สิวสีเขียวอมเทาลามเข้าปกคลุมใบหน้าของชายหนุ่มในกระจก ดวงตาของเขาปูดนูนออกมาและจมูกของเขาก็เริ่มเน่า เนื้อสีเทาหล่นลงมาเผยให้เห็นกระดูกสีขาว และเบ้าตาสีดำทั้งสองข้าง

ลูเซียนตกตะลึง เมื่อเห็นว่าเกิดอะไรขึ้นกับใบหน้าของเขาในกระจก ลูเซียนรู้สึกขนลุกวาบจากปลายเท้าไปถึงหนังศีรษะ ถึงแม้ว่าจะมีเวทจิตกลที่ร่ายเอาไว้ก็ตาม แต่เขาก็ยังราวกับถูกแช่แข็งอยู่กับที่

ตอนนี้ใบหน้าที่เน่าเฟะในกระจกกำลังยิ้มราวกับตัวตลกที่น่าเกลียด

ทุกอย่างที่อยู่ต่อหน้าลูเซียนกลายเป็นสีดำ และหัวใจของเขาก็ราวกับว่าจะหยุดเต้นไปประมาณสามวินาที วินาทีต่อมา หัวใจของเขาก็กลับมาเต้นอีกครั้งด้วยความเร็วที่ราวกับว่ามันจะกระโดดออกจากอกของเขา

ภายในศีรษะของลูเซียนเกิดเสียงบางอย่างดังขึ้นมาอย่างบ้าคลั่ง เส้นเลือดดำทุกเส้นในร่างกายของเขาโป่งออกมาและเลือดทั้งหมดก็พุ่งไปสู่สมอง จากนั้นเขาก็พบว่าสิ่งที่เขาเห็นทั้งหมดกลายเป็นสีเลือด และทุกอย่างก็ดูพร่ามัวและประหลาด

ลูเซียนรู้สึกราวกับว่าพลังชีวิตกำลังหายออกไปจากร่างกายของเขา

โชคดีที่ลูเซียนแข็งแกร่งและเขาก็ร่ายเวทมนตร์ใส่ตัวเองในวินาทีสุดท้าย ทำให้ทุกอย่างกลับมาเป็นปกติ จากนั้นเขาก็ร่ายม่านแสงเข้าคลุมตัวเองไว้

วินาทีต่อมาลูเซียนที่เน่าเฟะในกระจกก็ก้าวออกมาข้างหน้าและเดินออกมาจากกระจก ลิ้นสีแดงยื่นออกมาจากปากแล้วเปลี่ยนเป็นสีดำ ลิ้นพุ่งทะลุโล่เพลิงอัคคีของลูเซียนเข้ามาราวกับว่ามันไม่มีอยู่จริง

ลูเซียนสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายแห่งความตาย

ต้องขอบคุณเวทมนตร์ใหม่ที่ทำให้ลิ้นดำลวงตาถูกขวางกั้นไว้ด้วยด้วยโล่แสงเวทมนตร์ ทันทีที่ลิ้นสัมผัสกับโล่มันก็ถูกเผาไหม้

อาคมเทพระดับสี่ เวทอาณาเขตมรณะ!

หลังจากที่ลูเซียนกลายเป็นนักเวทระดับกลางแล้ว และตราผนึกระดับสองของมงกุฎสุริยันก็ได้รับการปลดปล่อย ดังนั้น เขาจึงสามารถร่ายอาคมเทพได้สามครั้งในหนึ่งวันคือ เวทระดับสามเวทลำแสงแผดเผา เวทระดับสี่เวทอาณาเขตมรณะ และ เวทระดับสี่เวทเพลิงพิฆาต แต่มีแค่เวทอาณาเขตมรณะเท่านั้นที่จะทำลายพลังที่เกี่ยวข้องกับความตายได้

ในเวลานี้เอง ชาร์ลีและซานดร้าเริ่มสังเกตพฤติกรรมแปลกๆ ของลูเซียนที่ดูเหมือนถูกกระจกครอบงำ ตอนนี้ร่างกายของลูเซียนได้รับการปกป้องจากพลังอาคมเทพ แต่เมื่อพวกเขามองเข้าไปในกระจกก็ไม่มีอะไรในนั้น และไม่มีแม้แต่การสะท้อนใดๆ กลับมา!

ซานดร้าชี้ ไปที่กระจกด้วยไม้กายสิทธิ์สีม่วงของเธอ จากนั้นก็มีลำแสงที่แข็งแกร่งพลุ่งพล่านออกมาจากกระจกทันที แต่แสงนั้นก็ไม่สามารถไปได้ไกลเกินกว่ารัศมีสิบเมตร ส่วนจุดที่ไกลกว่านั้นยังคงมีความมืดปกคลุมหนาแน่น

‘เวทสุริยันอัคคี’ เป็นเวทมนตร์ระดับสี่ของสำนักแสงและความมืด และมันถูกใช้เพื่อต่อต้านปีศาจ หรือพวกผีดิบจากมิติอื่นเท่านั้น พลังนี้ไม่เหมือนกับพลังศักดิ์สิทธิ์ของอาคมเทพ

ภายในแสงที่บริสุทธิ์นี้ ควันสีดำก็ลอยออกมาจากกระจก และเมื่อควันลอยมารวมตัวกันก็ปรากฏเป็นสัตว์ประหลาดที่น่ากลัว

เสื้อคลุมที่สวมใส่ไม่ได้ปิดบังใบหน้าทำให้เห็นปีศาจที่มีดวงตาสีแดงเข้ม และกะโหลกศีรษะของมันถูกปกคลุมด้วยผิวหนังเน่าๆ บางๆ มันไม่มีริมฝีปากจึงเผยให้เห็นฟันทั้งบนและล่างอย่างชัดเจน แต่รูปลักษณ์นี้ก็ดูไม่คงที่มันคล้ายกับภาพลวงตาที่เปลี่ยนแปลงตลอด

ปีศาจพวกนั้นสูงและสวมชุดคลุมสีดำที่ปักด้วยลวดลายลึกลับ และดูชั่วร้าย

ปีศาจที่มีควันดำล้อมรอบเพื่อปิดกั้นแสงจาก ‘เวทสุริยันอัคคี’ ไว้ด้านหลัง และมันก็เริ่มหัวเราะ ในเวลาเดียวกันเงาสีเทาปรากฏขึ้นรอบๆ ชาร์ลี และซานดร้า

ถึงแม้ว่าโล่เวทมนตร์ของชาร์ลีจะกำลังทำงานอยู่ แต่เงาสีเทาก็มีมากเกินไปและแสงจากโล่ก็เริ่มมืดลง

ในเวลานี้เองชาร์ลีก็บินตรงไปที่ชั้นหนังสือ เขาทิ้งตัวลงบนชั้นวางหนังสือที่อยู่อีกด้านหนึ่งของห้องโถงราวกับว่ามีแรงโน้มถ่วงเกิดขึ้น

นี่คือเวทสนามแรงระดับสี่ ‘เวทแรงโน้มถ่วงเสมือน’!

ใกล้ๆ กับกระจก บอลเวทมนตร์ห้าลูกลอยวนอยู่เหนือศีรษะของซานดร้าและซูซาน ตอนนี้มันหมุนอย่างรวดเร็ว และเงาสีเทาทั้งหลายที่พยายามจะกระโดดขึ้นมาก็ถูกดูดซับด้วยเวทมนตร์ ในขณะเดียวกันลูกบอลเวทมนตร์ก็เริ่มมีขนาดใหญ่ขึ้น ในขณะที่ซานดร้าก็ชี้ไม้กายสิทธิ์ของนางไปที่ปีศาจ แล้วลูกบอลเวทมนตร์ก็พุ่งเข้าหามันอย่างรุนแรง

บอลเวทมนตร์สองลูกปะทะเข้ากับควันดำรอบๆ ปีศาจ และควันเหล่านั้นก็เริ่มถูกขับไล่ออกไป

แสงเวทมนตร์ของ ‘เวทสุริยันอัคคี’ สาดส่องไปโดนเหล่าปีศาจจากนั้นพวกมันก็ส่งเสียงกรีดร้องที่น่ากลัวออกมา

ชาร์ลียกมือขวาที่สวมถุงมือสีขาวขึ้น ทันใดนั้นฝ่ามือลวงตาขนาดใหญ่ก็ปรากฏขึ้นข้างๆ ปีศาจและคว้าจับมันไว้

‘เวทฝ่ามือมหึมาดักลาส’ เป็นเวทมนตร์สนามแรงระดับสี่ และได้มีการกล่าวว่าเวทมนตร์นี้ได้รับการพัฒนามาจากต้นฉบับโบราณ

แหวนธาตุของลูเซียนคือธาตุที่ช่วยให้เขาฟื้นตัว ลูเซียนรู้สึกว่าตอนนี้เขาสามารถเคลื่อนไหวได้แล้ว แต่ลูเซียนยังยืนอยู่ตรงนั้น แล้วหยิบลูกบอลคริสตัลออกมาจากกระเป๋าของเขา

ลูกบอลคริสตัลสีจางลงราวกับท้องฟ้ายามค่ำคืน และจากนั้นดวงดาวก็ปรากฏขึ้นในท้องฟ้ายามค่ำคืน เมื่อลูกบอลคริสตัลเปล่งแสงบริสุทธิ์ออกมา

ลูกบอลคริสตัลลอยอยู่ในอากาศและหยุดอยู่เหนือศีรษะของลูเซียนยี่สิบเซนติเมตร แสงสิบจุดที่อยู่รอบๆ ลูเซียนสร้างลวดลายเดียวกันกับการก่อตัวของดาวในลูกบอลคริสตัล ดวงดาวกำลังหมุนรอบลูกบอล และพวกมันก็รวมกันเป็นรูปแบบของโหราศาสตร์ขนาดเล็ก

นี่เป็นปีศาจแห่งฝันร้าย และลูเซียนก็รู้ว่าเวทมนตร์โจมตีทั่วไปไม่สามารถใช้งานได้ ดังนั้นเขาจึงร่ายดาราแห่งมาสเกลีนซึ่งเป็นเวทมนตร์โหราศาสตร์ที่มีประยุกต์ใช้ได้หลากหลาย อย่างตรวจจับภาพลวงตา การเปลี่ยนแปลงโชคของศัตรู การดูดซับพลังเหนือธรรมชาติ และการโจมตีของดาวฤกษ์ ในทางโหราศาสตร์ และองค์ประกอบเวทมนตร์มีเวทมนตร์ระดับเก้าที่สอดคล้องกันซึ่งเรียกว่าแผนที่ดาราของมาสเกลีน

ทันทีที่ดาราของมาสเกลีนถูกสร้างขึ้นอย่างสมบูรณ์ ลำแสงของดาราก็พุ่งออกมาจากลูกบอลคริสตัล เพื่อแสดงให้เห็นว่าปีศาจเป็นเพียงแค่ภาพที่ฉายออกมา!

ภายใต้แสงดาว ปีศาจอยู่ที่นั่น

ชาร์ลี ชี้ไม้กายสิทธิ์สีดำของเขาไปที่ปีศาจและร่ายเวท ‘ลดการต้านทานเวท’ ใส่มัน จากนั้นปีศาจก็ดูอ่อนแอลง

ในช่วงเวลานี้เองที่ทั้งซานดร้า และลูเซียนเริ่มเปิดการโจมตีในเวลาเดียวกันทั้งด้านหน้าและด้านหลัง พวกเขาทำงานร่วมกันได้อย่างสมบูรณ์แบบ!

ตาข่ายจับปีศาจขนาดใหญ่ส่องแสงออกมาเมื่อมันจับปีศาจได้ มันก็เริ่มกระชับแน่นขึ้นและแน่นขึ้น ควันดำก็ลอยออกมาจากปีศาจที่อยู่ในตาข่ายเหมือนมันมีเลือดออก!

หนึ่งในดาวของลูเซียนยิงไปยังศูนย์กลางของปีศาจ จากนั้นปีศาจก็ถูกแยกออกจากกันอย่างเงียบๆ

ซูซานซึ่งกลัวเกินกว่าจะดูพวกเขาต่อสู้กัน กำลังจะถอนหายใจด้วยความโล่งอก แต่ส่วนต่างๆ ของร่างกายปีศาจเริ่มบิดเบือนพร้อมๆ กับพื้น กำแพง แสง และแม้แต่ฝ่ามือสนามแรงมหึมา!

ความจริงแล้วพื้นที่ทั้งหมดนั้นผิดเพี้ยนไปหมด!

แล้วทุกอย่างก็พังทลายลง!

เหมือนกระจกที่แตกเป็นชิ้นๆ พื้นที่นั้นก็ยุบตัวลง และควันก็เริ่มรั่วไหลออกมาจากรอยแตกที่ด้านหน้า

แม้ว่าควันจะไม่หนามาก แต่ลูเซียนก็ตระหนักว่าเขาสูญเสียการรับรู้ถึงพลังทางจิตวิญญาณและสัญชาตญาณของเขาไป เขาเคลื่อนที่ช้าลง เพราะเขาเห็นได้ไกลสุดเพียงประมาณยี่สิบเซนติเมตรเท่านั้น ในเวลาเดียวกันควันก็มีผลต่อการทำงานของฮอร์โมนสมองและคลื่นสมอง

หากไม่ใช่เพราะมีเวทจิตกล ลูเซียนก็สามารถกลายเป็นคนบ้าได้เลย

เวทมนตร์ระดับห้า ’หมอกแห่งจิตใจ’!

ลูเซียนตระหนักว่าปีศาจพวกที่อาจจะอยู่ในระดับห้า แต่พวกนักเวทไม่เคยพบเจอ หรืออ่านเจอเกี่ยวกับปีศาจประเภทนี้มาก่อนเลย!

แม้ว่าดาวจะยังหมุนอยู่รอบๆ ศีรษะของเขาและทำให้พื้นที่สว่างขึ้นนิดน้อย แต่เขาก็ยังไม่สามารถมองทะลุผ่านหมอกออกไปได้

ในความเงียบที่น่าสะพรึงกลัว ลูเซียนได้ร่ายเวทมนตร์ป้องกันอีกหนึ่งบทซ้อนทับกับโล่เพลิงอัคคีของเขาซึ่งเป็นสิ่งที่เขาสามารถทำได้ในตอนนี้ ภายใต้หมอกหนาเขามองไม่เห็นว่าชาร์ลี ซานดร้า และซูซานอยู่ที่ไหน และก็ไม่สามารถสัมผัสได้ด้วยว่าพวกเขาอยู่ใกล้ๆ หรือเปล่า!

เมื่อพลังวิญญาณของเขาฟื้นขึ้นมาอีกเล็กน้อย ลูเซียนก็ได้ร่ายเวท ‘สลายควัน’ ระดับสองขึ้น นี่เป็นเวทมนตร์ที่สร้างขึ้นมาเพื่อลบล้างควันเวทมนตร์

ลูเซียนไม่รู้ว่ามันจะได้ผลหรือไม่ แต่หมอกก็เริ่มหายไป และก็เริ่มเห็นได้ชัดเจนขึ้น

ชาร์ลี กับซานดร้าก็ร่ายเวทมนตร์เช่นกัน ตอนนี้พวกเขาเห็นกันและกันแล้ว

“หมอกอาจจะเป็นการดิ้นรนครั้งสุดท้ายของพวกปีศาจ…” ซานดร้าพยายามที่จะปลอบโยนซูซานที่กำลังหวาดกลัวอยู่ แต่น้ำเสียงของนางก็แสดงให้เห็นว่านางยังไม่แน่ใจ

“นั่นเป็นไปไม่ได้! ไม่มีทางที่ปีศาจที่ร้ายกาจจะตายแบบนี้!” ซูซานกล่าวทั้งที่ใบหน้าของนางยังคงซีดเซียว และนางยังใช้กำลังทั้งหมดปัดมือของซานดร้าทิ้งแล้ววิ่งไปที่มุมห้องโถง

ชาร์ลี ที่กำลังจะคว้าซูซานไว้ แต่นางก็วิ่งเข้าไปที่รูปปั้นทองแดงตรงมุมห้องแล้วก็คว้าที่หูของรูปปั้นไว้

ประตูลับตรงผนังเปิดขึ้นเมื่อซูซานบิดที่หูรูปปั้น

ซูซานบอกพวกเขาว่ามีห้องลับในห้องโถงซึ่งสร้างโดยเบอร์ทเรินด์ นักเวทฝึกหัดหลายที่พบมันบอกว่านี้เป็นความลับของพวกเขา

เหล่านักเวทไม่แปลกใจกับการมีอยู่ของห้อง แต่ดวงตาของพวกเขาก็เบิกกว้างเมื่อพวกเขาเห็นว่ามีเด็กวัยรุ่นอยู่ในห้อง!

เด็กชายวัยรุ่นคนนั้นกำลังนั่งยองๆ อยู่บนพื้นโดยเอามือกุมศีรษะไว้ เขาเงยหน้าขึ้นอย่างช้าๆ และดวงตาของเขาก็เต็มไปด้วยความหวาดกลัว

พวกเขาพบผู้รอดชีวิตคนอื่น!

………………………