บทที่ 571 : ตกตะลึงสาวงาม!

Dragon Emperor Martial God จักรพรรดิ์เทพมังกร

[ติดตามข่าวสารได้ที่เพจ : จักรพรรดิ์เทพมังกร]

บทที่ 571 : ตกตะลึงสาวงาม!

“หลิง.. หลิงหยุนเหรอ? ทำไมชื่อฟังดูคุ้นหูจัง?”

ชางเสี่ยวเหมิงทำหน้างุนงง แล้วจุ่ๆ ดวงตากลมโตของเธอก็เบิกโพลงพร้อมกับร้องตะโกนออกมา และชี้นิ้วไปที่หลิงหยุน

“คุณ.. คุณเป็นเจ้านายของคลีนิคแห่งนี้นี่!”

‘ข้าไม่ใช่เจ้านาย.. ข้าเป็นเจ้าของคลินิกสามัญชนต่างหาก?’

นี่เป็นครั้งแรกที่หลิงหยุนได้ยินคนเรียกตนเองว่าเจ้านาย เขาจึงหัวเราะออกมาพร้อมกับหันไปมองพยาบาลสาวอายุมากสุดที่กำลังเดินตรงเข้ามาหา เธอถามขึ้นมาด้วยสีหน้างุนงง..

“เจ้านายมาแล้วเหรอคะ? ไม่ทราบว่ามายังไงคะนี่?”

หลิงหยุนยกมือขึ้นถูจมูกเบาๆ เมื่อได้กลิ่นน้ำหอมที่ไม่รู้ยี่ห้อโชยออกมาจากร่างของหลี่จินเหลียน พร้อมกับตอบไปว่า

“ผมเดินมา..”

ทันทีที่ได้ยินคำตอบของหลิงหยุน.. หลี่จินเหลียนจึงได้แต่รู้สึกผิดหวัง หลิงหยุนทั้งหล่อ และดูร่ำรวย แต่เหตุใดกลับไม่มีรถขับ.. หรือว่าเขาจะไม่ได้ร่ำรวยจริง!

หรือว่า.. อาคารแห่งนี้ก็เช่าต่อจากผู้อื่น!

ความจริงแล้ว.. ครั้งแรกที่หลี่จินเหลียนเห็นใบทะเบียนการค้านั้น เธอก็แอบคิดอยู่ในใจแล้วว่า คงจะเป็นหนุ่มเพลย์บอยมีฐานะมาเปิดคลินิกเล่นๆ เธอยังคิดเล่นๆว่าอาจจะได้กลายเป็นหนูตกถังข้าวสารเหมือนอย่างคนอื่นบ้าง แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่าฝันของเธอคงต้องสลายเสียแล้ว

หลี่จินเหลียนรู้ดีว่าว่าในยุคสมัยนี้ที่ดินมีค่าไม่ต่างจากทองคำ ดังนั้นการที่สามารถเช่าอาคารขนาดใหญ่เช่นนี้ได้ก็นับว่าพอจะร่ำรวยอยู่ไม่น้อย แต่นั่นยังห่างไกลจากเป้าหมายของหลี่จินเหลียนมาก

“เจ้านายเชิญนั่งก่อนค่ะ.. ฉันจะไปรินน้ำมาให้..”

ในบรรดาพยาบาลสาวทั้งสามคนนั้น ชางเสี่ยวเหมิงนับว่ามีประสบการณ์น้อยสุด..

“หลิงหยุน.. ทำไมถึงได้มาเช้านักล่ะ?!”

เหยาลู่ที่อยู่ชั้นสองได้ยินเสียงของหลิงหยุน จึงรีบวิ่งลงบันได้มาอย่างดีอกดีใจ!

หลิงหยุนที่เพิ่งจะนั่งลงจึงรีบลุกขึ้นยืนทันที และรีบตอบเหยาลู่กลับไปว่า “ผมค่อยๆเดินมา.. วันนี้เป็นวันเปิดคลินิกทั้งที จะปล่อยให้คุณวุ่นวายอยู่คนเดียวได้ยังไงกัน..?”

เหยาลู่ดีใจอย่างที่สุด เธอตรงเข้าโอบแขนของหลิงหยุนอย่างสนิทสนมต่อหน้าพยาบาลสาวสวยทั้งสามคน

“ขึ้นไปข้างบนเร็วเข้า.. ฉันเตรียมเสื้อกราวน์สีขาวไว้ให้คุณแล้ว รีบไปลองก่อนว่าพอดีมั๊ย?”

หลิงหยุนรีบตอบกลับไปทันที “ไม่ต้องใส่ก็ได้!”

แต่เหยาลู่กลับดึงแขนหลิงหยุนให้ขึ้นไปชั้นสองอย่างไม่สนใจ

ชางเสี่ยวเหมิงที่กำลังถือแก้วน้ำไว้ในมือ ได้แต่แหงนหน้ามองตามคนทั้งคู่ที่เดินขึ้นชั้นสองไป และในที่สุดก็หันกลับมามองหน้าพยาบาลสาวอีกสองคนพร้อมกับพูดขึ้นว่า

“เขา.. เขาเป็นหมอด้วยเหรอนี่?!”

หลี่จินเหลียน และซันยู่วเจียวเองก็ถึงกับนิ่งอึ้งไปเช่นกัน แล้วทั้งสามสาวก็ได้แต่ยืนมองหน้ากันด้วยความงุนงง

เมื่อขึ้นไปชั้นสอง.. หลิงหยุนก็เดินตรงไปที่โซฟา หลังจากนั่งลงเอนกายพิงอย่างสบายอกสบายใจแล้ว จึงหันไปพูดกับเหยาลู่ยิ้มๆ

“เหยาลู่.. ใหนบอกจะไม่ยุ่งให้เหนื่อยยังไงล่ะ? ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของถังเมิ่งจัดการจะดีกว่า!”

เหยาลู่ยิ้มหน้าแดงขณะที่เดินถือเสื้อกราวน์สีขาวในห้องนอนออกมาให้หลิงหยุน เธอหยุดยืนตรงหน้าเขาพร้อมกับยื่นเสื้อกราวน์ในมือและพูดว่า

 “มาลองเสื้อก่อน?”

หลิงหยุนมองเสื้อกราวน์ที่แพทย์ใส่กันด้วยความรู้สึกกระอักกระอ่วน แต่ก็ไม่ต้องการทำให้เหยาลู่เสียใจ จึงได้แต่ลุกขึ้นยืน และตอบไปว่า

“บอกไว้ก่อนนะ.. ผมจะสวมเสื้อนี่แค่วันนี้วันเดียวเท่านั้น!”

เหยาลู่ยิ้มพร้อมกับสวมเสื้อกราวน์สีขาวให้กับหลิงหยุน เธอกรอกตาไปมาก่อนจะพูดขึ้นว่า

“หลิงหยุน.. คุณหล่อมากจนพยาบาลสาวสามคนถึงตะลึงเลยนะ..”

นับตั้งแต่ที่หลิงหยุนน้ำหนักลดลงนั้น เขาก็คุ้นเคยกับสายตาของสาวๆ ที่มักจ้องมองมาเช่นนี้ หลิงหยุนจึงตอบอย่างไม่ใส่ใจนัก

“ถ้างั้นต่อไปคุณก็ต้องดูแลตัวเองให้สวยมากยิ่งขึ้น ผมจะได้จิตใจไม่วอกแวก..”

เหยาลู่ใช้กำปั้นเล็กๆทุบหลิงหยุนพร้อมกับทำเสียงดุ “ก็ลองดู..”

ฝ่ามือของหลิงหยุนลูบไล้ไปตามเรือนร่างของเหยาลู่อย่างช่ำชอง..

“นี่.. อย่าทำแบบนี้! วันนี้มีเรื่องต้องทำอีกมากมาย รอให้ถึงตอนเย็นก่อนไม่ดีกว่าเหรอ..?”

ในขณะที่เหยาลู่พูดนั้น มือของหลิงหยุนก็จัดการดึงกระโปรงสั้นของเหยาลู่ขึ้น และฝ่ามือใหญ่ของเขาก็กำลังลูบไล้พื้นที่ลึกลับของเธออย่างสนุกมือ พร้อมกับกระซิบข้างหูว่า

“ถ้างั้นคืนนี้เราสองคนก็เข้าหอกันเลยนะ?”

ร่างบอบบางของเหยาลู่อ่อนปลวกเปียก และสั่นเทิ้มราวกับถูกไฟฟ้าช็อต ใบหน้าของเธอทั้งร้อนและแดงก่ำขณะที่ตอบกลับไปว่า

“อืมม..”

ตอนนี้ร่างของเหยาลู่ราวกับถูกไฟที่รุ่มร้อนแผดเผา จนไม่สามารถพูดอะไรออกมาได้

เหยาลู่รอคอยเวลานี้มานาน และในที่สุดวันนี้ก็มาถึง!

ในระหว่างนั้นเองถังเมิ่งก็โทรเข้ามาหาหลิงหยุนพอดี เขาบอกกับหลิงหยุนว่าตนเองกับเพื่อนๆได้มาถึงที่คลินิกแล้ว  และได้พาเพื่อนสนิทมาช่วยงานหลิงหยุนด้วย ถังเมิ่งจึงต้องการแนะนำเพื่อนๆให้รู้จักกับหลิงหยุน

หลิงหยุนขอให้เหยาลู่ช่วยใส่เสื้อกราวน์ให้กับเขา แล้วรีบเดินตัวปลิวลงบันไดมา ก่อนจะเดินผ่านหน้าพยาบาลสาวทั้งสามที่ยังคงยืนงงอยู่ และตรงออกจากประตูคลีนิคไป

เมื่อถังเมิ่งเห็นหลิงหยุนสวมเสื้อกราวน์สีขาวเดินออกมา เขาก็ถึงกับหัวเราะเสียงดังออกมา แต่เพื่อนซี้ของเขาทั้งห้าคนกลับก็ไม่มีใครหัวเราะออกมาแม้แต่คนเดียว

ถังเมิ่งกระแอมเบาๆ จากนั้นจึงเริ่มแนะนำเพื่อนๆทีละคน โดยเริ่มจากตันตัน เจ้าหนู พี่เฟย เสี่ยวจี๋ และอาปิงให้หลิงหยุนรู้จัก แล้วจึงหันไปบอกกับหนุ่มเพลย์บอยทั้งห้าคนว่า

“ทุกคน.. นี่พี่หยุนลูกพี่ของฉันเอง!”

“พี่หยุน..” เสียงทักทายจากหนุ่มเพลย์บอยทั้งห้าคนดังขึ้นพร้อมกัน

ตันตันยังคงก้มหน้าก้มตาเล่นเกมส์ในโทรศัพท์มือถือ เจ้าหนูก็แทบไม่เห็นหลิงหยุนอยู่ในสายตา ส่วนสายตาของเสี่ยวจี๋นั้นก็เอาแต่จ้องมองไปทางพยาบาลสาวสวยทั้งสามคน

มีเพียงพี่เฟย และอาปิงเท่านั้นที่ดูเหมือนจะทักทายหลิงหยุนด้วยความตั้งใจจริงๆ หลิงหยุนเพียงแค่พยักหน้าให้กับทุกคน แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรออกไป

เมื่อครั้งที่หลิงหยุนพบกับถังเมิ่งครั้งแรกนั้น ถังเมิ่งเองก็ไม่ได้ยะโสโอหังน้อยไปกว่าหนุ่มเพลย์บอยทั้งห้าคนนี้เลย เขาแทบไม่เห็นหลิงหยุนอยู่ในสายตาด้วยซ้ำไป จึงแทบไม่ต้องคิดว่าตอนนั้นถังเมิ่งเชื่อฟังหลิงหยุนหรือไม่?

เมื่อเห็นเพื่อนสนิทของตนเองดูไม่ใส่ใจกับหลิงหยุนนัก ถังเมิ่งเองก็เริ่มรู้สึกไม่ดี แต่อย่างน้อยก็ยังไม่มีใครทำอะไรที่เสียมารยาทออกมา เพราะหากเป็นเช่นนั้นจริงๆ ถังเมิ่งเองก็คงไม่สามารถควบคุมเพื่อนๆได้

ภายในคลินิกสามัญชนนั้น หลี่จินเหลียนและชางเสี่ยวเหมิงกำลังยืนอยู่ข้างประตู และมองผ่านกระจกคลีนิกออกมาพร้อมกับส่งเสียงกระซิบกระซาบ

“นี่.. พี่ๆว่าเจ้านายของพวกเราเป็นใครกันแน่? ถึงแม้เจ้านายจะไม่มีรถขับ แต่เพื่อนๆของเขาแต่ละคนกลับมีแต่รถแพงๆ นอกจากรถฮัมเมอร์คันนั้นแล้ว รถ BMW นั่นก็มีตราของทหารติดอยู่ด้วย..”

หลี่จินเหลียนทำงานอยู่ในโรงพยาบาลใหญ่มาก่อน ไม่ว่าจะรถหรูหราราคาแพงแค่ใหน เธอก็ได้พบเห็นมาหมดแล้ว จึงอดที่จะตกใจไม่ได้

ชางเสี่ยวเหมิงจ้องมองถังเมิ่งและเสี่ยวจี๋ตาโต “ดูสิ.. ใส่ของแบรนด์เนมตั้งแต่หัวจรดเท้าเลย.. แต่งตัวดีกว่าเจ้านายของพวกเราอีก!”

“นั่นสิ.. แบบนี้ถึงจะเรียกว่าหล่อรวยของจริง! น่าเสียดายที่เจ้านายของเราไม่ได้เป็นแบบนั้น” หลี่จินเหลียนพูดออกมาอย่างเสียดาย

…………

“พี่หยุน.. นี่ก็ใกล้จะเก้าโมงแล้ว อีกไม่นานแขกเหรื่อก็จะมากันแล้ว! ฉันไปเตรียมงานก่อนนะ..”

หลิงหยุนยิ้มเล็กน้อยพร้อมกับตอบไปว่า “ตามสบาย.. วันนี้นายคงจะวุ่นวายมากเลยล่ะ! ฉันจะเข้าไปข้างในก่อน”

แต่เพียงแค่หลิงหยุนหันหลังกลับไป และยังไม่ทันที่จะได้ก้าวขาออกไปด้วยซ้ำ จู่ๆ จิตหยั่งรู้ของเขาก็สำรวจพบอะไรบางอย่าง ทำให้เขาต้องหยุดชะงักทันที

รถสีดำคันหรูวิ่งมาหยุดอยู่ที่หน้าประตูคลินิกสามัญชน และร่างของตี้เสี่ยวอู๋ก็ก้าวออกมาจากรถ ตามมาด้วยหนิงหลิงยู่ ฉินตงเฉี่วย และไป๋เซียนเอ๋อที่สวมแว่นกันแดด

“ว้าว.. นั่นมันนางฟ้าชัดๆ!”

นอกเหนือจากถังเมิ่ง หนุ่มเพลย์บอยทั้งห้าคนต่างก็พากันตกตะลึงจนแทบช็อค และแม้แต่ตันตันก็ยังถึงกับเงยหน้าขึ้นมอง และหยุดตะลึงอยู่เช่นนั้น จนโทรศัพท์มือถือในมือแทบร่วงลงพื้น! ส่วนเสี่ยวจี๋นั้นดูเหมือนจะหนักกว่าใครๆ ทันทีที่เขาเห็นสาวสวยทั้งสามคนก็ถึงกับตกตะลึงพร้อมกับยกมือขึ้นขยี้ตา และกลืนน้ำลายอึกใหญ่ ขาทั้งสองข้างของเขาอ่อนยวบ และทรุดลงไปนั่งกับพื้นทันที

หนิงหลิงยู่ ฉินตงเฉี่วย และไป๋เซียนเอ๋อนั้น ไม่มีใครขับรถเป็นเลยสักคน หลิงหยุนจึงสั่งให้ตี้เสี่ยวอู๋ไปรับสาวงามทั้งสามมาที่นี่

สาวงามทั้งสามคนนั้น ไม่มีใครสูงน้อยไปกว่าหนึ่งร้อยเจ็ดสิบเซนติเมตรเลย ดังนั้นเพียงแค่เดินออกมาจากรถ ก็สามารถดึงดูดสายตาทุกคู่ได้อย่างไม่น่าแปลกใจ!

“พี่หยุน!”

ร่างใหญ่ยักษ์ของตี้เสี่ยวอู๋พุ่งเข้ามาหาหลิงหยุนอย่างรวดเร็ว แต่เมื่อเห็นเสี่ยวจี๋กับเจ้าหนู ตี้เสี่ยวอู๋ก็ได้แต่ขมวดคิ้วด้วยความรู้สึกไม่ชอบใจนัก

“พี่หยุน..”

“พี่หลิงหยุน..”

หนิงหลิงยู่ และไป๋เซียนเอ๋อต่างก็ร้องเรียกหลิงหยุน และวิ่งตรงเข้าไปพร้อมกัน หญิงสาวทั้งสองคนพุ่งเข้าหาอ้อมแขนของหลิงหยุนโดยไม่สนใจปฏิกิริยาขของคนอื่นๆ

หลิงหยุนยื่นมือออกไปโอบกอดร่างของหนิงหลิงยู่และไป๋เซียนเอ๋อไว้ในอ้อมแขนทั้งสองข้างพร้อมกัน จากนั้นจึงยิ้มให้กับฉินตงเฉี่วยพร้อมกับเอ่ยทักทาย

“น้าหญิง!”

ฉินตงเฉี่วยเงยหน้าขึ้นมองชื่อคลินิกของหลิงหยุนพร้อมกับหัวเราะคิกคัก “เจ้าเด็กดื้อ.. นี่ชื่อคลีนิคของเจ้าสินะ!”

ภายในคลินิกสามัญชนนั้น หลี่จินเหลียนที่กำลังนั่งคุกเข่าอยู่ข้างประตูถึงกับถอนหายใจออกมา และใบหน้าซีดเผือดเมื่อได้เห็นภาพตรงหน้า

“โอ้แม่เจ้า.. นี่.. ในโลกนี้มีผู้หญิงสวยขนาดนี้ด้วยเหรอ? แล้วก็มีถึงสามคนด้วย!”

“ว้าว.. สวยทั้งสามคนเลย..” ชางเสี่ยวเหมิงเองก็ร้องอุทานออกมาอย่างตกใจ

ซันยู่วเจียวที่นั่งอ่านหนังสือพิมพ์อยู่ใกล้ๆกันนั้น ถึงกับลุกขึ้นยืนจ้องมองไปทางประตู และเมื่อได้เห็นก็ถึงกับแปลกใจ และได้แต่คิดในใจว่า หญิงสาวทั้งสามคนนั้นสวยงามกว่าเธอมากนัก

ซันยู่วเจียวได้แต่ร้องออกมาอย่างหงุดหงิด “เป็นแบบนี้ได้ยังไง?”

ถังเมิ่งยกเท้าเตะเสี่ยวจี๋ที่ลงไปนั่งกองอยู่กับพื้น “เสี่ยวจี๋.. ลุกขึ้นเร็วเข้า! นี่นายนั่งพอหรือยัง?”

ในใจของถังเมิ่งนั้นก็อดที่จะตำหนิตี้เสี่ยวอู๋ไม่ได้ ที่พาหนิงหลิงยู่กับไป๋เซียนเอ๋อมาที่คลินิกแต่เช้า!

ถังเมิ่งตั้งใจพาเพื่อนๆทั้งห้าคนของเขามาที่นี่เพื่อช่วยงาน หลังจากที่ทักทายหลิงหยุน และแนะนำให้รู้จักกันแล้ว ก็ตั้งใจว่าจะแยกย้ายกันไปทำงาน แต่กลับคิดไม่ถึงว่าจู่ๆ ตี้เสี่ยวอู๋จะพาสาวๆ มาดึงดูดความสนใจไปเช่นนี้

ทำให้ถังเมิ่งรู้สึกเสียหน้าอย่างมาก!

“น้าหญิง.. เข้าไปดูข้างในกันดีกว่า!”

หลิงหยุนยิ้มพร้อมกับเชิญฉินตงเฉี่วยให้เข้าไปในร้าน พร้อมกับเดินโอบหนิงหลิงยู่กับไป๋เซียนเอ๋อนำเข้าไปด้านใน