ตอนที่ 1522 แย่งตัว (4)
“พวกท่าน คุยกันจบรึยัง?” จู่ๆเสียงของจวินอู๋เสียก็ดังขึ้นในสนามแข่ง
คนจากสิบสองวิหารที่กำลังเถียงกันหน้าดำหน้าแดงคอเป็นเอ็นก็หันมามองจวินอู๋เสีย ในงานชุมนุมเทพยุทธ์ การที่สองวิหารจะจับตามองคนคนเดียวกันนั้นไม่ใช่เรื่องแปลกแต่อย่างใด และส่วนใหญ่แล้วจะให้สิทธิ์ในการเลือกแก่ผู้สมัคร แม้ว่าจะไม่ใช่สิ่งที่สิบสองวิหารต้องการ แต่นั่นคือกฎที่ตั้งไว้สำหรับงานชุมนุมเทพยุทธ์
ตอนนี้วิหารทั้งสิบสองแห่งได้แสดงความสนใจต่อจวินอู๋เสีย จำนวนวิหารที่จวินอู๋เสียสามารถเลือกได้ไม่ใช่จำนวนน้อยๆเลย สถานการณ์ที่ทั้งสิบสองวิหารอยากได้ผู้สมัครคนเดียวกันเช่นนี้หาได้ยากอย่างแท้จริง
“ขออภัย แต่ข้าได้เลือกวิหารที่อยากเข้าเอาไว้แล้ว” จวินอู๋เสียกล่าวช้าๆ ขณะมองไปที่คนจากสิบสองวิหาร
“โอ้?”
เมื่อได้ยินจวินอู๋เสียพูดแบบนั้น ทุกคนก็ตื่นเต้นขึ้นมาทันที
ผู้เยาว์คนอื่นๆที่ถูกเมินก็แอบขบกราม หวังว่าจวินอู๋เสียจะรีบๆเลือกให้เสร็จซะที นางจะได้ออกไปจากที่นั่นโดยเร็วที่สุด มีนางอยู่ด้วยแล้ว บุตรแห่งสวรรค์ที่น่าภาคภูมิพวกนี้ก็ได้รับการปฏิบัติเหมือนฝุ่นผง ถูกเมินอย่างสิ้นเชิง
ว่ากันว่า เมื่อเทียบสินค้า ของอีกชิ้นก็ต้องถูกทิ้ง เมื่อเทียบคน อีกคนก็จะฆ่าตัวตายด้วยความโกรธ พวกเขาไม่อยากยืนอยู่ที่นั่นร่วมกับจวินอู๋เสียจริงๆ!
จวินอู๋เสียค่อยๆดึงเอาจี้หยกออกมาจากแขนเสื้อของนาง จากนั้นก็เงยหน้าขึ้นมองตาที่เต็มไปด้วยความคาดหวังของคนกลุ่มนั้น และพูดว่า “ตอนที่จบการแข่งขัน มีคนส่งสิ่งนี้ให้กับข้า วิหารที่ข้าเลือกคือวิหารที่เป็นเจ้าของของสิ่งนี้”
คำพูดของจวินอู๋เสียทำให้คนจากสิบสองวิหารตะลึงไปชั่วขณะ พวกเขาต่างจ้องมองไปที่จี้หยกอันนั้น
แต่พอพวกเขาเห็นจี้หยกนั้นชัดๆ ใบหน้าของเหล่าผู้อาวุโสจากสิบสองวิหารก็ซีดขาวทันที
“เจ้าหนู รู้รึเปล่าว่าใครคือเจ้าของหยกที่เจ้าถืออยู่?” ใบหน้าของผู้อาวุโสจากวิหารจื่อเหลยที่ตื่นเต้นในตอนแรกเปลี่ยนเป็นค่อนข้างเครียด
จวินอู๋เสียสอดหยกกลับเข้าไปในแขนเสื้อและเงยหน้าขึ้นมองกลุ่มผู้อาวุโสที่ไม่พอใจและพูดว่า “ประมุขของวิหารหยกวิญญาณ”
“เจ้าหนู เจ้ายังเด็กไม่รู้อะไร ดังนั้นเราจะไม่ถือเจ้า เจ้ามีความสามารถที่พิเศษมาก จะไม่รู้ได้ยังไงว่าวิหารหยกวิญญาณเป็นสถานที่แบบไหน? วิหารที่ไม่มีแม้แต่ที่ตั้งที่แน่นอน เจ้าจะเลือกพวกเขางั้นหรือ?” ผู้อาวุโสจากวิหารฝูหัวขมวดคิ้วพลางคิดว่าเจ้าเด็กคนนี้ไม่บ้าก็โง่
วิหารทั้งสิบสองแห่งได้ส่งคำเชิญให้เด็กคนนี้ เขาสามารถเลือกวิหารไหนก็ได้ที่เขาต้องการ! แต่เขากลับเลือกตัวเลือกที่แย่ที่สุด!
วิหารหยกวิญญาณ วิหารที่ถูกสิบสองวิหารขับไล่เมื่อกว่าพันปีก่อน วิหารที่พวกเขากดขี่ข่มเหงมาเป็นเวลาพันปี ทำได้แค่ซ่อนตัวและไม่กล้าเปิดเผยตัวเองเพื่อเอาชีวิตรอด วิหารหยกวิญญาณ……แม้แต่คนโง่ยังรู้ว่าวิหารหยกวิญญาณเป็นตัวเลือกที่ผิดพลาด
จวินอู๋เสียเพิกเฉยต่อคำถามจากผู้อาวุโสของวิหารฝูหัว นางแค่หันหน้าไปมองซูจิ่งเหยียนที่เฝ้ามองอยู่ด้านข้าง
“วิหารหยกวิญญาณมีสิทธิ์เลือกคนรึเปล่า?”
ซูจิ่งเหยียนที่เฝ้ามองอยู่ด้านข้างไม่คิดว่าจวินอู๋เสียจะโยนคำถามใส่เขาแบบนั้น ใบหน้าของเขาแข็งค้างไปชั่วขณะ ดวงตาเฉียงเรียวยาวของเขาหรี่ลงขณะมองใบหน้าเย็นชาของจวินอู๋เสีย ไม่สามารถเข้าใจได้ว่าเจ้าหนูนี่พูดแบบนั้นทำไม
แต่……
“วิหารหยกวิญญาณย่อมมีสิทธิ์อยู่แล้ว” ซูจิ่งเหยียนยิ้ม แม้ว่าเก้าอารามเลือกที่จะไม่ยุ่งกับการรับคนของสิบสองวิหาร แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าพวกเขาจะไม่ก่อกวนนี่นา
คำตอบของซูจิ่งเหยียนทำให้พวกผู้อาวุโสทำสีหน้าน่าเกลียดทันที แม้ว่าพวกเขาจะมองซูจิ่งเหยียนอย่างไม่พอใจ พวกเขาก็ไม่กล้าพูดอะไรออกมา
ถึงยังไง ซูจิ่งเหยียนก็เป็นสมาชิกของหนึ่งในเก้าอาราม อารามหมาป่าสวรรค์!