ตอนที่ 108

Legend of the mythological genes

สงครามภายในดาวอังคารปะทุขึ้นทันทีอย่างไม่มีสัญญาณ เกินความคาดหมายของทุกคน

กองทัพปฏิวัติดาวอังคารซึ่งแต่เดิมเหมือนหนูที่ซ่อนตัวอยู่ใต้พื้นดิน ตอนนี้กลายเป็นแสงอาทิตย์หลังฝนตก ทำให้เกิดการจราจลในเมืองใต้ดินของดาวอังคาร และพยายามโค่นล้มรัฐบาล สงครามมีให้เห็นทุกที่

สถานการณ์บนดาวอังคารมีแต่ความโกลาหล

การต่อสู้รุนแรงและกระจายอย่างรวดเร็วคล้ายไฟป่า

ทุกที่บนดาวอังคารล้วนพัวพันในสงคราม

เฟิงหลินอ่านข่าวอย่างตั้งใจ เขาค้นพบว่าแผนที่ของดาวอังคารแยกดาวอังคารออกเป็นสองส่วนคือส่วนสีแดงและส่วนสีน้ำเงิน ดูเหมือนสัตว์ป่าสองตัวพยายามกัดและตะครุบ มีอาวุธทุกชนิด เช่น จักรกล ไอพ่น ปืนอนุภาค มีให้เห็นในข่าวอาวุธที่อันตรายถูกนำมาใช้ และสถานการณ์ก็ถึงจุดสูงสุดอย่างรวดเร็ว

โชคดีที่ดาวอังคารได้รับพิจารณาว่าเป็นดาวเคราะห์ที่แห้งแล้ง มนุษย์ส่วนใหญ่อาศัยอยู่ใต้ดิน ไม่เช่นนั้นด้วยความหนาแน่นของปืนไฟ มนุษยบนดาวอังคารคงสูญพันธุ์ไปหมดแล้ว

ภูเขาถูกระเบิด เกิดหลุมอุกกาบาตเจาะพื้นดินไปหมด

ภูมิภาคสีน้ำเงินที่แสดงบนแผนที่เป็นดินแดนที่ถูกควบคุมโดยรัฐบาลดาวอังคาร กองทัพปฏิวัติของดาวอังคารคือพื้นที่สีแดง อาณาเขตขยายจากเล็กไปใหญ่เหมือนปลาตัวเล็กๆที่เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในท้ายที่สุดปลาตัวเล็กก็กลายเป็นปลาใหญ่

ตอนนี้ดาวอังคารถูกแยกออกเป็นสองกลุ่มอย่างสมบูรณ์

การเปลี่ยนแปลงทั้งหมดนี้เกิดขึ้นในช่วงเวลาสั้นๆภายในครึ่งเดือน จากแผนที่ที่แสดง พื้นที่สีแดงยังขยายตัวอย่างต่อเนื่อง – ไปยังเมืองชิไทบนดาวอังคาร!

ตอนนี้บรรยากาศภายในบริษัทยาไจแอนท์เปลี่ยนไป ตึงเครียดมากจนทำให้รู้สึกอึดอัด

บริษัทยาไจแอนท์เป็นหนึ่งในกลุ่มการเงินชั้นนำไม่กี่แห่งบนดาวอังคาร พวกเขาถูกส่งไปประจำการที่นี่และเป็นศัตรูที่ร้ายกาจกับกองทัพปฏิวัติดาวอังคาร

แม้แต่คนโง่ก็สามารถบอกได้ว่ากองทัพปฏิวัติดาวอังคารเป็นศัตรูกับบริษัทยาไจแอนท์

หากพวกเขาสามารถกลืนกินส่วนที่ใหญ่ที่สุดอย่างบริษัทยาไจแอนท์ได้ ความแข็งแกร่งทางการเงินและเทคโนโลยีของกองทัพปฏิวัติดาวอังคารจะสูงขึ้นไปอีกระดับ

ดังนั้นความมั่งคั่งของบริษัทยาไจแอนท์จึงเป็นสิ่งที่กองทัพปฏิวัติดาวอังคารต้องการ

ทหารในเครื่องแบบลาดตระเวนในบริษัทยาไจแอนท์จำนวนมาก และมีการตรวจสอบคนเข้าคนออกอย่างละเอียด

แม้แต่คนจากแผนกวิจัยและพัฒนาก็ด้รับผลกระทบ มีความรู้สึกกังวลในสงครามด้านบน

แต่เฟิงหลินสงบนิ่งราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น

ในความเป็นจริงเฟิงหลินเองไม่รู้ว่าเขาเป็นคนที่ก่อให้เกิดสงครามภายในนี้หรือไม่

ถ้าเป็นเช่นนั้นจริงๆ ทำไมถึงไม่มีการตอบกลับจากกองทัพปฏิวัติดาวอังคารหลังจากที่พวกเขาได้รับข่าว?“

ในช่วงเวลาเหล่านี้เฟิงหลินมุ่งตั้งใจและฝึกฝนอย่างหนัก เขาได้รับจุดพันธุกรรมแรกเริ่มอีกสองจุด พลังของเขาทะลุ 45.0 ไปถึง 45.8

อย่างไรก็ตามเขาไม่ได้เพิ่มแต้มเหล่านั้นทันที

เมื่อพลังของเขาเพิ่มขึ้น การเปลี่ยนแปลงในร่างกายของเขาก็ชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ มันไม่เหมาะสำหรับเขาที่จะเพิ่มแต้มมากเกินไปภายในระยะเวลาสั้นๆ ไม่งั้นคนอื่นอาจสงสัย

นอกจากนี้เนื่องจากเขาได้เพิ่มแต้มให้กับยีนลิงหินอย่างรวดเร็วก่อนหน้านี้ ความสามารถของเขาจึงเพิ่มขึ้นอย่างมาก แต่เขายังไม่คุ้นเคยกับมัน นี่จะส่งผลต่อการควบคุมความสามารถของเขาถ้าเขาเพิ่มแต้มอีก มันอาจทำให้สิ่งต่างๆพังด้วยความรีบมากเกินไปของเขา

แม้ว่าเฟิงหลินจะกระหายความแข็งแกร่ง หลังจากที่เขาเจอกับการพลังชีวิตล้นตอนที่เขายังเป็นผู้บ่มเพาะฝึกหัด ตอนนี้เขาเข้าใจดีว่าการพัฒนาอย่างช้าๆและมั่นคงย่อมดีกว่า เขาต้องการที่จะทำให้รากฐานของเขามั่นคงก่อน

นอกจากนี้ไม่ต้องพูดถึงประโยชน์มากมายในการเก็บจุดพันธุกรรมแรกเริ่ม ในช่วงเวลาที่สำคัญ เขาสามารถกู้คืนสู่สภาวะสูงสุดของเขาได้ทันทีด้วยการเพิ่มและเสริมสร้างความเข้มแกร่งของยีน

นี่เป็นเทคนิคที่ดีที่สุด

เมื่อเฟิงหลินยังอ่อนแอ เขาพึ่งพาความสามารถนี้เพื่อปีนขึ้นไปบนหอต่อสู้ลวงตา

เขาอยากมีจุดพันธุกรรมสำรองไว้ในกรณีที่สถานการณ์เปลี่ยนไปในทางที่แย่ นี่อาจเป็นตัวช่วยที่ดีสำหรับเขา

 

ยิ่งสถานการณ์วุ่นวายมากขึ้นเท่าไร เฟิงหลินยิ่งต้องการอยู่ในเงามากเท่านั้น

ในช่วงเวลาแห่งความปั่นป่วนนี้ ผู้ที่โดดเด่นจะถูกกำจัด เขาเลือกที่จะเก็บรายละเอียดไปก่อนเพื่อรอโอกาสของเขา

เขาควรจะออกจากดาวอังคารอย่างเงียบๆ หรือเขาควรพยายามหาผลประโยชน์จากสถานการณ์นี่และฉวยหาความลับจากซากปรักหักพังในตำนานของนิกายเตาหลอมอมตะ?

เขากำลังรออยู่เงียบๆเพื่อให้สิ่งต่างๆวุ่นวายมากกว่านี้ หลังจากนั้นเขาจะหาโอกาสที่เหมาะสมเพื่อได้ในสิ่งที่เขาต้องการอย่างไรก็ตามถ้าทุกอย่างไม่เป็นไปตามที่เขาหวัง เขาก็จะเลือกหนีไปอย่างไม่ลังเล

เขาจะไม่วางเดิมพันชีวิตเล็กๆของเขาไว้ในกระแสน้ำวนแห่งความโกลาหลนี้เพียงเพราะความโลภ

ไม่ว่าซากปรักหีกพังในตำนานจะยิ่งใหญ่เพียงใดมันก็ไม่มีค่ามากไปกว่าชีวิตเล็กๆของเขา

ตามความหมายของการบ่มเพาะ เราต้องบ่มเพาะชีวิตตก่อนที่จะบ่มเพาะสถานะ

หากเขาเสียชีวิตทุกอย่างจะเหมือนความฝัน ความสำเร็จทั้งหมดของเขาจะหายไปเหลือแต่ความว่างเปล่า

ในขณะที่เฟิงหลินคิดว่าเขายังใจเย็นอยู่ได้ วันหนึ่งเมื่อเขากำลังบ่มเพาะอย่างขยันขะมักเขม้น ไมโครชิฟของเขาก็สั่นและภาพฉาย 3 มิติของชายชุดยาวขึ้น ไม่ใช่ใครที่ไหนเขาคือลุคจากกองทัพปฏิวัติดาวอังคาร

 

เขาจ้องมองเฟิงหลินและยิ้ม “ขอบคุณมากเฟิงหลิน! ข่าวที่คุณส่งมาให้ผมมีค่าอย่างยิ่ง หลังจากได้รับข่าวของคุณ ตอนแรกกองทัพปฏิวัติดาวอังคารของเรายังแบ่งออกเป็นสองฝ่าย ฝ่ายต่อต้านและฝ่ายสันติคอยขัดแย้งกันเสมอ แต่หลังจากได้รับข่าวของคุณ เราจากฝ่ายต่อต้านก็ได้รับอนุญาตให้เริ่มต้นแผนของเราและก่อจลาจลได้ ตอนนี้เราไม่รู้จำนวนทหารและข้อมูลลับของบริษัทยาไจแอนท์  เราอยากขอรบกวนให้คุณ … “

 

คลิก!

การสตรีมวิดีโอปิดกะทันหัน เฟิงหลินเป็นคนปิดมันเอง

ไม่เพียงเท่านั้นเขายังลบข้อมูลทั้งหมดอย่างรวดเร็ว รวมถึงแหล่งที่มาของข้อมูล

ตั้งแต่แรกเขาใช้ประโยชน์จากกองทัพปฏิวัติดาวอังคารเท่านั้น เขาแค่อยากให้พวกเขาต่อสู้กับบริษัทไจแอนท์เท่านั้น

เพื่อที่เขาจะได้มีโอกาสตกปลาในบ่อน้ำวน

ตั้งแต่แรกเขาไม่ต้องการที่จะมีส่วนเกี่ยวข้องกับกองทัพปฏิวัติดาวอังคาร

ยิ่งเขามีปฏิสัมพันธ์กันมากเท่าไหร่ มันก็ยิ่งอันตรายสำหรับเขามากขึ้นเท่านั้น

ยิ่งไปกว่านั้นลุคจากกองทัพปฏิวัติดาวอังคารยังทำเหมือนเขาเป็นสายลับ และขอให้เขาเปิดเผยข้อมูลเพิ่มเติม

เฟิงหลินไม่ต้องการแม้แต่จะได้ยินประโยคแบบนี้

ดังนั้นแสดงว่ากองทัพปฏิวัติดาวอังคารได้วางแผนมานานแล้วในการก่อความวุ่นวาย แต่เพียงเพราะว่ากลุ่มภายในของพวกเขาได้รับข้อมูลลับจากเขา นั่นจึงกลายเป็นจุดเริ่มต้นก่อให้เกิดสงครามบนดาวอังคาร

นี่คือสิ่งที่เฟิงหลินไม่ได้คาดเอาไว้

ไม่เพียงแค่เขาเท่านั้น แต่ส่วนใหญ่คงไม่มีใครคิดเรื่องนี้ นี่เป็นสงครามภายในขนาดใหญ่บนดาวอังคาร แต่จริงๆแล้วกลับเกิดจากคนๆหนึ่ง

เฟิงหลินเองก็ประหลาดใจเช่นกัน

ดูเหมือนว่าเงินเดิมพันจะสูงขึ้นมาก!

ไม่ว่าในกรณีใด เฟิงหลินก็ไม่อยากจะคิดเรื่องนี้อีกต่อไป เขากำลังจะยุติการติดต่อที่เขามีกับกองทัพปฏิวัติดาวอังคารและซ่อนตัวเป็นเงา

เขาซึ่งตอนนี้เป็นผู้บ่มเพาะระหว่างดวงดาว มีความแข็งแกร่งพิเศษและไม่ใช่คนอ่อนแอบนดาวอังคาร ไม่ว่าสถานการณ์จะเลวร้ายเพียงใดเขาก็ยังคงมีกำลังที่จะปกป้องตัวเองได้

เฟิงหลินรู้สึกว่าความสามารถยีนลิงหินแรกเริ่มแค่ทนต่อดาบและหอก ไฟและน้ำ เขาไม่แน่ใจว่าอาวุธเทคโนโลยีขั้นสูงเหล่านั้นจะทำอะไรเขาได้หรือเปล่า

สงครามแพร่กระจายอย่างรวดเร็ว

กองทัพปฏิวัติดาวอังคารชนะอุปสรรคทุกอย่าง พวกเขาเป็นเหมือนคลื่นไฟสวรรค์ที่ต้องการทำลายทั้งดาวอังคารให้สะอาดเปลี่ยนท้องฟ้าและโลก ไม่ว่าจะไปที่ไหนรัฐบาลดาวอังคารจะพ่ายแพ้เสมอ- ขวัญกำลังใจลดน้อยลง

แม้แต่เฟิงหลินซึ่งเป็นต้นเหตุของเรื่องนี้ก็ยังตกตะลึงกับพลังทำลายล้างที่น่าตกใจของกองทัพปฏิวัติดาวอังคาร

ดูเหมือนว่ากองทัพจะเตรียมพร้อมสำหรับสิ่งนี้มาเป็นเวลานาน

เมื่อเวลาผ่านไปสถานการณ์ก็ยิ่งเลวร้ายลงเรื่อยๆ กองทัพปฏิวัติดาวอังคารเป็นเหมือนลูกธนูพุ่งตรงไปยังเมืองชิไท

 

บริษัทยาไจแอนท์ไม่สามารถอยู่นิ่งได้อีกต่อไป พวกเขาส่งกองกำลังออกไป

ห้าถึงหกวันผ่านไป …

เฟิงหลินเฝ้าดูข่าวและวิเคราะห์ เขาค้นพบว่าแผนกยาภายในบริษัทยาไจแอนท์นั้นเหมือนคลื่นทะเลเล็กๆที่พุ่งเข้าสู่ทะเลเพลิงพยายามจะดับมันแต่ทำอะไรไม่ได้  ไม่มีควันจากการดับไฟแม้แต่น้อย ในไม่ช้าพวกเขาก็ถูกกลืนหายไปจหมด

บรรยากาศในบริษัทยาไจแอนท์รุนแรงและตึงเครียดมาก

แม้ว่าจะเป็นองค์กรธุรกิจเอกชนที่มีกองทหารเป็นของตนเอง แต่กองทัพที่พวกเขามีจะเทียบกับกองทัพจริงๆได้ยังไง

ในกรณีนี้บริษัทยาไจแอนท์วางแผนที่จะทำอะไรต่อไป

เฟิงหลินสังเกตอย่างเงียบๆ และรู้สึกอยากรู้อยากเห็นโดยไม่ตั้งใจ

บูม บูม บูม!

อีกสามวันผ่านไป เฟิงหลินดูมนุษย์ไข่พวกนี้ทำการวิจัยเกี่ยวกับการหาวิธีที่ดีที่สุดในการสร้างยายักษ์เขียว แต่พื้นกลับสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง

เฟิงหลินและคนอื่นๆ มองหาที่มาของความปั่นป่วน

ไม่มีใครรู้ แต่โคลนในหลอดทดลองกลับตื่นออกมา ร่างเปลือยเปล่าของพวกมันยืนบนพื้นโลหะผสม เหมือนทหารของกองทัพแผร่รังสีสง่างาม

โคลนนิ่งสูงและมีกล้ามเนื้อ พวกมันเป็นเหมือนรูปปั้นของวีรบุรุษจากตำนานเทพเจ้ากรีกซึ่งกลับมามีชีวิตอีกครั้ง

พวกมันทุกคนมีผมสีทองเปล่งปลั่งคล้ายกับดวงอาทิตย์ พวกมันลืมตาแต่สีหน้าราบเรียบเหมือนหุ่นยนต์ที่ไม่มีลมหายใจ

กองทัพที่แปลกประหลาดและน่าสะพรึงกลัวนี้จะทำให้ศัตรูรู้สึกหนาวสั่น

หุ่นยนต์จำนวนมากเตรียมปืนรังสี ชุดเกราะ และอุปกรณ์ทางทหารต่าง ๆ ให้พวกมัน

มีเครื่องจักรสงครามเพียงไม่กี่เครื่อง

เครื่องจักรแต่ละเครื่องเป็นเครื่องจักรสงครามที่ต้องใช้เงินจำนวนมหาศาล แม้แต่บริษัทยาไจแอนท์พวกเขายังมีเครื่องจักรสงครามเพียงสามเครื่องเท่านั้น

ครื่นน ~

จักรกลสูงร้อยเมตรเริ่มเดินนำ พวกโคลนรีบสวมอุปกรณ์ทหารที่หุ่นยนต์ยื่นให้ พวกมันปรับขบวนเหมือนกองทัพเหล็กที่เดินไปข้างหน้า

ร่างกายพวกมันสมบูรณ์เหมือนนักล่า เวลาที่พวกมันขยับพวกมันดูเหมือนหนึ่งเดียวกัน

เทคนิคการต่อสู้ขั้นสูงทุกประเภทได้ถูกยัดเข้าไปในหัวพวกมันแล้ว พวกมันแต่ละตัวถือได้ว่าเป็นเครื่องจักรสังหารในสนามรบ

เมื่อเผชิญกับความพ่ายแพ้หลายครั้งบริษัทยาไจแอนท์ก็ตัดสินใจใช้ไพ่ตายที่แข็งแกร่งที่สุด

สายตาของเฟิงหลินแข็งค้าง เขาเห็นสัญลักษณ์ที่โดดเด่นบนอุปกรณ์ต่อสู้เหล่านี้

“卍”!

นี่คือสัญลักษณ์ที่เป็นตัวแทนของสวัสดิกะ มันถูกสร้างขึ้นจากตัวอักษรรูปสายฟ้ากลับหัว ‘S’ สองตัว

“พวกนาซี … ?”