อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม บทที่ 354 ถ้ำวงกต
ครั้งนี้ เหล่าผู้อาวุโสของเผ่าเทียนเฟิ่นไม่นิ่งเฉยแล้ว แทบอยากบีบคอกู้ชูหน่วนทั้งเป็น กู้ชูหน่วนกลับถอยก้าวหนึ่ง ร้องไห้น้ำมูกไหล สะอึกสะอื้น “สหายทั้งหลาย เป็นข้าทำร้ายพวกเจ้า หากรู้ว่าที่นี่อันตรายเช่นนี้ หากรู้ว่าฝืนบุกเข้ามาจะทำให้พวกเจ้าตายอนาถที่นี่ ข้ายอมถูกพวกเขาตีตายก็จะไม่มอบกระดิ่งทลายวิญญาณออกไป เป็นข้าผิดต่อพวกเจ้า”

“ข้าสมควรตาย ข้าผิดต่อพวกเจ้า พวกเจ้าฆ่าข้าเถอะ ชีวิตมากมายเช่นนี้ สวรรค์…ข้าจะชดใช้อย่างไร?”

นางร้องไห้น้ำหูน้ำตาไหล อยากระทมขนาดไหนก็ระทมขนาดนั้น คนของเผ่าเทียนเฟิ่นใจอ่อนทันที อารมณ์โกรธของคนเผ่าปีศาจก็จางลงมากแล้ว มีเพียงหัวหน้ากองธงกล้วยไม้กัดฟันกรอด เอ็นเขียวปูดโปน

“ในเมื่อเจ้าอยากตายเช่นนี้ เช่นนั้นข้าก็จะสงเคราะห์ให้!”

หัวหน้ากองธงกล้วยไม้ว่าแล้วก็ซัดฝ่ามือไปทางขม่อมของนาง

คนของเผ่าเทียนเฟิ่นมองดูอยู่ข้างๆ อย่างเย็นชา อยากดูว่ากู้ชูหน่วนจะมาไม้ไหนกันแน่ คิดไม่ถึงกู้ชูหน่วนเพียงร้องไห้อยู่ตรงนั้น ไม่ขยับ และไม่โต้ตอบ ท่าทางรับความตาย

ครั้นเห็นฝ่ามือคร่าชีวิตใกล้ระเบิดถึงขม่อมนางแล้ว สุดยอดผู้อาวุโสหวงก็นิ่งเฉยไม่ได้ เขาออกมือฉับไว บังฝ่ามือนี้แทนกู้ชูหน่วน

“เก็บนางไว้ยังมีประโยชน์”

“นางผู้นี้มีจุดประสงค์ร้าย นางต้องการหลอกพวกเราให้ตายที่นี่ทั้งหมด”

“นี่…”

คนของเผ่าเทียนเฟิ่นพลันไม่รู้ควรเชื่อใคร

“ใช่ๆๆ ข้าอยากหลอกให้พวกเจ้าตายอยู่ที่นี่ แล้วข้ายังอยากทำตัวเองตายที่นี่ด้วย”

ครั้นวาจานี้ลั่นออกมา อย่างว่าแต่คนของเผ่าเทียนเฟิ่น แม้แต่คนของเผ่าปีศาจก็เอนเอียงไปทางกู้ชูหน่วน

“มิเช่นนั้นก็เชื่อนางอีกสักครั้งเถอะ อย่างไรก็มาถึงยอดเขาแล้ว”

หัวหน้ากองธงกล้วยไม้สะบัดแขนเสื้อไป ใบหน้าเต็มไปด้วยความเดือดดาล

บนยอดภูเขาน้ำเต้าเป็นถ้ำโลหิตขนาดใหญ่ เหตุที่เรียกว่าถ้ำโลหิต ก็เพราะที่นี่วนล้อมรอบทะเลโลหิตที่เดือดพล่าน ราวกับเส้นเลือดที่สลับขัดกันเป็นเส้นๆ

ในถ้ำโลหิต ศพศิษย์หุบเขาตันหุยหลายศพนอนขวางอยู่บนพื้น ที่นี่ไม่มีร่องรอยการต่อสู้ใดๆ แต่ศพของพวกเขากลับคล้ายถูกแล่เนื้อเถือหนัง อนาถจนดูไม่ได้

บาดแผลเชือดเฉือนเหล่านี้ยังส่งกลิ่นเน่าออกมา บนตัวมีควันดำลอยขึ้นจางๆ

พวกเขาพบอะไรที่นี่กันแน่? ทำไมถึงตายอนาถเช่นนี้?

“สุดยอดผู้อาวุโส ตรงนี้มีเส้นทางขึ้นไปได้ขอรับ”

“ไปข้างหน้าต่อ ทุกคนระวังหน่อย”

ผ่านเรื่องราวมากมายเช่นนี้ ทุกคนไหนเลยยังกล้าประมาทอีก พวกเขาที่เดิมก็ซมซานอยู่แล้ว ยามนี้แต่ละคนอย่างกับยาจก ผมฟู อาบเลือดทั่วกาย เสื้อผ้าถูกสัตว์ร้ายกับค่ายกลฉีกจนไม่เป็นชิ้นดี ขาดรุ่งริ่ง

หากเดินอยู่ข้างนอก ทุกคนต้องนึกว่าคนเหล่านี้เป็นเพียงขอทานแน่

“ช้าก่อน เจ้าเดินนำ”

หัวหน้ากองธงกล้วยไม้ผลักกู้ชูหน่วนไปด้านหน้า ให้นางเปิดทาง

เหล่าศิษย์ต่างมอดม้วยหมดแล้ว เหลือเพียงบุคคลหลักๆ ไม่มีผู้ใดยอมเสี่ยง ให้กู้ชูหน่วนเปิดทาง พวกเขาต่างไม่มีข้อคิดเห็น

“ได้ ข้านำ”

ดวงหน้าสะสวยของกู้ชูหน่วนพกพารอยยิ้มชืดลับๆ เพียงแต่เบื้องหลังรอยยิ้มชืดนั้นยังมีความเย็นชาอีกหลายส่วน

ให้นางเปิดทางใช่ไหม? เช่นนั้นหากนางไม่เปิดทางดีๆ ให้พวกเขา จะไม่ผิดต่อ ‘การดูแลเป็นพิเศษ’ ของพวกเขาหรือ?

เดินไปด้านหน้า ที่นี่มืดสนิท

ทุกคนชูคบเพลิง ส่องสว่างปากถ้ำ

เมื่อมองไป ที่นี่ลึกจนไม่เห็นสุดทาง และไม่รู้ว่าปากปล่องภูเขาน้ำเต้ายาวขนาดไหนกันแน่ ผนังหินเรียบลื่นมาก เดินมาไกลก็ไม่เห็นจุดอันตรายอะไร เพียงแต่ทางแยกเยอะเกินไป แผนที่ไม่สมบูรณ์ ชั่วขณะพวกเขาไม่รู้ว่าตัวเองเดินถูกหรือไม่

ในใจคนของเผ่าเทียนเฟิ่นและเผ่าปีศาจมี ‘มารดามันเถอะ’ ลอยออกมาหมื่นคำ

นี่มันที่สับปะรังเคอะไร? ทางแยกจึงเยอะเช่นนี้!

ที่สำคัญที่สุดก็คือ กู้ชูหน่วนพาพวกเขาเดินอ้อมตรงนี้ที ตรงนั้นที อ้อมจนสมองพวกเขามึนไปหมดแล้ว แยกเหนือใต้ออกตกไม่ถูก