ตอนที่ 1519 แย่งตัว (1)
สิ่งที่สิบสองวิหารคิด จวินอู๋เสียไม่ได้ใส่ใจมากนัก
จวินอู๋เสียยังคงแสดงความโดดเด่นเป็นเป้าสายตาของผู้คนทุกวันที่สนามแข่งพรสวรรค์แต่กำเนิด ตลอดหลายวันที่งานชุมนุมเทพยุทธ์ดำเนินไป นางได้ผ่านเข้ารอบโดยไม่มีความหวาดหวั่นผู้ตัดสินเลยแม้แต่น้อย ในขณะเดียวกัน สถานการณ์อีกด้านของพวกเฉียวฉู่ก็เป็นไปอย่างราบรื่นเช่นเดียวกัน สำหรับคนที่สามารถบรรลุขั้นพลังวิญญาณสีม่วงได้ตั้งแต่เป็นวัยรุ่นนั้นหายากมากแม้แต่ในอาณาจักรกลาง
อาจเป็นเพราะคำเตือนของซูจิ่งเหยียนที่สร้างความกดดันให้กับสิบสองวิหาร หลังจากนั้นจวินอู๋เสียก็ไม่รู้สึกว่ามีคนจากสิบสองวิหารตามนางเลย
ผู้เยาว์ทั้งหลายต่างพยายามดิ้นรนแย่งชิงกันเพื่อให้ผ่านเข้ารอบ จวินอู๋เสียกับพวกของเฉียวฉู่ผ่านเข้ารอบไปจนถึงรอบชิงชนะเลิศในที่สุด
ในวันสุดท้ายของงานชุมนุมเทพยุทธ์เป็นวันตัดสินผลการแข่งขันรอบสุดท้ายซึ่งกำลังใกล้เข้ามาอย่างรวดเร็ว
ผลการแข่งขันงานชุมนุมเทพยุทธ์จะไม่จัดอันดับผู้ชนะเป็นรายบุคคลว่าเป็นที่หนึ่งหรือที่สอง แต่จะรวบรวมสิบอันดับแรกเข้าด้วยกันเป็นกลุ่ม และพวกเขาจะถูกเลือกโดยคนจากสิบสองวิหาร
หลังจากจวินอู๋เสียเข้ารอบเป็นสิบอันดับแรกได้สำเร็จ จำนวนคนในสนามแข่งพรสวรรค์แต่กำเนิดก็เบาบางลงมาก ตลอดการแข่งขันที่มีทั้งเข้ารอบและตกรอบมากมาย ผู้เยาว์ส่วนใหญ่จึงเลือกที่จะจากไป สำหรับคนที่ตกรอบก่อนจบการแข่งขัน ถ้าพวกเขาได้รับความสนใจจากคนของสิบสองวิหาร พวกเขาก็จะได้รับคำเชิญในวันเดียวกับที่ตกรอบ ทำให้พวกเขาสามารถอยู่บนภูเขาฝูเหยาต่อได้ สำหรับคนที่ตกรอบและไม่ได้รับคำเชิญใดๆ พวกเขาก็ทำได้แค่เก็บข้าวของและจากไป
บนยอดเขาฝูเหยาที่ตอนแรกคึกคักวุ่นวาย ในตอนนี้เหลือคนอยู่เพียงไม่กี่ร้อยคนเท่านั้น เทียบกับทะเลผู้คนที่ไม่มีที่สิ้นสุดในช่วงเริ่มการแข่งขันแล้ว ตอนนี้กลับรู้สึกหนาวเย็นและน่าหดหู่เล็กน้อย
ในฐานะหนึ่งในผู้ชนะรอบสุดท้ายของการแข่งพรสวรรค์แต่กำเนิด จวินอู๋เสียกับผู้เยาว์อีก 9 คนยืนหยัดอยู่จนจบ เมื่อการแข่งจบลง อีก 9 คนแทบจะน้ำตาไหลด้วยความดีใจ ไม่ต้องพูดถึงเรื่องอื่น ตราบใดที่อยู่ในสิบอันดับแรกของการแข่งต่างๆ ก็มั่นใจได้ว่าพวกเขาจะได้รับคำเชิญจากสิบสองวิหาร นั่นหมายความว่าเส้นทางที่นำไปสู่อนาคตของพวกเขาจะราบรื่นและกว้างขวางกว่าคนอื่นๆทั้งหมด
จวินอู๋เสียยืนอยู่ด้านข้างอย่างไม่แยแส ไม่มีความรู้สึกใดๆบนใบหน้าเนียนใสนั่นเลยแม้แต่น้อย เทียบกับอีก 9 คนที่เกือบจะร้องไห้ออกมาด้วยความดีใจแล้ว ความเฉยเมยของนางทำให้ผู้คนประหลาดใจเล็กน้อย
ภายในสถานที่กว้างใหญ่ของสนามแข่งขัน ศิษย์ที่ได้รับคำเชิญจากสิบสองวิหารแล้วมองคนทั้งสิบด้วยความอิจฉา แม้ว่าพวกเขาจะได้รับคำเชิญจากสิบสองวิหาร แต่คุณค่าของการได้เป็นหนึ่งในสิบอันดับแรกนั้นไม่ใช่สิ่งที่คนตกรอบอย่างพวกเขาจะหวังเทียบได้เลย พวกเขาออกจากสนามแข่งไปอย่างเงียบๆด้วยความอิจฉาอย่างท่วมท้น
ทั้งสนามแข่งเหลือเพียงผู้เยาว์ 10 คนเท่านั้น
งานชุมนุมเทพยุทธ์ครั้งนี้กินเวลาหนึ่งเดือนเต็ม ห้องส่วนตัวบนชั้นสองของสนามแข่งพรสวรรค์แต่กำเนิดก็เปิดออกในตอนนี้เอง!
คน 20 กว่าคนปรากฏตัวต่อหน้าจวินอู๋เสียและอีก 9 คนในพริบตา ในขณะที่คนเหล่านั้นปรากฏตัว บรรยากาศของทั้งสนามแข่งก็ตึงเครียดขึ้นมาทันที
มีคนประมาณ 2-3 คนเดินออกจากห้องส่วนตัวแต่ละห้อง สายตาคมกริบของพวกเขามองไปที่อีกฝ่ายอย่างระแวดระวัง
ผู้เยาว์หลายคนที่ยืนอยู่ในสนามแข่ง เมื่อเห็นคนเหล่านั้นปรากฏตัว ก็พากันหน้าแดงด้วยความประหม่าและวิตกกังวล พวกเขาต่อสู้เลือดตากระเด็นมาจนถึงตอนนี้เพื่อให้ได้รับเกียรตินี้!
กลุ่มคนตรงหน้าพวกเขาคือเป้าหมายที่พวกเขาตั้งเป้าไว้ว่าจะเป็น สุดยอดฝีมือชั้นหัวกะทิของสิบสองวิหาร!!
อย่างไรก็ตาม จวินอู๋เสียกลับสงบนิ่งมาก ตรงข้ามกับพวกผู้เยาว์ที่กระวนกระวายใจอย่างมาก สายตาของนางลดต่ำลงขณะใช้พลังวิญญาณของตัวเองลอบตรวจสอบคนจากสิบสองวิหารโดยที่ไม่มีใครสังเกตเห็น และทำให้นางได้รู้เรื่องที่น่าสนใจทีเดียว
ในบรรดา 20 กว่าคนนั้น มี 12 คนที่พลังถึงขั้นสี่วงขั้นสาม!