ตอนที่ 1520 แย่งตัว (2)

Genius Doctor Black Belly Miss

ตอนที่ 1520  แย่งตัว (2)

พลังวิญญาณสีม่วงขั้นสาม  มีเพียงผู้อาวุโสของสิบสองวิหารที่มีพลังถึงขั้นนั้น  และครั้งนี้สิบสองวิหารก็ส่งผู้อาวุโสมาที่นี่ทุกวิหารเลย!

เสียงหัวเราะเย้ยหยันเย็นชาดังขึ้นในใจของจวินอู๋เสีย

พวกเขาติดเบ็ดอย่างที่คาดเอาไว้

การปรากฎของวิชาเสริมวิญญาณทำให้สิบสองวิหารนั่งไม่ติด

และในกลุ่มคนพวกนั้น  จวินอู๋เสียเห็นร่างที่คุ้นเคย

ซูจิ่งเหยียนที่มีรอยยิ้มคล้ายสุนัขจิ้งจอกเดินมาอยู่ตรงหน้าทุกคน  ขณะที่เหล่าผู้อาวุโสของสิบสองวิหารพากันมองซูจิ่งเหยียนด้วยสายตาระแวง

“ขอแสดงความยินดีกับพวกเจ้าทุกคนที่ได้ผ่านเข้ามาเป็นสิบอันดับแรกในการแข่งพรสวรรค์แต่กำเนิด  ทุกคนที่ยืนอยู่ตรงนี้เป็นคนที่เก่งที่สุดในการแข่งพรสวรรค์แต่กำเนิด  และพวกเจ้าจะมีอนาคตที่สมควรได้รับในไม่ช้านี้”  ชายวัยกลางคนคนหนึ่งยืนเอามือไพล่หลัง  มุมปากยกขึ้นเป็นรอยยิ้มขณะมองผู้เยาว์ทั้ง 10 คนตรงหน้า  แม้ว่าปากเขาจะกล่าวถึงสิบอันดับแรก  แต่สายตาของเขาเอาแต่มองอยู่ที่จวินอู๋เสีย

ผู้เยาว์อีก 9 คนสูดหายใจเข้าลึก  หลังจากถูกชม  ใบหน้าของพวกเขาก็เต็มไปด้วยความยินดีและภูมิใจที่ไม่อาจระงับได้  พวกเขายืดอกราวกับว่ากำลังยืนรอให้อนาคตที่สดใสมาถึง

จวินอู๋เสียเหลือบมองชายวัยกลางคนอย่างเฉยเมย  ชายคนนี้ออกมาจากห้องส่วนตัวและมีชายที่อายุน้อยกว่า 2 คนตามหลัง  จากท่าทางเคารพและคล้อยตามที่พวกเขาแสดงต่อชายคนนี้  ก็สรุปได้ไม่ยากว่าเขามีสถานะและตำแหน่งที่สูงกว่า

ชายคนนี้ต้องเป็นผู้อาวุโสของหนึ่งในสิบสองวิหารอย่างแน่นอน

ตำแหน่งของผู้อาวุโสจากสิบสองวิหารนั้นเป็นรองแค่ประมุขวิหารเท่านั้น  ไม่ว่าใครที่ได้พบเจอพวกเขา  ทุกคนต้องให้ความเคารพอย่างสูง

อย่างไรก็ตาม……

ในบรรดากลุ่มคนที่มาที่นี่วันนี้  เขาไม่ใช่คนเดียวที่เป็นผู้อาวุโส

เมื่อสิ้นเสียงของชายคนนั้น  ชายวัยกลางคนที่ตัวเล็กกว่าก็ก้าวออกมายืนตรงหน้าผู้เยาว์ทั้งหลาย  และพูดว่า  “ความสามารถที่โดดเด่นของพวกเจ้าปรากฏให้เห็นอย่างชัดเจน  ข้าคือผู้อาวุโสจากวิหารคลื่นมรกต  วิหารคลื่นมรกตต้องการคนมีพรสวรรค์เช่นพวกเจ้าทุกคน”

วิหารคลื่นมรกต!

เมื่อได้ยินชื่อนั้น  เหล่าผู้เยาว์ก็เริ่มตื่นเต้นมากขึ้น

แม้ว่าวิหารคลื่นมรกตจะไม่ได้มีอำนาจมากที่สุดในสิบสองวิหาร  แต่ก็ถือได้ว่าเป็นวิหารที่มีอำนาจมาก

“เฮอะ  พูดได้น่าสนใจดีนี่  วิหารคลื่นมรกตไม่ใช่ผู้เดียวที่แสวงหาผู้มีพรสวรรค์ซะหน่อย”  ชายอีกคนก้าวออกมาข้างหน้าเช่นกัน  เขาไม่ได้ใช้คำพูดที่ฟังยิ่งใหญ่เหมือนผู้อาวุโสทั้งสองตรงหน้าเขา  แต่กลับเดินตรงไปที่จวินอู๋เสียแทน

“เจ้าหนู  ข้าดูการแสดงของเจ้าในการแข่งครั้งนี้ทั้งหมดแล้ว  ในฐานะผู้อาวุโสของวิหารคงฉาน  ข้าขอเชิญเจ้าเข้าร่วมเป็นสมาชิกของวิหารคงฉานกับเรา”

จวินอู๋เสียเลิกคิ้ว

คำพูดของผู้อาวุโสจากวิหารคงฉานทำให้ผู้อาวุโสคนอื่นที่ตั้งใจจะค่อยเป็นค่อยไปเปลี่ยนสีหน้าทันที

จวินอู๋เสียเป็นผู้แข่งขันที่พวกเขาทุกคนจับตามอง  ไม่งั้นจะเกิดการรวมตัวของผู้อาวุโสจากทุกวิหารอย่างใหญ่โตในสนามแข่งแห่งเดียวนี้ได้ยังไง  งานชุมนุมเทพยุทธ์จะสิ้นสุดลงในวันนี้  และทุกคนรู้ว่าถึงเวลาเริ่มต้นการต่อสู้แย่งชิงทรัพยากรที่ดีที่สุดสำหรับตัวเองแล้ว  ในอดีตผู้อาวุโสของวิหารต่างๆมักจะรวมตัวกันที่สนามแข่งพลังวิญญาณหรือสนามแข่งภูติประจำตัวเพื่อแสดงให้เห็นถึงพลังอันแข็งแกร่งของผู้อาวุโส  จะได้โน้มน้าวให้ผู้แข่งขันที่มีพรสวรรค์มากๆมาเข้าร่วมกับพวกเขา

แต่ในครั้งนี้  สนามแข่งที่มีการแย่งชิงอย่างดุเดือดที่สุดกลับเป็นสนามแข่งพรสวรรค์แต่กำเนิด  เพราะจวินอู๋เสียเพียงคนเดียว

“วิหารคงฉานช่างใจร้อนจริงๆ  สิ่งที่พวกเขาพูดก็เหมือนที่พวกเรา วิหารเสวียนเทียน อยากจะพูด”  ผู้อาวุโสจากวิหารเสวียนเทียนกล่าวด้วยเสียงเยาะเย้ยพร้อมกับเดินออกมาเช่นกัน

ผู้อาวุโสจากวิหารคงฉานหันไปจ้องผู้อาวุโสจากวิหารเสวียนเทียนด้วยคิ้วที่ขมวดมุ่น

“ดูเหมือนว่าจะมีคนจำนวนไม่น้อยที่หมายตาคุณชายน้อยผู้นี้เอาไว้”  ชายหน้าตาดีและดูค่อนข้างร่าเริงพูดพลางหัวเราะขณะเดินออกมา  “บังเอิญเหลือเกินที่วิหารมังกรเราก็ตั้งใจที่จะเชิญคุณชายผู้นี้เข้าร่วมกับเราเช่นกัน”