ตอนที่ 356 พ่อบุญธรรม

หยางโปหัวเราะ ไม่ได้พูดมาก

คุณนายโต้วนำจานใหญ่ก่วงซีจากไป เสียงปรบมือรอบด้านดังสนั่น ทุกคนส่งสายตามาทางหยางโป อดที่จะเปลี่ยนเป็นเลื่อมใสไม่ได้ ยังไงไม่ว่าจะในอาชีพไหน ทุกคนก็จะนับถือคนที่มากความรู้เสมอ !

กุ้ยหรงจิ่วก็พยักหน้า หยางโปไม่ทำให้ผิดหวังจริงๆ ที่เปิดเผยความรู้ที่มาธรรมดาออกมาได้ แค่ประเมินของอย่างเดียวก็พอแล้ว หยางโปถึงกับตัดสินที่มาได้ ยิ่งไปกว่านั้นยังคาดการณ์ได้อย่างแม่นยำ นั่นทำให้คนจำต้องยอมรับ หยางโปกุมตลาดเอาไว้ดีมากจริงๆ !

บรรยากาศรอบด้านค่อยๆ เปลี่ยนแปลงไป ทำให้ทุกคนต่างรู้สึกผ่อนคลายขึ้นมา

ลัวย่าวหัวอยู่ในหมู่ผู้ชมก็รู้สึกตื่นเต้น เมื่อครู่เขาสังเกตเห็นพิธีกรเอ่ยโฆษณาจินหลิงชุน ยิ่งรวมกับหลังจากหยางโปทำแบบนี้แล้ว จะต้องมีชื่อเสียงโด่งดังแน่ ถึงเวลานั้นชื่อเสียงของโรงประมูลจินหลิงชุนก็จะเพิ่มขึ้น !

 

คนต่อมานั้นนำเอาเครื่องลายครามสมัยสาธารณรัฐมาชิ้นหนึ่ง หยางโปกล่าวสองสามประโยคก็ล่าถอยไป ถึงแม้เขาจะพูดน้อยมาก แต่ทุกคนเวลานี้กลับไม่มีใครสงสัยความสามารถของเขา

สูอี้หมิงยืนอยู่เวทีด้านหน้า ” เอาล่ะ พวกเราขอเชิญท่านต่อไป ! “

จากนั้นเป็นเครื่องลายครามสองชิ้นรวด หยางโปคาดการณ์ว่าชิ้นต่อไปนี้ไม่น่าใช่เครื่องลายคราม แน่นอนว่าหยางโปก็มองเห็นสาวสวยผมยาวค่อยๆ เข้ามา หญิงสาวผิวขาวน่ามอง รูปร่างงามสง่า ในมือเหมือนถือของอยู่ชิ้นหนึ่ง

สูอี้หมิงรีบไปต้อนรับ ” สวัสดี สวัสดีครับ ! มองเห็นคนสวยก็อารมณ์ดีมาก ! คุณชื่อว่าอะไรครับ ? “

” ฉันแซ่อัน อันหรูเยว่ ” หญิงสาวเอ่ยเสียงเบา

สูอี้หมิงยิ้ม ” คนสวย ชื่อก็สวย ผมเห็นในมือของคุณถือของอย่างหนึ่ง วันนี้เอาของอะไรมาเหรอครับ ? “

 

” เป็นกวนอิมหยกพม่าชิ้นหนึ่ง ” อันหรูเยว่หยิบกวนอิมหยกพม่าในมือออกมา ส่งไปทางทุกคนรอบหนึ่ง

” จุ๊ๆ ! กวนอิมหยกพม่าชิ้นนี้สวยจริงๆ ! ” สูอี้หมิงก็ไม่หวงคำชม

” ใช่แล้ว นี่ก็คือของที่พ่อบุญธรรมส่งมาให้ฉัน ! ” อันหรูเยว่เอ่ยถึงตรงนี้ ใบหน้าก็เผยท่าทีน่ารัก

สูอี้หมิงสีหน้าแข็งค้าง กระอักกระอ่วนเล็กน้อย ทันใดนั้นก็หยุดหัวข้อสนทนา ” ถ้างั้นก็เป็นพ่อบุญธรรมที่ดีจริงๆ รีบไปเชิญอาจารย์อู๋ของพวกเรามาประเมินดูหน่อยเถอะ ! “

อันหรูเยว่เดินเยื้องย่างเข้ามา ห่างออกไปสองสามเมตร หยางโปก็ยังได้กลิ่นหอมโชยมา

อันหรูเยว่วางกวนอิมหยกพม่าตรงหน้าอู๋กั๋วเฉียง ” รบกวนอาจารย์อู๋แล้ว “

อู๋กั๋วเฉียงตอบกลับ ” เกรงใจแล้ว “

 

อู๋กั๋วเฉียงหยิบแว่นขยาย จ้องมองกวนอิมหยกพม่าอย่างละเอียด พลางเอ่ยถามอันหรูเยว่ ” ราคาของหยกพม่า ช่วงสองปีมานี้เพิ่มขึ้นเร็วมาก ถ้าหากมีหยกพม่าดีๆ ได้สักชิ้น นั่นก็ต้องสะสมเอาไว้แน่ “

” ใช่แล้ว ” อันหรูเยว่น้ำเสียงอ่อนหวาน ” เป็นพ่อบุญธรรมดีกับฉันมาก ถึงได้ซื้อกวนอิมหยกพม่าชิ้นนี้มาให้ฉัน ได้ยินเขาบอกว่าเขาเสียเงินไปหนึ่งล้านกว่าหยวนเลยนะ ! “

อู๋กั๋วเฉียงสายตาจับจ้องกวนอิมหยกพม่า ได้ยินประโยคนี้ มือก็อดสั่นไม่ได้ แทบจะโยนแว่นขยายทิ้งไป เขาเงยหน้า ” จ่ายไปหนึ่งล้านกว่าหยวน ? “

” อื้ม ” อันหรูเยว่พยักหน้า ราวกับยังคงจมดิ่งอยู่ในความสุข ” ใช่แล้ว จ่ายไปหนึ่งล้านกว่าหยวน ! “

 

” ราคานี้แพงจริงๆ ! ” สูอี้หมิงยืนอยู่ด้านข้าง ก็อดเอ่ยย้ำอีกประโยคหนึ่งไม่ได้

อู๋กั๋วเฉียงวางแว่นขยายลง เอ่ยปากกล่าว ” ปกติพวกเราล้วนบอกว่าหยกพม่าแบ่งเป็นสามชนิด หยกพม่าที่เกิดตามธรรมชาติจริงๆ เป็นเกรด A เกรด B คือหลังจากใช้น้ำกรดที่มีความเข้มข้นสูงมาล้างความไม่บริสุทธิ์ในหินหยกแล้วก็ใช้กาวประสานกันอีกที เกรด C คือของที่ย้อมสี “

กล่าวจบ อู๋กั๋วเฉียงก็เงยหน้ามองอันหรูเยว่ ” แม่หนู ขอโทษที่จำเป็นต้องบอกเธอว่าวัตถุดิบชิ้นนี้คือเกรด C เป็นของที่ผ่านการย้อมสีมา สีสันของกวนอิมหยกพม่าชิ้นนี้ไม่สม่ำเสมอเลย นี่คือผลของการย้อมสี ! “

อันหรูเยว่อ้าปาก สีหน้าตกตะลึงมาก ” เป็นไปไม่ได้ พ่อบุญธรรมของฉันดีกับฉันขนาดนั้น จะซื้อของปลอมไปได้ยังไง ? “

 

กล่าวจบ อันหรูเยว่จู่ๆ ก็เอาหยกพม่ากลับไป แล้ววางลงตรงหน้าหยางโป ” อาจารย์หยาง คุณช่วยประเมินราคาให้ฉันเถอะนะ เมื่อกี้ฉันเห็นคุณประเมินอยู่หลังเวที ฉันคิดว่าคุณมีสไตล์มาก ! “

หยางโปประหลาดใจ เขากระอักกระอ่วนมาก ” นี่ อาจารย์ก็บอกไปแล้วนะ “

อันหรูเยว่ยังคงจ้องมองหยางโป สองตาอ้อนวอน นัยน์ตาน้ำตาเอ่อคลอ

” งั้นก็ได้ ผมจะพูดสองประโยค ” หยางโปจนปัญญาจำต้องเอ่ยคำ ” ถ้าหากผมไม่ได้มองผิด กวนอิมหยกพม่าชิ้นนี้ คุณน่าจะใส่มาครึ่งปีกว่าแล้วสินะ เทียบกับครึ่งปีก่อนหน้านี้ ไม่รู้ว่าคุณได้สังเกตอย่างละเอียดไหมว่ากวนอิมหยกพม่ามันสีจางลง ! “

หยางโปเงยหน้ามองอีกฝ่าย ” ก็อย่างที่อาจารย์อู๋ว่า กวนอิมหยกพม่าชิ้นนี้เป็นเกรด C เพราะว่ามีแค่เกรด C เท่านั้นถึงจะสีจางได้ ราคาตลาดก็หนึ่งร้อยกว่าหยวน ! “

 

ราคาหนึ่งล้านกลายเป็นหนึ่งร้อยกว่าหยวน !

ทันใดนั้นก็ทำให้อันหรูเยว่อึ้งทึ่งไป ใบหน้าของเธอไม่เชื่อถือเลย ไม่ลืมเอ่ยย้ำว่า ” พ่อบุญธรรมของฉันบอกว่ากวนอิมหยกพม่านี้สามารถซื้อรถเบนซ์ได้คันหนึ่งเลยนะ “

” อย่าไปพูดถึงเลย กลับไปก็ซื้อได้แค่โมเดลแล้ว ” สูอี้หมิงเอ่ยหยอกล้อประโยคหนึ่ง ภายในที่นี่ก็หัวเราะครืน

หยางโปนั่งอยู่บนตำแหน่งผู้เชี่ยวชาญ ส่ายหน้ายิ้มขื่น เขาไม่รู้ว่าหญิงสาวคนนี้ที่แท้แล้วเป็นหน้าม้าที่ทางทีมงานหามารึเปล่า แต่เขาเข้าใจดี ต่อไปจะต้องกลายเป็นประเด็นร้อนแรงอย่างหนึ่งแน่ !

คิดถึงตรงนี้ หยางโปก็อดคิดถึงก่อนหน้านี้ที่เคยเห็นบางร้านที่พานเจียหยวน เคยมีเจ้าของร้านเปิดเผยกับเขาว่าทีมงานบางรายการมาซื้อของในร้านของโบราณของเขา เขาไม่สนว่าของจริงของปลอม ราคาคือเจ้าของร้านจ้องที่จะไปเข้าร่วมในรายการ จากนั้นทีมงานรายการก็จะโฆษณาให้ จากนั้นร้านก็จะได้อยู่บนรายการ

 

ก่อนหน้านี้เขาเคยอยู่มาตอนหนึ่ง ไม่ใช่เพราะว่าคนคุ้นเคยหน้าตาแล้วถึงได้มาหรอกเหรอ ?

จากนั้น หยางโปก็มีความสุขผ่อนคลายมากอย่างเห็นได้ชัด ทุกคนรู้ถึงความสามารถของเขา ไม่มีใครกังขา ถึงขนาดบางคนประเมินเสร็จแล้วก็ยังขอให้หยางโปประเมินราคาเป็นพิเศษ ท่าทีนอบน้อมมาก

ถ่ายทำต่อไปตลอดทั้งช่วงบ่าย ถึงกับราบลื่นเกินกว่าปกติ สุดท้ายก็ปรากฏสิ่งของมูลค่าสูงหลายอย่าง หยางโปลอบจำเอาไว้ พวกนี้ล้วนเป็นทรัพยากร โรงประมูลเพิ่งจะก่อตั้ง จะมีสินค้าประมูลมากขนาดนั้นได้ยังไง ยังไม่ใช่ต้องอาศัยความพยายามของทุกคนที่ไปหามาเหรอ !

จนถึงท้ายที่สุด ผู้เฒ่าคนหนึ่งก็ลุกขึ้นมา หยางโปเงยหน้ามองไปก็รู้สึกคุ้นตา มองไปอีกครั้งก็คิดขึ้นมาได้ คนผู้นี้ก็คือผู้เฒ่าที่เดินตามเขาเข้าไปในร้านตอนที่ตนเองทะเลาะกับพ่อหยางนี่นา ! เขามาที่นี่ได้ยังไงกัน ?

 

ผู้เฒ่าถือถ้วยใบเล็กใบหนึ่งเดินเข้ามา ถูกสูอี้หมิงรั้งเอาไว้เอ่ยถามสองสามประโยค ก็รู้ว่าผู้เฒ่าแซ่หัวแล้วก็ไม่ได้ข้อมูลมากนัก

ผู้เฒ่าวางถ้วยลายครามลงตรงหน้าหยางโปแล้วก็อดชะงักไปไม่ได้ แต่ไม่นานก็มีปฏิกิริยาตอบกลับ เขาถอยหลังไปหน่อย ยืนอยู่บริเวณไม่ไกลจากหยางโป

หยางโปต้องมองถ้วยลายครามตรงหน้า ด้านบนวาดลายหยดน้ำและดอกท้อ กิ่งก้านพุ่มหนาตระการตา ดอกไม้ใหญ่น้อยแตกต่าง สีสันมีเข้มมีอ่อน ไม่ธรรมดาเลย