ตอนที่ 358 พบหน้า

รองผู้อำนวยการฟางโบกมือ ” ผมรู้แล้ว ผมรู้แล้ว “

มองเห็นท่าทีแบบนี้ของรองผู้อำนวยการฟาง หยางโปก็ชะงักไปเล็กน้อย แล้วก็เข้าใจขึ้นมา อีกฝ่ายจะต้องติดต่อกับชุยซื่อหยวนแล้วแน่ๆ พอคิดถึงตรงนี้เขาก็อดเสียใจเล็กน้อยไม่ได้ เขากลับมาได้สองสามวันแล้ว เขายังไม่ได้โทรศัพท์ไปทางเมืองหลวงนั้นเลย เขาไม่รู้เรื่องอาการบาดเจ็บของชุยซื่อหยวนนัก

” ผมจะไปส่งคุณเอง ” รองผู้อำนวยการฟางเอ่ยพลางยื่นมือออกเป็นสัญญาณ

หยางโปพยักหน้า ” งั้นก็ดี รบกวนคุณแล้ว “

” ไม่รบกวนเลย ” รองผู้อำนวยการฟางหัวเราะ แล้วเดินไปด้านหน้า

เดินผ่านนอกห้องยาม ยามคนเมื่อวานที่ขวางหยางโปก็ยืนตรงนิ่งอยู่ตรงนั้น ไม่กล้าขยับเขยื้อน มองเห็นทั้งสองคนเดินผ่านไปก็ค้อมเอวต่ำ แล้วถึงค่อยผ่อนคลายลงเล็กน้อย

 

ยามที่อยู่ด้านข้างทนมองไม่ได้ ” ต้องทำขนาดนี้เลยเหรอเหล่าหม่า ? พวกเราทำงานอย่างระมัดระวัง ถึงแม้เขาจะเป็นรองผู้อำนวยการก็ทำร้ายพวกเราไม่ได้นะ ! “

” เหล่าหลี่นายไม่เข้าใจ อย่าพูดมาก ! ” เหล่าหม่าส่ายหน้าเอ่ย ” เมื่อวานฉันล่วงเกินคนไป นี่ไม่ต้องแสดงออกให้ดีๆ เหรอ ? “

เหล่าหลี่ชะงักไปเล็กน้อย จากนั้นก็เดาได้ว่าเหล่าหม่าน่าจะไม่ได้ล่วงเกินรองผู้อำนวยการสถานที แต่เป็นเด็กหนุ่มที่อยู่ด้านข้างเขาก็อดเอ่ยถามไม่ได้ ” เด็กหนุ่มคนนั้นเป็นใครกัน ? ทำไมรองผู้อำนวยการฟางถึงมาต้อนรับด้วยตนเอง ? “

เหล่าหม่าส่ายหน้า ” ฉันก็ไม่รู้หรอก แต่รู้ว่าเขามาเข้าร่วมในรายการประเมินสมบัตินั่น ใครจะไปรู้ความเป็นมาของเขาล่ะ ? เมื่อวานเขาไม่ได้เอาป้ายชื่อมา ยังเป็นรองผู้อำนวยการฟางที่ช่วยให้เขาไม่อับอาย ไหนเลยจะคิดว่ามาวันนี้รองผู้อำนวยการฟางจะมาเช้าขนาดนี้เพื่อต้อนรับคนหนุ่มนี่ ! เฮ้อ ! “

 

เหล่าหม่าถอนหายใจหนัก เขาค่อยข้างหนักใจอย่างชัดเจน

หยางโปไม่ได้ตระหนักว่าการมาของเขาได้นำพาแรงกดดันแบบไหนมาให้กับคนอื่น รองผู้อำนวยการฟางมาส่งเขาจนถึงภายในโถงสตูดิโอ ตลอดทางพบคนไม่น้อยที่เอ่ยทักทาย รองผู้อำนวยการฟางเพียงพยักหน้าเป็นสัญญาณ สิ่งนี้ทำให้คนมากมายสงสัยในตัวหยางโปมาก

เมื่อมาถึงโถงสตูดิโอ หยางโปกำลังจะเดินไปที่ห้องแต่งตัวก็พบกับผู้กำกับระหว่างทาง ผู้กำกับกำลังยุ่งมาก เขามองเห็นหยางโปกับรองผู้อำนวยการฟางเดินเข้ามา สีหน้าก็ประหลาดใจ ถ่ายทำรายการนี้ เขาก็ติดต่อกับรองผู้อำนวยการฟางนี่แหละ ดังนั้นทั้งสองคนจึงรู้จักกัน

” รองผู้อำนวยการฟาง คุณมาได้ยังไงครับ ? ” ถึงแม้จะเป็นโปรดิวเซอร์ของสถานีโทรทัศน์กลาง แต่ยังไงเขสก็ยืมสถานที่ของคนอื่น ผู้กำกับก็จำต้องเป็นมิตรสักหน่อย

 

รองผู้อำนวยการฟางหัวเราะ ชี้หยางโปที่อยู่ด้านข้างพลางเอ่ย ” ผมมาส่งเขาน่ะ สหายหยางโปเป็นผู้เชี่ยวชาญในการประเมินวัตถุโบราณชื่อดังของจินหลิงของเรา ในการถ่ายทำต้องใส่ใจหน่อยนะ ! “

ผู้กำกับมองไปทางหยางโป ” เรื่องการประเมินวัตถุโบราณของหยางโปไม่ตื้นเขิน และเป็นผู้มีความสามารถมากของทีมงานรายการของเรา พวกเราก็ใส่ใจมากทีเดียวครับ “

รองผู้อำนวยการฟางถึงค่อยพยักหน้า ” งั้นก็ดี ผมแค่มาดู พวกคุณทำงานกันต่อเถอะ ! “

กล่าวจบ รองผู้อำนวยการฟางก็หันหลังเดินเข้าไปในโถงสตูดิโอ ผู้กำกับมองหยางโป สีหน้าแฝงรอยยิ้ม

” การแสดงเมื่อวานทำได้ดีมาก วันนี้พยายามต่อไปนะครับ ! “

หยางโปพยักหน้า หันหลังไปที่ห้องแต่งตัว เขาเข้าใจดีว่ารองผู้อำนวยการฟางมาเช้าขนาดนี้ก็เพราะอยากมาช่วยออกหน้าสนับสนุนตน

 

เข้าไปในห้องแต่งตัวแล้ว กุ้ยหรงจิ่วมองไปทางหยางโป ” ยอดเยี่ยมจริงๆ ถึงกับทำให้รองผู้อำนวยการสถานีมาส่งได้ ! “

หยางโปรู้สึกประหลาดใจ ” คุณรู้จักรองผู้อำนวยการฟางด้วยเหรอ ?”

” ตอนมากินข้าวด้วยกันน่ะ ” กุ้ยหรงจิ่วเอ่ย

หยางโปพยักหน้าเบาๆ ” ผมแค่เดินมาด้วยกันเท่านั้น “

ถึงแม้หยางโปจะพูดแบบนี้แต่ไม่นานเขาก็พบว่าพนักงานจำนวนมากเป็นมิตรกับเขามากขึ้น ทีมงานรายการมาถึงซูเซิง แต่มาแค่พนักงานระดับหัวหน้า ในที่นี่ยังมีคนของสถานีโทรทัศน์ซูเซิงไม่น้อย

แต่งหน้าเสร็จแล้ว หยางโปก็โทรศัพท์หาชุยซื่อหยวน โทรศัพท์ดังอยู่ครู่หนึ่งก็ได้ยินเสียงตอบกลับอย่างยินดี ” เสี่ยวโป นายโทรศัพท์หาฉันเหรอ ! “

 

หยางโปชะงักไป รู้สึกเศร้าเล็กน้อย ” อื้ม อาการบาดเจ็บบนมือของคุณเป็นยังไงบ้าง ? “

” ดีแล้ว เกือบหายแล้ว ไม่ได้เป็นเรื่องใหญ่อะไร นายวางใจเถอะ ” ชุยซื่อหยวนตอบ

หยางโปพยักหน้าเบาๆ อ้าปากแล้วแต่กลับไม่รู้ว่าควรจะพูดอะไร

ชุยซื่อหยวนเอ่ยถามขึ้นมา ” ได้ยินว่าช่วงนี้นายไปถ่ายทำรายการเหรอ ? คุ้นเคยรึยัง ? “

” ก็พอได้ ” หยางโปเอ่ยตอบ

” อากาศช่วงนี้ค่อยๆ อุ่นขึ้น แต่ตอนกลางคืนอุณหภูมิยังไม่สูง ต้องสนใจเรื่องกันลมหนาว อย่าทำให้ตัวหนาวจนเป็นหวัดไปละ ” ชุยซื่อหยวนชวนคุย

หยางโปประหลาดใจเล็กน้อย คิดไม่ถึงว่าชุยซื่อหยวนจะพูดเรื่องพวกนี้ ในใจก็รู้สึกอบอุ่นเบาบาง รีบเอ่ยตอบว่า ” อื้ม ผมจะสวมเสื้อผ้าหนาๆหน่อย “

 

ทั้งสองถือโทรศัพท์ เงียบงันลงไปครู่หนึ่ง เนิ่นนานชุยซื่อหยวนเอ่ยปากอย่างลังเลว่า ” เรื่องห้าวซวนเมื่อครั้งก่อน ฉันไม่ได้ไปลงโทษอะไรเขา นายไม่ได้ตำหนิฉันใช่ไหม ? “

หยางโปเข้าใจ ชุยซื่อหยวนน่าจะพูดถึงเรื่องที่ซ่งห้าวซวนทาสีหน้าบ้านของเขา เขาถอนหายใจเบาๆ ยังไงเขาก็เป็นหลานชายขอหลี่หมิ่น เรื่องนี้ไม่ได้มีผลกระทบหนักหนาอะไร คิดว่าชุยซื่อหยวนก็ลำบากใจ

” ไม่เป็นไร “

” แต่ละฝ่ายโปรดทราบ การถ่ายทำกำลังจะเริ่มขึ้นแล้ว ขอเชิญทุกคนเข้าไปในพื้นที่ทำงานของตนด้วย “

หยางได้ยินเสียงเอ่ยเร่งดังอยู่ข้างหู ก็จำต้องบอกลาชุยซื่อหยวนแล้ววางสาย

รวดเดียวผ่านไปสามวัน ในที่สุดก็ถ่ายทำรายการเสร็จสิ้น หยางโปกับทีมงานก็ไปร่วมงานเลี้ยงอำลากัน การถ่ายทำรายการครั้งนี้นับว่าเสร็จสมบูรณ์ แน่นอนว่าหยางโปเพียงเข้าร่วมในงานครึ่งหลัง มวลประชาในครึ่งแรก เขาไม่ได้เข้าร่วม

 

ความสามารถในการประเมินของหยางโปทำให้ทุกคนเลื่อมใส ดังนั้นตอนที่กินเลี้ยงอยู่ก็มีคนมาชนแก้วกับเขามากมาย ผู้กำกับก็วิ่งมาถอนหายใจทีหนึ่งแล้วค่อยกล่าวว่า ” อาจารย์หยางความสามารถสูงส่ง ถ้าหากครั้งหน้าพวกเรามีความจำเป็น หวังว่าอาจารย์หยางจะมาช่วยเหลือได้ ! “

หยางโปพยักหน้าเอ่ยตอบ ” ถ้ามีความจำเป็น ผู้กำกับบอกมาตามตรง คนในวงการก็ต้องช่วยเหลือกัน ถ้าไปได้ผมจะไม่พลาดแน่ ! “

” ดี ! ” ผู้กำกับตะโกนเสียงดัง ” มา พวกเราดื่มกันอีกแก้ว ! “

งานเลี้ยงเลิกรา ในที่สุดหยางโปก็กลับคืนสู่การทำงานปกติ

โรงประมูลจินหลิงชุนยังตกแต่งอย่างต่อเนื่อง แต่ส่วนของสำนักงานมีพนักงานเข้าทำการแล้ว หยางโปมาถึงในบริษัท ลัวย่าวหัวก็ดึงหยางโปเดินไปที่ห้องทำงานทีละห้อง พลางเอ่ยแนะนำกับทุกคนว่า

” นี่คือกรรมการบริหารหัวหน้านักประเมินของบริษัทเรา หยางโป ! “

 

” อย่าคิดว่าเขาดูแล้วอายุน้อย แต่เขาเข้าร่วมในการถ่ายทำรายการประเมินสมบัติของสถานีโทรทัศน์กลางมาแล้วนะ แถมยังนั่งในตำแหน่งผู้เชี่ยวชาญ ! อะไรนะ ? นายไม่เคยเห็น ? นั่นก็เพราะว่าในตอนจินหลิงยังไม่ได้ออกอากาศไง ! “

” ต่อไปถ้ามีปัญหาเรื่องการประเมินก็ไปหากรรมการหยางโดยตรงเลยก็ได้ ! “

” ยังมี กรรมการหยางอายุไม่มาก แต่กลับเป็นคนหนุ่มคุณภาพดี พวกนายบ้านใครมีน้องชายน้องสาวก็ช่วยแนะนำให้เขาสักหน่อย ! “

” อะไรนะ ? นายมีน้องชาย ? น้องไม่ได้สิ ! เมื่อกี้ฉันบอกว่าน้องสาว พวกนายฟังให้ดีๆ ! “

หยางโปรีบหยุดการเล่นตลกของลัวย่าวหัว เขาเดินเข้าไปในห้องทำงาน ” นายทำงานเสร็จหมดแล้วเหรอ ? ถึงได้มาล้อฉันเล่นแบบนี้ ? “

” บริษัทเปิดกิจการใหม่ ยังไงก็ต้องสมัครสมานกับเพื่อนร่วมงานเอาไว้หน่อย ! ” ลัวย่าวหัวหัวเราะ