลุ่มการเงินชั้นนำไม่กี่แห่งบนดาวอังคาร พวกเขาถูกส่งไปประจำการที่นี่และเป็นศัตรูที่ร้ายกาจกับกองทัพปฏิวัติดาวอังคาร
แม้แต่คนโง่ก็สามารถบอกได้ว่ากองทัพปฏิวัติดาวอังคารเป็นศัตรูกับบริษัทยาไจแอนท์
หากพวกเขาสามารถกลืนกินส่วนที่ใหญ่ที่สุดอย่างบริษัทยาไจแอนท์ได้ ความแข็งแกร่งทางการเงินและเทคโนโลยีของกองทัพปฏิวัติดาวอังคารจะสูงขึ้นไปอีกระดับ
ดังนั้นความมั่งคั่งของบริษัทยาไจแอนท์จึงเป็นสิ่งที่กองทัพปฏิวัติดาวอังคารต้องการ
ทหารในเครื่องแบบลาดตระเวนในบริษัทยาไจแอนท์จำนวนมาก และมีการตรวจสอบคนเข้าคนออกอย่างละเอียด
แม้แต่คนจากแผนกวิจัยและพัฒนาก็ด้รับผลกระทบ มีความรู้สึกกังวลในสงครามด้านบน
แต่เฟิงหลินสงบนิ่งราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น
ในความเป็นจริงเฟิงหลินเองไม่รู้ว่าเขาเป็นคนที่ก่อให้เกิดสงครามภายในนี้หรือไม่
ถ้าเป็นเช่นนั้นจริงๆ ทำไมถึงไม่มีการตอบกลับจากกองทัพปฏิวัติดาวอังคารหลังจากที่พวกเขาได้รับข่าว?“
ในช่วงเวลาเหล่านี้เฟิงหลินมุ่งตั้งใจและฝึกฝนอย่างหนัก เขาได้รับจุดพันธุกรรมแรกเริ่มอีกสองจุด พลังของเขาทะลุ 45.0 ไปถึง 45.8
อย่างไรก็ตามเขาไม่ได้เพิ่มแต้มเหล่านั้นทันที
เมื่อพลังของเขาเพิ่มขึ้น การเปลี่ยนแปลงในร่างกายของเขาก็ชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ มันไม่เหมาะสำหรับเขาที่จะเพิ่มแต้มมากเกินไปภายในระยะเวลาสั้นๆ ไม่งั้นคนอื่นอาจสงสัย
นอกจากนี้เนื่องจากเขาได้เพิ่มแต้มให้กับยีนลิงหินอย่างรวดเร็วก่อนหน้านี้ ความสามารถของเขาจึงเพิ่มขึ้นอย่างมาก แต่เขายังไม่คุ้นเคยกับมัน นี่จะส่งผลต่อการควบคุมความสามารถของเขาถ้าเขาเพิ่มแต้มอีก มันอาจทำให้สิ่งต่างๆพังด้วยความรีบมากเกินไปของเขา
แม้ว่าเฟิงหลินจะกระหายความแข็งแกร่ง หลังจากที่เขาเจอกับการพลังชีวิตล้นตอนที่เขายังเป็นผู้บ่มเพาะฝึกหัด ตอนนี้เขาเข้าใจดีว่าการพัฒนาอย่างช้าๆและมั่นคงย่อมดีกว่า เขาต้องการที่จะทำให้รากฐานของเขามั่นคงก่อน
นอกจากนี้ไม่ต้องพูดถึงประโยชน์มากมายในการเก็บจุดพันธุกรรมแรกเริ่ม ในช่วงเวลาที่สำคัญ เขาสามารถกู้คืนสู่สภาวะสูงสุดของเขาได้ทันทีด้วยการเพิ่มและเสริมสร้างความเข้มแกร่งของยีน
นี่เป็นเทคนิคที่ดีที่สุด
เมื่อเฟิงหลินยังอ่อนแอ เขาพึ่งพาความสามารถนี้เพื่อปีนขึ้นไปบนหอต่อสู้ลวงตา
เขาอยากมีจุดพันธุกรรมสำรองไว้ในกรณีที่สถานการณ์เปลี่ยนไปในทางที่แย่ นี่อาจเป็นตัวช่วยที่ดีสำหรับเขา
ยิ่งสถานการณ์วุ่นวายมากขึ้นเท่าไร เฟิงหลินยิ่งต้องการอยู่ในเงามากเท่านั้น
ในช่วงเวลาแห่งความปั่นป่วนนี้ ผู้ที่โดดเด่นจะถูกกำจัด เขาเลือกที่จะเก็บรายละเอียดไปก่อนเพื่อรอโอกาสของเขา
เขาควรจะออกจากดาวอังคารอย่างเงียบๆ หรือเขาควรพยายามหาผลประโยชน์จากสถานการณ์นี่และฉวยหาความลับจากซากปรักหักพังในตำนานของนิกายเตาหลอมอมตะ?
เขากำลังรออยู่เงียบๆเพื่อให้สิ่งต่างๆวุ่นวายมากกว่านี้ หลังจากนั้นเขาจะหาโอกาสที่เหมาะสมเพื่อได้ในสิ่งที่เขาต้องการอย่างไรก็ตามถ้าทุกอย่างไม่เป็นไปตามที่เขาหวัง เขาก็จะเลือกหนีไปอย่างไม่ลังเล
เขาจะไม่วางเดิมพันชีวิตเล็กๆของเขาไว้ในกระแสน้ำวนแห่งความโกลาหลนี้เพียงเพราะความโลภ
ไม่ว่าซากปรักหีกพังในตำนานจะยิ่งใหญ่เพียงใดมันก็ไม่มีค่ามากไปกว่าชีวิตเล็กๆของเขา
ตามความหมายของการบ่มเพาะ เราต้องบ่มเพาะชีวิตตก่อนที่จะบ่มเพาะสถานะ
หากเขาเสียชีวิตทุกอย่างจะเหมือนความฝัน ความสำเร็จทั้งหมดของเขาจะหายไปเหลือแต่ความว่างเปล่า
ในขณะที่เฟิงหลินคิดว่าเขายังใจเย็นอยู่ได้ วันหนึ่งเมื่อเขากำลังบ่มเพาะอย่างขยันขะมักเขม้น ไมโครชิฟของเขาก็สั่นและภาพฉาย 3 มิติของชายชุดยาวขึ้น ไม่ใช่ใครที่ไหนเขาคือลุคจากกองทัพปฏิวัติดาวอังคาร
เขาจ้องมองเฟิงหลินและยิ้ม “ขอบคุณมากเฟิงหลิน! ข่าวที่คุณส่งมาให้ผมมีค่าอย่างยิ่ง หลังจากได้รับข่าวของคุณ ตอนแรกกองทัพปฏิวัติดาวอังคารของเรายังแบ่งออกเป็นสองฝ่าย ฝ่ายต่อต้านและฝ่ายสันติคอยขัดแย้งกันเสมอ แต่หลังจากได้รับข่าวของคุณ เราจากฝ่ายต่อต้านก็ได้รับอนุญาตให้เริ่มต้นแผนของเราและก่อจลาจลได้ ตอนนี้เราไม่รู้จำนวนทหารและข้อมูลลับของบริษัทยาไจแอนท์ เราอยากขอรบกวนให้คุณ … “
คลิก!
การสตรีมวิดีโอปิดกะทันหัน เฟิงหลินเป็นคนปิดมันเอง
ไม่เพียงเท่านั้นเขายังลบข้อมูลทั้งหมดอย่างรวดเร็ว รวมถึงแหล่งที่มาของข้อมูล
ตั้งแต่แรกเขาใช้ประโยชน์จากกองทัพปฏิวัติดาวอังคารเท่านั้น เขาแค่อยากให้พวกเขาต่อสู้กับบริษัทไจแอนท์เท่านั้น
เพื่อที่เขาจะได้มีโอกาสตกปลาในบ่อน้ำวน
ตั้งแต่แรกเขาไม่ต้องการที่จะมีส่วนเกี่ยวข้องกับกองทัพปฏิวัติดาวอังคาร
ยิ่งเขามีปฏิสัมพันธ์กันมากเท่าไหร่ มันก็ยิ่งอันตรายสำหรับเขามากขึ้นเท่านั้น
ยิ่งไปกว่านั้นลุคจากกองทัพปฏิวัติดาวอังคารยังทำเหมือนเขาเป็นสายลับ และขอให้เขาเปิดเผยข้อมูลเพิ่มเติม
เฟิงหลินไม่ต้องการแม้แต่จะได้ยินประโยคแบบนี้
ดังนั้นแสดงว่ากองทัพปฏิวัติดาวอังคารได้วางแผนมานานแล้วในการก่อความวุ่นวาย แต่เพียงเพราะว่ากลุ่มภายในของพวกเขาได้รับข้อมูลลับจากเขา นั่นจึงกลายเป็นจุดเริ่มต้นก่อให้เกิดสงครามบนดาวอังคาร
นี่คือสิ่งที่เฟิงหลินไม่ได้คาดเอาไว้
ไม่เพียงแค่เขาเท่านั้น แต่ส่วนใหญ่คงไม่มีใครคิดเรื่องนี้ นี่เป็นสงครามภายในขนาดใหญ่บนดาวอังคาร แต่จริงๆแล้วกลับเกิดจากคนๆหนึ่ง
เฟิงหลินเองก็ประหลาดใจเช่นกัน
ดูเหมือนว่าเงินเดิมพันจะสูงขึ้นมาก!
ไม่ว่าในกรณีใด เฟิงหลินก็ไม่อยากจะคิดเรื่องนี้อีกต่อไป เขากำลังจะยุติการติดต่อที่เขามีกับกองทัพปฏิวัติดาวอังคารและซ่อนตัวเป็นเงา
เขาซึ่งตอนนี้เป็นผู้บ่มเพาะระหว่างดวงดาว มีความแข็งแกร่งพิเศษและไม่ใช่คนอ่อนแอบนดาวอังคาร ไม่ว่าสถานการณ์จะเลวร้ายเพียงใดเขาก็ยังคงมีกำลังที่จะปกป้องตัวเองได้
เฟิงหลินรู้สึกว่าความสามารถยีนลิงหินแรกเริ่มแค่ทนต่อดาบและหอก ไฟและน้ำ เขาไม่แน่ใจว่าอาวุธเทคโนโลยีขั้นสูงเหล่านั้นจะทำอะไรเขาได้หรือเปล่า
สงครามแพร่กระจายอย่างรวดเร็ว
กองทัพปฏิวัติดาวอังคารชนะอุปสรรคทุกอย่าง พวกเขาเป็นเหมือนคลื่นไฟสวรรค์ที่ต้องการทำลายทั้งดาวอังคารให้สะอาดเปลี่ยนท้องฟ้าและโลก ไม่ว่าจะไปที่ไหนรัฐบาลดาวอังคารจะพ่ายแพ้เสมอ- ขวัญกำลังใจลดน้อยลง
แม้แต่เฟิงหลินซึ่งเป็นต้นเหตุของเรื่องนี้ก็ยังตกตะลึงกับพลังทำลายล้างที่น่าตกใจของกองทัพปฏิวัติดาวอังคาร
ดูเหมือนว่ากองทัพจะเตรียมพร้อมสำหรับสิ่งนี้มาเป็นเวลานาน
เมื่อเวลาผ่านไปสถานการณ์ก็ยิ่งเลวร้ายลงเรื่อยๆ กองทัพปฏิวัติดาวอังคารเป็นเหมือนลูกธนูพุ่งตรงไปยังเมืองชิไท
บริษัทยาไจแอนท์ไม่สามารถอยู่นิ่งได้อีกต่อไป พวกเขาส่งกองกำลังออกไป
ห้าถึงหกวันผ่านไป …
เฟิงหลินเฝ้าดูข่าวและวิเคราะห์ เขาค้นพบว่าแผนกยาภายในบริษัทยาไจแอนท์นั้นเหมือนคลื่นทะเลเล็กๆที่พุ่งเข้าสู่ทะเลเพลิงพยายามจะดับมันแต่ทำอะไรไม่ได้ ไม่มีควันจากการดับไฟแม้แต่น้อย ในไม่ช้าพวกเขาก็ถูกกลืนหายไปจหมด
บรรยากาศในบริษัทยาไจแอนท์รุนแรงและตึงเครียดมาก
แม้ว่าจะเป็นองค์กรธุรกิจเอกชนที่มีกองทหารเป็นของตนเอง แต่กองทัพที่พวกเขามีจะเทียบกับกองทัพจริงๆได้ยังไง
ในกรณีนี้บริษัทยาไจแอนท์วางแผนที่จะทำอะไรต่อไป
เฟิงหลินสังเกตอย่างเงียบๆ และรู้สึกอยากรู้อยากเห็นโดยไม่ตั้งใจ
บูม บูม บูม!
อีกสามวันผ่านไป เฟิงหลินดูมนุษย์ไข่พวกนี้ทำการวิจัยเกี่ยวกับการหาวิธีที่ดีที่สุดในการสร้างยายักษ์เขียว แต่พื้นกลับสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง
เฟิงหลินและคนอื่นๆ มองหาที่มาของความปั่นป่วน
ไม่มีใครรู้ แต่โคลนในหลอดทดลองกลับตื่นออกมา ร่างเปลือยเปล่าของพวกมันยืนบนพื้นโลหะผสม เหมือนทหารของกองทัพแผร่รังสีสง่างาม
โคลนนิ่งสูงและมีกล้ามเนื้อ พวกมันเป็นเหมือนรูปปั้นของวีรบุรุษจากตำนานเทพเจ้ากรีกซึ่งกลับมามีชีวิตอีกครั้ง
พวกมันทุกคนมีผมสีทองเปล่งปลั่งคล้ายกับดวงอาทิตย์ พวกมันลืมตาแต่สีหน้าราบเรียบเหมือนหุ่นยนต์ที่ไม่มีลมหายใจ
กองทัพที่แปลกประหลาดและน่าสะพรึงกลัวนี้จะทำให้ศัตรูรู้สึกหนาวสั่น
หุ่นยนต์จำนวนมากเตรียมปืนรังสี ชุดเกราะ และอุปกรณ์ทางทหารต่าง ๆ ให้พวกมัน
มีเครื่องจักรสงครามเพียงไม่กี่เครื่อง
เครื่องจักรแต่ละเครื่องเป็นเครื่องจักรสงครามที่ต้องใช้เงินจำนวนมหาศาล แม้แต่บริษัทยาไจแอนท์พวกเขายังมีเครื่องจักรสงครามเพียงสามเครื่องเท่านั้น
ครื่นน ~
จักรกลสูงร้อยเมตรเริ่มเดินนำ พวกโคลนรีบสวมอุปกรณ์ทหารที่หุ่นยนต์ยื่นให้ พวกมันปรับขบวนเหมือนกองทัพเหล็กที่เดินไปข้างหน้า
ร่างกายพวกมันสมบูรณ์เหมือนนักล่า เวลาที่พวกมันขยับพวกมันดูเหมือนหนึ่งเดียวกัน
เทคนิคการต่อสู้ขั้นสูงทุกประเภทได้ถูกยัดเข้าไปในหัวพวกมันแล้ว พวกมันแต่ละตัวถือได้ว่าเป็นเครื่องจักรสังหารในสนามรบ
เมื่อเผชิญกับความพ่ายแพ้หลายครั้งบริษัทยาไจแอนท์ก็ตัดสินใจใช้ไพ่ตายที่แข็งแกร่งที่สุด
สายตาของเฟิงหลินแข็งค้าง เขาเห็นสัญลักษณ์ที่โดดเด่นบนอุปกรณ์ต่อสู้เหล่านี้
“卍”!
นี่คือสัญลักษณ์ที่เป็นตัวแทนของสวัสดิกะ มันถูกสร้างขึ้นจากตัวอักษรรูปสายฟ้ากลับหัว ‘S’ สองตัว
“พวกนาซี … ?”