บทที่ 1252 ชะตากรรมพลิกผัน

Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน

เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 1252 ชะตากรรมพลิกผัน

แปลโดย iPAT

“ค่ายกลวิญญาณนี้เรียกว่าชะตากรรมพลิกผัน มันถูกสร้างขึ้นโดยซุนหมิงลู่และใช้วิญญาณอมตะมากกว่าสิบดวง จุดสำคัญคือมันเชื่อมต่อกับแม่น้ำหวนคืน ดังนั้นมันจึงมีพลังอำนาจที่น่าอัศจรรย์”

จ้าวเหลียนหยุนอธิบาย

วิญญาณแห่งความรักปลดปล่อยพลังอำนาจออกมาด้วยตัวของมันเองโดยใช้พลังงานอมตะจำนวนมากที่อยู่ในมิติช่องว่างของจ้าวเหลียนหยุนเป็นเชื้อเพลิง ครั้งนี้มันทำให้จ้าวเหลียนหยุนได้รับข้อมูลเกี่ยวกับค่ายกลวิญญาณชะตากรรมพลิกผัน

“แม่น้ำหวนคืน? เจ้าหมายถึงแม่น้ำหวนคืนในตำนานมนุษย์คนแรกงั้นหรือ?” ดวงตาของอวี๋อี้เย่ซือเบิกกว้างขึ้น

“ถูกต้อง มันคือแม่น้ำหวนคืนในตำนาน” จ้าวเหลียนหยุนพยักหน้า

ตำนานมนุษย์คนแรกกล่าวถึงภูเขาตงฮัน หุบเขาเหล่าโป และแม่น้ำหวนคืน พวกมันเป็นสามอุปสรรค์ที่อยู่ด้านหลังประตูแห่งชีวิตและความตาย มนุษย์คนแรกเข้าไปในประตูแห่งชีวิตและความตายเพื่อช่วยหยางเมิ้ง แต่เขาล้มเหลว เขาทำได้เพียงเดินทางผ่านอุปสรรคทั้งสามเพื่อฟื้นคืนสู่ชีวิตเท่านั้น

อย่างไรก็ตามมนุษย์คนแรกสามารถผ่านภูเขาตงฮันและหุบเขาเหล่าโป แต่เขาล้มเหลวในแม่น้ำหวนคืน

“แม่น้ำหวนคืนเป็นแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งสวรรค์พิภพ ผู้ใดจะคิดว่ามันจะอยู่ในมือของปีศาจอมตะเซี่ยหู” ปู้เจิ้งซือถอนหายใจ

มู่หลิงหลานกล่าว “ในอดีตเทพปีศาจปล้นสวรรค์เคยใช้ท่าไม้ตายอมตะผนึกภูตผีลอบเข้าสู่ประตูแห่งชีวิตและความตาย เขานำภูเขาตงฮันและหุบเขาเหล่าโปออกมา แต่เขาไม่สามารถเคลื่อนย้ายแม่น้ำหวนคืน ข้าไม่คาดหวังว่าแม่น้ำหวนคืนจะอยู่ในมือของบางคน”

มู่หลิงหลานเป็นผู้อาวุโสสูงสุดของนิกายผีเสื้อจิตวิญญาณที่มีทักษะในการรวบรวมข้อมูล ดังนั้นมู่หลิงหลานจึงล่วงรู้ความลับมากมาย

กลุ่มผู้อมตะค่อยๆยอมรับความจริงเรื่องนี้อย่างช้าๆ

เนื่องจากภูเขาตงฮันและหุบเขาเหล่าโปถูกนำออกมา มันจึงไม่แปลกหากแม่น้ำหวนคืนจะปรากฏขึ้นเช่นเดียวกัน

“สิ่งสำคัญในเวลานี้คือทำลายค่ายกลวิญญาณชะตากรรมพลิกผัน” ปู้เจิ้งซือเน้นย้ำ

แต่จ้าวเหลียนหยุนส่ายศีรษะ “แทบเป็นไปไม่ได้ที่จะทำลายค่ายกลวิญญาณนี้ กระทั่งผู้อมตะระดับแปดยังไม่สามารถคลี่คลายมันเพราะมันใช้ประโยชน์จากแม่น้ำหวนคืน”

จ้าวเหลียนหยุนอธิบายอย่างช้าๆ หลังจากนั้นกลุ่มผู้อมตะจึงล้มเลิกความคิดที่จะทำลายค่ายกลวิญญาณ

ค่ายกลวิญญาณชะตากรรมพลิกผันใช้ยอดเขาทั้งสิบห้าเป็นแกนกลาง หากพวกเขาต้องการทำลายมัน พวกเขาต้องบุกโจมตียอดเขาทั้งสิบห้า

คำกล่าวของสนมผมฟ้ามีทั้งเรื่องจริงและคำลวง แต่มันไม่ใช่เรื่องไร้สาระ

ค่ายกลวิญญาณชะตากรรมพลิกผันสามารถยกระดับพลังการต่อสู้ของผู้อมตะ ผู้อมตะระดับหกจะได้รับพลังอำนาจระดับเจ็ดขณะที่ผู้อมตะระดับเจ็ดจะได้รับพลังอำนาจของผู้อมตะระดับแปด

นอกจากนี้หากผู้อมตะเสียชีวิตภายในค่ายกล พวกเขาจะกลายเป็นเชื้อเพลิงที่ช่วยสนับสนุนค่ายกลวิญญาณรวมถึงการหลอมรวมวิญญาณของท่านหญิงหว่านซูที่กำลังปรับแต่งหม่าหงหยุน

“ไม่แปลกใจเลยที่ร่างกายและมิติช่องว่างของสนมผมฟ้าแตกสลายไป”

“แม้ดวงวิญญาณของนางจะยังอยู่แต่มันจะถูกดูดกลืนไปโดยค่ายกลวิญญาณชะตากรรมพลิกผันในที่สุด”

“ผู้ใดจะคิดว่าซุนหมิงลู่จะสามารถสร้างค่ายกลวิญญาณที่ทรงพลังถึงเพียงนี้ กระทั่งสิบนิกายโบราณก็อาจไม่สามารถแข่งขัน”

“ซุนหมิงลู่เป็นปรมาจารย์บนเส้นทางแห่งค่ายกลอันดับหนึ่งของภาคเหนือ ตามข่าวลือ เขามีนิสัยไม่ยอมคนแต่ให้ความสำคัญกับมิตรภาพ เขาไม่ใช่ปีศาจอมตะ ก่อนหน้านี้ปีศาจอมตะเซี่ยหูต้องลดความยโสและเชิญเขามาซ้ำแล้วซ้ำอีก ในที่สุดซุนหมิงลู่ก็ประทับใจในความรักของปีศาจอมตะเซี่ยหูที่มีต่อท่านหญิงหว่านซู ดังนั้นเขาจึงช่วยสร้างค่ายกลวิญญาณนี้ขึ้น”

ผู้อมตะภาคกลางวิพากษ์วิจารณ์

“หมายความว่าหากเราออกจากยอดเขาแห่งนี้ เราต้องแยกย้ายกันไปและปกป้องตนเองงั้นหรือ?” ปู้เจิ้งซือถาม

จ้าวเหลียนหยุนพยักหน้า “มันควรเป็นเช่นนั้น เรามาที่นี่ได้เพราะพลังอำนาจของวิญญาณแห่งความรัก”

วิญญาณแห่งความรักเป็นวิญญาณอมตะระดับเก้า มันอาจเหนือกว่าค่ายกลวิญญาณทั้งหมด ดังนั้นมันจึงสามารถนำผู้อมตะทั้งห้าเข้ามาที่นี่

อย่างไรก็ตามหากวิญญาณแห่งความรักไม่ทำงาน เมื่อคนทั้งห้าออกจากยอดเขาลูกนี้ พวกเขาจะถูกค่ายกลวิญญาณส่งไปสถานที่ต่างๆ

ปู้เจิ้งซือขมวดคิ้วลึก นี่เป็นข่าวร้ายมาก

เขาได้รับมอบหมายให้ดูแลความปลอดภัยของจ้าวเหลียนหยุน แต่ค่ายกลวิญญาณนี้จะแยกพวกเขาออกจากกันขณะที่พวกเขาไม่สามารถทำสิ่งใด

“เช่นนั้นหากเจ้าเข้าไปในมิติช่องว่างของข้า ค่ายกลวิญญาณจะส่งผลกระทบต่อมิติช่องว่างของข้าด้วยหรือไม่?” ปู้เจิ้งซือถาม

มิติช่องว่างของผู้อมตะเป็นความลับที่ยิ่งใหญ่ของพวกเขา โดยปกติแล้วพวกเขาจะไม่ยอมให้คนนอกเข้าไป

อย่างไรก็ตามปู้เจิ้งซือรูสึกถึงความสำคัญของเรื่องนี้และตัดสินใจเสียสละโดยปล่อยให้จ้าวเหลียนหยุนเข้าไป

เขาทำได้เพียงสิ่งนี้

เนื่องจากจ้าวเหลียนหยุนไม่มีมิติช่องว่างที่แท้จริง นางเป็นผู้อมตะเทียม มิติช่องว่างเทียมของวังสวรรค์มีทั้งข้อดีและข้อเสีย ข้อเสียคือมันสามารถเก็บเฉพาะพลังงานอมตะ วิญญาณ และเจตจำนง แต่ไม่สามารถจัดการหรือพัฒนาได้เหมือนมิติช่องว่างทั่วไป นอกจากนี้มันยังต้องได้รับการดูแลในเวลาที่กำหนด มิฉะนั้นมันจะไม่สามารถคงอยู่ต่อไป ข้อดีของมันคือสามารถเก็บวิญญาณอมตะระดับใดก็ได้ ตัวอย่างเช่นจ้าวเหลียนหยุนสามารถเก็บวิญญาณแห่งความรักซึ่งเป็นวิญญาณอมตะระดับเก้า หากเป็นมิติช่องว่างทั่วไป การเก็บวิญญาณอมตะระดับเก้าเอาไว้จะทำให้มิติช่องว่างของพวกเราระเบิด

อย่างไรก็ตามหลังจากทดลอง กลุ่มผู้อมตะภาคกลางกลับพบว่าพวกเขาไม่สามารถแม้แต่จะเปิดทางเข้ามิติช่องว่างของตน

เห็นได้ชัดว่าซุนหมิงลู่ได้พิจารณาปัญหานี้เอาไว้ตั้งแต่แรก

กลุ่มผู้อมตะภาคกลางตกอยู่ในสถานการณ์ที่น่าอึดอัดใจ

แม้พวกเขาจะสามารถกำจัดสนมผมฟ้าแต่พวกเขากลับติดอยู่ที่นี่

แต่ข่าวดีคือพวกเขาไม่จำเป็นต้องกังวลว่าศัตรูจะปรากฏตัว

เพราะค่ายกลวิญญาณนี้ไม่อนุญาตให้ผู้นำยอดเขาออกมาจากยอดเขาของตน

นี่คือพลังอำนาจของแม่น้ำหวนคืน

ซุนหมิงลู่ใช้ประโยชน์จากแม่น้ำหวนคืนเพื่อสร้างค่ายกลวิญญาณชะตากรรมพลิกผัน

ด้วยรูปแบบของมัน กระทั่งปีศาจอมตะเซี่ยหูก็ไม่สามารถต่อต้านกฎข้อนี้

แต่ไม่ว่าค่ายกลวิญญาณชะตากรรมพลิกผันจะมีข้อบกพร่องดังกล่าว แต่แดนศักดิ์สิทธิ์ภูเขาหิมะยังเป็นป้อมปราการที่แข็งแกร่ง สิ่งนี้ทำให้ปีศาจอมตะเซี่ยหูมั่นใจว่าจะไม่มีผู้ใดสามารถสร้างความปั่นป่วนระหว่างการหลอมรวมวิญญาณอมตะโชคชะตาท้าทายสวรรค์

“ในกรณีนี้พวกเราอาจอยู่ที่นี่และรอกำลังเสริม” ปู้เจิ้งซือแนะนำ

ข้อเสนอแนะนี้ได้รับการอนุมัติจากผู้อมตะภาคกลางคนอื่นๆทันที

ตอนนี้พวกเขาเข้าใจการทำงานของค่ายกลวิญญาณชะตากรรมพลิกผันแล้ว มันไม่มีประโยชน์ที่พวกเขาจะเคลื่อนไหว

จ้าวเหลียนหยุนขมวดคิ้ว แต่นางไม่ได้โต้แย้ง ท้ายที่สุดหม่าหงหยุนก็อยู่บนยอดเขาที่หนึ่ง แม้จ้าวเหลียนหยุนจะพุ่งทะยานไปยังยอดเขาที่หนึ่งทันที แต่นางยังต้องเผชิญหน้ากับผู้อมตะระดับแปด

…..

สวรรค์สีดำ วังสวรรค์แห่งโชค

“เราพบกลุ่มเล็กๆของพวกเขาแล้ว” ราชันใต้สูดหายใจลึก

“อา…พวกเขาอยู่ที่ใด?” เหยากวงถาม

“พวกเขาปรากฏตัวขึ้นในแดนศักดิ์สิทธิ์ภูเขาหิมะ แปลก…” ราชันใต้ไม่แน่ใจ

แม้เขาจะรู้ว่ากลุ่มผู้อมตะภาคกลางเข้าไปในอุโมงค์มิติ แต่เขาไม่รู้ว่ามีเหตุร้ายที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้นที่นั่น

เขาคิดว่าตนเองจะสามารถค้นหากองกำลังส่วนใหญ่ของภาคกลางแต่เขากลับพบเพียงคนกลุ่มเล็กๆเท่านั้น

อย่างไรก็ตามการค้นพบนี้รวมถึงจ้าวเหลียนหยุนซึ่งเป็นบุคคลสำคัญ

วิญญาณแห่งความรัก!

นี่เป็นสาเหตุที่ราชันใต้ตื่นขึ้น

“แดนศักดิ์สิทธิ์ภูเขาหิมะ?” เหยากวงขมวดคิ้ว “ไม่ใช่ทุกคนที่ปรากฏตัวขึ้นงั้นหรือ?”

ราชันใต้ส่ายศีรษะ “บางทีนี่อาจเป็นแผนการล่อลวงของศัตรู ท่ามกลางกลุ่มคนเหล่านี้ไม่มีผู้อมตะระดับแปดหรือคฤหาสน์วิญญาณอมตะปรากฏขึ้นเลย”

เหยากวงขมวดคิ้วลึกขึ้น

เช่นเดียวกันเมื่อฟางหยวนเผชิญหน้ากับอิงอู๋เซี่ย เขาไม่ได้ใช้อินทรีย์สวรรค์ชั้นสูงสุดแต่มันยิ่งทำให้อิงอู๋เซี่ยรู้สึกวิตกมากขึ้น

สถานการณ์นี้คล้ายกับสถานการณ์ของเหยากวงและราชันใต้

หากผู้อมตะภาคกลางปรากฏตัว พวกเขาจะสามารถจัดการศัตรูทั้งหมดได้ในครั้งเดียว

อย่างไรก็ตามมีเพียงห้าคนที่ปรากฏตัวขึ้น นี่ทำให้ราชันใต้กับเหยากวงไม่เข้าใจแผนการของฝ่ายตรงข้าม

มันเป็นแผนการบางอย่างใช่หรือไม่? พวกเขากำลังวางแผนใดอยู่?

ราชันใต้คิดเกี่ยวกับเรื่องนี้และตัดสินใจ “ให้กลุ่มผู้อมตะภาคกลางต่อสู้กับกองกำลังภูเขาหิมะก่อน สิ่งสำคัญคือกลุ่มผู้อมตะภาคกลางส่วนใหญ่จะปรากฏตัวขึ้นเมื่อใด เราจะรอดูอยู่ข้างสนาม”

“ตกลง” เหยากวงพยักหน้าแต่คาดเดาอยู่ภายใน ‘ท่านราชันใต้เข้าใจสถานการณ์ในแดนศักดิ์สิทธิ์ภูเขาหิมะ นี่ไม่ใช่ความสามารถของวังสวรรค์แห่งโชค หมายความว่าฝ่ายเรามีสายลับอยู่ในแดนศักดิ์สิทธิ์ภูเขาหิมะงั้นหรือ?”