บทที่ 570 : วันเปิดคลีนิค!

Dragon Emperor Martial God จักรพรรดิ์เทพมังกร

[ติดตามข่าวสารได้ที่เพจ : จักรพรรดิ์เทพมังกร]

บทที่ 570 : วันเปิดคลีนิค!

อากาศในเมืองจิงฉูวันนี้นับว่าดีอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ท้องฟ้าเปิด อากาศแจ่มใส่ ไร้เมฆฝน เป็นที่สะดุดตาผู้คนอย่างมาก

เวลาแปดโมงเช้า.. ภายในคลินิกสามัญชนที่ตั้งอยู่แยกถนนกู่เฟิง และถนนจิงฉี

เหยาลู่สสวมเสื้อเชิ้ตแขนยาวสีขาว และกระโปรงสั้นสีดำ สวมรองเท้าส้นสูง ผมยาวรวบตึง และแต่งหน้าบางๆ และริมฝีปากทาลิปสติกสีแดง ดูสวยสง่าไม่น้อยทีเดียว

วันนี้เป็นวันเปิดคลินิกสามัญชน เหยาลู่จึงแทบไม่ได้นอนตลอดทั้งคืน เธอลุกขึ้นมาทำความสะอาดคลีนิคตั้งแต่เช้าตรู่ และตอนนี้เธอก็กำลังพูดคุยอยู่กับพยาบาลใหม่อีกสามคน

พยาบาลแสนสวยทั้งสามคนมีชื่อว่า.. ชางเสี่ยวเหมิง ซันยู่วเจียว และหลี่จินเหลียน

ชางเสี่ยวเหมิงอายุสิบเก้าปี สูงหนึ่งร้อยหกสิบหกเซนติเมตร แววตากลมโตไร้เดียงสาดูน่ารัก

ซันยู่วเจียวอายุยี่สิบปี รูปร่างผอมบาง สูงหนึ่งร้อยเจ็ดสิบห้าเซนติเมตร ขาค่อนข้างยาว ผิวขาว ไม่แต่งหน้า ดวงตาคมกริบ จมูกเล็กน่ารัก ริมฝีปากเป็นรูปชัดเจน แต่ดูเย็นชา

ส่วนหลี่จินเหลียนนั้นอายุยี่สิบห้าปี รูปร่างเพรียวบาง สูงหนึ่งร้อยหกสิบแปดเซ็นติเมตร ดวงตามีเสน่ห์ ริมฝีปากมักแย้มยิ้มอย่างสดใสอยู่ตลอดเวลา ดวงหน้าเล็ก ใบหน้าบ่งบอกว่าเป็นวัยผู้ใหญ่

วันนี้เป็นวันแรกที่พยาบาลสาวทั้งสามคนมาทำงานที่คลินิกสามัญชน พวกเธอสวมชุดพยาบาลสีชมพูเหมือนกัน แต่ก็อ้วนผอมต่างกัน แววตาของแต่ละคนต่างก็เต็มไปด้วยความอยากรู้อยากเห็น และตื่นเต้น

เหยาลู่ยิ้มพร้อมกับพูดบอกทุกคนว่า “ฉันอธิบายลักษณะงานทั่วๆไปของคลีนิคสามัญชนให้ทุกคนฟังคร่าวๆแล้วนะ ตอนนี้ทุกคนต่างก็รู้จักกันแล้ว ขอให้ทุกคนเตรียมตัวให้พร้อม เพราะสิบโมงเช้าจะเป็นเวลาเปิดคลีนิคแล้ว!”

“เดี๋ยวฉันของตัวขึ้นไปดูความเรียบร้อยที่ชั้นสองก่อนนะ แล้วค่อยคุยกันใหม่..”

เหยาลู่ไม่พูดพร่ำเพรื่อ หลังจากอธิบายทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว เธอก็เดินขึ้นไปชั้นสองของคลีนิคทันที

วันนี้หลิงหยุนต้องอยู่ในฐานะแพทย์ที่จะมาเปิดคลินิก จึงต้องสวมชุดสีขาวซึ่งเป็นสัญลักษณ์ และเหยาลู่ก็ได้จัดการรีดเตรียมไว้ให้กับเขาแล้ว

จู่ๆ หลี่จินเหลียนก็ยิ้มออกมา และร้องตะโกนถามว่า “หัวหน้าคะ.. ที่นี่เป็นคลินิกแพทย์แผนจีนเหรอคะ? แล้วทำไมถึงต้องจ้างพยาบาลตั้งสี่คน?”

เหยาลู่เพียงแค่ตอบยิ้มๆ “ไว้รอถึงสิบโมงคุณก็จะรู้เอง..”

พูดจบ.. เหยาลู่ก็รีบร้อนขึ้นไปที่ชั้นสอง พยาบาลสาวทั้งสามคนจึงได้แต่มองหน้ากันด้วยความงุนงง แต่ในใจกลับแอบคิดว่าคลินิกสามัญชนแห่งนี้ดูไม่น่าเชื่อถือเลยจริงๆ

“สวัสดี.. ฉันชื่อหลี่จินเหลียน ฉันมาจากแผนกศัลยกรรมโรงพยาบาลในเขตจิงฉี..”

“สวัสดีค่ะพี่หลี่.. ฉันชื่อชางเสี่ยวเหมิง เพิ่งเรียนจบค่ะ..”

“ฉันชื่อซันยู่วเจียว อยู่แผนกศัลยกรรมโรงพยาบาลประจำมณฑล!”

เมื่อเหยาลู่เดินขึ้นไปชั้นสอง ทั้งสามสาวก็เริ่มจับกลุ่มซุบซิบกันทันที..

ในบรรดาพยาบาลสาวทั้งสามคนนั้น คนที่เป็นผู้ใหญ่สุดก็คือหลี่จินเหลียน และน้องเล็กสุดก็คือชางเสี่ยวเหมิง ส่วนซันเทียนเจียวนั้นมีอุปนิสัยที่ค่อนข้างนิ่งเงียบจึงได้แต่นั่งฟังเฉยๆ และแทบจะไม่พูดอะไรเลย

“นี่.. ฉันว่าพวกเธอสองคนคงจะไม่เคยเห็นคลินิกแบบนี้มาก่อนเหมือนกัน! ดูสิ.. คลินิกใหญ่มาก แต่กลับไม่มีเครื่องมือทางการแพทย์เลยสักอย่าง น่าแปลก!?”

หลี่จินเหลียนทำเสียงกระซิบกับซันยู่วเจียว และชางเสี่ยวเหมิง

“จริงด้วย.. ไม่เห็นมีเครื่องมือแพทย์อะไรเลย แม้แต่ปรอท  เครื่องวัดความดัน แม้แต่หูฟังของหมอยังไม่มีเลย แล้วแบบนี้จะเปิดคลีนิคได้ยังไง?”

ดวงตากลมโตของชางเสี่ยวเหมิงมองสำรวจไปรอบๆ แต่เมื่อไม่พบเครื่องมือทางการแพทย์แม้แต่อย่างเดียวอยู่ในคลีนิค จึงได้แต่พูดออกมาอย่างเห็นด้วย

หลี่จินเหลียนพูดต่อว่า “ใครกันนะที่สามารถเปิดคลินิคใหญ่ขนาดนี้ในจิงฉูได้ แต่จนถึงตอนนี้พวกเรายังไม่รู้เลยว่าใครเป็นหมอ?”

ในที่สุดซันยู่วเจียวก็พูดแทรกขึ้นมา เธอมองดูที่ผนังพร้อมกับตอบไปว่า “ดูทะเบียนการค้าที่ติดอยู่บนผนังสิ.. พวกเธอไม่เห็นหรือไงว่าเจ้าของคลีนิคชื่อหลิงหยุน? ก็น่าจะเป็นเขานั่นล่ะที่เป็นหมอ!”

หลี่จินเหลียนเหลือบมองตาม แต่ก็ตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงผิดหวัง “เขาเป็นใคร? ฉันไม่เห็นเคยได้ยินหมอชื่อนี้ในเมืองจิงฉูเลย หรือใบทะเบียนการค้านี่จะมีปัญหา!”

น่าจะมีบางอย่างผิดปกติจริงๆ เพราะใบทะเบียนการค้านั้นมีชื่อหลิงหยุนจริง แต่กลับไม่มีรูปถ่ายของเขาติดอยู่

และนี่เป็นเรื่องที่หลิงหยุนร้องขอไปเอง ถังเมิ่งไม่มีทางเลือก จึงได้แต่ทำตาม!

ซันยู่วเจียวพูดเสียงเบาว่า “นั่นยังไม่ใช่ปัญหา.. ดูที่อายุของเขาก่อนสิ..”

นับว่าซันยู่วที่แม้จะมีท่าทางเย็นชา แต่ก็เป็นคนละเอียดละอออย่างมาก

หลังจากที่ชางเสี่ยวเหมิงอ่านอย่างละเอียด เธอก็ร้องตะโกนออกมาทันที “สิบ.. สิบแปดปี?!”

ตามกฎหมายนั้น หลังจากได้รับใบประกอบโรคศิลป์แล้ว แพทย์จะต้องทำงานในอาชีพอย่างน้อยห้าปีขึ้นไป จึงจะสามารถเปิดคลีนิคส่วนตัวได้

ซึ่งก็หมายความว่า ‘หลิงหยุน’ ต้องได้ใบประกอบโรคศิลป์ตั้งแต่อายุเพียงแค่สิบสามปี? นี่ไมมีทางเป็นไปได้!

หลี่จินเหลียนถึงกับพึมพำออกมา “ไม่แน่ว่าเขาอาจจะเป็นแค่เจ้าของคลินิคก็ได้ เพราะฉันเองก็ไม่เคยได้ยินมาก่อนว่ามีหมอที่อายุเพิ่งจะสิบแปดปีด้วย ยิ่งแพทย์แผนจีน ก็ยิ่งไม่มีทางเป็นไปได้ อายุน้อยขนาดนี้ ใครจะเชื่อถือ!”

หลี่จินเหลียนครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง จู่ๆก็กวาดตามองไปรอบๆคลินิคอีกครั้ง จากนั้นก็หันกลับมามองพร้อมพูดกับพยาบาลสาวอีกสองคนด้วยท่าทางตื่นตระหนก

“หรือว่าที่นี่จะมีการสวมใบประกอบการค้าปลอม? ความจริงแล้วที่นี่อาจจะเป็นแค่ร้านนวดกดจุดฝ่าเท้า..”

ชางเสี่ยวเหมิงตกใจกับการคาดเดาของหลี่จินเหลียน หน้าอกใหญ่โตของเธอสั่นพร้อมกับร้องอุทานออกมา “ไม่ขนาดนั้นมั๊ง? พี่ก็พูดเกินไป?”

ซันยู่วเจียวขมวดคิ้วเล็กน้อย “หยุดเดาสุ่มสี่สุ่มห้ากันได้แล้ว! อีกไม่กี่ชั่วโมงคลีนิคก็จะเปิดแล้ว พวกเรารอดูหน้าคุณหมอที่จะมาดีกว่า เดี๋ยวเห็นหน้าหมอก็จะรู้เองล่ะ!”

หลี่จินเหลียนได้แต่กรอกตาไปมา แล้วก็ไม่พูดอะไรอีกเลย..

ชางเสี่ยวเหมิงตอบกลับทันที “พี่หลี่.. อย่าพูดให้ฉันกลัวสิ พวกเขาคงไม่กล้าทำแบบนั้นหรอกมั๊งคะ?”

“ฉันมาทำงานที่นี่เพราะที่คลินิคแห่งนี้ให้เงินเดือนสูง ไม่อย่างนั้นฉันก็คงไปทำงานที่โรงพยาบาลใหญ่ๆดีกว่า”

ไม่เพียงแค่ชางเสี่ยวเหมิงเท่านั้น เพราะหลี่จินเหลียน และซันยู่วเจียวเองก็ตั้งใจที่จะหาโอกาสดีๆให้ตัวเอง จึงเลือกที่จะมาทำงานกับคลีนิคสามัญชนเพราะที่นี่ดูน่าสนใจ และเงินเดือนก็เป็นที่น่าพอใจ

โดยเฉพาะเรื่องของเงินเดือน.. ที่คลินิกสามัญชนแห่งนี้ให้เงินเดือนมากกว่าที่โรงพยาบาลใหญ่ๆถึงสามสี่เท่าเลยทีเดียว ใครเล่าจะไม่อยากได้?

ไม่เช่นนั้นแล้ว หลี่จินเหลียน และซันยู่วเจียวก็คงจะไม่ยอมจำนนให้กับเหยาลู่ที่เป็นนักเรียนพยาบาลที่ควรจบไปแล้วแต่ก็ยังไม่จบ และต้องมาอยู่ภายใต้การบริหารงานของเธอ

“รอดูก็แล้วกัน.. ใกล้จะถึงเวลาเปิดแล้ว..”

พยาบาลสาวสวยทั้งสามคนครุ่นคิด และเริ่มคุยกันในประเด็นร้อนต่างๆไปเรื่อยๆ

………..

หลังจากทานอาหารเช้าเสร็จ หลิงหยุนจึงออกจากบ้าน และเดินตรงไปที่คลีนิคสามัญชน

บ้านเลขที่-1 ของหลิงหยุนนั้นอยู่ไม่ห่างจากคลินิกสามัญชนมากนัก เพียงแค่สามกิโลเมตรเท่านั้น หลิงหยุนจึงเลือกที่จะจอดรถไว้ที่บ้านแล้วเดินไปแทน

เสี่ยวเม่ยหนิงและเหมี่ยวเสี่ยวเหมากลับไปที่บ้านของท่านหมอเสี่ยวหลังจากทานอาหารเช้าเสร็จ และจะออกเดินทางไปที่คลินิคพร้อมกับท่านหมอเสี่ยว

“วันนี้ร้านเสื้อผ้าก็เปิดค่อนข้างเร็ว  หวังหงหยวนทำผลงานได้ดีทีเดียว..”

หลิงหยุนใช้จิตหยั่งรู้สำรวจภายในร้านเสื้อผ้าที่อยู่หัวมุมทางด้านตะวันตกเฉียงใต้ และพบว่ามีการเปลี่ยนแปลงมากมาย หลิงหยุนได้แต่พยักหน้าด้วยความพอใจ

เมื่อไฟสำหรับข้ามถนนสว่างขึ้น หลิงหยุนจึงเดินข้ามถนนตรงไปที่หัวมุมสี่แยกทางด้านตะวันออกเฉียงเหนือ มุ่งหน้าไปที่คลีนิคสามัญชน

“คลินิกสามัญชน.. เฮ้อ.. น่าจะใช้ชื่อเดิมมากกว่า!”

หลิงหยุนส่ายหน้าด้วยความเสียดายขณะที่เดินเปิดประตูเข้าไป

เพียงแวบแรกเขาก็เห็นพยาบาลสาวสวยสามคนที่กำลังนั่งอยู่ หลิงหยุนรีบแสดงตัว และได้แต่คิดในใจว่าพยาบาลที่ถังเมิ่งจ้างมาเพิ่มนั้นดูดีมากทีเดียว แบบนี้น่าจะมีคนไข้อยากเข้ามารักษาที่คลีนิคของเขา

เมื่อพยาบาลสาวได้ยินเสียงเปิดประตู ต่างก็หันไปมองหลิงหยุนที่กำลังเดินเข้ามาในร้านพร้อมกัน

‘โอโห ทำไมเด็กผู้ชายคนนี้ถึงได้หล่อเหลาแบบนี้นะ?’

“ว้าว.. หล่อมากเลย!” ชางเสี่ยวเหมิงร้องตะโกนออกไปทันทีที่เห็นหลิงหยุน

หลี่จินเหลียนถึงกับใจสั่นเล็กน้อย และรับรู้ได้ว่าเด็กหนุ่มคนนี้มีกระแสดึงดูดที่รุนแรงมาก แม้แต่เธอยังถึงกับหายใจติดขัด

ซันยู่วเจียวเองก็ตกตะลึงไปเช่นกัน และใบหน้าก็เริ่มแดงเล็กน้อย แล้วก็รีบหันหน้ากลับไปไม่ยอมมองหลิงหยุนอีก

“สวัสดีค่ะ.. ไม่ทราบว่าจะมาหาหมอเหรอคะ? คือว่าคลินิกของเรายัง..” ชางเสี่ยวเหมิงลุกขึ้นถามหน้าแดง..

และสายตาของหลิงหยุนที่จับจ้องมาที่เธอนั้น ก็ทำให้ชางเสี่ยวเหมิงถึงกับเก้อเขินเอียงอายอย่างบอกไม่ถูก

เธอกำลังจะพูดออกไปว่า – คลินิกสามัญชนยังไม่เปิด แต่ก็ต้องกลืนคำพูดกลับลงลำคอไป เพราะใบหน้าหล่อเหลานั้น ทำให้ผู้คนที่พบเห็นยากที่จะละสายตาได้

ใบหน้าของหลิงหยุนเปื้อนไปด้วยรอยยิ้มทีทรงเสน่ห์เช่นเคย ลักยิ้มแก้มซ้ายของเขาสั่นขณะที่ชิงพูดขึ้นว่า

“สวัสดีครับสาวสวยทั้งสามคน ผมชื่อหลิงหยุน!”