ตอนที่ 1521 แย่งตัว (3)
คนจากวิหารต่างๆก้าวออกมาทีละคนเพื่อแสดงความตั้งใจที่จะเชิญจวินอู๋เสียเข้าร่วม และคนอื่นๆก็ไม่อาจรั้งตัวเองไว้ได้อีกต่อไป พวกเขาออกมาแสดงความปรารถนาอย่างชัดเจนทีละคน ในชั่วพริบตาจวินอู๋เสียก็ได้รับคำเชิญจากสิบสองวิหารทั้งหมด
สถานการณ์ดังกล่าวไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน
เมื่อเห็นว่าผู้สมัครคนหนึ่งเป็นที่ต้องการอย่างมาก ผู้เยาว์อีก 9 คนก็รู้สึกตกตะลึง พวกเขาคิดว่าจะได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่นจากสิบสองวิหาร เมื่อเห็นคนจากสิบสองวิหารก้าวออกมาอย่างสุภาพ พวกเขาก็คิดว่าตัวเองโชคดี ไม่คิดเลยว่าโชคดีทั้งหมดนั้นเป็นของจวินอู๋เสียคนเดียวเท่านั้น!!
แต่เนื่องจากมีคนแย่งชิงผู้สมัครคนเดียวกันมากเกินไป ผู้อาวุโสจากสิบสองวิหารที่มาที่นี่จึงเตรียมตัวมาอย่างดีและพูดจาทิ่มแทงกันไม่หยุดชนิดไม่มีใครยอมใคร โดยหวังว่าจะสามารถซัดคนอื่นให้จมดินได้เพื่อให้วิหารของตัวเองแข็งแกร่งขึ้น
ยิ่งพวกเขาแก่งแย่งกันอย่างดุเดือดมากเท่าไร พวกเขาก็ทำให้ผู้เยาว์คนอื่นที่ถูกเมินรู้สึกอิจฉามากขึ้นเท่านั้น เมื่อเห็นคนทั้งหมดแย่งชิงกันอย่างดุเดือดเพียงเพื่อชักชวนจวินอู๋เสียให้เข้าร่วมด้วย แต่เจ้าตัวกลับยืนเฉยไม่แยแสอยู่ด้านข้าง พวกผู้เยาว์ก็เริ่มรู้สึกเกลียดขึ้นมา แต่ก็ไม่กล้าทำอะไรจวินอู๋เสียต่อหน้าคนของสิบสองวิหาร
ซูจิ่งเหยียนมองคนของสิบสองวิหารแทบจะบีบคอกันตายด้วยรอยยิ้ม เขาเดินไปยืนข้างๆจวินอู๋เสียและพูดว่า “เจ้าหนู เจ้าเป็นที่นิยมมากจริงๆนะ”
สิบสองวิหารต่างส่งผู้อาวุโสของตัวเองมา เห็นได้ว่าพวกเขาให้ความสำคัญกับวิชาเสริมวิญญาณนี้มากขนาดไหน ไม่ว่าวันนี้จวินอู๋เสียจะเลือกวิหารไหน มันย่อมทำให้อีกสิบเอ็ดวิหารไม่พอใจอย่างแน่นอน
“เป็นที่ต้องการมากเกินไปก็ไม่ใช่เรื่องดี ไม่ว่าเจ้าจะเลือกวิหารไหน ก่อนที่เจ้าจะถูกรับเข้าวิหาร เจ้าจะต้องฝึกฝนอยู่ในสำนักธาราเมฆเป็นระยะเวลาหนึ่งก่อน ถ้าเจ้าทำให้วิหารอื่นไม่พอใจ เจ้าอาจจะต้องทุกข์ทรมานไม่น้อยในนั้น” ซูจิ่งเหยียนลูบคาง คนจากสิบสองวิหารไม่รู้จักการเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่หรือให้อภัย สิ่งที่พวกเขาไม่ได้ คนอื่นก็อย่าหวังว่าจะได้
แต่ทั่วทั้งอาณาจักรกลาง คนที่สามารถใช้วิชาเสริมวิญญาณมีเพียงจวินอู๋เสียคนเดียวเท่านั้น ต่อให้คนอื่นมีความคิดที่คล้ายกัน พวกเขาก็อาจจะไม่เข้าใจมันดีนัก
จวินอู๋เสียชำเลืองมองซูจิ่งเหยียน ไม่รู้ว่าเขาพยายามทำตัวใจดีหรือแค่มาดูเรื่องสนุกๆเท่านั้น
“ไม่ต้องมองข้าแบบนี้ ข้าแค่แสดงความคิดเห็นเท่านั้น” ซูจิ่งเหยียนพูดยิ้มๆ พลางหรี่ตาจนมองไม่เห็นความรู้สึกใดๆในดวงตาคู่นั้น
“แต่ถ้าข้าเป็นเจ้า ข้าจะเลือกวิหารปีศาจเพลิง แม้ว่าอำนาจของสิบสองวิหารจะไม่ได้แตกต่างกันมากนัก แต่ถ้ามองแค่ความแข็งแกร่งเพียงอย่างเดียว วิหารปีศาจเพลิงก็เหนือกว่าวิหารอื่นๆอย่างสบาย ดังนั้นถ้าเจ้ามองหาที่ไปที่ดีๆอยู่ล่ะก็ วิหารปีศาจเพลิงก็เป็นตัวเลือกที่ไม่เลวเลย อย่างน้อยพวกเขาก็เลือกผู้สมัครที่เก่งๆจากงานชุมนุมเทพยุทธ์ครั้งนี้เอาไว้เป็นจำนวนมาก ตอนที่เจ้าเข้าสำนักธาราเมฆ พวกคนที่วิหารปีศาจเพลิงเลือกไว้ก็จะต้องคอยปกป้องเจ้าตามคำสั่งของวิหาร อย่างน้อยเจ้าก็จะได้มีที่พึ่งบ้าง ใช่ไหมล่ะ?” ซูจิ่งเหยียนดูเหมือนจะแนะนำด้วยความหวังดี
จวินอู๋เสียเห็นว่าซูจิ่งเหยียนไม่มีอะไรจะพูดอีก ท่าทีของเก้าอารามก็ค่อนข้างแปลกจริงๆ
ในบรรดาสิบสองวิหาร วิหารปีศาจเพลิงแข็งแกร่งที่สุด แต่ต่อให้จวินอู๋เสียตั้งใจจะแทรกซึมเข้าไปในสิบสองวิหาร นางก็ไม่มีวันเลือกวิหารปีศาจเพลิง
ไม่ได้มีเหตุผลอื่นเลยนอกจากความแค้นตั้งแต่เหตุการณ์ที่หุบเขาเมฆา ทำให้นางกับวิหารปีศาจเพลิงไม่มีวันเข้ากันได้อย่างเด็ดขาด
“ถ้าอารามหมาป่าสวรรค์ไม่รีบร้อนอะไร ก็เลือกผู้สมัครเอาไว้บ้างไม่ดีกว่าหรือ?” จวินอู๋เสียถามเสียงเรียบ
ซูจิ่งเหยียนชะงักเล็กน้อย เขามองจวินอู๋เสียแล้วก็หัวเราะออกมาทันที
“อะไร? เจ้าหนู อยากเข้าอารามหมาป่าสวรรค์ของเราหรือ?”
“ไม่สนหรอก” จวินอู๋เสียมองคนจากสิบสองวิหารเหน็บแนมกันพอสมควรแล้ว นางก็เอื้อมมือเข้าไปในแขนเสื้อของนาง