ตอนที่ 357 เครื่องลายครามเหมา

หยางโปมองแล้วก็ยกก้นถ้วยขึ้น มองเห็นก้นถ้วยมีอักษรข่ายซูหกตัวว่า ” สร้างปีคังซีต้าชิง ” เขาเงยหน้าขึ้นเอ่ยถาม ” คุณได้ถ้วยนี้มาจากที่ไหน ? “

ผู้เฒ่าหัวเอ่ยปาก ” ถ้วยนี้เป็นเพื่อนเก่าส่งมาให้ฉัน ช่วงก่อนหน้านี้เพิ่งรื้อออกมา “

หยางโปจ้องมองถ้วยใบเล็ก ประกายแสงค่อยๆ กระจายแล้วก็ควบรวมขึ้นตรงหน้า ลำแสงกระจายไปทันที หยางโปตกใจ ถ้วยใบเล็กนี้ถึงกับสร้างขึ้นในช่วงปี 1970 !

หยางโปยกถ้วยใบเล็กขึ้น เคาะเบาๆ เสียงกังวาน เนื้อถ้วยสีขาวสะอ้านแวววาวราวกับหยก รวมเข้ากับภาพวาดประณีตมีชีวิต ระดับของเลียนแบบเช่นนี้ทำให้หยางโปประหลาดใจอย่างที่สุด !

เขาถึงกับไม่เอ่ยถามอีก ในใจครุ่นคิดจริงจัง เครื่องลายครามนี้ชัดเจนว่าไม่ได้สร้างขึ้นในปีคังซี แต่ระดับแบบนี้ก็ไม่ใช่คนธรรมดาจะสามารถหลอมออกมาได้ หยางโปหยิบถ้วยลายครามขึ้นมามองอย่างละเอียดอีกครั้ง

 

สมัย 1970 ช่วงนั้นเป็นช่วงเวลาที่พิเศษ การหลอมของเลียนแบบเกรงว่าจะไม่ทำกำไร หยางโปจ้องมองถ้วยลายคราม จากนั้นก็คิดถึงเครื่องลายครามแบบหนึ่งที่มีคุณภาพสูงที่สุดในช่วงปี 1970 นั่นก็คือ

” เครื่องลายครามเหมา ” !

เดือนมกราคม ปี 1975 หัวหน้าผู้เชี่ยวชาญเมืองซีตูหลอมเครื่องลายครามคุณภาพสูงมาล็อตหนึ่ง เครื่องลายครามชุดนี้ถึงขนาดกลายเป็นโครงการวิศวกรรมหมายเลขหนึ่งในปีนั้น ใช้วัตถุดิบและกำลังคนมหาศาล งานลงสีภายนอกเครื่องลายครามก็ล้วนเป็นผลงานของปรมาจารย์ผู้มีชื่อเสียงในตอนนั้น !

เมื่อดูแบบนี้แล้ว ตราก้นถ้วยของเครื่องลายครามชิ้นนี้น่าจะเพิ่มในภายหลัง

หยางโปเข้าใจในจุดนี้ เงยหน้ามองไปทางผู้เฒ่าหัว ” ในเมื่อคุณได้รับถ้วยลายครามชิ้นนี้ น่าจะรู้อะไรมาบ้าง คุณรู้รึเปล่าว่าถ้วยลายครามนี้เป็นของจริงไหม ? “

 

ผู้เฒ่าหัวเงยหน้ามองหยางโป ” เพื่อนเก่าให้ฉันเก็บรักษามันเอาไว้ บอกว่าถ้วยลายครามชิ้นนี้มีค่ามาก ฉันคิดว่าน่าจะเป็นของจริงนะ “

” ถ้าหากไม่ใช่ของจริงล่ะ ” สูอี้หมิงยืนอยู่ด้านข้าง ทันใดนั้นก็เอ่ยขึ้นไม่ได้

ผู้เฒ่าหัวชะงักเล็กน้อย ” เพื่อนเก่าของฉันจากโลกนี้ไปเมื่อสองปีก่อนแล้ว นี่ก็นับเป็นหลักฐานในมิตรภาพอย่างหนึ่งของพวกเรา ไม่ว่ายังไง ฉันก็จะเก็บรักษามันต่อไป “

หยางโปพยักหน้า ” มิตรภาพไม่สามารถใช้เงินทองมาตัดสินได้ “

กล่าวจบ หยางโปก็ถือถ้วยใบเล็กขึ้นด้วยมือเดียว เปิดฝาออกแล้วก็เอ่ยกับทุกคนว่า ” รอยสลักใต้ถ้วยของถ้วยลายครามคือ ” สร้างปีคังซีต้าชิง ” แต่เครื่องลายครามชิ้นนี้ไม่ได้สร้างในสมัยคังซี แต่สร้างในช่วงปี 1970 “

 

รอบด้านเริ่มถอนหายใจ ผู้เฒ่าหัวใบหน้าเผยสีหน้าผิดหวัง จากนั้นก็ส่ายหน้ายิ้มขื่น

สูอี้หมิงเอ่ยปากถาม ” ความหมายของคุณคือนี่เป็นของปลอมเหรอครับ ? “

หยางโปหัวเราะขึ้นมา สิ่งนี้ทำให้ทุกคนมองเขาอย่างประหลาดใจ

” ของปลอม ? ” หยางโปส่ายหน้า ” ลายสลักข้างใต้นี้ถูกเพิ่มมาทีหลัง “

กล่าวจบ หยางโปมองไปทางผู้เฒ่าหัว ” ผู้เฒ่าครับ เพื่อนของคุณก็บอกแล้ว เครื่องลายครามนี้เก็บรักษาต่อไปจะมีมูลค่ามาก แล้วก็เครื่องลายครามที่สร้างในช่วงปี 1970 หรือว่าคุณจะคิดไม่ออก ? “

หยางโปพูดขาดคำ รอบด้านก็พลันแว่วเสียงสูดลมหายใจ ความจริงแล้วเขาบอกใบ้ชัดเจนมาก คำตอบนี้คนมากมายล้วนเข้าใจ !

ผู้เฒ่าหัวสีหน้าตกตะลึง ” จริงเหรอ ? “

 

หยางโปพยักหน้า ” แน่นอนครับ นี่ก็คือเครื่องลายครามเหมา ! “

ผู้เฒ่าหัวจ้องมองเครื่องลายครามชิ้นนี้ เนิ่นนานถึงได้ถอนหายใจเบาๆ ” เพื่อนคนนั้นของฉันใส่ใจมากจริงๆ ! “

กล่าวจบ ผู้เฒ่าหัวมองไปทางหยางโป พยักหน้าเบาๆ ” ขอบคุณมาก ! “

หยางโปพยักหน้า ไม่ได้พูดอะไรมากมาย

สูอี้หมิงกลับไม่ได้ปล่อยผ่านไปง่ายๆ ขนาดนั้น ในฐานะพิธีกร เขาจะต้องล้วงข้อมูลสักหน่อย ที่สำคัญที่สุดคือเขายังแบกรับภาระหนักอย่างเรตติ้งรายการ บางอย่าง เขาจะต้องล้วงออกมาให้ได้ !

” เดี๋ยวก่อนครับ อาจารย์หยาง คุณแนะนำเรื่องเครื่องลายครามเหมาให้พวกเราสักหน่อยเถอะ ! ” สูอี้หมิงเอ่ย

 

หยางโปพยักหน้า ก็รู้ถึงลักษณะเฉพาะของรายการโทรทัศน์ แล้วก็เอ่ยอธิบายหลายประโยค เขาก็คาดเดาได้ว่าอีกฝ่ายจะต้องเอ่ยถามเรื่องราคา จึงเอ่ยไปทันทีว่า ” ถ้วยลายครามชิ้นนี้น่าจะอยู่ในรุ่นปี 75 นั้น ราคาตลาดตอนนี้น่าจะอยู่ที่ประมาณหนึ่งล้านเจ็ดแสนหยวน ! “

ภายในที่นี่ต่างตกตะลึง เสียงปรบมือดังขึ้นอีกครั้งหนึ่ง คนมากมายต่างรู้ว่าเครื่องลายครามโบราณราคาสูง แต่ไม่รู้ว่ายุคนั้นถึงกับยังมีเครื่องลายครามที่ราคาแพงมากขนาดนี้ !

เดินส่งผู้เฒ่าหัวแล้ว การถ่ายทำรายการในวันนี้ก็นับว่าสิ้นสุดแล้ว

ผู้กำกับของทีมงานรายการเป็นชายหนวดครึ้มวัยห้าสิบกว่าปี หลังจากถ่ายทำเรียบร้อยแล้วก็รีบวิ่งเข้ามา จับมือกับหยางโปแล้วเอ่ยว่า ” คุณหยางความรู้ในด้านประเมินวัตถุโบราณล้ำลึก ผมมันสายตาไม่ดี มีอะไรที่เสียมารยาทไปก็ขอให้คุณหยางอย่าได้ใส่ใจเลยนะครับ ! “

ยื่นมือไปจับพลางแสดงหน้ายิ้ม หยางโปก็หัวเราะแล้วก็ไม่ได้สนใจเรื่องก่อนหน้านี้มากนัก ” ผู้กำกับเกรงใจแล้ว “

 

ผู้กำกับคนนั้นก็พูดเก่ง เขาเริ่มสนทนากับหยางโปขึ้นมาทันที เอ่ยถามมุมมองต่อรายการของเขา มีข้อเสนอแนะดีๆ รึเปล่า ท้ายสุดก็ยังขอเลขบัญชีธนาคารของหยางโปเอาไว้

หยางโปประหลาดใจ ” เลขบัญชีธนาคาร ? “

ผู้กำกับพยักหน้า ” สมาชิกในทีมผู้เชี่ยวชาญล้วนมีค่าตอบแทนในการออกรายการ พวกเราที่นี่ปกติแล้วจะตอนละประมาณสี่พันหยวน อย่างตอนบ่ายวันนี้แทบจะตัดต่อได้สามตอน หลังจากรายการออกอากาศแล้วก็มีพนักงานการเงินโอนเงินไปให้ในบัญชีของคุณเอง “

หยางโปประหลาดใจเล็กน้อย แต่ก็เข้าใจเรื่องนี้ รายการตอนหนึ่งสี่พันหยวน ตลอดทั้งบ่ายรวมแล้วหนึ่งหมื่นสองพันหยวน ราคานี้ก็นับว่าสูงมากแล้ว ยังไงสำหรับผู้เชี่ยวชาญจำนวนมากแล้ว งานประจำของพวกเขาเดือนหนึ่งก็ได้จำนวนนี้ !

 

หยางโปก็ไม่ได้ปฏิเสธ​ เขามอบเลขบัญชีธนาคารให้อีกฝ่ายแล้วก็ไม่ได้พูดมาก

รายการได้สิ้นสุดลง ลัวย่าวหัววิ่งมาหาหยางโป ยกนิ้วโปงให้กับเขา ” นายแสดงได้ดีมาก ! “

หยางโปหัวเราะขึ้นมา ก้มหน้ามองเวลาแวบหนึ่ง ตอนนี้สามทุ่มกว่าแล้ว ” ยังนับว่าไม่เลว ดีกว่าที่คาดเอาไว้นิดหน่อย ต่อไปน่าจะยังถ่ายต่อเนื่องอีกสองวัน แต่งานหนักมากจริงๆ “

ลัวย่าวหัวพยักหน้า ” งานหนักไป งั้นพวกเราไปกินมื้อค่ำกัน ! “

” ไปชวนทีมงานของรายการด้วย ! ” หยางโปเอ่ยเตือน

ลัวย่าวหัวหัวเราะ ” วางใจได้ ฉันจัดการไปนานแล้ว การโฆษณาของพวกเราอยู่ในมือของผู้อื่น ฉันจะไม่ใส่ใจได้ยังไง ? “

ตกค่ำ ลัวย่าวหัวก็เชิญสมาชิกทุกคนของทีมงานไปทานมื้อค่ำ เวลาไม่รีรอ เพราะว่าต่อมายังจะทำงานต่อ ดังนั้นจึงไม่ได้ดื่มเหล้า

 

วันต่อมา ขณะที่หยางโปมาถึงหน้าประมูลสถานีโทรทัศน์อีกครั้ง ก็มองเห็นรองผู้อำนวยการฟางกำลังยืนอยู่นอกประตู มองวนไปมาไม่หยุด ราวกับกำลังรอใครอย่างนั้น

หยางโปก็ไม่เหมาะจะเดินเข้าไปทันที จำต้องโบกมือทักอีกฝ่าย ” รองผู้อำนวยการฟาง อรุณสวัสดิ์ครับ ! “

รองผู้อำนวยการฟางมองหยางโปใบหน้ายิ้มยินดี ” คุณชุย อรุณสวัสดิ์ครับ ! “

หยางโปส่ายหน้า ” ผมไม่ได้แซ่ชุย ผมแซ่หยาง ! “

รองผู้อำนวยการฟางหัวเราะขึ้นมา ” เอาล่ะ คุณหยาง อรุณสวัสดิ์ครับ ! “

หยางโปส่ายหน้า เอ่ยถามอย่างจนปัญญา ” รองผู้อำนวยการฟาง นี่คุณรอคนอยู่เหรอ ? “

รองผู้อำนวยการฟางพยักหน้า ” ใช่แล้ว ผมกำลังรอคุณหยาง ในที่สุดคุณก็มาแล้ว ! “

หยางโปก้มหน้ามอง ” ผมห้อยป้ายชื่อแล้วนะ ! “