นายน้อยที่ร่ำรวยอย่างถานเซิงหยู่ไม่ใช่คนโง่
เขาถือว่าฉลาดกว่าคนทั่วไปด้วยซ้ำ และเขาก็มีวิสัยทัศน์ในการมองคนที่ดี
ซึ่งถึงแม้ว่าถานเซิงหยู่จะเคยพบกับหลินฟานเพียงแค่สองครั้งเท่านั้น
แต่เขาก็รู้สึกชื่นชมหลินฟานเป็นอย่างมาก
ส่วนหนึ่งเป็นเพราะว่าหลินฟานมีทักษะขั้นเทพในการขับรถ
และอีกส่วนหนึ่งก็เป็นเพราะว่า ซ่งเจียซิน, หลิวหยูหาง, ซุนลู่กั่ว เป็นเพื่อนกับหลินฟาน
ซ่งเจียซินเป็นลูกสาวของพวกคนใหญ่คนโต และทุกคนในแวดวงนั้นก็รู้จักตัวตนของเธอเป็นอย่างดี ซึ่งเธอก็ดูสนิทสนมกับหลินฟานเป็นอย่างมาก
ส่วนอารมณ์ของหลิวหยูหางนั้นค่อนข้างจะรุนแรง ไม่มีใครเคยหยุดเขาได้ และเขาก็มักจะทะเลาะกับซุนลู่กั่วอยู่บ่อยครั้ง
แต่เขากับให้ความเคารพในตัวตนของหลินฟาน
ซุนลู่กั่วเป็นคนใจเย็น และสุภาพกับคนอื่นอยู่เสมอ แต่เขาไม่ชอบให้คนอื่นเข้ามาอยู่ไกล้ๆกับตัวของเขาสักเท่าไหร่
แต่ถึงอย่างนั้น ซุนลู่กั่วก็มักจะเข้าหาหลินฟานอยู่ทุกครั้งที่เขาได้พบเจอ
ทั้งหมดนี้แสดงให้เห็นว่าหลินฟานควรค่าแก่การผูกมิตร
ซึ่งวันนี้โอกาสที่ดีก็ได้มาถึงแล้ว และถานเซิงหยู่ก็ไม่อยากพลาดโอกาสในครั้งนี้ไป แต่เขาไม่ได้คาดคิดมาก่อนว่าผู้จัดการจางจะพูดต่อว่าหลินฟานอย่างนี้ ดื่มน้ำระดับไฮเอนด์อย่างงั้นหรอ? เฟอร์รารี่จะเป็นรอยอย่างงั้นหรอ?
แกนี่มัน…ไอ้โง่!
ถานเซิงหยู่พูดอย่างเย็นชา: “เฟอร์รารี่สวยก็จริงนะ แต่ดูเหมือนว่า… ฉันคงต้องบอกกับ เจียซิน ซุนลู่กั่ว หลิวหยูหาง และเพื่อนๆในแวดวงของฉันว่าไม่ต้องมาซื้อเฟอร์รารี่ที่นี่แล้วล่ะ”
ซึ่งเมื่อผู้จัดการหวางที่ยืนอยู่ข้างๆนั้นได้ยิน เขาก็ตกใจทันทีและรีบพูดออกมา: “นายน้อยถาน พี่ฟาน ผมว่าเรื่องนี้จะต้องเป็นเรื่องเข้าใจผิดแน่ๆ ผมจะรีบไปบอกผู้จัดการจางให้มาขอโทษเดี๋ยวนี้”
เฟอร์รารี่เป็นรถซุปเปอร์สปอร์ตราคาแพง
ซึ่งคนธรรมดาไม่มีเงินที่จะซื้ออย่างแน่นอน
ตัวเขาเองก็เช่นกัน เขาแค่เอารถมาขายเพื่อหวังว่าจะเป็นผู้ยิ่งใหญ่ในสักวัน!
และกลุ่มผู้ซื้อหลักของรถเฟอร์รารี่นั้น ก็คือกลุ่มเศรษฐีหนุ่มผู้มั่งคั่งที่รักรถซุปเปอร์คาร์อย่างถานเซิงหยู่
ถ้าเศรษฐีหนุ่มเหล่านี้ไม่ซื้อรถเฟอร์รารี่ของเขาแล้วล่ะก็
ร้านของเขาก็คงจะต้องปิดตัวลงแน่ๆ
เมื่อผู้จัดการหวางนึกถึงเรื่องนี้ เขาก็รีบหันไปกวักมือและตะโกนเรียก “จางฮ่าวปิน นายดูแลแขกภาษาอะไรของนาย รีบมาขอโทษพี่ฟานเดี๋ยวนี้เลยนะ!”
ซึ่งในตอนที่จางฮ่าวปินเห็นว่าถานเซิงหยู่พูดคุยกับหลินฟานอย่างสนิทสนม เขาก็รู้สึกกลัวตั้งแต่ตอนนั้นแล้ว
และในตอนนี้ เมื่อผู้จัดการหวางได้พูดแบบนั้นออกมา เขาก็ไม่กล้าที่จะชักช้าแม้แต่นิดเดียว
เขาวิ่งไปหาอย่างรวดเร็วและพูดด้วยความตื่นตระหนก: “พี่ฟาน เมื่อกี้ฉันไม่ได้หมายถึงพี่เลยนะ…”
“งั้นนายก็หมายถึงเพื่อนของฉันหรอ แถมนายยังตบหน้าลูกพี่ลูกน้องของเพื่อนฉันด้วยหนิ ใช่ไหมล่ะ?” หลินฟานกล่าวอย่างเย็นชา
หลินฟานไม่ชอบการกลั่นแกล้ง และเขาก็เกลียดพวกที่ชอบรังแกคนอื่นเป็นอย่างมาก
ไหนนายอธิบายมาสิ้!
ตอนนี้จางฮ่าวปินตัวสั่นไปทั้งตัว และบนหน้าผากของเขาก็มีเหงื่อไหลออกมาอย่างมากมาย
จากนั้นเขาก็ค่อยๆเปิดปากของเขาเพื่อที่จะอธิบายเพิ่มเติม
แต่สุดท้ายเขาก็ไม่รู้จะพูดอะไรออกมา
ถานเซิงหยู่กล่าวว่า “ฉันเป็นเพื่อนของพี่ฟาน ดังนั้น ตั้งแต่วันนี้ ฉันขอไม่ยุ่งเกี่ยวกับเฟอร์รี่อีกต่อไป … ถ้ากิจการนายเจ๊งก็ต้องขอโทษด้วยละกัน”
เมื่อผู้จัดการหวางได้ยิน เขาก็รู้สึกกังวลอย่างมาก
เพราะเขาเข้าใจดี ว่าถ้าไม่ทำให้หลินฟานกับถานเซิงหยู่พอใจในวันนี้แล้วล่ะก็ อนาคตของเขาจะต้องจบเห่แน่
ดังนั้น ผู้จัดการหวางจึงได้ตะโกนอย่างเคร่งขรึม: “จางฮ่าวปิน แกบังอาจทำเรื่องชั่วๆแบบนี้ลับหลังของฉันอย่างนั้นหรอ! ไอ้สารเลว!”
“จากนี้ไป แกไม่ใช่พนักงานของเจียงเป่ยเฟอร์รารี่ ฉันขอไล่แกออก!”
ไล่ออก!
ใบหน้าของจางฮ่าวปินซีดขาวทันทีที่ได้ยินคำๆนี้
เนื่องจากเฟอร์รารีนั้นเป็นรถซูเปอร์สปอร์ต จึงมีลูกค้าต่อวันไม่มาก ซึ่งงานที่เขาทำก็มีแค่นิดเดียว เขารู้สึกสบายอย่างมากที่ได้ทำงานที่นี่
แถมเงินที่ได้รับก็เยอะกว่าคนธรรมดา
แต่มันจบแล้วล่ะ
และที่สำคัญคือเขาไม่ได้เป็นคนลาออกเองด้วย
เขาถูกไล่ออก!
มันแตกต่างกันโดยสิ้นเชิงเกี่ยวกับเรื่องที่ลาออกเองกับถูกไล่ออกมา!
มันกล่าวได้เลยว่า จางฮ่าวปินจะไม่สามารถอยู่ในแวดวงรถหรูได้อีกต่อไป
“หวาง…ผู้จัดการหวาง ขอโอกาสอีกครั้งนะครับ…”
“พี่ฟาน นายน้อยถาน…ได้โปรด…”
จางฮ่าวปินอ้อนวอนอย่างขมขื่น แต่มันก็ไม่เป็นผลอะไร
จากนั้นเขาเลยวิ่งไปหาซ่งลู่และพูดว่า “ซ่งลู่ ฉันผิดไปแล้ว ได้โปรดยกโทษให้ฉันเถอะนะ… ถ้าฉันถูกไล่ออก ฉันคงอยู่ต่อไปในโลกใบนี้ไม่ได้แน่ๆ…”
ซึ่งเมื่อซ่งลู่เห็นแบบนี้ เธอก็รู้สึกสงสารและพูดอย่างนุ่มนวลว่า “หลิน…หลินฟาน เขารู้สึกผิดแล้วล่ะ ให้โอกาสเขาเถอะนะ”
หลินฟานมองหน้าของจางฮ่าวปินด้วยสายตาของสัตว์ป่า “ถ้าซงลู่พูดแบบนั้น งั้นฉันก็คงไม่อะไรกับนายแล้วล่ะ แต่ฉันหวังว่านายจะเก็บความทรงจำอันนี้ฝังเอาไว้ในหัวของนายตลอดไป”
“และฉันก็หวังว่าจะไม่มีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นกับคนรอบตัวของฉันอีก…ไม่เช่นนั้น…มันคงไม่จบง่ายๆแน่”
จางฮ่าวปินพูด “ขอบคุณครับ ขอบคุณมากๆครับ! ผมสัญญาว่าจะไม่ให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นอีกในอนาคต”
จากนั้นบรรยากาศในที่เกิดเหตุก็ผ่อนคลายลงอย่างมากในทันที
หลินฟานถามว่า “พี่ซงลู่ ยังไม่มีใครสั่งเฟอร์รารี่ทั้งสามคันนี้ใช่ไหม”
“ใช่ ยังไม่มีใครสั่่งเลย” ซงลู่พูด
“งั้น ฉันขอซื้อทั้งสามคัน” หลินฟานพูด
“ฮะ?” ซงลู่ตกตะลึง
หลินฟานพูดกับตัวเองว่า “เฟอร์รารี่ 488 ราคาอยู่ที่ 4.4 ล้านหยวน, เฟอร์รารี่ 812 ราคาอยู่ที่ 5.3 ล้านหยวน, เฟอร์รารี่ F8 ราคาอยู่ที่ 3.5 ล้านหยวน รวมเป็นเงิน ทั้งหมด13.2 ล้านหยวน”
เมื่อคำนวนเสร็จ หลินฟานก็หยิบบัตรธนาคารออกมา
“จริงหรอเนี่ย……”
ซื้อรถซุปเปอร์สปอร์ต…แถมยังทีเดียว 3 คัน
ซงลู่ตกตะลึงอย่างมากกับเรื่องนี้
ซึ่งตอนนี้ เธอก็สูญเสียสติไปแล้วอย่างสมบูรณ์
ผู้จัดการหวางที่อยู่ถัดจากเธอก็ตกใจกับเรื่องมากนี้เช่นกัน
ซื้อเฟอร์รารี่ทีเดียว 3 คัน!
ไม่น่าแปลกใจ ที่ถานเซินหยู่ถึงได้ทำตัวสุภาพกับหลินฟาน
นี่มันไม่ใช่เพียงเพราะว่าหลินฟานขับรถเก่งเท่านั้นแล้ว!
ตัวตนของหลินฟานต้องน่ากลัวมากแน่ๆ!
ผู้จัดการหวางรีบพูดขึ้น “พี่ฟานซื้อรถที่ร้านของเรา ถือเป็นเรื่องน่ายินดีอย่างยิ่ง…ผมขอคิดราคาทั้งหมดแค่ 13 ล้านหยวน”
การขายเฟอร์รารี่ให้ได้นั้นก็ยากมากแล้ว
แต่การที่ลดราคาให้ถึงสองแสนหยวนนั้นหายากมากกว่า
หลินฟานพยักหน้าอย่างเฉยเมย
“บี๊บ!”
เมื่อเสียงบี๊บเบาๆ จากเครื่อง POS ได้ดังขึ้น การชำระเงินก็ถือเป็นอันเสร็จสิ้น
ซึ่งในเวลาเดียวกัน ก็มีเสียงที่คุ้นเคยดังขึ้นมาในใจของหลินฟาน
【ติ๊ง! คุณจะใช้บัตรคืนเงิน10เท่า ใช่หรือไม่? 】
“ใช่!” หลินฟานคิดอย่างเงียบ ๆ ในใจ
และทันทีหลังจากนั้น โทรศัพท์มือถือของหลินฟานก็สั่นขึ้นมา
” เงินเข้าบัญชี 130 ล้านหยวน ”
ซึ่งตอนนี้ เงินทุนหมุนเวียนของหลินฟานก็สูงถึง 350 ล้านหยวน!
จากนั้นก็มีซองแดง 1,300 ซองปรากฏขึ้นบนขอโทรศัพท์มือถือของหลินฟาน
【ติ๊ง! ทำภารกิจสำเร็จ: ใช้เงินซื้อรถมากกว่าสิบล้านหยวน รางวัลตอบแทนคือ ทักษะการวาดภาพระดับผู้เชี่ยวชาญ 】
【ทักษะการวาดภาพระดับผู้เชี่ยวชาญ: สามารถวาดภาพได้อย่างยอดเยี่ยม สมจริง ไร้ขอบเขต และเพิ่มเสน่ห์ให้กับตัวเอง 】
ทักษะการวาดภาพระดับผู้เชี่ยวชาญ?
เป็นทักษะที่ดี
แถมฉันเพิ่งซื้อรถเฟอร์รารี่ไป 3 คัน ใช้เงินไป 13 ล้านหยวน แต่ได้เงินกลับมาถึง 130 ล้านหยวน
ได้ทักษะการวาดภาพระดับผู้เชี่ยวชาญและซองแดง 1,300 ซองอีก!
หลินฟานพยักหน้าอย่างพอใจกับการมาในครั้งนี้