ตอนที่ 213 : ตั้งแต่นี้ต่อไปจะมีเพียงผมเท่านั้นที่มีสิทธิ์ ทำให้คุณร้องไห้ออกมา~
ผู้กำกับไม่ใส่ใจอะไรมาก ตอนนี้เขาขอแค่ถ่ายก่อนหลังจากนี้ค่อยว่ากัน
“โอเค ใส่ชุดได้เลย!”
กลุ่มช่างแต่งหน้าก็เข้ามาแต่หน้าและแต่งตัวให้เจียงเฉิน
เจียงเฉินขมวดคิ้วและมองไปที่ชุดที่กองถ่ายจัดมาให้เขา
ละครเรื่องนี้มีชื่อว่า “ประธานเผด็จการได้โปรดอย่ามายุ่งกับฉัน” ซึ่งเป็นละครแนวรักสมัยใหม่
และชุดที่ทีมงานเอามาให้เขานั้น–
พระเจ้า!
เพื่อประหยัดค่าใช้จ่ายพวกคุณใช้แค่ชุดสูท Armani แค่นั้นเองหรอ?
เจียงเฉินถอนหายใจออกมา “กองถ่ายของพวกคุณก็ใหญ่มากนะ แต่พวกคุณกลับซื้อแค่ชุดสูท Armani ให้พระรองแค่นั้นเองหรอ?”
ทีมแต่งหน้าและทีมเสื้อผ้าตกตะลึง–
“ชุดของ Armani มันอยู่ระดับล่างขนาดนั้นเลยหรอ?”
ทีมเสื้อผ้าคนหนึ่งดูไม่พอใจและพูดออกมา “ชุดนี้มีราคามากกว่า 10,000 หยวนนะ โอเคไหม?”
เธอนั้นได้ยินมาว่าเจียงเฉินนั้นเป็นแค่คนขับตีตี้แต่เพราะผู้ช่วยผู้กำกับนั้นต้องเข้ามาที่กองถ่ายจากหลงเฉิงก็เลยทำให้เจียงเฉินนั้นถูกขับเข้ามาทำการแสดง
ดังนั้นในใจของเธอนั้นจึงดูถูกเจียงเฉิน
เธอคิดในใจ “นายมันก็แค่คนขับที่ได้ใส่ชุด Armani แล้วยังจะ คิดดูถูกอีกนะ?”
“Armani ก็โอเค”
เจียงเฉินพูดออกมาเบาๆ “น่าเสียดายที่มันไม่ใช่ชุดตัดเฉพาะ”
“หึ!”
ทีมเสื้อผ้าคนนั้นเยาะเย้ยออกมา “นายมันก็แค่คนขับตีตี้แต่กลับ คิดจะใส่ชุดตัดเฉพาะเนี่ยนะ? เพ้อไปหน่อยรึเปล่า?”
เจียงเฉินยักไหล่ก่อนจะหันไปพูดกับผู้กำกับ “งั้นก็ลืมมันไปเถอะ ไม่ต้องเอาชุดที่พวกคุณเตรียมเอาไว้มาให้ผมก็ได้ เดี๋ยวผมใช้ของผมเองดีกว่าตกลงไหมครับ?”
ผู้กำกับกับผู้ช่วยผู้กำกับสับสน
เขาเตรียมมาเองด้วยหรอ?
เขาเป็นคนขับตีตี้ไม่ใช่รียังไง? เขาจะไปหาชุดสูทระดับไฮเอนด์ที่พร้อมใส่ตลอดเวลาได้ยังไงกัน?
“ผมมีอยู่แล้วครับ”
ทีมเสื้อผ้าคนนั้นเมื่อได้ยินเขาก็ไม่เชื่อเพราะคิดว่าเจียงเฉินนั้นเป็นแค่คนขับที่เขาจะไปมีความสามารถในการหาชุดระดับไฮเอนด์มาแสดงได้ยังไงกัน “อย่านำชุดสูทตัวละพันมาเทียบกับของพวกเราดีกว่า ชุดสูททุกตัวที่นี่ได้รับการสนับสนุนมาจาก Armani ซึ่งมีราคาแพงกว่าของนายแน่นอน!”
เจียงเฉินยิ้มและหันไปพยักหน้าให้หานซูหยานก่อนจะเดินไปที่รถ Audi ของเขา
จากนั้น-
ผ่านไปสามนาที
เจียงเฉินก็เดินกลับมา
พร้อมกับชุดสูทของ Gucci ที่ถูกตัดด้วยมือมันดูหรูหราระดับโลก!
ราคาไม่ต่ำกว่าหลักล้าน!
มันเข้ากันได้ดีกับใบหน้าที่หล่อเหลาและร่างกายที่ดูแข็งแกร่งของเจียงเฉินและมันยิ่งขับกลิ่นอายที่ดูหล่อเหลาและสง่างามของเจียงเฉินออกมา!
แถมยังมีนาฬิกา Patek Philippe รุ่นจำกัดจำนวนราคาเรือนละ 17.6 ล้าน!
และรองเท้านั้นก็เป็นรองเท้าหนังผู้ชายสุดคลาสสิคจากคอลเลกชั่นของ Burberry!
ราคาต่อคู่ไม่ต่ำกว่าแสน!
แม้แต่เสื้อเชิ้ตตัวในก็ยังเป็นของชั้นเยี่ยม! เสื้อตัวนั้นราคาเริ่มต้นคงไม่ต่ำกว่า 50,000!
เจียงเฉินที่เดิมที่เป็นเทพบุตรแม้ว่าตอนนั้นเขากำลังอยู่ในชุดเครื่องแบบของตีตี้แต่มันก็ทำให้ผู้ช่วยผู้กำกับสนใจเขามากพอ ที่จะดึงตัวเขามา แต่ตอนนี้เมื่อเขากลับมาด้วยชุดที่มีมูลค่าเป็นล้าน แล้วความรู้สึกย่อมเปลี่ยนไปทันที!
ผู้กำกับ รองผู้กำกับ ทีมงานและหานซูหยานสัมผัสได้ถึงความร้อนจากสายลมที่พัดผ่าน!
ผู้กำกับ “…”
ผู้ช่วยผู้กำกับ “…”
ใบหน้าของหานซูหยานเปลี่ยนเป็นสีแดง
เขาหล่อมาก!
เขาหล่อมากจริงๆ!
ด้วยหล่อขนาดนี้เขาสามารถบดขยี้นักแสดงนำได้อย่างง่ายดาย เลยไม่ใช่รึไง?
–
คนจากทีมเสื้อผ้าคนนั้นตาค้างไปในทันที!
เนื่องจากเธอนั้นทำงานในวงการนี้เธอนั้นย่อมต้องรู้จักแบรนด์ ชั้นนำของโลก
เธอนั้นสามารถบอกได้ทันทีว่าชุดของเจียงเฉินนั้นเป็นชุดตัดเฉพาะของ Gucci ที่ถูกตัดด้วยมือ!
ราคาเริ่มต้นไม่ต่ำกว่าหลักแสน!
นาฬิกาเรือนนั้นก็เป็นนาฬิกาของ Patek Philippe ที่ราคาไม่ต่ำกว่า 1 ล้านหยวน–
แม้ว่าเธอนั้นจะไม่มั่นใจว่ามันเป็นรุ่นอะไรแต่มูลค่าของมันจะต้องสูงมากแน่!
เธออึ้งไปในทันที!
ทำไมหลังจากเขากลับมาจากรถตัวเองก็เปลี่ยนไปขนาดนี้กัน?
(เจียงเฉิน : ก็ไม่ได้อยากจะบอกราคาเท่าไหร่หรอกกลัวเดี๋ยวจะมีคนตาย)
คนจากทีมเสื้อผ้าสงสัย!
สรุปแล้ว ชุดของกองถ่ายเรามันแย่เกินไปจริงๆหรอ?
แม้แต่คนขับตีตี้ก็ยังหาเสื้อผ้าระดับสูงขนาดนี้มาสวมได้?!
ผู้กำกับและรองผู้กำกับเขม็งไปที่คนจากทีมเสื้อผ้า
ชุดที่เจียงเฉินเอาติดตัวมามันดีกว่าที่เธอเตรียมเอาไว้ หลังจากนี้พวกเธอจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหนได้กัน?
นี่มันละครไอดอลในเมืองนะทำไมชุดที่เตรียมมาถึงเกรดต่ำขนาดนี้?
หลังจากถ่ายทำแล้วฉายออกไปมันไม่ทำให้คนดูพากันหัวเราะรึยังไง?
“เธอน่ะ พรุ่งนี้ไม่ต้องเอามันมาอีกแล้ว!”
ผู้กำกับพูดออกมา
เจียงเฉินเดินไปที่กล้องและพูดออกมาอย่างช่วยไม่ได้ “อันที่จริงผมก็แค่อยากสวมสูทตัวสบายๆ ผมก็เลยเตรียมเอาไว้บนรถน่ะครับ”
ทีมงาน “พรูด!!”
บ้าไปแล้ว!
คนขับซื้อยากใส่ชุดสบายๆแต่ราคาสูงถึง 20 ล้านเนี่ยนะ?!
เจียงเฉินเดินไปหาหานซูหยานและเริ่มการแสดงทันที–
ใบหน้าของหานซูหยานเปลี่ยนเป็นสีแดง–
มันแดงเอามากๆ
เมื่อได้มองใกล้ๆแล้วเธอก็พบว่าเจียงเฉินนั้นหล่อมากกว่าเดิม อีก!
เขานั้นไม่ต่างจากเทพบุตรในฝันของเธอเลย!
หานซูหยานั้นก็เคยร่วมงานกับนักแสดงชายชั้นนำมาแล้วไม่น้อย
แต่เจียงเฉินนั้นให้ความรู้สึกที่ต่างออกไปโดยสิ้นเชิง
เจียงเฉินนั้นให้ความรู้สึกแบบเป็นธรรมชาติ ลึกลับและไม่อาจคาดเดาได้และมันก็มีมากพอที่จะดึงดูดหัวใจของเธอและทำให้เธอเริ่มหลงใหลเขา
รูปลักษณ์ภายนอกของเจียงเฉินนั้นดูผ่อนคลายคิ้วที่คมราวกับดาบทั้งสองข้างนั้นอยู่ได้ตรงจุดพอดีขับความโดดเด่นของดวงตาของเขาให้ดูสว่างสดใสราวกับดวงดาวบนท้องฟ้า จมูกโด่งได้รูปริมฝีปากบางและยังมีรอยยิ้มชวนให้ดวงตาพร่ามัว
หานซูหยานเดินเข้าฉากโดยไม่รู้ตัว
เธอนั้นสบตากับเจียงเฉินมากขึ้นเรื่อยๆ
และในตอนนี้เองการถ่ายทำก็เริ่มขึ้น
หานซูหยานเข้าสู่โหมดการแสดงทันที ใบหน้าสวยของเธอนั้นเต็มไปด้วยความโกรธ น้ำตาของเธอไหลออกมาขณะมองไปที่เจียงเฉิน “คุณ! ถ้าคุณไม่ชอบฉันจริงๆก็อย่ามารบกวนฉันอีก! เรื่องของฉันฉันดูแลเองได้!”
หลังจากนั้นเธอก็ร้องไห้ออกมาก่อนจะหันหลังให้เจียงเฉินและเดินจากไป เจียงเฉินยื่นมือออกไปก่อนที่จะดึงเธอกลับเข้ามาในอ้อมแขนของเขา คิ้วของเขาขมวดลงก่อนจะพูดออกมาอย่างเย็นชา “ให้ตายเถอะ ความชอบของผมที่มีต่อคุณ คุณไม่รู้สึกถึงมัน เลยหรอ?”
หานซูหยานก้มหัวลงด้วยความเขินอาย “ก็คุณก็คุณไม่เคยบอกฉันแล้วฉันจะรู้ได้ยังไงกัน”
เจียงเฉินเชยคางของเธอขึ้นมาเบาๆก่อนจะพูดออกมาอย่างเผด็จการ “คุณฟังผมให้ดีๆก็แล้วกันตั้งแต่นี้ต่อไปจะมีเพียงผมเท่านั้นที่มีสิทธิ์ทำให้คุณร้องไห้ออกมา!”
ทั้งสองจ้องหน้ากันด้วยความรัก!
เนื้อเรื่องของ “ประธานเผด็จการได้โปรดอย่ามายุ่งกับฉัน” นั้นถูกแสดงออกมาโดยเจียงเฉินและหานซูหยานได้อย่างดีเยี่ยม
ผู้ชมเงียบกริบ!
ผู้กำกับยังต้องตกตะลึง!
ผู้ช่วยผู้กำกับก็ตกตะลึงไม่แพ้กัน!
คนทั้งกองถ่ายต่างตกตะลึง
“นี่ไหนบอกว่าเขาคือคนขับตีตี้ที่ไม่เคยมีประสบการณ์การแสดงมาก่อนไง?”
ผู้กำกับพูดไม่ออก “ฉันสัมผัสได้เลยว่าทักษะการแสดงของเขานั้นดีกว่าลู่อี้หังถึง 10,000 เท่า!”
“นี่~~”
ราวกับพวกเขานั้นได้สมบัติชิ้นโตมา ผู้ช่วยผู้กำกับลูบมือของตัวเองไปมาอย่างตื่นเต้น “ไม่รู้สิ ผมเองก็ไม่เข้าใจว่าทำไมเขาถึงเก่งขนาดนี้ นอกจากจะหล่อแล้วการแสดงหน้ากล้องก็ยังทำได้ดีเขาสามารถเล่นบทนี้ได้อย่างสมบูรณ์แบบ! เรียกได้ว่าแม้แต่หานซูหยานที่กำลังทำการแสดงอยู่กับเขาก็ยังได้รับผลกระทบทำให้อารมณ์ของเธอนั้นไหลอย่างเป็นธรรมชาติ! มันทำให้เธอนั้นแสดงออกมาได้อย่างสมบูรณ์แบบ!”
“ถ้าหากยังเป็นแบบนี้ต่อไปได้งานนี้คงเกิดคลื่นลูกใหญ่แน่ ละครของพวกเราคงได้รับความนิยมจนลุกเป็นไฟ!”
ผู้กำกับดีใจมาก “ผู้ชายคนนี้เป็นสมบัติล้ำค่าจริงๆ! ความหล่อของเขาก็มากกว่าพระเอกดังๆไม่นานเขาจะต้องโด่งดังอย่างแน่นอน! ผู้หญิงนับไม่ถ้วนคงจะเลียหน้าจอและเรียกเขาว่าสามีของพวกเธอแน่!”
ด้านข้างพวกเขาก็มีคนในกองถ่ายพึมพัมออกมา
“บทนางรองนั้นย่อมต้องมีการเข้าฉากกับพระเอกแต่เมื่อวานตอนที่เธอเข้าฉากกับพระเอกของเรื่องหานซูหยานกลับไม่มีความรู้สึกอะไรเลย ตอนนั้นเธอไม่ต่างอะไรกับหุ่นเชิดเลยด้วยซ้ำ!”
“ใช่ๆ ตอนนั้นผู้กำกับก็บอกให้เธอพยายามใส่อารมณ์เข้าไปหน่อยอยู่เลย แต่ครั้งนี้เธอกลับแสดงอารมณ์ความรู้สึกจริงๆของเธอออกมา!”
“วันนี้เธอแสดงได้อย่างเป็นธรรมชาติมากๆ เหมือนกับผู้หญิงที่ กำลังมีความรักจริงๆ!”
“นี่ๆ ฉันรู้แล้ว ฉันว่านะหลังจากถ่ายฉากนี้เสร็จแล้วหานซูหยานคงได้มีข่าวลือแน่ๆ ฮ่าฮ่าฮ่า ”
และในเวลานี้เองผู้กำกับก็ได้รับโทรศัพท์แจ้งว่าผู้ลงทุนหลิงผู้ลงทุนของละครเรื่องนี้จะเข้ามา
“มาไม่ช้าไม่เร็วเกินไปจริงๆ มาตอนที่กำลังถ่ายทำพอดีอีก!”
ผู้กำกับพูดออกมาด้วยความโกรธ
ผู้กำกับนั้นกำลังดื่มต่ำกับการถ่ายทำฉากระหว่างเจียงเฉินกับหานซูหยานเขานั้นรู้สึกว่าการถ่ายทำครั้งนี้มันสนุกมากแต่ตอนนี้มันกลับต้องมาหยุดลงและมันก็ทำให้เขาหดหู่มาก
“อย่างพูดอย่างนั้นสิ ก็เขาเป็นผู้ลงทุนนะยังไงเราก็ต้องต้อนรับเขา”
ผู้ช่วยผู้กำกับพูดออกมาอย่างขมขื่น
ใครคือผู้ลงทุน? ผู้ลงทุนนั้นเป็นผู้ที่ออกค่าใช้จ่ายทั้งหมดให้กองถ่าย!
ถ้าผู้ลงทุนไม่พอใจแม้แต่ผู้กำกับก็ขัดอะไรไม่ได้!
กองถ่ายต้องหยุดงานลงทันทีและเตรียมการรอรับประธานหลิงกันอย่างอบอุ่น
หานซูหยานก็ได้แต่ยอมแพ้อย่างไม่เต็มใจเธอนั้นไม่ต้องการหยุดการแสดงกับเจียงเฉินแม้แต่น้อย เวลาที่เธอเข้าฉากเธอนั้นรู้สึกราวกับว่าเธอนั้นรักกับเจียงเฉินจริงๆ
นักลงทุนหลิงหยุนมาถึงแล้ว
เขาเข้ามาอย่างเอิกเกริก
รถยนต์กว่าหนึ่งโหลขับเข้ามา
มีบอดี้การ์ดหลายสิบคนลงมาจากรถ
หลิงหยนเดินนำหน้าดาราสาวตัวน้อยด้วยใบหน้าที่เย่อหยิ่ง
“ท่านประธานหลิง!”
“ยินดีต้อนรับท่านประธานหลิง!”
ผู้กำกับและผู้ช่วยผู้กำกับนำทักทาย
หลิงหยุนที่เห็นผู้กำกับแถวหน้าของประเทศทักทายตัวเองเขาก็ไม่มองอีกฝ่ายตรงๆ เขาพ่นลมหายใจออกมาอย่างเย็นชาก่อนจะเดินผ่านไป
ด้วยฐานะนักลงทุนของเขามันทำให้ตัวตนของผู้กำกับใหญ่นั้นไร้ค่าในสายตาของเขา
ทุกวันนี้คนที่ต้องการเข้ามาทำงานตรงนี้มีมากมายแต่สิ่งที่ยังขาดแคลนอยู่จริงๆก็คือคนลงทุนต่างหาก!
“เมื่อกี้ ลู่อี้หังโทรมาหาฉันและบอกว่าเขามีปัญหากับนาย มันเป็นเรื่องจริงงั้นหรอ?
หลิงหยุนพ่นลมหายใจออกมาอย่างเย็นชา “ลู่อี้หังเป็นคนที่ฉันตัดสินใจเลือกแล้วทำไมนายถึงกล้าทำให้เขาขุ่นเคือง?”
ผู้กำกับที่ได้ยินแบบนั้นก็ได้แต่บ่นออกมาในใจ!
ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมลู่อี้หังถึงมีใบหน้าที่มั่นใจขนาดนั้น เขากลับมีความสัมพันธ์เบื้องหลังกับบอสหลิง!
ผู้กำกับได้แต่กันฟันและพูดออกมา “เรื่องจริงครับ ลู่อี้หังทำตัวไม่ไว้หน้าใครและมากองสายไปหนึ่งชั่วโมง แต่ตอนนี้เราได้หาคนมาแทนที่เขาชั่วคราวแล้วและดูเหมือนว่าจะไปได้ด้วยดีด้วย!”
หลิงหยุนพูดออกมาอย่างเย็นชา “นายไปเอาหมาแมวที่ไหนมากัน แกกล้าเอามันมาถ่ายในละครเรื่องฉันลงทุนเนี่ยนะ แล้วเอามาแค่ชั่วคราวงั้นหรอ? มันดีกว่าลู่อี้หังตรงไหน?”
“ไหนเอาหน้ามันมาให้ฉันดูหน่อยสิ!”
หลินหยุนตะโกนออกมา
ผู้กำกับกับผู้ช่วยผู้กำกับได้แต่บ่นออกมาในใจ
พังไปหมด!
ลู่อี้เพิ่งที่เป็นเด็กเส้นเจียงเฉินจะไปชนะได้ยังไง?
มันเป็นไปไม่ได้หรอก
แต่ทันทีที่หลิงหยุนเห็นเจียงเฉิน–
ขาของเขาก็อ่อนไปในทันที!
ตัวของเขาเซไปมาจนแทบลงไปนอนกับพื้น
วันของฉัน!
ทำไมปีศาจตนนี้ถึงมาอยู่ที่นี่ได้?!
หลิงหยุนพยายามขยี้ตาของตัวเองอย่างแรง!
ใช่แล้วนี่มันปีศาจผู้ยิ่งใหญ่เจียงเฉิน!
“เมื่อกี้นายพูดว่าอะไรนะ?” เจียงเฉินมองไปที่หลิงหยุนด้วยรอยยิ้ม
ผู้กำกับกับผู้ช่วยผู้กำกับหลับตาลง
มันจบแล้ว!
หนุ่มหล่อคนนี้ทำให้ผู้ลงทุนของเราไม่พอใจแล้ว!
แค่ผลลัพธ์…….
หลิงหยุนกลับเปลี่ยนใบหน้าของตัวเองและปรบมือออกมาทันที!
“ฮ่าฮ่า! ผมบอกว่าลู่อี่หังมันคนงี่เง่า!”
เนื้อเรื่องกลับผลิดผัน~~
พลิกไป 360 องศา!
ผู้กำกับ “???”
ผู้ช่วยผู้กำกับ “???”
มีเครื่องหมายคำถามปรากฏขึ้นบนใบหน้าของทุกคน
ลู่อี้หังเป็นคนงี่เง่า?
เขาพูดออกมาตอนไหนกัน?
ไม่ใช่ว่าเขาถามหาหน้าของคนที่มาแทนที่ลู่อี้หังงั้นหรอ?
ทำไมมันถึงกลับมาเป็นแบบนี้ได้
หลิงหยุนจับมือของเจียงเฉินและพูดออกมา “ผมมองแค่ปราดเดียวก็รู้แล้วว่าคุณทำได้!”
เจียงเฉินยิ้ม “ผมก็แค่แวะมาที่นี่เพื่อเดินเล่นเท่านั้น แต่สุดท้ายก็โดนผู้ช่วยผู้กำกับดึงเข้ามาในกองถ่าย”
หลิงหยุนได้แต่ด่าผู้ช่วยผู้กำกับอยู่ในใจ : บัดซบ! ดึงใครไม่ดึงแต่กลับมาถึงปีศาจตัวนี้มาเนี่ยนะ?!
เขาได้แต่ด่าออกมาแต่ใบหน้าของเขาต้องยิ้มออกมา
เขานั้นยังหดหู่จากการโดนเจียงเฉินตบหน้าครั้งก่อนอยู่เลย
“ผมขอดูผลงานการแสดงของคุรหน่อยนะครับ พระเจ้า! มันดีมาก! คุณแสดงได้ดีแบบนี้ได้ยังไงกัน!”
หลิงหยุนดูการแสดงของเจียงเฉินที่เพิ่งถ่ายทำไป ก่อนจะตบต้นขาของตัวเองและยกนิ้วให้เจียงเฉิน
ทีมงานพากันตกตะลึง เจียงเฉินคนนี้เป็นใครกัน?
ดูหมือนว่าไม่เพียงหลิงหยุนนั้นจะไม่โกรธแต่เขา
กลับยอมคุกเข่าและเลี่ยเจียงเฉินด้วย!
“จะว่าไปมันก็ไม่น่าเชื่อเลยที่หลิงหยุนผู้เป็นผู้ลงทุนที่ปกติแล้วจะใช้ชีวิตอย่างหยิ่งยโสและเอาแต่เงยหน้าขึ้นมองฟ้าตลอดเห็นใครก็เยาะเย้ยถากถางไม่เคยเห็นหัวใครกลับมารับบทประจบสอพลอกับคนขับตีตี้และยิ้มออกมาราวกับลูกชายที่เห็นพ่อของตัวเอง!”
ผู้กำกับและผู้ช่วยผู้กำกับมองหน้ากันและคิดในใจทำไม โลกนี้มันแปลกประหลาดได้ขนาดนี้?
“คุณชายคุณแสดงได้เก่งมากจริงๆ ตอนนี้คุณกำลังเล่นบทอะไรอยู่หรอครับ?”
หลิงหยุนถามออกมา
ผู้ช่วยผู้กำกับตอบแทน “เขาเล่นบทพระรองครับ!”
หลิงหยุนที่ได้ยินบทของเจียงเฉินเขาก็รู้สึกไม่พอใจทันที!
โกรธมาก!
“อะไรนะ?!”
“นายปล่อยให้เขาเล่นบทพระรองได้ยังไงกัน?! เปลี่ยนเดี่ยวนี้เลย!”
ผู้กำกับและผู้ช่วยผู้กำกับยิ้มออกมาอย่างขมขื่น
คุณชายหลิงอารมณ์แปรปรวนจริงๆ
เมื่อกี้ยังชมว่าการแสดงของเจียงเฉินดีมากอยู่เลย พอมาตอนนี้จะเปลี่ยนบทของเขาแล้วหรอ?
ฉันต้องบอกเขาก่อนไหมว่าการเปลี่ยนบทมันเป็นเรื่องใหญ่แค่ไหน?
หรือว่าเขาจะเปลี่ยนให้ไปเล่นเป็นพระเอก?
แต่ใครจะรู้
หลิงหยุนพูดสั่งออกมา “คนหล่อแบบนี้จะเล่นบทพระรองได้ยังไงกัน? ต้องเป็นพระเอกสิ!”
พรูด!!!
ผู้กำกับตะลึงจนเซลงไปกองอยู่บนพื้นทันที
ผู้ช่วยผู้กำกับก็ตะลึงจนเซลงไปกองอยู่บนพื้นเช่นกัน
คนในกองถ่ายทุกคนก็ไม่ต่างกัน!
สถานการณ์แบบนี้มันคืออะไรกัน?
คนขับตีตี้ที่ผ่านเข้ามาและด้วยรูปร่างและหน้าตาของเขาและความขัดแย้งของผู้กำกับกับลู่อี้หัง เขาก็เลยถูกดึงตัวมาเป็นพระรองชั่วคราว!
และด้วยคำพูดของนายน้อยหลิง ในตอนนี้เขากำลังจะกลายเป็นพระเอก?!
ละครเรื่องนี้มีการลงทุนไปหลายร้อยล้านหยวน แต่เขากลับเปลี่ยนพระเอกด้วยตัวเองแบบนี้?
หานซูหยานตกตะลึง
แม้เธอจะผ่านการถ่ายทำมาหลายครั้งแต่เธอก็ไม่เคยเห็นการเปลี่ยนแปลงแบบนี้มาก่อน!
หลิงหยุนหันไปหาเจียงเฉิน “ลองดูครับ การเปลี่ยนครั้งนี้มันเหมาะไหมครับ?”
เจียงเฉินหันไปมองที่หานซูหยาน
หลิงหยุนคนนี้ใครกัน?
เขานั้นเป็นคนฉลาด
เขานั้นใช้ความฉลาดของตัวเองในการหลบเลี่ยงภาษีมาโดยตลอดแม้ว่าเขานั้นจะไม่ฉลาดเท่าเจียงเฉินแต่เขาก็ฉลาดมากพอตัวเช่นกัน!
เมื่อเห็นสาตาของเจียงเฉินเขาก็เข้าใจได้ในทันที!
เขาตบต้นขาของตัวเอง
“ฮ่าฮ่าฮ่า แล้วก็คุณผู้หญิงที่รับบทนางรองคนนี้ด้วย! คุณผู้หญิง คนนี้ก็แสดงได้ดีกว่านางเอกมากเช่นกัน! ดังนั้นเปลี่ยนบทให้เธอเป็นนางเอกด้วย!”
การกระทำของเขานั้นว่องไวมาก
หลิงหยุนเปลี่ยนบทเจียงเฉินจากพระรองให้กลายเป็นพระเอกและพระเอกคนเดิมกลายมาเป็นพระรอง และบทนางรองของหานซูหยานก็กลายเป็นนางเอกทันที และนางเอกคนเดิมก็กลายมาเป็นนางรอง
คนทั้งกองถ่ายตกตะลึงอย่างสมบูรณ์
เละไปหมดแล้ว เละเทพไปหมดแล้วจริงๆ!
แผนก่อนหน้านี้ทั้งหมดเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง!
อย่างไรก็ตามบนโลกใบใหญ่นี้ผู้ลงทุนนั้นมีอำนาจมากที่สุด!
ขอแค่มีเงินผลลัพธ์สุดท้ายก็ขึ้นอยู่กับคุณ!
หลิงหยุนนั้นเป็นผู้ลงทุนรายใหญ่ของวงการภาพยนต์และโทรทัศน์
แต่ในเวลานี้เองเจียงเฉินก็พูดออกมา “ให้ผมเป็นพระเอกงั้นหรอ? ผมไม่มีเวลามากขนาดนั้นหรอก”
หลิงหยุนโบกมือแล้วพูดออกมา “ไม่ต้องกังวลครับ พวกเรามีหน้าที่รับผิดชอบเรื่องเวลา! ส่วนคุณเจียงรับผิดชอบแค่ความหล่อก็พอครับ!”
เจียงเฉินพยักหน้า “เรื่องความหล่อ ผมมั่นใจอยู่แล้ว”
ผู้กำกับ “…”
ผู้ช่วยผู้กำกับ “…”
โอ้ย! ไม่รู้จะเถียงยังไงด้วยแล้ว!
มันสมเหตุสมผลก็จริง!
แต่มันดีแล้วจริงๆหรอที่จะทำตามอำเภอใจแบบนี้?
ผู้กำกับปาดเหงื่อของตัวเองก่อนจะพูดกับหลิงหยุน “คุณหลิงถ้าทำแบบนี้การนำเขามาเป็นตัวละครนำมันก็โอเคอยู่ แต่ผมกลัวว่านักแสดงที่มีสัญญาเป็นพระเอกนางเอกอยู่แล้วจะไม่พอใจ ถ้าพวกเขารู้ว่าตัวเองนั้นเปลี่ยนมาเป็นพระรองนางรองกัน ผมกลัว
ว่า…”
หลิงหยุนรีบโอ้อวดออกมาต่อหน้าเจียงเฉินทันที่เขายิ้มเยาะเย้ยออกมา “ไม่ยอมหรอ? งั้นก็ไม่ต้องไปสนพวกเขา! คางคกสามขาหายาก แต่คนสองขาหาได้ทั่วไป! พวกเขาก็แค่กลายมาเป็นพระนางรองไม่ใช่รียังไง? ถ้าพวกเขาไม่ยอมฉันก็หาคนใหม่มาแทนได้!”
คนในกองถ่ายพากันปรบมือ “บอสใหญ่! ผู้ที่ใครก็ไม่อาจยั่วยุได้!”
ภาพยนต์สองเรื่องที่เขาได้ลงทุนไปเมื่อเร็วนี้ล้วนแล้วแต่สร้างความฮือฮาเป็นอย่างมาก
เรื่องแรก “ประธานเผด็จการได้โปรดอย่ามายุ่งกับฉัน” เรื่องนี้เขานั้นก็ได้ลงทุนไปเป็นจำนวนมากถึงหลักร้อยล้าน ค่าตอบแทนสำหรับนักแสดงจึงสูงมาก แถมยังมีผู้กำกับชื่อดังและดาราดังมากมาย ดังนั้นหากมีคนต้องการจะถอนตัวออกไปย่อมต้องมีคนต้องการเข้ามาแทนที่ตลอดเวลา!
และที่สำคัญที่สุดก็คือ!
เขานั้นยังเคยถึงขั้นมอบภาพยนต์มูลค่า 1 พันล้านให้กับเจียงเฉินมาแล้วซึ่งเมื่อเอาเรื่อง “Ready Player 2” มาเทียบกับละครเรื่องนี้ที่เขาลงทุนไปแค่หลักร้อยล้านแล้วมันก็คุ้มค่าสำหรับการเอาใจเจียงเฉิน!”
ไม่ว่านักแสดงนำคนก่อนจะยอมหรือไม่ก็ตามมันไม่มีผลแม้แต่น้อย!
แม้ว่าผู้กำกับและผู้ช่วยผู้กำกับจะตาบอดแต่ตอนนี้พวกเขานั้นก็ต้องมองออกแล้วว่า
หลิงหยุนผู้เป็นชายหนุ่มผู้เอาแต่ใจเมื่อต่อหน้าเจียงเฉินที่เป็นแค่คนขับตีตี้ที่หล่อเหลาคนนี้แล้วเขานั้นก็ยังต้องคุกเข่าให้และต้องเชื่อฟังเจียงเฉินโดยห้ามขัดอะไรทั้งนั้น!
สถานะของเจียงเฉินในใจของพวกเขาจึงพุ่งขึ้นสูงขึ้นมาทันที
ผู้กำกับเตะชั่งภาพออกและเขาเข้าไปททำการถ่ายด้วยตัวเองทันทีแม้แต่ตัวผู้ช่วยผู้กำกับก็เข้าไปถือไฟให้เจียงเฉินหามุมให้ภาพของเจียงเฉินนั้นออกมาดูหล่อที่สุด
หานซูหยานในตอนนี้เต็มไปด้วยความประหลาดใจ
เพียงแค่เธอแสดงกับเจียงเฉินไม่นานเธอนั้นก็คิดไม่ถึงว่าตัวเองนั้นจะได้ก้าวข้ามเลื่อนตำแหน่งได้ไวขนาดนี้
แสดงกับเจียงเฉินเพียงแค่ฉากเดียวก็ทำให้เธอนั้นจากที่เป็นนางรองก็กลับกลายมาเป็นนางเอก!
ทุกคนต่างก็รู้ดีว่าแม้ตำแหน่งนางรองกับตำแหน่งนางเอกจะต่างกันแค่คำเดียวแต่ทั้งสองตำแหน่งนี้แท้จริงแล้วมันต่างกันราวกับอยู่กันคนละโลก!
ไม่ว่าจะแสดงดีแค่ไหนแต่ถ้าบทเป็นแค่นางรองก็เป็นได้แค่นางรอง แต่ถ้าเป็นนางเอกจะแสดงดีหรือไม่เธอก็คือนางเอก!
ในเมื่อเป็นแบบนี้ใครบ้างล่ะจะไม่อยากเล่นบทนำ?
หานซูหยานมองไปที่เจียงเฉินอย่างเหม่อลอย เธอนั้นไม่อยากจะเชื่อเลยว่าแค่หนุ่มหล่อขับตีตี้คนนี้จะมีอำนาจมากขนาดที่หลิงหยุนถึงกับต้องยอมเปลี่ยนบทให้เธอเป็นนางเอกในทันที!
และก็มีข่าวว่านางเอกคนนั้นยอมทุ่มตัวให้กับหลิงหยุนไปมากมายถ้าหากข่าวที่ว่านางเอกถูกเปลี่ยนตัวถูกปล่อยออกไปเธอนั้นคิดไม่ออกเลยว่านางเอกคนนั้นจะโกรธขนาดไหน
และทุกอย่างมันก็เกิดขึ้นจากคนเพียงคนเดียวนั่นก็คือเจียงเฉิน!
โดยประสบการณ์อันยาวนานของผู้กำกับในการถ่ายทำฉาก หล่อมากมายของเฉินจึงปรากฏออกมาเต็มไปหมดในเวลาเพียงแค่สองชั่วโมงเท่านั้น-
เจียงเฉินหยุดแล้วตะโกนออกมา “หยุดถ่ายแล้ว!”
ผู้กำกับพยักหน้าก่อนจะถามออกมา “คุณเจียง มีปัญหาอะไร หรือเปล่าครับ?”
หลินยุนจองไปที่หน้าของผู้กำกับ “ก็เพราะว่าคุณเจียงเป็นคนที่ มีงานยุ่ง! ดังนั้นเขาคงจะต้องไปทำงานของเขาก่อน!”
เจียงเฉินพยักหน้าและพูดออกมา “ใช่ผมยุ่งมาก ผมต้องกลับไปขับแล้ว!”
พรูด!
คนทั้งกองถ่าย : พรูด!!
เหงื่อของหานซูหยานไหลออกมาเป็นน้ำตก–
คนใหญ่คนโตคนนี้จะทำตัวติดดินไปแล้ว!
เขากลับไม่มีเวลาในการมาถ่ายทำละครที่มีมูลค่าหลายร้อยล้าน!
เพียงเพราะเขานั้นต้องกลับไปขับตีตี้?!
มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?
นี่เขาไม่แยแสต่อชื่อเสียงโชคลาภเลยอย่างงั้นหรอ?
“แต่อย่างไรก็ตาม– คุณเจียงคุณใช้เวลาเพียงแค่สองชั่วโมงในการถ่ายทำเท่านั้น แม้ว่าการแสดงจะออกมาดี แต่มันยังไม่พอที่จะเอาไปทำเป็นโครงเรื่องนะครับ”
ผู้กำกับพูดออกมาอย่างขมขื่น
แม้ว่าเทคโนโลยีในการตัดต่อนั้นจะก้าวหน้าไปมากแล้วว่ากันว่าคุณสามารถเปลี่ยนศีรษะและใบหน้าได้โดยที่ปัญหาแต่การถ่าย ละครทั้งเรื่องในเวลาเพียงแค่สองชั่วโมงมันไม่น้อยเกินไปหน่อยหรอ?
“อืม!”
ลิ่งหยุนยืนขึ้นด้วยรอยยิ้มก่อนจะพูดกับเจียงเฉิน “คุณเจียง คุณไปทำงานของคุณก่อนเถอะครับ เดี๋ยวทางนี้ผมจัดการให้เอง!”
หลินหยุนโบกมือและสั่งการด้วยตัวเอง “คุณเจียงเขายุ่งมากพวกเราถ่ายสีหน้าของเขามามากพอแล้ว ดังนั้นปล่อยให้พระรองอย่างลู่อี้เพิ่งมาแสดงแทนคุณเจียงต่อไป! พอถึงเวลาก็ให้ AI ทำการตัดต่อเปลี่ยนใบหน้า ให้ตัดใบหน้าของลู่อี้เพิ่งออกแล้วเอาใบหน้าของคุณเจียงไปแทน แค่นี้ก็พอแล้วไม่ใช่หรอ?”
พรูด–
ผู้กำกับและผู้ช่วยผู้กำกับหลุดหัวเราะออกมา!
พวกเขาทนไม่ไหวจริงๆ
แม้แต่หานซูหยานที่พยายามกันไปแล้ว
ก็ไม่อาจกั้นอยู่
เธอทนไม่ไหวหลุดหัวเราะและยิ้มออกมา
ลู่อี้เหิงที่เคยเล่นละครเรื่องใหญ่มาก่อน แต่ก็มักจะอาศัยการตัดต่อปรับเปลี่ยนใบหน้ามาโดยตลอดก็คงคิดไปถึงว่า–
สิ่งที่เขานั้นมักจะทำจะย้อนกลับคืนเข้าตัวเองเต็มๆ!
คราวนี้เป็นตาของเจียงเฉินที่จะยืนหยัด ส่วนตัวเขาก็จะถูกตัดออกไป!
เจียงเฉินไม่สนใจอะไรมากเขานั้นขับรถออกไป
หลินหยุนก็มาส่งเขาด้วยตัวเอง
หานซูหยานก็มองตามหลังของเจียงเฉินพร้อมกับใบหน้าที่แดง…
เธอนั้นอยากจะรู้จักอีกฝ่ายมากกว่านี้อีก
เธอนั้นอยากจะรู้ตัวตนที่แท้จริงของเขาว่าเขานั้นเป็นใครกันแน่?
แล้วทำไมหลิงหยุนถึงต้องปฏิบัติต่อเขาด้วยความเคารพขนาดนั้น
และด้วยความฉลาดของหานซูหยาน จากการที่เธอดูปฏิกิริยาของหลิงหยุนแล้วเธอนั้นก็คาดเดาได้ทันทีว่าตัวตนที่แท้จริงของเฉินนั้นมีมากกว่าคนขับตีตี้ธรรมดาๆอย่างแน่นอน!
และด้วยแผนการเล็กๆของเธอที่แกล้งทำเป็นว่าหาโทรศัพท์ไม่ เจอเธอก็เลยขอยืมโทรศัพท์เฉินเพื่อกดโทรออกหาโทรศัพท์ของตัวเองเพื่อแกล้งทำเป็นหาโทรศัพท์ของเธอ ก่อนที่เธอนั้นจะแอบจดหมายเลขโทรศัพท์ของเจียงเฉินเอาไว้
และด้วยหมายเลขโทรศัพท์ในโทรศัพท์มือถือของเธอนั้นเธอก็ไม่ต้องกังวลอีกแล้วว่าเธอจะไม่ได้เจอเขาอีกในอนาคต
ใบหน้าของหานซูหยานแดงก่ำ
จะขอบคุณเขาด้วยการชวนเข้าไปทานอาหารดีมั้ยนะ?
ในเวลานี้เองบนรถของลู่อี้หังที่กำลังโกรธจัดผู้ช่วยของเขาก็ได้รับโทรศัพท์จากกองถ่าย
“คุณลู่อี้หังครับ มีเรื่องจะรายงานครับทางกลุ่มผู้กำกับภาพยนตร์กับนักลงทุนนั้นได้ตัดสินใจปรับบทให้คุณล่ะครับ”
“คุณรู้ได้รับการเปลี่ยนบทจากพระรองกลายเป็นพระเอกครับ!”
“อะไรนะ?!”
ลู่อี้หังที่ได้ยินก็รู้สึกยินดีขึ้นมาทันที!
พระเจ้า มันเยี่ยมมาก!
ตอนแรกก็คิดว่าตัวเองทำตัวหยิ่งเกินไปหรือเปล่า แต่สุดท้ายไม่เพียงแต่ไม่โดนลงโทษแต่กลับกลายเป็นพระเอกแทน!
ฮ่าฮ่าฮ่า ดูเหมือนว่าการอารมณ์เสียจะทำให้ฉันได้ผลลัพธ์ดีๆงั้นสินะ!
ใบหน้าของลู่อี้นั่งเต็มไปด้วยความภาคภูมิใจ!