บทที่ 195 คนที่ผมมองไม่ทะลุปลุโปร่งคือพวกคุณ

อยากง้อเหรอ คุณสามี(เก่า)

ในห้องโรงแรม มีเสียงร้องอย่างน่าเวทนาตลอดทั้งคืน

เที่ยงคืนให้หลัง ชาร์ลีสองคนพ่อลูกได้ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล

เป็นเพราะชาร์ลีอายุมากแล้วทนความทรมานไม่ไหว ดังนั้นบาดเจ็บจนตลอดชีวิตนี้ไม่สามารถไปมีอะไรกับผู้หญิงได้ เรียวจิก็ไม่ดีเหมือนกัน เขาเจ็บไปทั่วร่าง จมูกมีหนองใบหน้าบวมเปล่ง

อนาคตยังอีกยาวไกล ถ้าให้เขาพูดถึงผู้หญิงก็คงมีความรู้สึกไม่ดี

รวมไปถึงพวกเขาทั้งสองก็ไปก่อเรื่องไม่ได้ชั่วขณะ เพราะต้องรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล เงินที่เพิ่งได้จากวีนาก้อนนั้นก็เอามาเสียให้กับโรงพยาบาลหมด

พวกเขาคิดไม่ถึงเลยว่าจอร์แดนจะโหดเหี้ยมอย่างนี้ ทำพวกเขาเกือบเอาชีวิตไม่รอด

จัดการชาร์ลีสองคนพ่อลูกเรียบร้อยแล้ว จอร์แดนก็กลับเมืองเจสเวิร์ด

หลังจากที่ได้รู้ว่าหลินจือย้ายบ้านเขาก็อยากไปเยี่ยมหลินจือ เดิมที่อยากจะมาด้วยกันกับลูน่า แต่เพราะเขาต้องไปจัดการชาร์ลีสองคนพ่อลูก เลยไม่ได้ให้ลูน่าตามมาด้วย ไม่อยากให้เปื้อนลูกตาของเธอ

สภาพที่น่าเวทนายิ่งที่ชาร์ลีสองคนพ่อลูกเจอ เทาเท่นั้นก็รู้แล้ว หลังจากที่รู้ว่าจอร์แดนเป็นคนทำ ลูกตาดำของเทาเท่ก็ค่อยๆดำขลับลง

คิดไม่ถึงว่าจอร์แดนจะมีด้านที่โหดอย่างนี้ด้วย ใช้แผนหนามหยอกต้องเอาหยามบ่ง แต่โหดเหี้ยมกว่าชาร์ลีสองคนพ่อลูก

เทาเท่รู้เรื่องนี้แล้ว ก็รู้ไปอีกว่าแม่ของเขากับชาร์ลีสองคนพ่อลูกร่วมหัวกัน

หลังจากที่ฟังจอนห์รายงานเรื่องราวที่เกิดขึ้นแล้ว ปากกาเซ็นชื่อที่อยู่ในมือของเทาเท่ก็ถูกเขาหักเป็นสองท่อน เห็นได้ชัดว่ามันเป็นความโกรธที่เขายากที่จะพูด

เทาเท่คิดไม่ถึงว่าแม่ของเขาจะสั่งให้ชาร์ลีสองคนพ่อลูกนั่นให้ไปก่อกวนหลินจือ เทาเท่คิดว่าผ่านเรื่องพินอินมาแล้ว แม่ของเขาแล้วก็พินอินจะสำนึกมาบ้าง

เขาไม่เรียกร้องให้พวกเธอชอบหลินจือมากมาย แต่เขาก็คิดไม่ถึงว่าแม่ของเขาจะไม่จบ

แต่ดูจากพฤติกรรมของพินอินเขาก็รู้ว่าถ้าแม่ของเขาเป็นคนที่มีเหตุผล พินอินคงไม่ถูกอบรมให้กลายเป็นคนแบบนี้

ถ้าวันนี้คนที่ทำเรื่องนี้เป็นคนอื่น เขาคงลงมือจัดการไปนานแล้ว แต่นั่นเป็นแม่แท้ๆของเขา

เทาเท่กำปากกาเซ็นชื่อที่หักอยู่ในมือไว้แน่น คิดไตร่ตรองอยู่นาน ก็ลุกขึ้นหยิบกุญแจรถเดินออกไป

ช่วงเวลากลางวัน เทาเท่มาปรากฏตัวที่ตระกูลฟอเรนาก็เป็นที่ที่วีนาและพินอินอยู่นั้น ไกอาที่กลับมาได้ไม่กี่วันก็พักอาศัยอยู่ที่นี่

ตามหลักแล้วไกอาจะไม่กลับมาอยู่ แต่เพราะครั้งนี้พินอินเกิดเรื่อง เธอร้องวิงวอนไกอา ไกอาถึงกลับมาอยู่ที่นี่

ไกอากับวีนาไม่มีความสัมพันธ์สามีภรรยามานานแล้ว คงรักษาความสัมพันธ์ที่ไม่อยากทำให้เป็นเรื่องจนขายหน้าเท่านั้น เพื่อไม่ให้กระทบต่อเกรียติของตระกูลฟอเรนา

ทำไมไกอาถึงอาศัยอยู่ต่างประเทศตลอดทั้งปี ก็เพราะว่าอยู่ต่างประเทศเขาได้อยู่กับผู้หญิงข้างนอกอย่างอิสระ ถ้าอยู่ในประเทศถูกถ่ายได้ก็เป็นเรื่อง

แต่ตอนที่เทาเท่กลับมาถึงบ้านไกอากำลังถือกระเป๋าเดินทางลงมาจากชั้นบน วีนาเห็นดังนั้นก็ถามอย่างตกใจ “คุณจะไปแล้วหรอ?”

“อืม” หลังจากที่ไกอาพูดจบก็กัดฟันจ้องมองเทาเท่อย่างเขม็ง

เขาเพิ่งได้รับสายว่าผู้หญิงที่อยู่ต่างประเทศของเขานั้นเกิดเรื่อง เขาต้องรีบกลับ

แต่เรื่องที่เกิดขึ้นนี้ต้องเป็นลูกชายแสนดีเทาเท่เป็นคนทำแน่ เพื่อให้เขาไม่มารับรู้

ช่วงนี้ที่เขากลับมาก็ได้เจอหน้าเบลซบ่อยขึ้น และได้พูดคุยกับเบลซไม่น้อยว่าจะรับมือกับหลินจือนั่นยังไง ถ้าไม่ใช่ว่าพื้นเพของจอร์แดนนั้นยิ่งใหญ่ ป่านนี้พวกเขาคงจัดการจอร์แดนไปเรียบร้อยแล้ว

และเป็นเพราะว่าไม่มีทางที่จะลงมือจัดการจอร์แดนได้ ดังนั้นหลังจากพวกเขาหารือกันเสร็จก็พุ่งเป้าไปยังหลินจือ

“เดินทางปลอดภัย” เทาเท่พูดกับไกอาอย่างเรียบๆ

เทาเท่ไม่มีความรู้สึกอะไรให้กับพ่อคนนี้เลย ในเมื่อไกอาไม่เคยสนใจใยดีเขา เขาไม่รั้งให้ไกอาอยู่ต่อ เพื่อมาทำให้เขาเสียอารมณ์

“พ่อคะ เรื่องของหนูยังไม่แก้ไขเลย ทำไมพ่อถึงจะไป?” พินอินรีบตามลงมา แล้วดึงไกอาไม่ให้ไป

สำหรับพินอินแล้ว แม้ว่าจะเป็นการรอลงอาญาก็รับไม่ได้

แต่ไกอากับวีนาเหมือนจะล้มเลิกการวิ่งเต้นเพื่อเธอแล้ว ได้ยินมาว่าเพราะหลินจือไต่เต้าได้พ่อบุญธรรมที่มีอำนาจและอิทธิพลมารับไว้ พินอินก็ให้โกรธยิ่งขึ้น

เธอทนเห็นความความยิ่งใหญ่ของหลินจือเล็กๆน้อยๆไม่ได้ แล้วก็ทนเห็นหลินจือถือตัวเหนือเธอไม่ได้

“พ่อพยายามแล้ว” ไกอาเอามือของพินอินที่ดึงชายแขนเสื้อของเขาออก แล้วลากกระเป๋าจากไปโดยไม่หันมา

เพราะวีนา เขามีความรู้สึกจืดชืดกับลูกชายหญิงทั้งสองคน ครั้งนี้ถ้าไม่ใช่วีนาบอกผ่านสายว่าจะเป็นจะตาย เขาคงไม่กลับมา

แต่ละวันที่เขาอยู่ที่ต่างประเทศนั้นอิสระ ทุกวันๆใช้ชีวิตเที่ยวดื่มกินอย่างมีความสุข แล้วยังมีหญิงสาวที่อ่อนโยนเอาใจใส่อยู่ข้างกายอีก ไม่ต้องเผชิญหน้ากับความประสาทเสียของวีนาและพินอิน

ไกอาเดินจากไปไม่ให้มามอง วีนาเม้มปากแน่น

พินอินกลับร้องไห้จะเป็นจะตาย “พี่ พ่อแม่บอกว่าหลินจือไต่เต้าหาพ่อบุญธรรมที่ร่ำรวยได้แล้ว ผู้หญิงแบบนี้พี่ยังจะให้มันมาเป็นอะไร?”

“ตอนแรกมันก็ไต่เต้าพี่อย่างนี้เหมือนกัน พี่มองไม่ออกอีกหรอว่ามันเป็นคนยังไง?”

เทาเท่รับกับอาการประสาทของเธอพูดอย่างเรียบๆว่า “คนที่พี่มองไม่ออกไม่ใช่เขา แต่เป็นแม่และเธอต่างหาก”

“หลายปีนั้นถ้าไม่ใช่แม่กับน้องพูดทำร้ายเธอต่อหน้าผมไม่หยุด ผมก็คงไม่เข้าใจเธอผิดมากมายอย่างนี้หรอก”

ครั้งแรกที่แต่งงานกับหลินจือ ในใจเขายืนหยัดที่จะอยู่ข้างฝั่งแม่และน้องสาวของตัวเอง

นั่นเป็นคนสายในสายเลือดเดียวกันกับเขา ดังนั้นทุกๆครั้งที่วีนากับพินอินพูดว่าหลินจือไม่ดี เขาก็ให้รู้สึกว่าหลินจือนั้นไม่ดีไปด้วย

จนกระทั่งวันนี้หลังจากที่ผ่านเรื่องราวนี้มา ในที่สุดเขาก็เห็นตัวตนที่แท้ของวีนาและพินอิน แต่ก็ได้สูญเสียพินอินไป

คนโบราณบอกไว้ว่า สามีภรรยาเป็นใจเดียวกัน สามัคคีก็คือพลัง

การแต่งงานสามปีนั้น เขาไม่เคยเป็นใจเดียวกันกับหลินจือเลย

เทาเท่ใช้คำพูดที่บาดลึกพูดทิ่มแทงจิตใจของวีนากับพินอิน พินอินรีบหันไปฟ้องวีนา “แม่ ดูพี่ของหนูพูดสิ! เพื่อผู้หญิงคนนั้น ไม่สนใจญาติพี่น้องเลย”

เทาเท่ไม่อยากที่จะอยู่ในสภาพแวดล้อมที่หายใจไม่สะดวกเช่นนี้ ก็เลยพูดกำชับขึ้นอย่างเด็ดขาดว่า “แม่ ช่วงนี้แม่กับพินอินไปสถานพักฟื้นชานเมืองนะ”

ถึงเวลานั้นคำตัดสินจากศาลของพินอินออกมาแล้ว เขาแพลนที่จะให้พินอินพักผ่อนอยู่ที่สถานพักฟื้นนั้น เพื่อที่จะไม่ให้เธอก่อเรื่องขึ้นต่อ

เพราะชาร์ลีสองคนพ่อลูกทำอย่างนี้ขึ้น วีนาก็ต้องส่งตัวไปด้วย

“ฉันไม่ไป!” วีนาโมโหขึ้นมาทันใด “ทำไมพวกเราต้องไปที่ที่มันกันดารขนาดนั้นด้วย? พวกเราจะอยู่เมืองเจสเวิร์ดไม่ไปไหนทั้งนั้น!”

“ก็ให้พินอินปฏิบัติตามกฎไป มันจะอะไรมากมาย?”

สถานที่พักฟื้นอยู่เขตชานเมืองที่มีสภาพแวดล้อมที่ดี แม้ว่าที่นั่นจะสงบ แต่ก็ห่างไกลกับผู้คน สำหรับวีนาที่เคยชินกับการอาศัยอยู่ในเมืองใหญ่ใช้ชีวิตหรูหรานั้นรับไม่ได้จริงๆ

เทาเท่พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า “ทำไมต้องไปน่ะหรอครับ? ก็ต้องถามตัวแม่เองว่าทำอะไรลงไป”

“แม่รู้ว่าชาร์ลีสองคนพ่อลูกตอนนี้เป็นไงไหมครับ?” เทาเท่เอ่ยถามเสียงเรียบ ร่างของวีนาก็ให้เซ สีหน้าพะอืดพะอม

เธอคิดไม่ถึงว่าเทาเท่จะรู้เรื่องเร็วขนาดนี้