“หนึ่ง สอง สาม กระทืบ”

“สี่ ห้า หก โบกมือ”

“เจ็ด แปด เก้า จิ้มแก้ม ยักไหล่”

กู่ฉิงซานนับจังหวะ ก้าวตามทำนอง ร่ายรำอย่างพิถีพิถัน

บนหน้าต่างระบบเทพสงคราม แถวหิ่งห้อยขนาดเล็กยังคงปรากฏขึ้นมา

“พลังมังกรมารถูกยับยั้งแล้ว”

“ท่านเป็นที่โปรดปรานของพลังลี้ลับฝั่งแปลกประหลาด พละกำลังกายภาพของท่านเพิ่มขึ้นเล็กน้อย”

“วิธีการร่ายรำของท่านเป็นที่ยกย่องโดยสิ่งมีชีวิตยอดเยี่ยม ท่านมีความสัมพันธ์กับความสามารถลี้ลับเล็กน้อย”

“การประสานทางกายภาพของท่านพัฒนา”

กู่ฉิงซานร่ายรำขณะเหงื่อไหล

มันช่างเหลือเชื่อ ต่อให้เขาจะมีพลังระดับสามพันโลก แต่การร่ายรำเช่นนี้ยังนับว่ายากมากอยู่ดี

ไม่ว่าจะร่างกายหรือจิตวิญญาณต่างก็พบกับการเดินทางอันยากลำบากเมื่ออยู่ต่อหน้าระบำสังเวยชีพ

ผ่านไปหลายสิบนาที

ในที่สุดเขาก็ร่ายรำจบ

ฉานนู่ถือแก้วน้ำพุวิญญาณมาให้แล้วถามว่า “นายท่าน ตอนนี้ข้าควรทำยังไงดี”

กู่ฉิงซานหอบหายใจขณะดื่มน้ำในอึดใจเดียว

“ครั้งนี้ต้องโทษข้าเอง เป็นเพราะลืมวันร่ายรำ ทำให้ผลลัพธ์เป็นแบบนี้”

เขากล่าวอย่างจนใจ

“ในเมื่อนางตายไปแล้ว พวกเราไปกันเลยหรือไม่” ฉานนู่แนะนำ

“ไม่ ตามคำบอกเล่าของนาง นางเคยถูกทรยศมาแล้วครั้งหนึ่ง ครั้งนี้นางเต็มใจเชื่อข้า นับว่าหาได้ยากยิ่งนัก” กู่ฉิงซานกล่าว

ฉานนู่กล่าวอย่างวิตกว่า “แต่ร่างของนางถูกลำธารชะล้างไปแล้ว นายท่าน ต่อให้พวกเราใช้เวลาจำนวนมากเพื่อนำนางกลับมารวมกัน แต่ก็ไม่รู้ด้วยซ้ำว่านางจะฟื้นคืนชีพหรือเปล่า”

กู่ฉิงซานส่ายหน้าแล้วกล่าวว่า “หากครั้งนี้พวกเราจากไป นางอาจจะไม่เชื่อใจอีกในอนาคต อีกอย่าง ทันทีที่พวกเราไป หากวันหนึ่งนางกลับมามีชีวิตอีกครั้ง นางจะต้องบุกมาที่โลกเก้าร้อยล้านชั้นเพื่อสร้างปัญหาให้กับข้า แบบนั้นคงรับมือได้ยากยิ่งกว่า”

“ดังนั้นแล้ว…”

“ดังนั้นแล้วพวกเราต้องต่อร่างนางเพื่อทำให้เรื่องราวชัดเจน เชื่อข้าเถอะ สำหรับคนอย่างนาง นางดูเหมือนจะไม่สนสิ่งต่างๆ ก็จริง แต่นางเป็นคนที่หัวแข็งมาก”

ฉานนู่ถอนหายใจแล้วกล่าวว่า “เช่นนั้นพวกเราต้องหาร่างนางอย่างช้าๆ รอให้นางฟื้นคืนชีพ พยายามโน้มน้าวอย่างหนักว่านายท่านไม่ได้จงใจวางแผนฆ่านาง สุดท้ายก็ไม่ให้นางกดดันนายท่านจนไปสู่ประตูโลกเพราะนายท่านเองก็มีสิ่งที่ต้องทำ”

“ฟังดูซับซ้อนนิดหน่อย แถมยังดูยากอีกด้วย” กู่ฉิงซานครุ่นคิดอย่างจริงจัง

“ยากมาก นางคือสัตว์ประหลาดหุบเหวนะ นายท่าน” ฉานนู่เตือน

กู่ฉิงซานครุ่นคิดสักพัก จากนั้นหลับตาลงเพื่อสัมผัสอย่างระวัง

การปรากฏของกฎเกณฑ์เสาศักดิ์สิทธิ์แห่งดินซ่อนอยู่ในร่างของเขาตอนนี้ มันตอบรับคำเรียกขานของเขาทุกเมื่อ

ตอนนี้ กู่ฉิงซานต้องการพละกำลังเพื่อช่วยในการทำภารกิจที่ยากลำบาก

ด้วยความคิด มีเพียงแสงสีทองและเงินตัดกันก่อเกิดในร่างกาย ทะยานมาอยู่บนฝ่ามืออย่างแผ่วเบา ก่อเกิดเป็นลวดลายของแสงและเงา

ในเวลาเดียวกัน แถวข้อความแจ้งเตือนปรากฏบนหน้าต่างระบบเทพสงคราม

“ผู้ปกครองเสาศักดิ์สิทธิ์แห่งดิน โปรดเลือกพลังที่ท่านอยากใช้งานด้วย”

“พลังทางเลือก: โชคที่แท้จริง คุมขัง พำนัก”

กู่ฉิงซานชำเลืองมองก่อนลอบกล่าวในใจว่า “ใช้งานโชคที่แท้จริง”

ข้อความแจ้งเตือนใหม่ปรากฏบนหน้าต่างระบบเทพสงครามทันที

“ท่านเลือกโชคที่แท้จริง”

“ความสามารถนี้จะทำงานเป็นเวลาสิบสองชั่วโมง”

“หลังจากความสามารถนี้สิ้นสุดลง ท่านต้องรอสามสิบวันจึงสามารถใช้พลังของเสาศักดิ์สิทธิ์แห่งดินได้อีกครั้ง”

หิ่งห้อยขนาดเล็กทั้งหมดหายไป

ทุกสิ่งกลับเป็นปกติ

ขณะมองภาพฉายของเหรียญดิน กู่ฉิงซานรู้สึกคุ้นเคยอยู่ในใจ

นี่เหมือนกับการกลับคืนสู่โลกดิน ความรู้สึกวิเศษต่างๆ ที่ได้รับจากผู้สร้างปฐพีกลับคืนมา

“ไปกันเถอะ” เขากล่าว

“นายท่าน ท่านจะไปไหนน่ะ”

“ไปเอาร่างนาง”

“…นั่นงานช้างเลยนะ”

“น่าเสียดายที่ตอนนี้มีพวกเราแค่สองคน ช่างเถอะ ไม่ต้องคิดให้มากความ ค่อยเป็นค่อยไปแล้วกัน”

กู่ฉิงซานปลอบฉานนู่แล้วพลันปิดปากอีกครั้ง

เขาและฉานนู่มองไปทางหนึ่งพร้อมกัน

ทางฝั่งลำธาร เหมือนจะมีบางสิ่งเคลื่อนไหวอยู่

หลังจากนั้นไม่นาน สิ่งนั้นคล้ายกับพบพวกเขาเช่นกัน

“ไง! เจ้าอยู่ที่นี่เหมือนกันสินะ!” อีกฝ่ายตะโกนเสียงดัง

กลายเป็นว่านั่นคือตุ๊กตาหุ่นเชิด

กู่ฉิงซานเดินไปหา ย่อตัวลงหน้าตุ๊กตาหุ่นเชิดแล้วถามอย่างแปลกประหลาดว่า “เจ้ามาทำอะไรที่นี่”

ตุ๊กตาหุ่นเชิดถอดหมวกออกแล้วตอบว่า “ในลำธารนี้มีอัญมณีบุปผาวารีหายากมากอยู่ ข้ามาที่นี่เพื่อเสี่ยงโชคดูว่าจะเจอหินแบบนั้นหรือเปล่า”

“อัญมณีบุปผาวารีหรือ” กู่ฉิงซานถามด้วยความสนใจ

“ใช่ มันคือหินสีขาวขุ่นที่มีลายน้ำตามธรรมชาติ เหมือนกับดอกไม้ที่บานสะพรั่งบนหิน มันเลยมีชื่อว่าอัญมณีบุปผาวารี” ตุ๊กตาหุ่นเชิดตอบ

มันถอนหายใจออกมา “ข้าเพียงต้องการอัญมณีก้อนนี้เพื่อเข้าร่วมนิทรรศการอัญมณี น่าเสียดาย อัญมณีบุปผาวารีนี้คืออัญมณีที่หาได้ยากบนดาวคนคู่ มันซ่อนอยู่ในน้ำได้เป็นอย่างดี จะปรากฏขึ้นเพียงแค่หนึ่งครั้งเท่านั้น”

กู่ฉิงซานพลันรู้สึกว่าบางสิ่งกดอยู่ที่ใต้เท้าของเขา

เขาหยิบหินขึ้นจากน้ำ ชำเลืองมองดูก่อนวางตรงหน้าตุ๊กตาหุ่นเชิด

“อัญมณีบุปผาวารีที่เจ้าพูดถึงคือหินแบบนี้หรือเปล่า” เขาถาม

“อา ใช่แล้ว หินแบบนี้แหละ”

ตุ๊กตาหุ่นเชิดมองดูก่อนพยักหน้า

จากนั้นก็เจออีกมากมาย

ตุ๊กตาหุ่นเชิดเบิกตากว้างก่อนอุทานอย่างตื่นเต้นว่า “พระเจ้าช่วย! นี่มันอัญมณีบุปผาวารีทั้งนั้นเลย!”

เขากระโดดรอบอัญมณี ลังเลที่จะสัมผัสมันอยู่สักพัก

กู่ฉิงซานกล่าวว่า “รับไปเถอะ ยังไงข้าก็ใช้ประโยชน์ไม่ได้อยู่แล้ว”

เขาดันหินให้ตุ๊กตาหุ่นเชิด

ตุ๊กตาหุ่นเชิดหน้าแดงก่ำด้วยความตื่นเต้นก่อนกล่าวซ้ำไปมาว่า “ให้จริงๆ หรือ”

“รับไปสิ” กู่ฉิงซานยิ้ม

ตุ๊กตาหุ่นเชิดลังเลสักพักราวกับกำลังตัดสินใจ จากนั้นกล่าวว่า “ข้ารับของมีค่าเช่นนี้โดยที่ไม่มีของตอบแทนไม่ได้หรอก ข้าต้องหาของตอบแทนให้เจ้า”

มันโบกไม้เท้าสั้นหลายครั้ง

“ข้าได้ยินสิ่งที่เจ้าพูดเมื่อครู่” ตุ๊กตาหุ่นเชิดกล่าวขณะยกนิ้วโป้ง “เจ้าเป็นคนดี ข้าจะช่วยเจ้าตามหาร่างของผู้หญิงคนนั้นให้”

ขณะพูด เขาเห็นบางสิ่งกำลังกลับมาจากลำธารที่มีน้ำไหลเชี่ยว

กู่ฉิงซานตั้งใจมองก็พบกับซากศพหลายสิบชิ้น

ร่างของหญิงสาวร่างสูง!

ตุ๊กตาหุ่นเชิดโบกไม้เท้าสั้นอีกครั้ง

ซากศพหลายสิบชิ้นพลันถูกน้ำซัดขึ้นมา

“มีภูตอาศัยอยู่ในลำธารนี้ พวกเขาเป็นมิตรกับข้า ข้าก็เลยขอให้พวกเขาช่วย” ตุ๊กตาหุ่นเชิดกล่าวราวกับว่าทำหน้าที่เสร็จแล้ว

“แต่ทั้งนางกับข้าไม่เก่งเรื่องการประกอบซากศพ เกรงว่าเจ้าต้องพึ่งตัวเอง”

“แค่นี้ก็มากพอแล้ว ขอบคุณมาก” กู่ฉิงซานกล่าวจากใจจริง

เมื่อเห็นเขากล่าวเช่นนี้ ตุ๊กตาหุ่นเชิดพยักหน้าแล้วกล่าวว่า “ข้าต้องไปแล้วล่ะ เจ้ารู้ว่าจะตามหาข้าเจอได้ยังไง ข้าต้องกลับไปนับหินที่มี”

“ลาก่อน”

“อืม ไว้เจอกัน”

ตุ๊กตาหุ่นเชิดโบกไม้เท้าสั้นก่อนหายไปจากความว่างเปล่า

กู่ฉิงซานและฉานนู่มองหน้ากัน

“อย่างน้อยพวกเราก็เริ่มต้นได้ดี ตอนนี้เพียงแค่ต้องประกอบซากศพเท่านั้น” กู่ฉิงซานกล่าว

“เอาล่ะ มาเริ่มต่อร่างนางกัน” ฉานนู่กล่าว

ทั้งสองขึ้นฝั่งแล้วเริ่มยุ่งกับงานตัวเอง

“ฉานนู่ เจ้าร่ายวิชานี้หรือ”

“ดูเหมือนจะเป็นส่วนที่ถูกต้องแล้ว แต่ท่านต้องยกหน้าอกขึ้น”

“โอ้…”

“นายท่าน เอามือขวากดลงไปก่อน ขาขวามันกลับด้านอยู่”

“โทษที มันต่อยากไปหน่อยน่ะ”

กู่ฉิงซานลอบสับสนเล็กน้อย

เห็นได้ชัดว่าโชคที่แท้จริงสามารถคงอยู่ได้สิบสองชั่วโมง ทำไมเขายังต่อซากศพได้ผิดพลาดแบบนี้อยู่อีกล่ะ

เขาคือยอดนักพรตและเป็นเชฟอันดับต้นๆ เป็นเรื่องง่ายที่จะจัดการกับซากศพสิ ทำไมโชคถึงมาขัดขวางเขาเสียเองล่ะ

ตอนนี้ ฉานนู่ขัดแล้วกล่าวว่า “เฮ้อ ช่างเถอะ นายท่าน ท่านมันซุ่มซ่าม ร่างของผู้หญิงคนนี้ไม่เหมาะจะให้ท่านต่อ ข้าจัดการเองดีกว่า”

กู่ฉิงซานตกตะลึงก่อนจะเข้าใจ

เขาวางซากศพลงแล้วกล่าวว่า “จริงสิ ฉานนู่ การที่เจ้าเป็นคนจัดการเองก็จะเป็นการพิสูจน์ว่าร่างกายของนางไม่ได้ถูกข้าประกอบขึ้นมา”

ฉานนู่พลันกล่าวขึ้นมาเช่นกันว่า “ใช่ นี่ก็ถูกเช่นกัน ไม่อย่างนั้นนางจะรู้ว่าท่านเป็นคนย้ายร่าง นางคงโกรธมากแน่ดาบคลื่นเสียง ๆ เกรงว่าถึงตอนนั้นจะเกิดการต่อสู้ขึ้นอีกรอบ”

กู่ฉิงซานยิ้มขมขื่นแล้วกล่าวว่า “ข้าแทบต่อสู้ไม่ได้เมื่ออยู่ที่นี่ หากนางเอาจริงขึ้นมาก็คงเหมือนตอนไล่ล่าเผ่าพันธุ์มนุษย์โบราณนั่นแหละ นางจะไล่ล่าข้าหลังออกจากดาวคนคู่แล้ว ข้าคงทนได้ไม่ถึงหนึ่งหมื่นปีหรอก”

……………………………………………